บทที่ 4 ไม่ว่างไปถอนหมั้น

ตกดึกช่วงเวลาสามทุ่มครึ่งประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก มาเบลล์ที่นอนเลื่อนหาหนังดูอยู่หันไปมองว่าใครมาเวลานี้ เมื่อพบว่าคนที่เปิดเข้ามาคือใครก็ทำเอาหญิงสาวมึนงงจนจับต้นชนปลายไม่ค่อยจะถูก “มาทำไมคะ”

“ก็เฮียบอกแล้วว่าจะมาเฝ้า” ราชันย์เลิกคิ้วไม่คิดว่าจะเจอคำถามแบบนี้จากคู่หมั้นสาว เขาคิดว่าเธอจะรอเขาอยู่อย่างใจจดใจจ่อเสียอีก

“ใครจะไปคาดคิดว่าชู้เฮียจะปล่อยให้เฮียมาจริงๆล่ะ ก็นึกว่าจะงัดไม้เด็ดอะไรมารั้งไว้ส่ะอีก” มาเบลล์หยักไหล่ เธอไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะยอมปล่อยให้เขามาจริงๆ

“พูดได้ขนาดนี้แสดงว่าใกล้หายแล้วล่ะสิ” ราชันย์ยกยิ้มมุมปาก เขาขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับคนป่วยถึงเปลี่ยนเรื่องคุย ก็อยู่กันสองคนจะไปพูดถึงเรื่องคนอื่นทำไมก็ไม่รู้

“ใกล้หายแล้วค่ะ จริงๆ เฮียไม่ต้องมาเฝ้าหรอก" พอเห็นหน้าเขาแล้วมันทำให้เธอนึกไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยพบเจอมา ไหนจะเหตุการณ์ในนิยายฉากบรรยายหวาบหวิวพวกนั้นอีก บอกตรงๆ ว่าเธออึดอัดทำใจลำบาก ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าฉากในนิยายพวกนั้นมันยังไม่ทันได้เกิดขึ้นก็ตามที

"ไม่ได้หรอก เฮียรับปากอาศรไว้แล้ว" ราชันย์ส่ายหน้า เขาถอดเสื้อแจ็กเก็ตออกแล้วนั่งลงตรงโซฟาเฝ้าไข้

"งั้นไหนๆ ก็มาแล้ว เบลล์อยากพูดเรื่องถอนหมั้นด้วยเลยน่ะค่ะ" มาเบลล์ปิดเสียงหนังเอาไว้ก่อน แล้วหันมาคุยกับเขาอย่างจริงจังสำหรับเรื่องที่ตัดสินใจไปแล้ว

"เรื่องถอนหมั้นทำไม?" หัวใจด้านชากระตุกไปวูบหนึ่ง ก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมคล้ายไม่เคยเกิดขึ้น เขายังคงนิ่งได้อยู่แต่มุมปากกลับยกขึ้นน้อยๆ

แต่มาเบลล์ไม่ได้สังเกตเห็นมัน เธอยังคงมุ่งหน้าเข้าเรื่องที่ต้องการจะพูด "ก็ที่เฮียเคยบอกว่าอยากถอนหมั้นกับเบลล์ เบลล์ตกลงนะคะ พร้อมเมื่อไหร่เราก็เข้าไปคุยกับที่บ้านกันเถอะค่ะ" มาเบลล์ไม่คิดยืดเยื้อให้เสียเวลา ในเมื่อเขาเป็นคนอยากถอนหมั้นมาตลอด เขาก็ควรจะดีใจ

"…." ราชันย์นิ่งไป เขาไม่คิดว่าน้องจะพูดเนื้อความแบบนี้ออกมา ชายหนุ่มคิดมาเสมอว่ามาเบลล์ไม่มีวันคิดถอนหมั้นกับเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และจนถึงตอนนี้ราชันย์ก็ยังมั่นใจแบบนั้นอยู่

“ดีใจมั้ยคะ เฮียจะเป็นอิสระจากเบลล์แล้วนะ” มาเบลล์ส่งยิ้มให้ชายหนุ่มเหมือนไม่รู้สึกอะไร

“…." ราชันย์เงียบไปเขาเองก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกแบบไหน แต่ที่แน่ๆ คือมันไม่ใช่ไม่ยินดีทั้งที่มันควรจะเป็นแบบนั้น หรือบางทีเขาอาจจะแค่ตั้งรับไม่ทัน ก็แค่…ยังไม่เข้าใจว่าทำไม เกิดอะไรขึ้นกับมาเบลล์กัน

"ทำไมเงียบละคะ เบลล์รอฟังคำตอบอยู่นะ" มาเบลล์ถามขึ้นอีก

"ช่วงนี้เฮียไม่ค่อยว่าง" อยู่ๆ ราชันย์ก็รู้สึกว่าช่วงนี้เขาค่อนข้างยุ่งขึ้นมาเสียอย่างนั้น 

"แล้วเมื่อไหร่จะว่างคะ เฮียนัดวันมาได้เลย” เธอต้องการถอนหมั้นให้เร็วที่สุด มาเบลล์คิดมาแล้ว เธอไม่สนใจว่าตอนนี้เวลานี้คู่หมั้นหนุ่มกับแม่สาวคนสนิททั้งสองจะไปถึงไหนต่อไหนกัน หรือว่าต่อให้ยังไม่ไปถึงไหนเธอก็ไม่สน

หนึ่งเลยที่จะถอนหมั้นเพราะเธอต้องการเป็นอิสระจากนิยายเรื่องนี้ สองเลยคือเขาไม่รักเธอ สามเลยก็คือเขาให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนอื่นมากกว่าเธอ

ต่อให้เธอจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจนเนื้อหาในนิยายเปลี่ยนไปแต่จะมีอะไรมารับประกันได้ว่าพระเอกกับนางเอกจะไม่ถูกดึงดูดเข้าหากัน

อนาคตหากบังเอิญฟลุ๊คได้แต่งงานกันไป  ไม่ใช่ว่าวันเข้าหอผู้หญิงคนนั้นจะงัดอะไรออกมาโทรตามเจ้าบ่าวของเธอให้ออกไปหาหรอกหรอ  เธอจะไม่ต้องนอนระแวงเรื่องมือที่สามไปตลอดชีวิตเลยหรือไง

ข้อสี่เลยคือเธอแยกอดีตกับปัจจุบันไม่ได้แยกเรื่องระหว่างเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วกับยังไม่เกิดไม่ได้ เธอยอมรับว่าตัวเองใจแคบ

ข้อสุดท้ายเลย เขาโง่เชื่อผู้หญิงคนนั้นมากกว่าที่เชื่อเธอ แค่นี้ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องมาจมอยู่กับเขาในสถานะผูกมัดแบบนี้แล้ว

และหลักๆ เลยก็คือ เขาเป็นคนขอถอนหมั้นเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจนเธอรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เธอไม่ควรลดคุณค่าของตัวเองแบบนี้ด้วยการหน้าด้านหมั้นกับเขาต่อไป

“ว่าไงคะ? เฮียอย่าเงียบสิ อะไรจะตอบยากขนาดนั้นคะ” มาเบลล์ยังคงเร่งเอาคำตอบ อะไรของเขาเห็นเธอเหม่อหน่อยก็เงียบไม่ตอบเลยนะ

“ยังไม่แน่ใจว่าจะว่างเมื่อไหร่ ช่วงนี้เฮียใกล้จะฝึกงานแล้วด้วย" ใกล้ฝึกงานแบบนี้เขายุ่งมากเป็นพิเศษ ไม่มีเวลากลับเข้าบ้านเร็วๆ นี้หรอก

“งั้นก็ช่วยเคลียร์ตารางหาเวลาให้เบลล์สักวันสิคะ” คนเรามันจะยุ่งทุกวันเลยรึไง 

“ว่างเมื่อไหร่เฮียจะบอกแล้วกัน” มาเบลล์ขมวดคิ้ว แล้วเมื่อไหร่ล่ะ “เร็วๆ หน่อยนะคะ เบลล์ไม่อยากรอนาน”

“...คิดจะหมั้นก็หมั้น คิดจะถอนก็ถอนนี่เราคิดว่ากำลังเล่นขายของอยู่หรอ” ราชันย์ขมวดคิ้วไม่ต่างกัน ความไม่ชอบใจบางอย่างผุดขึ้นมา มาเบลล์กำลังทำเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องใหญ่มากขนาดนี้ น้ำเสียงของชายหนุ่มฟังดูจริงจังขึ้นมากกว่าเดิม

“เฮียเป็นคนขอถอนเอง จะกลืนน้ำลายตัวเองหรอคะ” มาเบลล์เองก็ตอบกลับด้วยความจริงจังไม่แพ้กัน

และสิ่งที่หญิงสาวตอบกลับมาทำให้ราชันย์สะอึกไป “…เปล่า เอาเป็นว่ารอจังหวะไปก่อนแล้วกันตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา" ราชันย์ตัดบท ทั้งยังไม่ลืมอย่าลืมย้ำให้หญิงสาวเล็งเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ให้มากขึ้นอีกด้วย "เบลล์อย่าลืมว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน มันคือความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครับ คำสัญญาระหว่างสองตระกูลที่ให้กันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่" 

สัญญาหมั้นหมายแต่งงานเป็นคำสัญญาสาบานที่ทั้งสองตระกูลเพื่อนรักให้กันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ จึงมาหวังเอากับรุ่นลูกหรือก็คือรุ่นพ่อรุ่นแม่แต่ก็คว้าน้ำเหลวอีก

จนกระทั่งมามีทีท่าว่าจะไปได้สวยในรุ่นหลานซึ่งก็คือราชันย์และมาเบลล์ มันไม่ใช่แค่การฝากฝั่งให้ดูแลแต่มันคือคำสัญญาจากอดีตด้วย

"เบลล์ไม่ลืมค่ะ แต่เบลล์เชื่อว่าผู้ใหญ่ต้องมีทางออกแน่นอน พวกท่านไม่บังคับเราหรอกหากเราเข้าไปยืนยันด้วยกันว่าเราเข้ากันไม่ได้จริงๆ เราคิดกันแค่พี่น้องยังไงก็ไม่มีทาวรักกันแน่ๆ" พ่อกับแม่ตามใจและรักเธอมาก คุณลุงกับคุณป้าก็เอ็นดูเธอเสมอ พวกท่านต้องเข้าใจแน่

"พี่น้องแบบไหนเอากันล่ะเบลล์" ราชันย์หงุดหงิดขึ้นมาเล็กๆ เมื่อได้ยินคำว่าพี่น้องออกมาจากปากคนที่ตามหึงหวง ตามบอกรักเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน  

"ก็พี่น้องแบบนี้แหละค่ะ เรื่องในอดีตก็อย่าไปถือสาเลยนะคะ สมัยนี้ใครเขาก็มีอะไรกันทั้งนั้นแหละค่ะ" ยอมรับว่าในอดีตรักเขาจนไม่คิดเผื่อใจ ให้เขาไปทุกอย่างแม้แต่ความสาว แต่แล้วยังไงล่ะนี่มันสมัยไหนแล้วแค่วางอดีตลงถือว่าวินวินทั้งสองฝ่ายก็ได้ เพราะเธอเองก็ไม่ได้เสียเปรียบมากมายหรอกถือว่าได้ปลดปล่อยกับคู่หมั้น ก็คงไม่ผิดนัก 

"แต่ถ้าทุกคนที่บ้านรู้ไม่ถือสาคงไม่ได้หรอกนะ" ถ้ารู้ว่าเขากับน้องเกินเลยแล้วเขากับเธอคงโดนจับจดทะเบียนทันที 

"ก็อย่าให้รู้สิคะ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ทำไมเฮียต้องทำเหมือนไม่อยากถอนหมั้นด้วยนะ ทำไมถือเอาแต่แย้งเบลล์ ก็แค่ไปบอกกับผู้ใหญ่ด้วยกันว่าเราเข้ากันไม่ได้ แต่งกันไปคงไม่มีความสุขแบบนี้ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจแน่ค่ะ" เธอเริ่มงงกับความพูดไม่รู้เรื่องของเขาแล้วนะ! ก็แค่ตอบตกลงไงมันยากตรงไหน

"เฮียก็เห็นว่าเราเข้ากันได้ดีนะไม่ว่าจะเรื่องไหน" อยู่ๆ ราชันย์ก็มองหาข้อเสียของคู่หมั้นสาวไม่เห็นเสียอย่างนั้นทั้งๆ ที่อาทิตย์ก่อนหน้านี้เขาพึ่งระบายความใจในกับเพื่อนไปว่าเธอหนักข้อขึ้นทุกวันจนตัวเขาเริ่มทนไม่ไหวอยากถอนหมั้น

"ค่ะ เบลล์ยอมรับว่าเรื่องบนเตียงเราเข้ากันได้ดี แต่เรื่องนิสัยและมุมมองเบลล์ว่าเราต่างกันเกินไปค่ะ" เขาเป็นคนไม่คิดอะไรเลย ส่วนเธอเป็นคนคิดเยอะ คิดมาก โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง ซึ่งเราคงไปกันต่อไม่ได้หรอกถ้าเขายังทำตัวสนิทสนมให้ความสำคัญกับใครอีกคนอยู่แบบนี้ 

"…คิดดีแล้วหรอ" อยู่ๆ เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทั้งที่ตอนแรกมั่นใจมากว่าเธอแค่เรียกร้องความสนใจเท่านั้น แต่ดูตอนนี้เขาเริ่มจะไม่มั่นใจแล้ว 

“...คิดดีแล้วค่ะ" มาเบลล์เงียบไปชั่วอึดใจ ถามตัวเองอีกครั้งก่อนตอบออกไปก็พบว่าคำตอบยังคงเหมือนเดิมคือเธอจะถอนหมั้นกับเขา ก่อนหน้าก็นั่งคิดนอนคิดมาหลายตลบแล้ว เธอไม่อยากระแวงเรื่องผู้หญิงอีกแล้ว ยกเว้นว่าผู้หญิงคนนั้นจะตายนั้นแหละเธอถึงจะเลิกระแวง ซึ่งมันก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะลดาคือนางเอกยังไงล่ะ ถ้าเธอทำจุดจบของเธอคงมาถึงเร็วขึ้น

“ถ้าจะทำเพื่อประชดเฮีย ก็หยุดซ่ะนะเบลล์” ชายหนุ่มเอนหลังพิงไปกับพนักโซฟาพูดเสียงเอื่อยเฉื่อย น้ำเสียงและสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้เขาเพียงแค่เล่นไปกับเธอเท่านั้น อยู่ๆราชันย์ก็เรียกความมั่นใจกลับมาได้เมื่อเห็นว่าคู่หมั้นสาวดูลังเลจะตอบ

“เฮียคิดแบบนั้นหรอคะ” มาเบลล์ออกจะหมั่นไส้กับท่าทางแบบนั้นของเขา "เฮียคิดว่าเบลล์พูดไปเพราะประชด? เรียกร้องความสนใจ?"

“ก็หรือไม่ใช่?" ราชันย์ยกยิ้มมุมปาก สายตาของเขาระยิบระยับเหมือนกำลังพบเจอเรื่องตลกอยู่  "เบลล์ไม่กล้าถอนหมั้นกับเฮียหรอก เชื่อสิ”

“….” มั่นใจไปเถอะพ่อคุณ "หาเวลาให้เบลล์ด้วยแล้วกันนะคะ ถึงตอนนั้นเฮียจะรู้ว่าเบลล์พูดจริงมั้ย" 

"หึ รอเฮียมีเวลาก่อนแล้วกันนะ ช่วงนี้เฮียไม่ค่อยว่างยังไงก็ไม่รู้"

"จิ๊!!"  ให้มันได้อย่างนี้สิ! ทำไมเขาดูไม่จริงจังเอาเสียเลยนะ

กริ่งงงง~ มาเบลล์เหลือบตามองสายเรียกเข้าจากมือถือของเขา

ราชันย์มองเบอร์ที่โทรเข้ามาแต่ยังไม่คิดจะกดรับทันที เขาเอ่ยพูดกับคู่หมั้นสาวให้เรียบร้อยก่อนจึงจะค่อยกดรับทีหลัง  “เอาล่ะ พูดเล่นมามากพอแล้ว เบลล์ควรนอนพักผ่อนได้แล้วนะ”

กริ่งงงง~ กริ่งงง~

"รำคาญเสียงค่ะ เพื่อนรักเพื่อนสนิทโทรมาแล้ว ไม่รับหรอคะ" มาเบลล์คิดเอาไว้อยู่แล้วไม่มีผิดว่าแม่นางเอกไม่มีวันยอมให้เฮียคิงส์อยู่กับเธอง่ายๆหรอก เดี๋ยวก็หาเรื่องให้ออกไปหาอีกจนได้นั้นแหละ! รำคาญลูกตา!!

"นอนได้แล้วเรานะ พักผ่อน" ราชันย์พูดพรางส่ายหน้ายิ้มๆ ยังหึงยังหวงเขาไม่หยุดแบบนี้แล้วบอกจะถอนหมั้น เชื่อได้ที่ไหนเด็กน้อยเอ้ย จนถึงตอนนี้ราชันย์ก็ยังไม่เชื่อว่ามาเบลล์ต้องการจะถอนหมั้นกับเขาจริงๆ

กริ่งงงง~

"จิ๊!" ริงโทนบ้าอะไรน่ารำคาญเป็นบ้า ราชันย์ยิ้มมุมปากเมื่อเห็นท่าทางขัดใจของหญิงสาว เขากดรับสายตรงนี้ต่อหน้าเธอเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจที่มี 

ติ้ด!

"ว่าไงดา" 

("คิงส์~ ช่วยดาด้วย...") 

.

.

.

โปรดติดตามตอนต่อไป

คุยกับไรท์ ❤️

ไปต่อจ๊ะเธออย่าแผ่วนะแม่ลดา คราวนี้แกจะมาไม้ไหนอีกล่ะ

รอดูว่าตอนหน้าจะเป็นยังไงนะคะ5555

คือน้องพร้อมไปมาก แต่อิเฮียราชันย์มันเสือกไม่เชื่อไง

ฝากคอมเมนท์กันเอาไว้ด้วยน้าา ไรท์จะได้มีกำลังใจทำตอนต่อๆไป

​​

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!