ตอนที่ 3 ปมอดีต

ผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะทำงาน  เอกสารและแปลนแบบวางกองเต็มโต๊ะ

“ว่าไงพี่ปราณ มาสายเชียวนะวันนี้” เสียงเดย์

ชายหนุ่มเจ้าสำราญ ซึ่งเป็นรุ่นน้องผม 5-6 ปี ผมจำได้เลยว่าตอนมันเข้ามาทำงานแรกๆ

มันสงบเสงี่ยม และเรียบร้อย เหมือนผ้าพับไว้

ต่างจากตอนนี้ที่เป็นผ้ายับที่พับไว้มากกว่า

“มีอุบัติเหตุนิดหน่อยนะ” ผมตอบอย่างไม่สนใจ

พร้อมเก็บของที่กองบนโต๊ะให้เข้าที่

“อุบัติเหตุอะไรอะ เล่าให้ผมฟังบ้างสิ”

เดย์เซ้าซี้

“นายไม่มีงานทำหรือไง ”

เดย์ฉีกยิ้มกว้างพร้อมขยับเข้ามากระซิบเบาๆ

“พี่ผมสั่งค้กมาให้มุกด้วยนะ วันนี้”

ผมหันมองเดย์

“วันเกิดมุกไงล่ะพี่ปราณ ปมกะเอาชนะใจมุกเลยนะ”

ผมส่ายหน้าช้าๆ “ถ้าแกตั้งใจทำงาน

เหมือนที่ขยันหาแผนการจีบหญิงก็ดีสิ”

ขณะที่ผมกำลังจัดเก็บกองเอกสาร

และแปลนแบบให้เข้าที่เข้าทาง

เสียงหนึ่งที่ทำให้ผมต้องหยุดทุกอย่างที่ทำอยู่คือเสียงที่คุ้ยเคย

“สวัสดีค่ะ มาส่งเค้กค่ะ”

ผมหันมองตามแหล่งเสียง “คุณปิ่น” ผมเอ่ยเบาๆ

ปิ่นมองผมด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “คุณปราณ”

“อ้าว รู้จักกันหรือเนี่ย?” เดย์เอ่ยถาม

“พี่ก็ไม่ยักบอกว่ารู้จัก คุณปิ่น เจ้าของร้านเค้กชื่อดัง

บอกเลยนะเค้กที่นี่อร่อยแบบลอยได้เลยนะ”

ปิ่นยิ้ม “คุณเดย์ก็พูดเกินไปค่ะ

ฝีมือยังต้องพัฒนาอีกเยอะค่ะ” ปิ่นถ่อมตัว

ปิ่นยื่นเค้กให้เดย์ พร้อมรอยยิ้มที่สดใส “นี่ค่ะ

เค้กวันเกิดที่สั่ง”

เดย์รับมาพร้อมฉีกยิ้มกว้าง “ขอบคุณครับ”

เดย์รีบเดินไปยังโต๊ะของมุก บรรจงวางกล่องเค้กลงบนโต๊ะยังนิ่มนวล

เขาก้มหน้าก้มตาเขียนการ์ด  ผมหันมองปิ่น

แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจ คือ วิญญาณของนุชยังตามเธออยู่ห่าง ผมเลื่อนสายตาลงมองสายสิญจน์ที่อยู่ในข้อมือของปิ่น

“ฉันใส่ตามสัญญาแล้วนะค่ะ”

“ครับ” ผมตอบ “คุณปิ่นครับ ผมมีเรื่องอยากถามคุณหน่อยจะได้ไหมครับ”

ปิ่นทำสีหน้างุนงง “อะไรค่ะ?”

เธอถามด้วยความใคร่รู้

ผมเงียบอยู่ชั่วครู่ “คุณรู้จัก ผู้หญิงที่ชื่อ

นุช หรือเปล่า?”

สีหน้าเธอครุ่นคิดอยู่พักใหญ่

ก่อนที่จะส่ายหน้าช้า เป็นการตอบว่า ไม่ “มีอะไรหรือเปล่าค่ะ?”

มองเลื่อนมองวิญญาณนุชที่จ้องมองด้วยความเคียดแค้นอยู่ด้านหลังไกลๆ

“ผมขอถามใหม่อีกครั้ง ในชีวิตคุณเคยได้ชื่อ หรือรู้จักผู้หญิงที่ชื่อนุชไหม”

แววตาของปิ่นมีความแปลกใจอย่างมาก

**คิ้วทั้งสองขมวดเข้ากัน “ยาย” เธอพึมพำเบาๆ  **

“คุณว่าอะไรนะ?” ผมเอ่ยถาม

“คือ.....”

“พี่ปราณ พี่วิทย์ขอประชุมกับพี่ด่วนครับ”

เดย์เรียก

“ผมต้องโทษด้วยนะ  ผมขอตัวเข้าประชุมก่อนนะครับ” ผมพูด

ปิ่นผงกหัวเล็กน้อย เธอไม่ตอบอะไร

เธอยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะเดินเข้าห้องประชุม ประมาณสองชั่วโมงที่อยู่ในห้องประชุม

ผมค้างคาในใจในเรื่องที่ปิ่นกับผมพูดค้างไว้  วิญญาณนุชเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ทำไมเธอถึงได้ตามอาฆาตปิ่น

“มีอะไรจะถามไหมปราณ” พี่วิทย์หัวหน้างานถามผม

ผมสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะตอบ “ไม่มีครับ”

“งั้นงานโปรเจคนี้ เราจะเริ่มกันอาทิตย์หน้า

ปราณช่วยลงพื้นที่ดูหน้างานด้วยนะ” พี่วิทย์กำชับ

“ครับ” ผมตอบรับ

ผมเดินออกจากห้องประชุมด้วยอาการมึนงง ผมวางสมุดและเอกสารข้อมูลการประชุมไว้บนโต๊ะ

“พี่ปราณ โปรเจคใหญ่นี้

พี่วิทย์น่าจะคาดหวังเยอะนะ” เดย์เดินเข้ามาคุย

ผมยกมือกุมขมับ “น่าจะเป็นอย่างนั้น

โครงการสร้างบ้านสรรจัดนี้พี่วิทย์แกหวังมานานแล้ว”

“เห็นว่าที่ตรงนั้น มีประวัตินะพี่” เดย์พูดเบาๆ

“ประวัติอะไรของแกว่ะ” ผมถาม

“ผมก็ไม่รู้ แต่แค่ได้ยินมาว่า ที่ตรงนั่นคือ

ที่อาถรรพ์น่ะ ใครสร้างอะไรก็มีอันโชคร้าย หรือใครที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวก็มีอัน....”

“เลอะเทอะน่าเดย์” ผมขัดขึ้น

“จริงนะพี่”

“เลิกพูดได้แล้ว

ยังไงเราก็ต้องไปทำงานที่นั่นอาทิตย์หน้าอยู่ดี แกจะกลัวหรือไม่กลัว ก็ต้องไป”

“โถ...พี่ปราณ”

“คุณปราณค่ะ” เสียงหนึ่งเรียกผม

ผมหันไปพร้อมความแปลกใจ “คุณปิ่น”

เธอยืนอยู่ด้านหลังผม “ขอโทษนะค่ะ

ฉันอยากคุยกับคุณเรื่องเมื่อกี้”

ผมพยักหน้า พร้อมยกนาฬิกาขึ้นดู อีก 10

นาทีจะเที่ยง “งั้นเดี๋ยวเราไปนั่งคุยกันที่ร้านอาหารข้างๆ นี้นะครับ”

ขณะที่ผมกำลังเก็บของที่จำเป็น ลงกรเป๋า

ปิ่นยืนรอเงียบไม่พูดคุยอะไร จนกระทั่งเรากำลังเดินไปที่ร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ข้างตึก  ตลอดเวลาผมเห็นวิญญาณของนุชที่ตามปิ่นตลอด

เราเดินเข้าร้านอาหารตามสั่ง ปิ่นนั่งฝั่งตรงข้ามกับผม

พนักงานร้านเดินมาเสิร์ฟน้ำเปล่า 3 แก้ว

ปิ่นหันมองหน้าผม

ผมส่าหน้าช้าๆ

สีหน้าของปิ่นเริ่มเป็นกังวล

“ทำไมคุณถึงถามฉันว่ารู้จักคนที่ชื่อนุชไหม?” ปิ่นเริ่มถาม

ผมสูดหายใจเฮือกใหญ่ “ผมขอพูดตามตรงนะ

ผมเห็นวิญญาณผู้หญิงตามคุณ”

ปิ่นเบิกตาโพลง “คุณว่าอะไรนะ!?”

เสียงที่ดังทำให้คนในร้านหันมามอง

“เบาหน่อยคุณ”

“คุณจะบอกว่าคุณเห็นผีงั้นหรือ?” ปิ่นถาม

ผมพยักหน้า

“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่า วิญญาณที่ถามฉันเป็นยายนุช” สีหน้าปิ่นหยันเชิง

แววตาเธอบ่งบอกได้ชัดเจนว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ผมกำลังพูด

“ผมฝันถึงผู้หญิงที่กำลังติดตามคุณ

และในความฝันเธอชื่อนุช และเธอมีพี่สาว ชื่อ นาถ”

เมื่อผมพูดชื่อ นาถจบ ปิ่นเบิกตาโพลงกว่าเดิม

“คุณรู้จักยายนาถของฉันด้วยหรือ?”

ผมงุนงงในคำถามของเธอ “นาถคือแม่ของแม่คุณงั้นหรือ

อย่างนั้น ตาคุณก็คือ ท่านปราบ”

“ใช่ คุณเป็นใครกันแน่ แอบสืบข้อมูลฉันงั้นหรือ?” ปิ่นระแวง

“ผมบอกคุณไปแล้วว่าผมฝันถึงพวกเขา”

“ฉันไม่เชื่อ!” ปิ่นยืนกราน

“ผมไม่ได้อยากให้คุณเชื่อนะ

แต่ผมก็ไม่อยากเห็นคุณเป็นอันตรายอย่างเมื่อเช้า เธอกะเล่นงานคุณถึงชีวิตเลยนะ”

ผมพูดเสียงเข้ม

ปิ่นปรับสีหน้าสงบลง  แววตาเธอผมมองไม่ออกว่า

เธอเชื่อในสิ่งที่ผมพูดมากน้อยแค่ไหน

“คุณจะไม่เชื่อผม ผมก็ไม่ได้ว่า

แต่อย่างน้อยอย่าถอดสายสิญจน์นี้เป็นอันขาดนะ”

ปิ่นพยักหน้ารับ

“ก่อนอื่นคุณช่วยเล่าเรื่อง ยายคุณให้ผมฟังหน่อยได้ไหม?”

ปิ่นยกน้ำดื่ม

“แม่เคยเล่าให้ฉันฟังเพียงครั้งเดียว ว่ายายนาถมีน้องสาวฝาแฝด ชื่อ นุช ทั้งสองรักใคร่สนิทสนมกันเป็นอย่างมาก

จนกระทั่ง ยายได้คบหากับตาปราบและได้แต่งงาน แต่....”

“แต่เหตุก็เกิดขึ้นในวันแต่งงาน

เมื่อนุชผู้เป็นน้องเข้าเรือนหอแทน นาถผู้พี่ โศกนาฏกรรมที่แสนเศร้าก็เกิดขึ้น”

ผมสานเรื่องต่อ

“คุณรู้ได้ไง?”

นุชถามด้วยสีหน้าแปลกใจ

“ผมบอกคุณแล้ว แต่สิ่งที่ผมอยากรู้คือ

เหตุการณ์หลังจากที่ ตาและยายคุณหนีจากไฟไหม้มาได้”

ปิ่นลังเลเล็กน้อยก่อนจะเล่า “หลังจากตาและยาย

หนีออกมาจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้น ก็ได้มาอาศัยกับทวดตาและทวดยาย

ทั้งสองพยายามสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยกัน จนกระทั่งสามารถสร้างเรือนได้หลังเล็กๆ

ในพื้นที่บริเวณเรือนหอเดิมที่ถูกไฟไหม้ไป ตาปราบและยายนาถอยู่กันสงบสุข

จนเกิดแม่ของฉัน แต่เรื่องก็ไม่จบเพียงแค่นั้น เรื่องแปลกๆ เริ่มเกิดขึ้น ทวดตาและทวดยาย

เริ่มพูดคนเดียว ท่านทั้งสองบอกว่า นุชมาหา และจะพาท่านทั้งสองไปอยู่ด้วย ไม่นาน

ทวดทั้งสองก็จากไป ส่วนยายนาถและตาปราบก็เริ่มมีทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยขึ้น

โดยยายนาถมักจะเห็นผู้หญิงอยู่กับตาปราบตลอด จนการทะเลาะเริ่มรุนแรงมากขึ้น

วันนั้นแม่เล่าว่า ตาปราบทะเลาะถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตียายนาถ ยายนาถเสียใจ

ใช้แจกันฟาดเข้าที่ศีรษะของตาปราบอย่างแรงทำให้ ตาปราบล้มลงและสลบไป

ลมหายใจที่โรยรินของตาปราบ ยายนาถคิดว่าได้ลงมือฆ่าตาปราบ

ท่านจึงเสียใจในสิ่งที่ทำ ยายถือถังน้ำมันสาด และเทรอบบริเวณบ้าน

ก่อนที่จะจุดไม้ขีดไฟโยนเข้าน้ำมัน ไฟลุกพรึ่บอย่างรวดเร็ว แม่ฉันในตอนนั้นอายุราว

10 ขวบ แม่ยืนตะลึงนิ่งท่ามกลางไฟที่กำลังลุกไหม้ โชคดีที่ป้ามนต์ ป้าที่ดูแลแม่ฉันมาตั้งแต่เด็ก

ได้เอาผ้าห่มชุบน้ำมาห่อหุ้มตัวแม่ไว้ แล้วรีบพาแม่หนีออกมา

ก่อนที่แม่กับป้ามนต์จะหนีออกมาได้ แม่เล่าว่า ได้ยินยายนาถ ร้องเสียงดังว่า ‘นุชอย่าทำพี่  นุชอย่าทำร้ายลูกหลานพี่เลยนะ’”

ผมนั่งฟังปิ่นเล่าอย่างตั้งใจ  สายตาปิ่นเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดเจน

ขณะเดียวกัน วิญญาณของนุชก็ยืนฟังเรื่องราวนี้อยู่ไกลๆ

แววตาความแค้นเคืองไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย

“จากนั้น

แม่และป้ามนต์เลยย้ายที่อยู่มาอยู่ที่นี่  จนแม่ได้แต่งงานกับพ่อ” ปิ่นถอนหายใจ “มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้า

ทั้งที่ความรักน่าจะเป็นสิ่งที่สวยงาม

แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่สร้างความโหดร้ายและน่ากลัวขึ้น”

“ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอครับ แต่คนเราต่างหากที่หลงไปกับกิเลสและตัณหา

จนก่อให้เกิดเรื่องชั่วร้ายขึ้น” ผมพูดพร้อมเลื่อนสายตามองไปยังวิญญาณนุช

“นั่นสินะค่ะ ถ้าทุกคนพร้อมปล่อยวางลง

เรื่องทั้งหมดคงไม่จบแบบนี้ ถ้าตาปราบยอมเคลียร์กับยายนุช

และสารภาพความจริงกับยายนาถ บางทีเรื่องทุกอย่างอาจจบด้วยดี”

“เราบอกไม่ได้หรอกครับว่า มันจะจบลงอย่างไร

แต่ทุกอย่างมันถูกกำหนดมาแล้วจากการกระทำของคนทุกคน”

ปิ่นมองผม “ตอนนี้ยายนุชยังอยู่ไหม?” เธอถาม

ผมเม้มริมฝีปาก แล้วเลื่อนสายตาไปยังด้านหลังปิ่น

และค่อยๆ เลื่อนสายตามองหน้าปิ่น “เขาตามคุณตลอดเวลา”

ปิ่นกลืนน้ำลายด้วยความหวาดกลัว

สีหน้าเธอเริ่มหวั่นวิตกขึ้น

“อย่าถอดสายสิญจน์นะครับ” ผมย้ำ

ปิ่นพยักหน้า

เสียงไลน์แจ้งเตือนข้อความเข้า

ผมเปิดดูเป็นภาพหน้างานที่ผมต้องไปดูในอาทิตย์หน้า  พี่วิทย์ส่งมา 3 -4 รูป

**                “งานด่วนหรือค่ะ?” ปิ่นถามเบาๆ**

**                “เอ่อ**

หน้างานที่ผมต้องไปอาทิตย์น่ะครับ แถวนนทบุรี” ผมตอบ

**                สีหน้าปิ่นถอดสีทันที**

“ฉันขอดูรูปหน่อยได้ไหมค่ะ?”

**                ผมพยักหน้า**

พร้อมยื่นมือถือที่เปิดรูปหน้างานไว้ให้เธอ

**                “ที่นี่มัน......”**

เสียงปิ่นหายขาดไป

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!