อะ กลับมาตอนผมเข้ามัธยมมาใหม่ๆ ซึ่งผมเลือกที่จะเรียนต่อม.1โรงเรียนโรงเรียนหนึ่งในตัวเมือง ก่อนจะมีปรับพื้นฐาน มันก็จะมีกิจกรรมกิจกรรมหนึ่งครับ ที่ต้องมา(เฉพาะห้องพิเศษ) มันก็คือกิจกรรมค่ายภาษาครับ ซึ่งเขาจะแยกว่าภาษานี้อยู่ห้องนี้ภาษานั้นอยู่ห้องนั้น และผมที่อยู่ภาษาจีนก็อยู่กับครูภาษาจีนในห้องสมุด เข้ามาวันแรกบอกตรงๆว่าเกร็งสุดเลยครับ ทั้งคุณครู เด็กรุ่นราวคราวเดียวกันกับผม และรุ่นพี่ อยู่ในห้องสมุดเยอะมากเลย มาถึงคุณครูและรุ่นพี่ก็สวัสดีทักทายอย่างยิ้มแย้มต้อนรับเด็กใหม่อย่างพวกผมที่กำลังนั่งมอง
ตอนนั้นคุณครูคนจีนหรือที่เรียกกันว่า เหล่าซือ เขาติดธุระเลยมาสาย ครูคนอื่นๆเขาก็ให้พวกผมที่เป็นเด็กใหม่แนะนำตัวกันทีละคนซึ่งผมก็ไม่ค่อยกล้าอะนะพอถึงคิวผมที่ต้องลุกขึ้นสวัสดีคุณครูและพวกพี่ๆเขา ผมสั่นมากครับ สายตาของคนทั้งห้องจับจ้องมาทางผมมันทำให้ผมอึดอัดจนพูดไม่ออกเลยครับ แต่ผมก็พูดออกไปได้ถือว่าด้วยดีเลยล่ะ
พอแนะนำตัวกันเสร็จหมดทุกคนแล้วครูเขาก็บอกว่า "เดี๋ยวจะสุ่ม1คนให้ออกมาบอกว่าเพื่อนคนนี้ชื่ออะไรเดี๋ยวครูจะชี้ให้ทายชื่อเพื่อน4-5คน"
ใช่ครับนั่นหมายความว่าผมต้องรีบลุกไปถามชื่อเพื่อนเพื่อที่จะจำให้ครบทุกคนเพราะไม่รู้ว่าครูจะชี้ให้บอกชื่อคนไหนบ้างและจะสุ่มโดนใครที่ต้องออกไปทายชื่อเพื่อน ตอนนั้นภายในใจของผมมีแต่คำว่า “ชิบหายละกู” แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับไม่ใช่ผมที่โดนให้ออกไปทายชื่อเพื่อนบอกเลยว่าตอนนั้นโล่งอกมากๆครับ🥹
ก็ทายชื่อกันอยู่แบบนี้จนเหล่าซือมาครับ เมื่อเหล่าซือก้าวขาเข้ามาภายในห้องสมุดทุกคนต่างพากันหันไปมองซึ่งบอกเลยนะครับ น่ารักมาก!! เป็นผู้ชายครับ ตัวเล็กประมาณ168ซม. ขาวตี๋ ใส่แว่น
แกเป็นคนจีนที่พูดไทยไม่ชัดซึ่งเวลาที่แกพูดกับเด็กนักเรียนมันดูน่ารักน่าเอ็นดูมากๆเลยล่ะ ผมที่เห็นดังนั้นมีหรอจะนิ่งเฉย ไม่นานเหล่าซือก็เดินแจกกระดาษให้เด็กๆคนละแผ่น ในกระดาษมันก็คือ สระ พยัญชนะ และเสียงวรรณยุกต์ของจีนนั่นแหละครับ ตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้จักพินอินอะนะ อะไรเนี่ยมีแต่ภาษาอังกฤษอ่านไม่ออกโว้ยยย
ซึ่งพอแกแจกเสร็จครูที่เป็นคนไทยแต่สอนในรายวิชาภาษาจีนก็ออกมาอธิบายครับว่ามันคืออะไร ผมก็ได้แต่นั่งพยักหน้าอ๋อเข้าใจ เมื่ออธิบายอะไรเสร็จศัพท์เหล่าซือก็ได้หยิบกระดาษที่เขียนคำศัพท์ภาษาจีน ทั้งตัวจีน พินอิน แล้วก็คำแปร จากนั้นแกก็สอนครับว่าคำนี้ออกเสียงยังไงอ่านยังไง ซึ่งผมก็จำครับตอนนั้นคือว่าพยายามจำที่สุดแล้วจำเข้าไปจำๆๆๆ จนกระทั่งเหล่าซือแกบอกว่า ใครออกมาอ่านและอ่านถูกหมดจะมีสติ๊กเกอร์ให้
ไม่ทันขาดคำผมลุกออกไปคนแรกเลย5555 ไปถึงก็หยุดตรงหน้าแกแล้วก็หันไปอ่านคำศัพท์ในกระดาษที่แกติดไว้บนกระดาน ซึ่งผมก็อ่านถูกหมดทุกคำ ได้ทั้งเสียงปรบมือและสติ๊กเกอร์จากเหล่าซือเอามาแปะไว้ตรงป้ายชื่อตัวเอง ตอนนั้นแค่นี้ก็ภูมิใจมากแล้ว
ตัดไปตอนที่ค่ายภาษาเสร็จ ปรับพื้นฐานเสร็จ ทีนี้ก็มาสู่การเรียนของจริงซึ่งบอกเลยว่าผมตั้งตารอวิชาภาษาจีนมากๆครับ พอได้เวลาของภาษาจีนผมจะต้องใจเรียนเป็นพิเศษเลย แกสอนอะไรยังไงผมจดใส่สมุดหมดเลยครับกลับบ้านมาตอนดึกๆก็อ่านทบทวนมัน ตอนนี้ผมมีสมุดภาษาจีนถึง6เล่ม ผมก็ตั้งใจตลอดเลยครับจนแกเริ่มสนใจผมชมผมตลอดซึ่งผมก็รู้สึกดีมากๆครับ ที่ตัวเองทำผลงานออกมาได้ดีเยี่ยม ภาษาจีนของผมมันจะมี3แบบครับก็คือ ภาษาจีนพื้นฐาน ภาษาจีนเพิ่มเติม และChinese Club ซึ่งภาษาจีนเพิ่มเติมและไชนิสคลับ ผมจะได้เรียนกับเหล่าซือ แต่ภาษาจีนพื้นฐานผมจะได้เรียนกับครูอีกคนนึงเป็นคนไทย
ซึ่งผมรู้สึกว่าครูคนไทยคนนั้นไม่ค่อยชอบผมครับจากที่ผมสังเกตแก เวลาแกถามพอผมยกมือจะตอบแกก็กลับเมินเฉยและหาคนมาตอบแทนผมถ้าไม่มีใครตอบได้จริงๆจึงค่อยมาให้ผมตอบมันทำให้ผมได้คะแนนน้อยมาก ผมโคตรนอยด์แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เก็บเงียบเก็บความเคืองนี้ไว้คนเดียว มันทำให้ผมไม่อยากเรียนภาษาจีน แต่ผมก็ไม่ล้มเลิกผมก็พยายามตั้งใจและทำมันออกมาให้ดีที่สุดจนผมสามารถอ่านพินอินออกและอ่านได้ถูกต้องตั้งแต่ม.1เทอมแรก ผมสามารถสร้างประโยคที่ยังไม่ได้เรียนขึ้นมาเองอย่างถูกต้องได้
จนกระทั่งวันนึงวิชาภาษาจีนเพิ่มเติมเหล่าซือได้น้ำข้อสอบมาให้ทั้งห้องทำ มันเป็นข้อสอบที่ยากพอสมควรเลยเพราะมันเป็นของจีนเพิ่มเติมซึ่งเพิ่มเติมนี้ก็หมายถึงมันจะยากกว่าจีนพื้นฐานมันจะเจาะลึกลงไปอีกมี50ข้อคะแนนเต็ม100 ตอนนั้นผมตื่นเต้นมากๆเลยครับ น่าจะเป็นคนคนเดียวเลยก็ว่าได้ครับที่อยากทำข้อสอบชุดนี้ใจจะขาดก่อนจะเริ่มทำข้อสอบผมก็ได้แอบถามเหล่าซือนะครับว่ามันยากมากหรอ แกก็ยิ้มอ่อนให้ก่อนจะบอกกับผมเป็นภาษาไทยว่า “สำหรับหนี่ไม่อยากหรอก เพราะหนี่เป็นคนพิเศษ” ถึงแกจะพูดไม่ชัดแต่ผมก็ฟังออกและจำได้แม่นเลยล่ะ ผมทำภารกิจของตัวเองสำเร็จแล้วครับ ภารกิจนั่นก็คือการได้เป็นลูกรักเหล่าซือ ได้ประโยคนี้มาแล้วก็เริ่มทำข้อสอบได้ครับ ผมเปิดมาหน้าแรก โอเค ง่ายอยู่ทำได้ ชิวครับหน้าแรก แต่พอจะหน้าสุดท้ายนี่สิ เกือบล้มทั้งยืนครับ5555 ผมอ่านพินอินได้ก็จริงครับแต่ผมจำได้ไม่หมดครับว่ามันแปลว่าอะไรบ้าง😞 เกือบตายแต่กลับรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิดครับ
เมื่อทุกคนทำข้อสอบเสร็จก็จะเรียกเก็บตามเลขที่บอกเลยว่าผมตื่นเต้นมากครับอยากจะรู้คะแนนแล้วสิมันจะออกมาเป็นยังไงนะ
แล้วเวลาก็เดินไวเหมือนโกหก วันรุ่งขึ้นจีนเพิ่มเติมคาบแรกเลยครับได้รู้ผลคะแนนตั้งแต่เช้าเลย ผมตื่นเต้นมากตั้งตารอสุดๆลุ้นมากๆครับเพราะผมตั้งใจทำมันมาก และใช่ครับความตั้งใจของผมไม่ทำให้ผมผิดหวัง ผมได้100คะแนนเต็มและเป็นคนเดียวที่ได้เต็มด้วยครับ ผมได้รางวัลเล็กๆน้อยๆจากแกแล้วก็เกียรติบัตรครับ ผมรู้สึกดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยเผลอปล่อยน้ำตาออกมาโดยที่ไม่ทันตั้งตัวจนแกเห็นก็เลยหัวเพราะผมและเข้ามากอดผมเลยครับ ซึ่งผมที่โดนแบบนั้นเข้าไปก็แตกสิครับ ปล่อยโฮเลย เพื่อนๆก็เห็นก็แซวผมกันใหญ่
วันนั้นทั้งวันผมมีความสุขมากแต่ก็มีความสุขได้ไม่นานครับ
เวลาผ่านไปจนใกล้จะสอบปลายภาคเรียนที่1 ผมก็ได้รับข่าวร้ายว่าเหล่าซือเขาจะกลับจีนแล้วและเขาก็จะไม่กลับมาที่นี่อีกได้ยินแบบนั้นผมช็อกครับ ยอมรับว่าตอนนั้นผมติดเหล่าซือเพราะแกเป็นครูคนเดียวในโรงเรียนที่ผมสนิทด้วยและซึ่งก่อนแกจะไปอีกไม่กี่วันก็วันเกิดแกด้วยครับ ผมและเพื่อนในห้องก็ร่วมมือร่วมใจกันซื้อเค้กวันเกิดให้กับแก ผมแทบไม่อยากให้แกไปเลยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้อะเนาะ เฮ้อ.
และแล้ววันที่เหล่าซือจะได้มาที่โรงเรียนนี้เป็นครั้งสุดท้ายก็มาถึง พวกเราทั้งห้องได้จัดงานวันเกิดเล็กๆให้กับแก ซึ่งมันดูอบอุ่นและแกก็ดูมีความสุขมากๆเลย และไม่ใช่แค่ห้องผมที่จัด ห้องภาษาจีนของรุ่นพี่ก็จัดให้กับเหล่าซือครับ วันนั้นมีทั้งความสุขและความเศร้าในเวลาเดียวกัน ห้องผมได้จัดวันเกิดให้แกพอร้องเพลงกินเค้กและถ่ายรูปกับแกเสร็จก็เลิกเรียนพอดีครับ ระหว่างที่ผมเดินไปตามทางเพื่อจะลงบันไดไปชั้น1 เหล่าซือแกก็มาเดินคุยข้างๆ ผมก็บอกกับแกว่า “หว่อคงคิดถึงหนี่แย่เลย”
แกก็ยิ้มๆพูดกับผม “หว่อก็จะคิดถึงหนี่นะ” สิ้นเสียงประโยคนี้น้ำตาผมแตกอีกรอบเลยครับ5555 ผมไม่อยากให้แกไปจริงๆ แกนิสัยดีมาก
“อันนี้หว่อให้ ถ้าหนี่คิดถึงหว่อหนี่ก็ตั้งใจเรียนภาษาจีนนะ” เหล่าซือพูดขึ้นพร้อมกับยื่นปากกาที่เป็นหมีแพนด้าให้กับผม ผมรับปากกาจากแกก่อนจะรวบรวมความกล้าขอกอดอีกสักรอบแกก็ไม่ว่าอะไรให้ผมกอด ก่อนที่ผมจะบอกลาแกแล้วเดินลงบันไดไป ระหว่างทางผมร้องไห้เพราะเทอม2จะไม่ได้เจอแกแล้ว มันก็มีเพื่อนบางคนที่ลงมาก่อนหน้าเห็นผมเดินคอตกลงมาก็เข้ามาหาและปลอบผมคนละนิดคนละหน่อยก่อนผมจะเดินออกไปหน้าโรงเรียนเพื่อรอรถมารับกลับบ้าน
แต่ตอนนี้ทำใจได้แล้วครับ ปากกาที่เหล่าซือให้หมึกมันก็หมดแล้วแต่ผมเติมหมึกไม่เป็น555 ไม่รู้ต้องดึงออกทางไหนแต่ก็ไม่เป็นไรแค่เห็นปากกาด้ามนี้ในทุกๆวันก็หายคิดถึงแกแล้วล่ะ และผมก็สัญญากับเหล่าซือไว้แล้วว่า หว่อจะตั้งใจเรียนภาษาจีนเดี๋ยวโตไปจะไปหาถึงจงกั๋วเลยนะเหล่าซือ5555 รอหว่อแป๊บๆ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
เรียกพี่กูต่อย
จริงจัง กูเห็นสนใจมึงหมดทุกคนเลยเพื่อน😔😔
2024-10-14
0
เรียกพี่กูต่อย
เหล่าซือรักมึงมากกว่ากูวว รับไม่ได้😭😭
2024-10-14
0