ราชาธิราชตอนสมิงพระรามอาสา
พระเจ้ากรุงจีนหรือพระเจ้ากรุงต้าฉิง
ผู้เสวยราชสมบัติอยู่ที่กรุงจีนเป็นผู้รักษาคำพูด
กามะนี
ผู้มีฝีมือการขี่ม้าแทงทวนอย่างหาผู้ทัดเทียมได้ยากเหมือนเทวดามาเกิด
พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง
ผู้ไม่รักษาคำพูดและไม่คิดก่อนพูด
สมิงพระราม
ทหารเอกของราชาธิราชแห่งเมืองกรุงหงสาวดี
ผู้ที่ตกเป็นเฉลยของพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องเป็นผู้มีความซื่อสัตย์และมีความกล้าหาร
ณ กรุงจีน มีทหารเอกผู้มีฝีมือเก่งกาดหาผู้ทัดเทียมได้ยาก มีชื่อว่า กามะนี ซึ่งใครๆก็ว่าไม่เหมือนคนธรรมดาเหมือนเทวดามาเกิด
จึงจัดถามเสนาว่า ( พระเจ้ากรุงจีน ) ทำเช่นไรเราจะเห็นทหารฝีมือดีขี่ม้าทวนกับกามะนีเป็นบุญตา ( เสนา ) มีเมืองกรุงอังวะกับเมืองหงสาวดีเพราะเป็นเมืองที่ทำสงครามอยู่พระเจ้าคะ
( พระเจ้ากรุงต้าฉิง ) ดีเลยเราจะเดินทางเข้าสู่เมืองอังวะ
พระเจ้ากรุงจีนจึงได้ทำการยกทัพมากรุงอังวะเพื่อตามหาผู้ทัดเทียมกามะนี เมื่อมาถึง พระราชกำหนดประกาศแก่ทหารในกลงทัพทั้งหมดว่า ( พระเจ้ากรุงจีน ) ถ้าผู้ใดไม่มีอาวุธในการสู้รบห้ามทำอันตรายเป็นอันขาดถ้าผู้ใดไม่ฟังจะตัดศีรษะเป็นอันเสีย เมื่อตั้งค่ายเสร็จแล้วได้ส่งโจเปียวซึ่งเป็นขุนนางที่สามารถพูดภาษาพม่าได้
( โจเปียว )
เพื่ออัญเชิญพระราชสาส์นและเครื่องราชบรรณาการมากมาย โดยบอกความประสงค์ของพระองค์ว่า ต้องการเพียงแค่ทอดพระเนตรรำทวนเท่านั้น นี้เป็นสงครามธรรมยุทธ์
จึงมีพระราชประสงค์ให้ทั้ง2ฝ่าย ส่งตัวแทนมารำทวนสู้กัน ซึ่งหากตัวแทนฝั่งกรุงอังวะแพ้ จะต้องยกเมืองให้พระเจ้ากรุงจีน แต่หาก กรุงอังวะชนะจีนจะยอมทัพกลับไป แต่โดยดี
เจ้าฝรั่งมังฆ้องได้รับแจ้งในพระราชสาส์น ก็รู้สึกดีพระทัยยิ่งนักจึงกล่าว ( พระเจ้าฝรั่งฆ้อง ) ศึกครั้งนี้เป็นศึกธรรมยุทธ์เราขอเวลา 7 วันในการเตรียมทหารให้เพียงก่อน
เมื่อประกาศตามหาทหารกล้าไม่มีใครอาสาจึงเรียกโขนมาทำนายชะตาเมืองแต่เมืองก็ยังอยู่ดี
( คนดูดวง )
สั่งการทหารของท่านให้เป่าประกาศตามหาทหารผู้มีฝีมือรำทวนกับทหารเอกของจีน
( คนประกาศ )
ประกาศตามหาผู้มีฝีมือรำทวนกับทหารเอกของจีนหากผู้ใดอาสาพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องจะแบ่งพระราชทรัพย์ให้ครึ่งนึง
( ทหาร1 ) อ้าวมาแล้วหรอข้างนอกส่งเสียงโวยวายอะไรกันล่ะ
( ทหาร2 ) ก็คนในเมืองล่ะสิประกาศตามหาคนไปสู้กับกามะนีแถมพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องจะแบ่งพระราชสมบัติให้อีกไม่มีผู้ใดอาสาเลย
เช้าวันต่อมา
( ทหาร1 ) เป็นไงบ้างล่ะวันนี้
( ทหาร2 ) ดูท่าแล้วไม่น่าจะมีใครอาสา
สมิงพระรามได้ยินดังนั้นจึงได้ตัดสินใจว่าหากเมืองอังวะแพ้เมื่อหงสาวดีบ้านเกิดของตนเองก็ต้องแพ้เพราะเราเป็นทหารเอกคนเดียวสู้อาสาน่าจะดีกว่าอยู่ในคุกให้พวกจีนมาฆ่า
( สมิงพระราม ) จะไปกลัวอะไรกามะนีก็มีมือมีเท้าเท่ากับพวกเราเราก็สามารถเอาชนะได้
( ทหาร2 ) จริงหรอท่านหากท่านอาสาก็ดียิ่งนักเห็นทีท่านจะได้พ้นโทษ
( สมิงพระราม ) ซึ่งเราอาสาครั้งนี้เราไม่ได้หวังยศฐาบรรดาศักดิ์เราประสงค์จะกู้พระนครให้เป็นเกียรติและราษฏรเป็นสุขเท่านั้น
ฉากถัดไป
( ทหาร2 )เมื่อผู้คุมได้ฟังจึงนำถ้อยคำของสมิงพระรามไปแจ้ง( เสนา )จึงนำมาแจ้งพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องเมื่อพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องได้ยินดังนั้นจึงจัดเตรียมม้า( พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง ) ม้าเรามีอยู่เป็นพันมากมายท่านชอบตัวใดก็เลือกเอาเถอะ
( สมิงพระราม ) ลักษณะม้าดีแต่ต้องเอามือทุกหลังม้าก่อนถึงจะรู้ว่าดีสมิงพระรามเอามือทุบหลังมาทุกตัวแต่ไม่มีตัวไหนถูกใจ เจ้าฝรั่งมังฆ้องก็บอกให้จัดหาม้ามาใหม่จนได้พบกับลูกม้าของหญิงหม้ายลูกม้าตัวนั้นมีความแข็งแรงมาก ( เสนา ) จึงได้ขอให้( หญิงหม้าย ) จับลูกม้าให้เมื่อจับลูกม้าได้แล้วจึงนำมาให้สมิงพระราม ( เสนา ) ม้าที่ข้านำมามีกำลังยิ่งนักเจ้าลองดูว่าถูกใจหรือไม่
( สมิงพระราม ) ม้าตัวนี้ดีได้ลักษณะการตำรับถูกใจข้าพเจ้านะข้าพเจ้าขอลองขี่ให้เครื่องเสียก่อนสมิงพระรามได้ขี่ม้าทั้งวัน
( นางสนม ) สมิงพระรามคงโกหกท่านหนีออกจากเมือง พระเจ้าฝรั่งมังฆ้องร้อนใจจึงเรียกผู้คุณมาตัดถาม ( ทหาร ) สมิงพระรามเป็นผู้รักษาคำพูดพระเจ้าค่ะ เมื่อสมิงพระรามกลับมา ( นางสนม )
สมิงพระรามกลับมาแล้วเหมือนที่ท่านผู้คุมพูดถูกทุกประการ( สมิงพระราม ) ข้าพเจ้าได้ม้าสนใจแล้วศีรษะกำมะณีก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมพระเจ้าคะข้าขอพระราชทานเหล็กกับตะก๊วยจะได้รับเอาศีรษะกามะนีมาถวาย
พระเจ้าฝรั่งมังฆ้องได้ยินก็ได้เหล็กกับตากรวยและเครื่องม้าทองประดับพลอยและให้มีพระราชสาสน์ไปกรุงจีน( เสนา ) ให้เสนานำไปถวาย
ครั้งถึงวันกำหนด
กามะนี แต่งตัวใส่เสื้อหุ้มเกราะคาดสายเอวปประดับหยก เหน็บกระบี่
ฝ่ายสมิงพระราม ใส่เสื้อสีชมพูขลิบทอง จีบเอวใส่กำไลต้นแขนปลายแขนสอดดาบสะพายแล่ง
เมื่อสมิงพระรามเห็นชุดเกราะที่แน่นหนาของกามะนี จึงออกอุบายให้ให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่ายรำเพลงทวนถวายแก่กษัตริย์ทั้งสอง ทอดพระเนตรเป็นขวัญตาเสียก่อนแล้วจึงค่อยสู้กันที่หลัง กามะนีตอบตกลงทั้งสองจึงรำทวนถวาย
สมิงพระราม ได้เห็นช่องทางที่จะสอดแทงทวผ่านชุดเกราะซึ่งมีอยู่2 ช่องทางคือบริเวณใต้รักแร้ และกลีบเกราะท้ายหมวกที่พอจะย้อนแทงได้
รำทวนต่อสู้กันหลายสิบเพลง ต่างคนต่างรัฐต่างป้องกัน ไม่มีคนเพลี่ยงพล้ำ ( สมิงพระราม ) จึงคิดว่าหากสู้ต่อไปแบบนี้คงชนะได้ยากแน่ จึงแสร้งควบม้าหนี ( กามะนี ) จึงควบม้าไล่ตาม เนื่องจากม้าสมิงพระรามแข็งแรงมากจึงวิ่งได้นาน จากนั้นสมิงพระรามมองเห็นว่าม้าของกามะนีอ่อนแรงแล้ว จึงชักม้าเข้าสู้อีกครั้ง แต่ม้าของกามชะนีอ่อนแรงหันหนีกลับไม่ทัน สมิงพระรามจึงได้สอดทวนแทงใต้รักแร้ กามะนีเสียจังหวะทันที
( สมิงพระราม ) ไม่รอช้า ชักดาบออกพร้อมเร่งม้า
พันย้อนตามกลีบเกราะท้ายหมวกจนศีรษะของกามธานีขาด แต่ไม่ทันตกลงพื้น สมิงพระรามก็ได้ใช้ขอเหล็กเกี่ยวศีรษะใส่ตะกรวย แล้วชักม้ากลับไปถวายพระเจ้าฝรั่งฆ้อง ( ทหารจีน ) ครั้งเห็นศีรษะของกามะนีก็โกรธแค้นจึงได้พูดกับพระเจ้ากรุงจีนว่าเราอุตส่าห์ยกทัพมาเห็นแต่ก็มาพ่ายแพ้เพียงเช่นนี้พวกเราตีกรุงอังวะ ( พระเจ้ากรุงจีน )
เราเป็นพระมหากษัตริย์เราพูดสิ่งใดเรารักษาคำพูดนั้น จึงสั่งทหารให้ถอยทัพกลับไป
ณกรุงอังวะ
( พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง ) จึงได้เรียกมาให้รางวัล( แม่หม้าย ) ได้ของบริโภค
( พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง )สมิงพระรามเจ้าจะเอาเมียพระราชทานเมียคนนั้นก็คือลูกเรา
ครั้งได้ฟังก็ได้กราบทูล( สมิงพระราม) ข้าพเจ้ารับอาสาครั้งนี้เพราะเห็นแก่ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขและต้องการจะกลับบ้านเกิดพระเจ้าคะ
( พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง ) คิดสมิงพระรามเป็นคนเก่งถึงกับเมืองไปก็คงเสียดาย
จึงมาปรึกษากับพระมเหสี
( พระมเหสี ) พระองค์จะทรงวิตกไปใยลูกสาวเราทั้งสวยใครๆเห็นก็เป็นต้องชอบหนึ่งในนั้นก็ต้องเป็นสมิงพระรามเป็นอย่างแน่นอนเชิญสมิงพระรามมากินข้าวด้วยกันจะได้เห็นลูกสาวเรา
( พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง) ได้ยินดังนั้นจึงชวนสมิงพระรามให้มากินข้าวด้วยกันจึงให้พระมเหสีไปบอกลูกให้เตรียมตัว
(พระมเหสี ) พ่อเจ้าได้พระราชทานเจ้าให้เป็นเมียของสมิงพระรามแล้วอยากได้ขัดพระประสงค์ของพ่อเลย
ลูกครั้งได้ยินก็เสียใจจึงไม่ตอบกลับไปว่า
(พระรามธิดา) ลูกไม่อยากมีผัวเลยลูกขอบวชเป็นชียังดีกว่า
(พระมเหสี) อยู่ด้วยกันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง
เช้าวันถัดมา
(สมิงพระราม)ได้เห็นรูปพระราชธิดาก็ปลาบปลื้ม
(พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง ) เราพระราชทานลูกเราให้เป็นเมียพระราชทานและจะต้องเป็นทหาร
(สมิงพระราม)ได้ยอมรับในการเป็นทหารและยอมรับเมียพระราชทานแต่มีข้อ1ห้ามให้ผู้ใดเรียกข้าพเจ้าเฉลย 2หากมีสงครามกับเมืองหงสาวดีข้าพเจ้าขอไม่สู้รบหากท่านตกลงตามนี้ข้าพเจ้าก็จะยอมพระราชทานรางวัล
หลังจากนั้นก็ได้อยู่ด้วยกันจนมีลูก 1 คน
วันหนึ่ง(พระเจ้าฝรั่งมังฆ้องอุ้มหลาน)บนตักและด้วยความไร้เดียงสาจึงได้เล่นหัวของพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องแล้ว(พระเจ้าฝรั่งฆ้อง)ได้พูดไปว่าลูกเฉลยนี่ช่างกล้าหาญยิ่งนัก
สมิงพระรามได้ยินดังนั้นจึงน้อยใจสมิงพระรามได้เขียนจดหมาย 2ฉบับที่ 1 ไว้ใต้หมอนฉบับที่ 2 พบติดตัวไว้ก่อนจะควบม้าหนีออกจากเมืองอังวะ
(พระเจ้าฝรั่งมังฆ้องและพระมเหสี)ได้อ่านจดหมายก็รู้สึกตกใจวัด(พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง)จึงได้ตัดท้อไปว่ารู้งี้เราไม่น่าพูดออกไปเลย
ฝ่ายสมิงพระรามได้กลับเมืองหงสาวดีพระเจ้าราชาธิราชก็ได้มีการเฉลิมฉลองเป็นเวลา 7 วัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments