บทที่ 4
ห้องชุดเพรสซิเด้นทเชียลถูกปูด้วยพรมกำมะหยี่หนา นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ เป็นงานฝีมือ เมื่อเหยียบลงไปบนพื้นก็รู้สึกได้ถึงความนุ่มและสบายราวกับกำลังเหยียบอยู่บนก้อนเมฆ
แต่ว่าภายใต้สถานการณ์ตอนนี้เธอลืมพรหมขนแกะถึงแม้ว่า ลั่วชิงหยุน จะเหยียบลงบนก้อนเมฆจริงๆเธอก็ไม่ได้รู้สึกดีกับมัน
ซูเฉินฮาว เดินไปนั่งที่โซฟา
ลั่วชิงหยุนเดินตามเขาไปด้านข้างอยากจะพูดแต่เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจำเธอได้หรือเปล่า
ถ้าหากว่าเขาจำเธอไม่ได้ตั้งแต่แรกถ้างั้นตอนนี้ความเงียบของเธอคงน่าหัวเราะ
“ อืม…
คุณซู คุณจะทานอาหารเย็นอะไรดีคะ?อาหารจีน หรือ ตะวันตก เราเตรียมเมนูไว้ให้คุณแล้วตอนนี้ฉันจะแสดงให้คุณดู
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากเป็นแม่บ้านแต่เธอก็ต้องทำหน้าที่ของเธอให้ดีแต่เธอทำตัวให้เป็นจริงและทำหน้าที่ของตัวเองให้ถูกต้องถึงอย่างไรเขาก็เป็นแขกวีไอพีแต่เธอเป็นแม่บ้านของโรงแรม
เธอหันหลังเดินไปที่ชั้นหนังสือจากนั้นเธอจึงหยิบเมนูอาหารที่พวกเขาเตรียมไว้มาวางไว้ตรงหน้าเขา
เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอใจร้อนอยากจะแสดงความเป็นมืออาชีพของตัวเองหรือว่าเธอกังวลเมื่อเธอเดินไปที่โซฟาตอนที่เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาเธอค่อยๆเดินช้าลง
เธอทำให้ขาเธอกระแทกกับมุมของโต๊ะน้ำชาไม่สามารถหลบลีกได้ ขาของเธอเจ็บมาก
เธอพยายามที่จะปกป้อง ขา ของเธอ แต่เธอทำได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นทันใดนั้นเธอก็พบว่าตัวเองยังคงให้บริการอยู่เธอแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้วเดินตรงไปยัง ซูเฉินฮ่าว ด้วยสองมือที่ไม่มั่นคงและส่งเมนูด้วยมือทั้งสอง
“คุณซูคุณลองดูก่อน “
ซูเฉินฮ่าว หยิบเมนูอาหารขึ้นมาเปิดดู
ลั่วชิงหยุน ถือโอกาสตอนที่เขากำลังดูเมนูอยู่เธอจึงรีบก้มตัวลงมานวดที่น่องขาที่โดนกระแทก
“ต้องการไปหาหมอไหม”
สายตาของเขายังคงอยู่ในเมนูอาหารแต่น้ำเสียงกับถามเธอ
หลังจากพบว่าการเคลื่อนไหวของลั่วชิงหยุนทำให้เธออดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืน
“ขอบคุณนะคะคุณซูที่เป็นห่วง ฉันไม่เป็นไรฉันแค่ไม่ทันระวัง ไม่ต้องไปหาหมอค่ะ “
คุณซู ให้คุณตรวจขานะครับ
เขาขอให้คนตรวจสอบหูของคุณดูว่าคุณมีโรคหูคอจมูกหรือไม่นั่นทำให้สมองไม่สามารถรับสัญญาณได้และคุณก็เวียนหัวผู้ช่วยคนสนิทเดินเข้ามาอธิบาย
เมื่อได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นกะอักกะอวมเป็นอย่างมาก
ที่แท้เขาไม่สนใจเธอเลยสักนิดแต่กลับเยาะเย้ยเธอว่าเป็นคนสายตายาว
“ คุณชายครับ”
บริษัทเหวยเฟิงงานเลี้ยงต้อนรับ ท่านประธานบริษัทเชิญด้วยตัวเองได้โปรดมาร่วมงานด้วยครับฉู่เยว่ไม่ได้สนใจสีหน้าของลั่วชิงหยุนจึงรายงานต่อซูเฉินฮ่าว
พวกเราต้องไปเผชิญหน้ากับคุณปู่ “ ซูเฉินฮ่าวพูดพลางลุกขึ้นยืน ตอบเขาฉันจะไปตรงเวลา
“ครับ”ฉู่เยว่รับปาก
เมื่อได้ยินว่าพวกเขาจะออกไปกินข้าวเย็น ลั่วชิงหยุนก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เพราะพวกเขาจะใช้เวลาร่วมกันน้อยลง
ตอนพี่ซูเฉินฮาวเปลี่ยนเสื้อผ้า ลั่วชิงหยุนใช้โอกาสนี้ถามเกี่ยวกับแผนการเดินทางของเขาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า รั่วชิงยุนรู้ว่าตารางงานของเขาเต็มไปหมดนอกจากตอนกลางคืนที่โรงแรมเขาไม่เหลือเวลาอีกจึงทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ
ด้วยกันนี้อย่างน้อยตอนกลางวันเธอก็ว่าง
บทที่ 5
ในตอนเย็นซูเฉินฮาวและฉู่เยว่ก็ออกจากโรงแรมเพื่อไปงานเลี้ยง
เมื่อลั่วชิงหยุน กลับมาถึงห้องทำงานของเธอก็ได้ยินเสียงคนกระซิบกระซาบ
เธอรู้ไหม?
เบื้องหลังของบุคคลสำคัญคนนั้นน่ะเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆนะเขาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังห้างหุ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศของเราและเจ้าของบริษัทรอยัลกรุ๊ปก็คือเขา
จริงเหรอ?
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าผู้จัดการแทนจะดูกังวลขนาดนี้นี่ขนาด
เขาเคยเจอคนใหญ่คนโตของเมืองของเรามาแล้วนะแต่ก็ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้
พูดจาเหลวไหลน่า?
คนที่มาพักโรงแรมของเราจะมีชื่อเสียงขนาดนั้นได้ยังไงบ้าจริง เลิกฝันกลางวันได้แล้วอย่างไรก็ดี ฉันละอิจฉาผู้จัดการคนนี้จริงๆคุณซูให้เธอเป็นแม่บ้านส่วนตัวแล้วเธอก็สวยขนาดนั้นบางทีเธออาจจะโชคดีถูกใจคุณซูทำให้เขาพากลับไปเป็นคุณนายน้อยก็ได้นะ
ฮ่าฮ่าฮ่า
อย่าพูดจาเหลวไหลถ้าผู้จัดการคนนั้นได้ยินเข้าจะโทษที่เธอแย่งตำแหน่งไปก็ได้
ขณะที่พวกเธอทั้งสองต่างกระซิบกระซาบกันนั้นพวกเธอไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีคนกำลังเดินเข้ามาใกล้
ตอนนี้พวกคุณสองคนว่างมากใช่ไหมงานทั้งหมดของพวกคุณเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ
ถึงได้มีเวลามาคุยเรื่องไร้สาระ
อ๋อฉันคิดว่าพวกคุณคงไม่ได้อยากทำงานต่อ
ผู้จัดการแผนกทำความสะอาดหลู่หลงว่ากล่าวตักเตือนและมองทั้งสองคนด้วยสายตาดุๆอารมณ์ของเธอกำลังคลุกครุ่น
ทั้งสองคนรีบก้มหัวขอโทษและรีบเดินจากไปอารมณ์ของลู่หรง ยังไม่ดีขึ้นหลังจากด่ากาดไปเมื่อสักครู่เมื่อเธอสังเกตุเห็นลั่วชิงหยุนที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนักเธอเดินเข้าไปหาลั่วชิงหยุน และพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ
“ลั่วชิงหยุน ฉันเคยได้ยินมาว่าวิธีการจัดการของผู้จัดการนั้นไม่ธรรมดาแต่วันนี้ฉันได้เห็นด้วยตัวเองแล้ว เอาเถอะฉันจะเตือนผู้จัดการไว้ สักอย่างนะว่า เทพนิยายมันก็เป็นแค่เทพนิยายนกกระจอกกลายเป็นนกฟีนิกซ์เหมือนในเทพนิยายแบบนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง เธอควรจะอยู่ในความเป็นจริงและรับผิดชอบในส่วนของตัวเอง “
ลั่วชิงหยุนเข้าใจในคำพูดเสียดสีของ ลู่หรงแต่ก็ไม่ได้โกรธเพียงแค่ยิ้มบางๆ
“คุณใจดีเหลือเกินผู้จัดการลู่ ฉันจะรับฟังคำแนะนำของคุณนำไปใช้ค่ะ “
ลู่หลงเห็นเธอไม่ได้โกรธเธอจึงคิดว่ามันไร้ความหมายเธอถลึงตากระทืบเท้าและเดินออกไปอย่างโกรธแค้น
ลั่วชิงหยุน มองดูเธอจากไปพลางถอนหายใจ
คนอื่นๆต่างก็คิดว่าเธอเป็นคนโชคดีที่มีโอกาสได้รับใช้ คนที่มีอำนาจ แต่ว่าใครจะไปรู้ว่าเธอไม่อยากเป็นแม่บ้าน? ของเขาเลย
ห้องเพรสซิเด้นทเชียลมักจะมีห้องเล็กๆที่ใช้เป็นห้องรับรองสำหรับคนดูแลของโรงแรมที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ลั่วชิงหยุน ก็กลับไปที่ห้องของเธอ
เวลาประมาณสี่ทุ่มเธอก็รู้สึกว่าตัวเองง่วงนอนขณะที่เธอกำลังจะนอนลงบนเตียง
แล้วโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียงก็ดังขัดจังหวะการนอนของเธอซะก่อน
เมื่อเอื้อมมือออกไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็เห็นสายที่โทรเข้ามาเห็นว่าเป็นสายจากผู้ช่วยของซูเฉินฮ่าว
“ ผู้จัดการฉู่เยว่โทรมา”
เธอรับโทรศัพท์ด้วยความสงสัยฮัลโหลเลขาฉู่
ผู้จัดการครับช่วยมาที่ห้อง 999 ตอนนี้ด้วยครับผมต้องการให้คุณไปที่ Aqua Heaven Society “ น้ำเสียงของชูเยว่ดูร้อนใจและเหมือนเป็นคำสั่งไกลๆว่าห้ามเธอปฏิเสธเป็นอันขาด
เขาไม่ใช่เจ้านายที่อ่อนโยนจริงๆเธอคิด
ลั่วชิงหยุน หยุดหัวเราะออกมาอย่างเงียบเงียบในใจเธออดไม่ได้ที่จะถาม
“ขอโทษนะคะ”คุณต้องการอะไรค่ะ
ฉันให้เวลาคุณ 15 นาทีมันเกี่ยวกับคุณซูคุณรีบมาหลังจากที่ชูเยว่พูดจบก็ไม่รอให้ลั่วชินหยุนตอบกลับและวางสายใส่เธอทันที
บทที่6 เค้าจะทำอะไร
ลั่วชิงหยุน มองดูโทรศัพท์มือถือของเธอนิ่งไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ลุกขึ้นเดินลงไปข้างล่าง
Aqua Heaven Society เป็นคลับส่วนตัวระดับไฮคลาสที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง X ถึงแม้ ลั่วชิงหยุนจะไม่เคยมาที่นี่มาก่อนในฐานะพนักงานโรงแรมเธอก็รู้จักชื่อเสียงของคลับนี้พอประมาณ
สำหรับคลับส่วนตัวขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงคนทั่วไปแม้แต่คนรวยหากไม่ใช่สมาชิกก็ไม่สามารถเข้าไปได้
การที่ซูเฉินฮ่าว มาปรากฏตัวที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แต่ทำไมเขาต้องให้เธอมาด้วยล่ะ?
เธอมีคำถามมากมายไปหมดเธอลงจากรถแล้วเดินไปยังล็อบบี้
เมื่อเธออยู่หน้าประตูก็ถูกยามรักษาความปลอดภัยหยุดไว้ขอโทษครับคุณ นี้เป็นคลับส่วนตัวมีเพียงสมาชิกวีไอพีเท่านั้นที่จะเข้ามาได้
ในขณะที่เธอกำลังคิดว่าจะจัดการกับยามรักษาความปลอดภัยทั้งสองคนได้อย่างไรเธอก็มองเห็นชูเยว่เดินออกมาจากด้านใน
“ เธอมากับผม”
เมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นชูเยว่แล้วจึงรีบขอโทษและให้เธอเข้าไป
ลั่วชิงหยุนเข้ามาในห้องโถง
ฉู่เยว่ก็ดึงเธอเข้ามาแล้ววางนามบัตรไว้ในมือของเธอ
“คุณซูอยู่ในห้อง 999 คุณไปเถอะถ้ามีคนมาเคาะประตูปล่อยให้พวกเขาไปเถอะเข้าใจไหมไหม”
“ อะไรนะ?
ลั่วชิงหยุน กุมมือตัวเองไว้แน่นแล้วเอ่ยขึ้น
“แล้วคุณล่ะ”
“ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปจัดการฉันจะมารับเธออีกครั้งชั่วโมง”
หลังจากที่ชูเยว่พูดจบเขาก็ไม่รอให้เธอถามอะไรอีกแล้วรีบเดินออกไปทันที
ลั่วชิงหยุน มองดูหมายเลขบัตรก่อนจะเดินไปยังทางเดิน
ตรงสุดทางเดินมีสวนดอกไม้ที่สง่างามด้านหนึ่งของสวนมีห้องที่ดูแปลกตาลั่วชิงหยุนเดินไปข้างหน้ามองตัวเลขที่อยู่หน้าประตูในที่สุดก็หาห้อง 999 เจอ
หลังจากที่ยืนยันว่าบัตรในมือของเธอก็พบว่าใช่ที่นี่แหละ
เธอเอื้อมมือออกไปแล้วยื่นกราร์ดไปตรงเซ็นเซอร์เสียงดังขึ้นและประตูก็เปิด
แสงไฟในห้องสลัวๆสิ่งที่อยู่ในสายตาของเธอก็เขิน หน้าจอทีวีที่มีรูปภาพของผู้หญิงคนหนึ่งภายในห้องได้รับการตกแต่งแบบโบราณ
ลั่วชิงหยุน ค่อยๆเดินลดฝีเท้าลงช้าๆค่อยๆเดินเข้าไปในห้องแล้วประตูก็ปิดลงโดยอัตโนมัติ
หลังจากที่อยู่ด้านหลังของหน้าจอแล้วเธอก็มองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจนและมีแขนยาวดึงเธอเข้ามาในขณะที่สมองของเธอกำลังสับสนวุ่นวายร่างกายของเธอก็ล้มลงบนเตียงไม้แกะสลักขนาดใหญ่
เธออาปากเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ริมฝีปากของเธอถูกจูบร้อนของอีกฝ่ายปิดสนิท
“เอ่อ “
เธอพยายามที่จะหลุดพ้นจากการจับกุมของตัวเอง แต่กลับพบว่ายิ่งเธอดิ้นมากขึ้นแรงกดทับเธอหนักจนแทบจะหายใจไม่ทัน
เขากำลังจะทำอะไรอยู่
ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้
เธออยากจะป้องกันตัวตามสัญชาตญาณแต่แรงของทั้งสองฝ่ายต่างกันมากจนเกินไป
เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยสักนิด
เธอได้กลิ่นเหล้านิดหน่อยเขาเมาใช่ไหม?
ในขณะที่เธอนึกถึงเรื่องนี้มือใหญ่โค้งของเขา
ก็ถลกกระโปรงยาวถึงเข่าของเธอขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ศรีษะของชายหนุ่มสุกที่คอของเธอสูดกลิ่นหอมที่มาจากตัวเธอกินหอมที่คุ้นเคยทำให้รู้สึกถึงความตื่นตัวของเส้นประสาทที่ฝังอยู่ในความทรงจำของเขา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 97
Comments