1
เสียงกลองศึกกระหน่ำก้องเหนือผืนดินรกร้าง กองธงของแคว้นตะวันออกโบกสะบัดต้านลมฤดูหนาวที่หอบกลิ่นเลือดมาแต่ไกล ท่ามกลางทหารนับแสนที่เรียงแถวอย่างมีวินัย บนหลังม้าศึกสีดำตัวใหญ่ หญิงสาวผู้หนึ่งนั่งอย่างมั่นคงและสง่างาม
เธอสวมเกราะเบาเคลือบเงิน ผ้าคลุมด้านหลังลู่ไปตามแรงลม ผมยาวถูกรวบขึ้นอย่างเป็นระเบียบ ดวงตาคมจ้องตรงไปยังเส้นขอบฟ้าที่กลุ่มธงของแคว้นทิศใต้กำลังโบกสะบัด
ไป๋อวิ๋นชิง แม่ทัพแห่งแคว้นตะวันออก—สตรีผู้เดียวที่ได้รับอำนาจบัญชาทหารทั้งแผ่นดินโดยไม่ต้องสืบทอดผ่านชายใด
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
แคว้นทิศใต้…ยังไม่เข็ดอีกหรือ?
ศัตรูเบื้องหน้าคือแคว้นทิศใต้ แคว้นที่เคยเป็นพันธมิตรในอดีตกาล แต่กลับกลายเป็นศัตรูเรื้อรังตั้งแต่สมัยจักรพรรดิองค์ก่อนจนถึงองค์ปัจจุบัน สงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นนี้ ได้พรากทุกอย่างจากผู้คนไปนับไม่ถ้วน รวมถึงอดีตที่ไม่มีใครกล้ากล่าวถึง
อวิ๋นชิงยกมือขึ้นเพียงเล็กน้อย ทั้งกองทัพด้านหลังเงียบกริบ
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
วันนี้—เราจะสยบพวกมันให้ยอมศิโรราบใต้ธงของแคว้นตะวันออก
เสียงของสงครามดังลั่น ดั่งอัสนีบาตกระทบผืนดิน
ดาบฟาดเข้าหากัน เสียงเหล็กกระทบเหล็กผสมกับเสียงกรีดร้องของทหารที่ล้มลงอย่างไม่หยุดยั้ง เลือดแดงฉานไหลรินปะปนกับฝุ่นทรายบนสนามรบ เส้นขอบฟ้ากลายเป็นม่านหมอกควันจากไฟศึกที่ไม่หยุดลุกลาม
ไป๋อวิ๋นชิง ควบม้าเข้าไปในใจกลางสนามรบ ดาบคู่ใจในมือเปื้อนเลือดแต่ยังคมกริบ แววตาเยือกเย็นและเด็ดเดี่ยวของเธอไม่ไหวเอนแม้แต่น้อย
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
ทหารเราอย่าถอย!—ข้าอยู่ตรงนี้กับพวกเจ้า!!
เหล่าทหารของแคว้นตะวันออกรู้ดีว่าแม่ทัพผู้นี้ไม่เคยยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาเลยสักครั้ง
แม้กระทั่งขณะที่ร่างของเหล่าทหารล้มลงต่อหน้าเธอ
แม้เสียงร้องสุดท้ายของพวกเขาจะยังดังก้องอยู่ในหู
แม้หัวใจของเธอจะแตกเป็นเสี่ยง—เธอก็ยังจับดาบแน่น…และมุ่งหน้าไปข้างหน้า
เพราะชัยชนะของวันนี้…ไม่ใช่เพียงเพื่อแคว้น
แต่เป็นเพื่อปกป้องคนที่เธอสาบานว่าจะไม่ยอมให้ถูกรุกรานอีกต่อไป
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
หากต้องแลกด้วยชีวิตข้า เพื่อชัยชนะครั้งนี้—ข้ายินดี
เสียงตะโกนของเธอดังขึ้นเหนือเสียงศึก ทันใดนั้นเอง—เสียงเกราะจากฝ่ายศัตรูแหวกคลื่นหมอกออกมา ปรากฏชายผู้หนึ่งนั่งบนหลังม้าดำ ใบหน้าเขาเย็นชาและสงบนิ่ง แต่แววตานั้น…เต็มไปด้วยบางอย่างที่ทำให้เธอชะงัก
ม้าศึกของทั้งสองฝ่ายหยุดลงห่างกันเพียงไม่กี่ช่วงตัว เสียงการต่อสู้ยังคงดังอยู่เบื้องหลัง แต่เวลาของเธอกับเขาราวกับหยุดลงในขณะนั้น
ไป๋อวิ๋นชิงกระชับดาบแน่น ดวงตาคมกริบฉายแววโกรธเกรี้ยวระคนไม่อยากเชื่อ หัวใจของเธอเต้นแรง ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะความผิดหวังอย่างลึกซึ้ง
ชายตรงหน้าเธอ ใบหน้านั้นคุ้นเคยเกินกว่าจะลืม
คนที่เคยเคียงบ่าเคียงไหล่กันบนสนามฝึก
คนที่เคยแบ่งปันเสียงหัวเราะและคำสาบานใต้ท้องฟ้า
…เพื่อนสนิทของเธอ
…ผู้ที่เธอเชื่อมั่นว่าจะไม่มีวันหันหลังให้แผ่นดินเดียวกัน
เธอกัดฟันแน่นก่อนเอ่ยเสียงต่ำ แต่หนักแน่น
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
นาย…เป็นคนของทิศใต้งั้นหรือ?
ชายหนุ่มในเกราะดำไม่พูดสักคำ ดวงตานิ่งเฉยแต่ไม่หลบสายตาเธอ
ไป๋อวิ๋นชิงหัวเราะเบาๆ แต่น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความปวดร้าว
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
ข้าเคยคิดว่าเจ้าจะไม่มีวันหักหลังพวกเรา
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
แต่หากวันนี้เจ้าเลือกอยู่ฝั่งนั้น…ก็จงเตรียมใจเถอะ ข้าจะไม่ออมมือ
ไป๋อวิ๋นชิงกัดฟันแน่น เสียงสั่นสะท้อนความเจ็บปวด
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
เวินอี้หลาง…เจ้ามันคนทรยศ!
เวิ้นอี้หลาง
หึ…เจ้าเป็นเพียงลูกของตระกูลขุนนาง
เวิ้นอี้หลาง
ที่ข้าตีสนิทกับเจ้า…ก็เพื่อข้อมูลวิถีศึกของแคว้นตะวันออกเท่านั้น
เธอรู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวหยุดไหลเวียน คำพูดของเขาราวกับแทงดาบเข้ากลางอกโดยไม่ต้องใช้แรง
ทุกฉากความทรงจำที่เคยมีร่วมกัน—กลายเป็นเรื่องลวงตา
เวิ้นอี้หลาง
ข้าก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ
เวิ้นอี้หลาง
เจ้าหันไปมองสิ ไป๋อวิ๋นชิง
อวิ๋นชิงหันควับตามคำพูดนั้น—และสิ่งที่เห็นคือภาพของเหล่าทหารแคว้นตะวันออกล้มลงทีละคน บางคนพยายามลุกขึ้นแต่ก็ถูกแทงซ้ำ บางคนร้องเรียกนามของเธอก่อนหมดลมหายใจ
หัวใจของเธอเหมือนถูกบีบแน่น
เวิ้นอี้หลาง
คนของเจ้ากำลังตายทีละคน
เวิ้นอี้หลาง
และแคว้นของเจ้าจะกลายเป็นของพวกข้า…ในไม่ช้านี้
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
เวินอี้หลาง
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
เจ้า…ไม่ใช่คนที่ข้าเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว
เวิ้นอี้หลาง
ข้ายังเหมือนเดิม เจ้าเองต่างหากที่เชื่อในสิ่งไม่มีอยู่จริง
ไป๋อวิ๋นชิงหลับตาลงชั่ววินาที สูดลมหายใจเข้าอย่างลึกเพื่อกลืนความเจ็บปวดทั้งหมดไว้ในอก
เสียงตะโกน เสียงร้องคร่ำครวญของทหารที่ล้มลงยังคงดังก้องในหัว แต่ในใจของเธอ—บัดนี้กลับนิ่งดุจผิวน้ำในฤดูหนาว
เธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาในขณะนั้น—ไม่ใช่แค่แม่ทัพหญิงของแคว้นตะวันออก แต่คือ “อสูรศึก” ผู้พร้อมจะแหวกทุ่งเลือดด้วยมือเปล่า
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
เวิ้นอี้หลาง
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน
เธอชี้ปลายดาบไปยังเขา ก่อนหันขวับไปมองเหล่าทหารศัตรูเบื้องหน้า
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
เชิญเจ้ามองคนของเจ้าตายด้วยมือของข้า!!
ทันใดนั้นเธอสะบัดตัวพุ่งเข้าไปกลางสมรภูมิ
มือคว้าหอกจากทหารฝ่ายเดียวกันที่ใกล้ที่สุด และหมุนตัวฟาดเข้ากลางแนวทหารทิศใต้!
เสียงโลหะฉีกเนื้อดังขึ้นไม่หยุด ร่างของศัตรูล้มลงทีละคน หอกในมือของเธอราวกับเป็นเงามัจจุราชที่ไม่มีใครหยุดได้
แรงกระแทกแต่ละทีแผ่พลังจนทหารโดยรอบกระเด็นเป็นวงกว้าง
เวินอี้หลางเบิกตากว้าง ใบหน้าที่เคยนิ่งสงบเริ่มเปลี่ยนสี
พลังภายในที่นางใช้ มันไม่ใช่เพียงวิชายุทธธรรมดา
มันเหนือกว่า…เหนือกว่าคนธรรมดาจะฝึกฝนถึง
แม้เขาเองจะเป็นแม่ทัพผู้เก่งกล้า แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้
ไป๋อวิ๋นชิงยืนอยู่กลางสนามรบ ท่ามกลางร่างของศัตรูที่ล้มระเนระนาด
เลือดเปื้อนเกราะและเสื้อผ้า กลิ่นคาวคลุ้งไปทั่ว แต่นางกลับยืนอย่างสง่างาม
แววตาไม่สั่นไหว มีเพียงไฟแค้นที่ลุกโชน
เธอยกหอกขึ้นแนบไหล่ ตะโกนสุดเสียงจนสนามรบสะเทือน
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
มาสิ!!! พวกเจ้าเข้ามา!!!
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด แทนเหล่าพี่น้องในสนามรบของข้าเอง!!!
เสียงของเธอดังก้องไปทั่วทั้งแนวรบ จนแม้แต่ทหารทิศใต้ยังหยุดชะงัก
แววตาของพวกเขาสั่นระริก—ไม่ใช่เพราะพลังของเธอเท่านั้น แต่เพราะ “ใจ” ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าหินผา
เวินอี้หลางมองภาพนั้นด้วยแววตาไม่อยากเชื่อ
นี่คือหญิงสาวที่เขาเคยหัวเราะด้วยเมื่อวัยเยาว์จริงหรือ?
ไป๋อวิ๋นชิงกวาดหอกอีกครั้ง ฟาดลงกลางกลุ่มทหารที่วิ่งเข้ามา
เสียงกระดูกหักและกรีดร้องดังก้อง
ฝุ่นทรายปะทะลม—แต่ไม่มีสิ่งใดบดบังเงาร่างของเธอ
เวิ้นอี้หลาง
งั้นข้าก็จะเป็นคนฆ่าเจ้าด้วยมือตัวเอง ไป๋อวิ๋นชิง
เวินอี้หลางแค่นหัวเราะเบา ๆ ดวงตาเปล่งประกายเย็นชาราวกับเหล็กกล้าที่ไม่เคยรู้จักคำว่าอ่อนโยน
เขาพุ่งตัวเข้ามาด้วยความเร็วที่แทบมองไม่ทัน ดาบในมือเปล่งแสงเยือกเย็นฉาบไอสังหารรุนแรง
เคร้ง!!!
เสียงดาบกระทบดังกึกก้องสนั่น
แรงปะทะมหาศาลจนพื้นดินใต้ฝ่าเท้าแตกร้าว ฝุ่นทรายตลบอบอวล
ไป๋อวิ๋นชิงยกหอกขึ้นรับไว้อย่างมั่นคง
ใบหน้าไม่หวาดหวั่นแม้เพิ่งฟาดฟันกับทหารนับสิบ
เธอกระโจนถอยหลังหนึ่งก้าวก่อนหมุนตัว ใช้ด้ามหอกเหวี่ยงตัดแนวลมเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว
เวินอี้หลางยกดาบปัดได้ทันเวลา แต่ไม่วายถอยหลังไปสองก้าว
เวิ้นอี้หลาง
เจ้า เจ้าฝึกวิชาอะไรกันแน่??
ไป๋อวิ๋นชิงไม่ให้โอกาสพัก เธอพุ่งเข้าใส่ซ้ำทันที ราวกับพายุที่ไร้การหยุดยั้ง
การฟาดฟันของทั้งคู่รุนแรงจนแม้แต่ทหารรอบข้างต้องถอยห่าง
เสียงเหล็กกระทบกันดังลั่น
ประกายไฟปลิวว่อน
ทั้งสองราวกับสัตว์ร้ายที่กัดไม่ปล่อย
เสียงดาบปะทะกันยังคงดังกึกก้อง
เวินอี้หลางสบจังหวะช่วงสั้น ๆ ในการฟาดฟันนั้น ใช้สองนิ้วแนบแน่นแนบข้างลำตัว—ส่งสัญญาณลับที่ไม่มีใครทันสังเกต
ไป๋อวิ๋นชิงที่กำลังจู่โจมอย่างหนัก ยังไม่รู้ว่าเงามืดบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา
ทันใดนั้น…
เสียงหวีดลมแหวกอากาศ ดังลั่นจากฟากฟ้า
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!!!
ธนูนับแสนพุ่งทะลวงลงมาจากทิศเหนือของภูเขา
เหมือนพายุห่าฝนที่ไม่เลือกเป้าหมาย แต่ชัดเจนว่ามุ่งมาทางเดียว—ไป๋อวิ๋นชิง
เธอเบิกตากว้าง หันไปมองทิศนั้น
ลมกรรโชกแรงพัดกระโชกหน้าผากและเส้นผม
ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มในพริบตา
เวินอี้หลางผละออกมา ถอยหลังหนึ่งก้าว
ยิ้มเยือกเย็นปรากฏบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง
เวิ้นอี้หลาง
เจ้าไม่มีวันหนีได้ ไป๋อวิ๋นชิง
เสียงธนูปักลงพื้นดังกึกๆ รอบตัวเธอ
เธอเหวี่ยงหอกปัดป้องได้บางส่วน แต่จำนวนมันมากเกินไป
แขนข้างหนึ่งของเธอมีเลือดไหลจากรอยถาก
เสื้อผ้าเริ่มขาดรุ่งริ่ง เลือดเปื้อนเต็มตัว
“ตุบ!!”
ธนูปักเข้าที่สีข้างของเธออย่างจัง
แรงกระแทกมหาศาลผลักร่างของไป๋อวิ๋นชิงล้มกระแทกพื้น
โลหิตพุ่งกระจายเต็มผืนดินจนพื้นดินกลายเป็นสีแดงฉาน
เธอหอบหายใจอย่างหนัก
มุมปากเต็มไปด้วยเลือด
แต่แววตา—กลับยังคงลุกไหม้ด้วยไฟแห่งความมุ่งมั่น
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
ถ้าข้าตาย… เจ้าก็ต้องตายเช่นกัน เวิ้นอี้หลาง!!!
เสียงตะโกนของเธอดังก้อง
แม้จะมีลูกธนูปักคาอยู่ เธอก็ยังฝืนลุกขึ้นด้วยเรี่ยวแรงสุดท้าย
รวบรวมพลังภายในทั้งหมดที่เหลืออยู่
กัดฟันแน่น ดวงตาเบิกโพลงอย่างดุดัน
ไป๋อวิ๋นชิง /นางเอก
อ๊าก!!
เธอพุ่งตัวไปดุจพายุพัดหอบไฟ
มือกระชับหอกแน่นจนเลือดซึมจากฝ่ามือ
และในจังหวะที่เวินอี้หลางยังไม่ทันตั้งตัว—
ฉึก!!!
หอกของเธอเสียบทะลุอกเขาอย่างจัง
เสียงเหล็กแทงเนื้อดังก้อง…เงียบกริบรอบสนามรบ
เวินอี้หลางเบิกตากว้าง
มองเธอด้วยความไม่เชื่อ…ก่อนร่างจะทรุดลง
ไป๋อวิ๋นชิงทรุดตามลงไปกับเขา
เลือดทั้งสองไหลรวมกันบนพื้นดินที่อาบแดง
ท่ามกลางเสียงลมหายใจสุดท้ายของเธอ…
แสงบางอย่างเริ่มเรืองขึ้นรอบตัว
คล้ายประกายพลังงานลึกลับ—เรืองรองออกมาจากกายเธอ
สนามรบสั่นไหว ดินฟ้าปั่นป่วนราวจักรวาลสั่นสะเทือน
เสียงลมหายใจสุดท้ายของไป๋อวิ๋นชิงแผ่วลง
ดวงตาที่เคยคมดุ…ค่อย ๆ ปิดลงท่ามกลางแสงสีทองที่ห่อหุ้มร่างของเธอไว้
“แม่ทัพไป๋อวิ๋นชิง!!!”
เสียงทหารตะวันออกดังลั่นพร้อมกัน
ทุกคนคุกเข่าลง ท่ามกลางซากศพและธงรบที่ปลิวไสว
ไม่มีใครร้องไห้ แต่ในดวงตาเต็มไปด้วยความเคารพ ศรัทธา และความเจ็บปวดที่ไร้เสียง
แสงทองสว่างขึ้นเรื่อย ๆ
และในวินาทีนั้นเอง—ร่างของนาง…ค่อย ๆ จางหายไป
เสมือนกลืนเข้าสู่ห้วงเวลาลี้ลับ
พายุรอบสนามรบสงบลงทันใด ท้องฟ้าเปิดออกเป็นสีฟ้าสว่าง
Comments