ตอนที่ 4 ควบคุมสถานการณ์

เสียงคำรามของมอนสเตอร์สามดาวดังก้องไปทั่วทั้งป่า กลิ่นเลือดอ่อน ๆ ยังคงลอยปะปนกับอากาศราวกับสนามรบจริง ร่างของนักเรียนหลายคนยังคงนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ในขณะที่บางคนพยายามคลานหนีอย่างสิ้นหวัง

เรน ยืนอยู่เบื้องหน้ามอนสเตอร์ร่างยักษ์ที่ยังคงส่งเสียงคำรามอย่างดุร้าย ดวงตาเย็นชาสีเทาเงินของเขาส่องประกายจาง ๆ เส้นผมปลิวไหวตามแรงลมที่พวยพุ่งออกมาจากพลังภายในร่างกาย

เขาก้าวไปข้างหน้าเพียงก้าวเดียว ก่อนจะยกมือขึ้นกลางอากาศอย่างนิ่งสงบ

ฝ่ามือของเรนแผ่ประกายแสงโปร่งใสออกมาเป็นระลอก พลังเวทอันมหาศาลปะทุขึ้นจากฝ่ามือนั้น ราวกับแรงอัดของลมหมุนที่สามารถบดขยี้ทุกสรรพสิ่ง

ตูมมม!

เสียงระเบิดของอากาศดังลั่น พลังของเขาซัดเข้าใส่ร่างหมาป่าอย่างจัง ส่งมันลอยไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่จนหักโค่นลงมา แต่… มันยังไม่ตาย

หมาป่าระดับสามดาวส่งเสียงคำรามดังกว่าเดิม ร่างของมันเปล่งพลังคลั่งออกมา ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองเรนด้วยความเกลียดชัง มันพุ่งเข้าหาด้วยความเร็วที่เกินกว่าตาเปล่าจะมองตามได้

เรนพยายามสร้างบาเรียขึ้นอีกครั้ง แต่พลังของเขาเริ่มสั่นไหว เหมือนพลังยังไม่เสถียรพอในการควบคุมอย่างเต็มที่

“เรน! ถอยออกมา!” โฮลต์ ตะโกนเสียงหลง แต่ไม่ทันไร…

ตูมมมมม!

เสียงกระแทกดังก้อง ก่อนที่ร่างของหมาป่าจะหยุดลงกลางอากาศ ราวกับถูกพันธนาการไว้ด้วยแรงลึกลับ

ชายในชุดคลุมสีดำก้าวออกมาจากเงาไม้ อาจารย์โครว ปรากฏตัวพร้อมกับดวงตาเปล่งแสงสีดำเข้ม พลังจากเขารุนแรงเกินกว่ามอนสเตอร์จะต้านทานได้

“บ้าชิบ… ฉันปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง…” เขาสบถกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเหวี่ยงแขนไปด้านข้าง

เส้นแสงสีดำ พุ่งออกจากฝ่ามือของเขา เจาะร่างหมาป่าสามดาวจนมันล้มลงแน่นิ่งไปกับพื้น กลิ่นเลือดฟุ้งกระจายไปทั่ว

จากนั้นเขาก็หันมามองนักเรียนทุกคน ก่อนจะรีบรวบรวมร่างของผู้บาดเจ็บทั้งหมด ด้วยคาถาเคลื่อนย้ายเวทระดับสูง เขาพาทุกคนกลับไปยังห้องพยาบาลของโรงเรียน

ภายในห้องสีขาวสว่าง ร่างของเด็กชายหญิงหลายคนถูกวางเรียงบนเตียงเวทที่ลอยอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย

ชายร่างผอมในเสื้อคลุมสีขาวดวงตาสีฟ้าเรืองรองปรากฏตัวขึ้น

“เนตรแห่งการฟื้นคืน…” อาจารย์โครวกล่าวด้วยน้ำเสียงโล่งอก “ช่วยพวกเขาด้วย”

ชายคนนั้นพยักหน้า ก่อนจะยกมือขึ้น ดวงตาเปล่งแสงสีฟ้าสว่างจ้า แสงนั้นไหลพุ่งไปหานักเรียนที่บาดเจ็บทั้งหมด แม้จะไม่สามารถคืนชีพได้อย่างแท้จริงโดยง่าย แต่บาดแผลและอาการใกล้ตายก็ค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว

โชคดีที่ไม่มีใครตาย… แค่ปางตาย

หลังจากเหตุการณ์สงบลง นักเรียนทุกคนต่างจ้องมองมาที่ เรน ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป จากคนที่ไม่สามารถปลุกเนตรได้ กลายเป็นคนที่สามารถต้านมอนสเตอร์ระดับสามดาวได้ด้วยพลังเพียงครั้งแรกที่ใช้

“เด็กคนนั้น… มันใช่แน่ๆ…” อาจารย์โครวพึมพำ

เขาเดินไปหาเรนและวางมือลงบนบ่าของเขาเบา ๆ

“เจ้า…นี่มันคือเนตรบาเรียในตำนาน”

“ข้ารู้แล้วว่าเจ้าสืบเชื้อสายมาจากตระกูลใด…”

เรนมองอาจารย์นิ่ง ๆ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ได้ยิน

“มาคุยกับข้าเป็นการส่วนตัวหน่อยเถอะ เรามีเรื่องต้องพูดกัน”

เรน เดินตามหลังอาจารย์โครวไปในความเงียบ ตลอดทางมีเพียงเสียงฝีเท้าที่ก้องสะท้อนกับผนังทางเดินหินของโรงเรียนเวท ราวกับโลกทั้งใบหยุดนิ่งลงชั่วขณะ

พวกเขามาหยุดที่หน้าประตูไม้บานหนึ่งซึ่งมีตราสัญลักษณ์รูปลูกตาแฝงอยู่ในวงเวทสีทองที่ประทับอยู่บนบานประตู

โครว ผลักมันเปิดออกช้า ๆ และเดินนำเข้าไปในห้องมืดที่มีเพียงแสงตะเกียงสีฟ้าส่องสว่าง

ภายในห้องไม่มีอะไรนอกจากโต๊ะไม้เก่า ๆ เก้าอี้สองตัว และชั้นวางหนังสือที่เต็มไปด้วยเล่มเวทมนตร์ต้องห้าม

เรนไม่พูดอะไร เขานั่งลงตามคำเชิญของอาจารย์ ขณะที่อีกฝ่ายทอดสายตามองเขานิ่ง ๆ ด้วยแววตาแฝงความรู้สึกบางอย่างที่อ่านไม่ออก

“เจ้ารู้ตัวไหมว่าเพิ่งทำอะไรลงไป?”

เสียงของอาจารย์โครวทุ้มต่ำแต่ไม่ใช่ตำหนิ—มันคือความตกใจและตื่นเต้นในคราเดียวกัน

“…ช่วยเพื่อน?” เรนตอบเรียบ ๆ

“ไม่ใช่แค่นั้น”

โครวเอนตัวไปข้างหน้า ดวงตาของเขาเปล่งแสงวาบ

“เจ้าปลุกเนตรบาเรียในตำนาน …พลังที่ไม่ปรากฏบนผืนโลกมานานกว่าห้าร้อยปี”

เรนขมวดคิ้ว “มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“แน่นอน… มันไม่ใช่แค่บาเรียธรรมดา มันคือพลังที่เคยใช้สร้าง ‘กำแพงศักดิ์สิทธิ์’ ที่เคยต้านกองทัพปีศาจนับแสนเอาไว้ได้ในอดีต—ด้วยแค่คนเดียว”

เรนยังคงนิ่ง สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในใจเริ่มสั่นไหว เขาไม่เคยรู้ตัวเลยว่าตัวเองมีสายเลือดหรือพลังอะไรแบบนั้น

โครวถอนหายใจ “เจ้าเป็นลูกหลานของ ‘ตระกูลวาเรนเทียร์’ ตระกูลผู้พิทักษ์แห่งบาเรีย พวกเขาหายสาบสูญไปจากหน้าประวัติศาสตร์ตั้งแต่สงครามจบสิ้น”

“ผมไม่รู้จักตระกูลนั้น” เรนพูดเบา ๆ สายตาหลบเล็กน้อย “ฉันแค่อยากมีพลังพอจะปกป้องคนอื่น… แค่นั้น”

โครวพยักหน้า “นั่นแหละ…ถึงจะเหมาะกับเนตรนี้”

เขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาจากโต๊ะ โบราณจนฝุ่นฟุ้งกระจายเมื่อเปิด “นี่คือบันทึกของสายเนตรบาเรียทั้งหมดที่เคยมีบันทึกไว้ ข้าจะให้เจ้าศึกษามัน เพราะจากนี้… เจ้าจะถูกจับตามอง ไม่ใช่แค่จากโรงเรียน แต่จากพวกมัน—พวกที่อยู่เบื้องหลังทุกสงครามในโลกนี้”

เรนเงยหน้าขึ้น สบตาอาจารย์

“พวกมัน?”

โครวไม่ตอบ แต่ดวงตาของเขาเปลี่ยนไป—เต็มไปด้วยแววระแวงและความโกรธแค้น

“ยังมีอีกหลายเรื่องที่เจ้าต้องรู้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้… คืนนี้พักผ่อน พรุ่งนี้เราจะเริ่มฝึกอย่างจริงจัง และข้า—จะเป็นคนฝึกเจ้าเอง”

แสงแรกของวัน ลอดผ่านหน้าต่างบานเล็กในห้องพักของอาจารย์โครว สาดกระทบโต๊ะไม้เก่าและชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยฝุ่น

เรน ยืนอยู่กลางห้องอย่างเงียบงัน ใบหน้ายังเต็มไปด้วยความคิดและคำถามที่ไร้คำตอบ

อาจารย์โครวนั่งพิงพนักเก้าอี้ ขาข้างหนึ่งพาดบนโต๊ะ ท่าทีผ่อนคลายแต่แววตายังคงจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มตรงหน้า

“ข้าถามชื่อเต็มของเจ้าได้หรือยัง?” โครวถามขึ้นในความเงียบ

เรน เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเสียงเรียบ

“เรน ดราโวลร์”

จังหวะนั้นเอง อาจารย์โครว ชะงักไปทันที รอยยิ้มจาง ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังในทันที

“…ดราโวลร์งั้นหรือ…” เขาพึมพำเบา ๆ

“มันมีอะไรเหรอครับ?” เรนถามทันทีที่เห็นปฏิกิริยาแปลก ๆ ของอาจารย์

โครวพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะพูดเสียงนิ่ง “ชื่อของเจ้าคือชื่อของตระกูลย่อยที่ถูกสร้างขึ้นหลังสงครามแห่งเงามืด—เพื่อลบตัวตนของสายเลือดหลักออกจากประวัติศาสตร์… และเพื่อซ่อนตัวจาก ‘ปีศาจแห่งเงานิล’ ที่กำลังไล่ล่าผู้ถือครองเนตรบาเรีย”

เรนเบิกตากว้าง “…หมายความว่า…”

“ใช่ เจ้าคือผู้สืบทอดสายเลือดโดยตรงจาก ‘วาเรนเทียร์’ ตระกูลหลักผู้ถือครองเนตรป้องกันระดับสูงสุด เจ้าคือคนที่พวกมันพยายามลบให้หายไปจากโลกนี้”

อาจารย์โครวลุกขึ้น เดินไปหยิบม้วนตำราเก่า ๆ จากชั้นหนังสือ ก่อนจะเปิดภาพจาง ๆ ของชายคนหนึ่งที่มีเนตรลึกลับบนหน้าผาก

“ชายคนนี้ชื่อว่า ‘เรย์วาเรน’ บรรพบุรุษของเจ้า เขาเคยใช้เนตรของเขาเพียงคนเดียว… กั้นระหว่างโลกมนุษย์กับปีศาจไม่ให้ล่มสลาย”

“เขาตายในการศึกสุดท้าย แต่ก่อนตายได้สั่งให้ลูกหลานตัดขาดจากนามสกุลเดิม และแฝงตัวอยู่ในโลกเพื่อรอเวลาที่เนตรบาเรียจะตื่นขึ้นอีกครั้ง…”

เรนก้มมองฝ่ามือตัวเอง ภาพของพลังที่ระเบิดออกจากมือเขาเมื่อวานยังฝังอยู่ในหัว มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

“แล้ว… ผมต้องทำอะไรต่อ?”

“พรุ่งนี้ ข้าจะเริ่มฝึกเจ้าด้วยตัวเอง” โครวกล่าว “เจ้าไม่สามารถอยู่ในโลกนี้แบบอ่อนแอได้อีกต่อไป เรน ดราโวลร์—เจ้าเป็น ‘กำแพงสุดท้ายของมนุษย์’”

เรนเงยหน้าขึ้น แววตานิ่งสงบแต่เต็มไปด้วยเปลวไฟ

“…ครับ อาจารย์”

-จบตอนที่ 4

เลือกตอน
1 บทนำ - เปลวไฟแห่งส่งคราม
2 ตอนที่ 1 พลังตื่นขึ้น
3 ตอนที่ 2 การทดสอบพลัง
4 ตอนที่ 3 การฝึกใช้เนตร
5 ตอนที่ 4 ควบคุมสถานการณ์
6 ตอนที่ 5 ฝึกควบคุมเนตร
7 ตอนที่ 6 เหตุการณ์ลึกลับ
8 ตอนที่ 7 อาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนเซเรนวัลด์
9 ตอนที่ 8 การเตรียมตัวสำหรับศึกครั้งใหญ่
10 ตอนที่ 9 เขตต้องห้าม
11 ตอนที่ 10 ความรู้สึกแปลกๆ
12 ตอนที่ 11 ความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาด
13 ตอนที่ 12 แสงสะท้อนจากเงาในอดีต
14 ตอนที่ 13 สถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
15 ตอนที่ 14 ผืนป่าแห่งความทรงจำ
16 ตอนที่ 15 หุบเขาแห่งความมืด
17 ตอนที่ 16 หุบเขาแห่งความืด (2)
18 ตอนที่ 17 เจ้าแห่งหุบเขาความมืด
19 ตอนที่ 18 เจ้าแห่งหุบเขาความมืด(2)
20 ตอนที่ 19 เจ้าแห่งหุบเขาความมืด (3)
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 20

1
บทนำ - เปลวไฟแห่งส่งคราม
2
ตอนที่ 1 พลังตื่นขึ้น
3
ตอนที่ 2 การทดสอบพลัง
4
ตอนที่ 3 การฝึกใช้เนตร
5
ตอนที่ 4 ควบคุมสถานการณ์
6
ตอนที่ 5 ฝึกควบคุมเนตร
7
ตอนที่ 6 เหตุการณ์ลึกลับ
8
ตอนที่ 7 อาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนเซเรนวัลด์
9
ตอนที่ 8 การเตรียมตัวสำหรับศึกครั้งใหญ่
10
ตอนที่ 9 เขตต้องห้าม
11
ตอนที่ 10 ความรู้สึกแปลกๆ
12
ตอนที่ 11 ความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาด
13
ตอนที่ 12 แสงสะท้อนจากเงาในอดีต
14
ตอนที่ 13 สถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
15
ตอนที่ 14 ผืนป่าแห่งความทรงจำ
16
ตอนที่ 15 หุบเขาแห่งความมืด
17
ตอนที่ 16 หุบเขาแห่งความืด (2)
18
ตอนที่ 17 เจ้าแห่งหุบเขาความมืด
19
ตอนที่ 18 เจ้าแห่งหุบเขาความมืด(2)
20
ตอนที่ 19 เจ้าแห่งหุบเขาความมืด (3)

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!