หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่น่าตกใจในตอนเช้าที่ผ่านมา พันวาจึงตัดสินใจเก็บของใส่กล่องโฟมเล็ก ๆ กลับที่พัก พวงมาลัยที่เป็นสินค้าเกิดความเสียหายเธอจึงไม่กล้าที่จะเอาเปรียบผู้บริโภคด้วยการขายพวงมาลัยที่ตกพื้นแม้สภาพบางชิ้นจะยังคงความสวยงามอยู่ก็ตาม ชายตัวเล็กกระเตงลูกน้อยไว้ที่เอวเดินตรงเข้าชุมชนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่สภาพแวดล้อมไม่สู้ดีนัก สิ่งต่าง ๆ ในชุมชนมักมีกลิ่นเหม็นของน้ำเน่าเสียและขยะข้างทางให้ชวนอาเจียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จุดหมายอย่างแรกก่อนจะถึงหอพักราคาถูกคือร้านชำขนาดเล็กของคุณลุงที่คุณแม่ลูกหนึ่งคนนี้มักจะแวะซื้อมาม่าปลากระป๋องหรือไข่เป็นประจำทุกสัปดาห์ แต่วันนี้ที่ชายคนนี้ต้องแวะซื้อกลับไม่ใช่อาหารแต่เป็นอุปกรณ์ทำแผลสดเพราะดูท่าทีการเดินของเขาเริ่มไม่ปกติ ดูทีแล้วผลพวงนั้นมันมาจากอาการแสบปวดจากแผลที่ถูกรถหรูเฉี่ยวชนนั่นเอง
"อ้าวน้องวา ยังไม่ครบเจ็ดวันเลยมาซื้อมาม่าแล้วเหรอ"
"เปล่าครับลุง ขอซื้อแอลกอฮอล์ทำแผลกับเบตาดีนครับ"
"ตายแล้ว เป็นอะไรมาล่ะลูก"
"หกล้มนิดหน่อยครับ" พันวายิ้มแห้งเล็กน้อยก่อนจะชะเง้อมองตู้แช่เย็นหานมบางยี่ห้อแล้วเอ่ยสั่งของต่อ "ขอนมหมีน้ำผึ้งหนึ่งกล่องด้วยนะครับ"
พันวาเอ่ยยิ้มแย้มเก็บอาการเจ็บแสบที่แผลก่อนจะหันไปฟัดแก้มกลมของตัวจิ๋วในอ้อมกอดที่ยิ้มแป้นเมื่อได้ยินคำว่า 'นมหมีน้ำผึ้ง' ปกติแล้วพันวาจะซื้อนมรสหวานให้น้องใยรักกินได้เพียงเดือนละครั้งเพราะหนึ่งกล่องก็ราคาสูง การขายพวงมาลัยในแต่ละวันก็ได้เงินมากบ้างน้อยบ้าง เงินที่ได้มาก็เก็บไว้ให้ลูกเรียนส่วนหนึ่ง ส่วนที่สองไว้จ่ายค่าห้องเช่า และอีกส่วนเป็นค่าใช้จ่ายจิปาถะในชีวิตประจำวัน
หลังจากน้องใยรักหย่านมแม่แล้วเด็กตัวเล็กคนนี้จึงได้กินข้าวกับกล้วยสุก หรือสารพัดเมนูไข่ นาน ๆ ครั้ง ถ้าเป็นมื้อหรู ๆ คงเป็นหมูปิ้งหรือกับข้าวถุงละสี่สิบในตลาด ส่วนขนมและนมรสหวานที่แสนอร่อยกว่าจะได้กินก็เฉลี่ยตกเดือนละครั้ง หรือหากวันไหนน้องรักหิวนมมาก ๆ แต่ช่วงนั้นไม่มีเงินมากพอจะเจียดซื้อนมสักกล่องพันวาก็ทำได้เพียงใช้น้ำต้มข้าวรินใส่แก้วให้ลูกได้ดื่มอย่างน่าอดสู
"นี่จ้า หกสิบบาท"
"นี่จ้ะลุง"
"อะโหห แบงค์ใหญ่แบบนี้ขายดีใช่ไหมวันนี้"
คุณลุงเจ้าของร้านเอ่ยแซวเมื่อคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจ่ายเงินเป็นธนบัตรสีเทา พันวาไม่เอ่ยตอบกลับทำได้เพียงยิ้มแห้ง ๆ แล้วรอเงินทอนจากคุณลุงเท่านั้น
"ขอบใจนะลูก ให้ขายดีทุกวันนะหนูวา"
"ขอบคุณครับ"
ท่าทีที่อ่อนน้อมและรอยยิ้มที่เป็นมิตรเผยขึ้นต่อหน้าเจ้าของร้านชำได้เพียงครู่ ไม่นานชายหนุ่มร่างเล็กก็อุ้มกระเตงลูกชายวัยห้าขวบออกจากร้านแล้วเดินกลับไปยังหอพักเก่าโทรมราคาแสนถูกที่สองแม่ลูกมองว่านี่คือ 'บ้าน'
เท้าความถึงอดีตพันวาเป็นเด็กกำพร้า ก่อนหน้าตอนยังไม่มีสมาชิกเพิ่มมาในชีวิตเขาได้เป็นพนักงานเสิร์ฟในสถานบันเทิงใกล้มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พันวาทำงานไปด้วยส่งตัวเองเรียนไปด้วยและในช่วงเวลานั้นมันเป็นเวลาที่แสนมีความสุขเมื่อเขาได้พบเจอและได้รักกับ 'ชายคนหนึ่ง' ในช่วงเวลานั้นทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้เพิ่มเจ้าแก้มก้อนเข้ามาในชีวิตอีกหนึ่งชีวิต แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่เป็นดั่งละครน้ำเน่าหลังข่าวช่วงสองทุ่มครึ่งก็ทำให้กราฟชีวิตของพันวาจากที่พุ่งแตะจุดสูงสุดต้องร่วงหล่นมายังจุดต่ำสุดอย่างน่าเวทนา
หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายทำให้ชายหนุ่มผู้นี้ต้องดูแลตนเองระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด พันวาลาออกจากมหาวิทยาลัยและใช้เงินเก็บทั้งหมดที่ทำงานมาไว้เพื่อจ่ายค่าเทอมและค่าหอนั้นมาใช้จ่ายในการดูแลลูกแทน ชีวิตที่ย่ำแย่แต่เธอก็ไม่เคยย่อท้อ คุณแม่ใจสู้คนนี้ปากกัดตีนถีบถูไถชีวิตของตนเองและลูกมาได้รวมหกปี ความคิดของพันวาในตอนนี้คือ....หากเขาเก็บเงินได้มากพอจะส่งลูกเข้าเรียนชั้นอนุบาลแล้วเมื่อถึงตอนนั้นเธอจะหางานประจำที่ได้เงินเยอะกว่านี้ทำ หากจะทำเลยในตอนนี้ในใจก็ห่วงน้องใยรักเสียเหลือเกิน ผู้เป็นแม่ต้องกระวนกระวายใจเป็นแน่ถ้าหากปล่อยลูกอยู่คนเดียวแล้วตนต้องทำงานหาเงิน หากถึงคราวที่ได้ฝากลูกเข้าโรงเรียนแล้วอย่างน้อยก็สบายใจไปเปลาะหนึ่งว่ายังมีคุณครูในโรงเรียนที่ยังคอยดูลูกของตนได้บ้าง
ในห้องเช่าห้องเดิมที่ที่อุดอู้ก็เริ่มโปร่งสบายขึ้นบ้างเมื่อชายหนุ่มเดินไปเปิดประตูหลังห้องตรงระเบียงเพื่อให้ลมได้พัดโกรก พัดลมเก่า ๆ ตัวเดิมเมื่อเริ่มเปิดใช้งานทีก็ร้องเสียง 'แอด ๆ ' ทุกครั้งเมื่อมันส่ายหน้า พันวาเดินกลับมาหาลูกน้อยของตนที่นั่งจุ้มปุ้กพุงกลมและยิ้มแป้นแล้นมองกล่องนมพี่หมีที่เจ้าเด็กคนนี้โปรดปรานอย่างรู้ใจว่าแม่จ๋าของเขากำลังจะเดินมาเปิดกล่องแล้วเทนมให้ดื่ม
"แบ่งกินนะลูก กินตอนนี้แล้วก็ตอนเย็น โอเคไหมครับ"
"ได้เยยแม่จ๋า"
น้องใยรักเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายและแสนอารมณ์ดี เจ้าเด็กตัวขาวแก้มย้อยเริ่มตาโตเมื่อนมรสหวานเริ่มเทลงแก้วพลาสติกอันเล็กเพียงครึ่งแก้ว มือเล็กทั้งสองยกขึ้นมาปรบมือแปะ ๆ แสดงความดีใจก่อนจะยกมือธุจ้าขอบคุณแม่คนสวยของเขาแล้วจับยกแก้วนมดื่มพลางหัวเราะชอบใจ
"อาหร่อยยย คิคิ แม่จ๋ากินด้วยกันม้ายยย"
"ไม่ครับลูก อร่อยก็กินเลย"
คุณแม่เอ่ยยิ้มแล้วลูบหัวกลมของกล่องดวงใจอย่างเบามือ ทว่าตอนนี้ตนก็เกิดความรู้สึกตึงและเจ็บแผลที่เข่าและศอกขึ้นเรื่อย
"เดี๋ยวแม่ทำแผลก่อนนะน้องรัก หนูค่อย ๆ ดื่มนะครับ ถ้าทำหกพี่มดจะเข้ามาในห้องแล้วกัดหนูตัวแดงนะ"
"ค้าบบบ"
พลางลูกรักรับปากชายตัวเล็กก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างแผลให้สะอาดก่อนจะเดินออกมาเพื่อเช็ดแผลให้แห้งแล้วใส่ยา ทว่าเสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันที่ใช้คุยสนทนาผ่านแชทดังขึ้นสองสามครั้งจนพันวานั้นแปลกใจ คิ้วทรงงามเริ่มย่นเข้าหากันเพราะมันดังถี่ขึ้นเรื่อย ปกติแล้วหากมีใครสักคนทักหาคงเป็นเจ้าของหอเพื่อเรียกเก็บค่าเช่าห้อง แต่นี่เขาเพิ่งจะจ่ายไปเมื่อต้นเดือน แล้วใครกันล่ะที่ทักมาหาเขาในเมื่อชายคนนี้ไม่มีสังคมที่ไหนเลย เพื่อนสมัยมหาลัยก็ขาดการติดต่อไปจนหมด
...ภูทัต เพิ่มเพื่อนคุณ ...
'ไม่ได้อยากจะหาข้อมูลของเธอแล้วติดต่อมาเท่าไหร่'
'แต่มีนักข่าวกำลังจะตีข่าวว่าฉันชนแล้วหนี'
'พรุ่งนี้คงมีคนไปดักรอเธอที่สี่แยกเพื่อสัมภาษณ์'
'รบกวนให้ข้อมูลที่ถูกต้องว่าฉันชดเชยค่าเสียหายให้แล้ว'
'ฉันย้ำ พูดความจริงด้วย อย่าใช้นิสัยเดิมคือชอบโกหกมาทำฉันเดือดร้อนซ้ำสอง'
'อ่านแล้วไม่ต้องตอบ ฉันไม่อยากสนทนากับเธอ'
พันวาอ่านข้อความที่ส่งมายาวเหยียดพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย ภูทัตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนเหมือนเทพบุตรกลายเป็นชายแท้ เรื่องราวในอดีตที่ทั้งสองต่างฝังใจแต่ไม่รู้ว่ามันเป็นหนังคนละม้วนหรือเปล่า ดูทีฟ้าจะกลั่นแกล้งให้เขากลับมาเจอกันแล้วเพิ่มความวุ่นวายในชีวิตของพันวาอีกแล้วเป็นแน่
ชั้นยี่สิบห้าในตึกสูงตระหง่านใจกลางเมืองกรุงที่เป็นออฟฟิศและที่ตั้งของบริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่นั้น ท่านประธานบริษัทกำลังยืนในห้องทำงานพร้อมจิบกาแฟชมวิวเมืองหลวงที่ดูไม่สบายตาเท่าไหร่ก็ทำให้เขาถอนหายใจอีกครั้งของวัน ร่างสูงล้วงมือถือขึ้นมามองแชทการสนทนาที่ตนส่งหาปลายทางเมื่อครู่ก็พบว่าอีกฝ่ายอ่านแต่ไม่ตอบจริง ๆ นั่นยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดไปมากกว่าเดิมเสียนี่
"ไม่มีมารยาท"
ชายหนุ่มเอ่ยกับตนเองแผ่วเบาก่อนจะเดินกลับมายังโต๊ะทำงานแล้ววางแก้วกาแฟทรงงามที่เขาจิบมันไปเพียงอึกเดียวนั้นลง ร่างสูงหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งท่านประธานแล้วกุมขมับนึกถึงแต่ใบหน้าของคนตัวเล็กในเหตุการณ์เมื่อเช้า ภาพใบหน้าหวานของอดีตคนรักที่ดูผอมซูบแปลกตากลับทำให้เขาแคร่นขำในลำคอ
"นี่สินะ กรรมที่ตามสนองคนพรรค์นั้น น่าสมเพชสิ้นดี"
แม้จะพูดเย้ยหยันออกมาแต่ดวงตาคมนั้นกลับแดงก่ำและคลอน้ำใส สีหน้าของหนุ่มหล่อในตอนนี้กำลังสื่ออารมณ์อย่างเห็นได้ชัดว่ากำลังเจ็บปวดพร้อมเคียดแค้นอย่างอธิบายไม่ถูก อดีตของทั้งสองมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ถึงทำให้ภูทัตคนนี้จ้องจงเกลียดจงชังเข้ากระดูกดำเหมือนพันวาเป็นตัวอะไรสักอย่าง แถมยังใช้คำพูดเชือดเฉือนอย่างไม่รักษาน้ำใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ราวกับอีกคนไปฆ่าใครตายเสียอย่างนั้น
...TBC...
...ไม่อยากคุยก็ให้เลขาคนสวยของแกติดต่อมาบอกเองสิ จะทักมาหาลูกชั้นทำไมจ๊ะนายภูทัต / มองบน...
...#ใยรักของภูทัต...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments