"กำจัด......!?"
นางิตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก
เด็กสาวหวาดกลัวสายเลือดอสูรอย่างมาก อีกทั้งยังหวั่นใจว่าตนจะทำภารกิจสำคัญเช่นนี้ให้ลุล่วงได้หรือไม่
เเม้นางิจะไม่เคยเกียจคร้านการฝึกฝน เเต่อย่างไรเสียเธอก็เป็นเเค่คนทรงดาบฝึกหัด ไม่ได้หลงตัวเองขนาดคิดว่าจะเอาชนะสายเลือดอสูร ได้อยู่เเล้วนั่นเพราะ อสูรคาเลส เป็นอสุรกายตัวจริงเสียงจริงที่มีกำลังรบเทียบเท่ากองทัพของประเทศหนึ่งทั้งประเทศเลยนั่นเอง
ทว่าหากไม่มีใครรับหน้าที่นี้ ในไม่ช้าก็เร็วความหายนะจะต้องมาเยือนมวลมนุษยชาติอยู่ดี
"รับไปสิคะ ฮิเมรากิ นางิสะ"
สตรีหลังม่านส่งอะไรบางอย่างให้เด็กสาวผ่านช่องว่างของม่านไม้ไผ่ที่ยกขึ้นเล็กน้อยสิ่งที่ปรากฏให้เห็นด้วยเเสงคบเพลิงท่ามกลางความมืดนั้นคือหอกหนึ่งเล่ม ซึ่งนางิเองก็รู้จักนามของมัน
"นี่มัน........"
"หอกกลกำราบมารเเบบที่สี่ 'ชูเนวอลเซอร์' ชื่อเฉพาะคือ
'เซตซูโร' หมาป่าหิมะ ค่ะ!"
นางิพยักหน้าอย่างเลื่อนลอยเมื่อถูกสตรีหลังม่านถามว่ารู้จักมันหรือไม่ ซูเนวอลเซอร์ เป็นอาวุธที่องค์กรพัฒนาขึ้นเพื่อต่อกรกับเหล่าเผ่าปีศาจที่มีพลังพิเศษเฉพาะตัว ปลายคมหอกที่สร้างขึ้นด้วยศาสตร์กลั่นโลหะชั้นยอดมีลักษณะคล้ายเครื่องบินรบรุ่นใหม่ที่งดงามสมกับเป็นนามหอกกล
ทว่าอาวุธชนิดนี้จำเป็นต้องใช้สมบัติโบราณเป็นเเก่น จึงไม่สามารถผลิตจำนวนมากได้ เเละ ว่ากันว่ามีเพียงเเค่สามชิ้นในโลกเท่านั้น เเต่ถึงกระนั้นมันก็ยังนับเป็นอาวุธลับขององค์กร ซึ่งทรงพลังที่สุดเท่าที่มนุษย์ตัวคนเดียวจะสามารถใช้ได้
"ให้ฉัน........ เหรอคะ?"
นางิสะถามย้อนอย่างไม่อยากจะเชื่อขณะรับหอกที่ถูกส่งให้
เเต่สตรีกลับถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม
"อีกฝ่ายเป็นถึงอสูรคาเลสบลัด ตามจริงเเล้วเราควรจะมอบอาวุธที่ดีกว่านี้ให้ด้วยซ้ำไปค่ะ เเต่สำหรับตอนนี้ หอกเล่มนี้เป็นศาสตราเทพยุทธที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เราเตรียมการให้ได้คงไม่รังเกียจที่จะรับเอาไว้สินะคะ"
"เรื่องนั้นเเน่นอนอยู่เเล้วค่ะ......เเต่ว่า"
นางิสะเเสดงอาการสับสน
สิ่งที่ถูกส่งให้ผ่านใต้ม่านไม้ไผ่ไม่ได้มีเพียงเเค่หอก หากเเต่มีชุดนักเรียนชุดใหม่พับเรียบร้อยอยู่ในห่อพลาสติกอยู่อีกหนึ่งชุด ประกอบด้วยเสื้อปกกะลาสีกับกระโปรงพลีทสีฟ้าเเละขาว ท่าทางว่าจะเป็นเครื่องเเบบฤดูร้อนของนักเรียนหญิงชั้นมัธยมปลายปีสอง
"เเล้วทางนี้คืออะไรกันคะ?"
"เครื่องเเบบนักเรียนไงคะ สั่งตัดมาให้พอดีกับตัวคุณเลยนะ"
"เอ่อ...... เเล้วทำไมถึงต้องมีเครื่องเเบบนักเรียนด้วยล่ะคะ?"
"เพราะเป้าหมายของคุณเป็นนักเรียนในโรงเรียนเจ้าของเครื่องเเบบนั่นไงล่ะคะ"
"หา?"
นางิรู้สึกมึนงงเล็กน้อยเพราะตีความสิ่งที่ตนได้ยินไม่ออก
"เอ๋? เป้าหมาย..... สายเลือดอสูร ปะ ปะ...เป็นนักเรียน???
เอ๋!???????"
"นักเรียนเลขที่หนึ่ง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง B โรงเรียนเอกชนไซคิ คือสถานภาพปัจจุบันของสายเลือดอสูร อาคัตสึกิ โชวตะ ไงล่ะคะ ด้วยเหตุนี้องค์กรของเราจึงไม่สามารถหาบุคลากรที่จะติดต่อกับเขาด้วยสันติได้ นอกจากคุณเพียงคนเดียวนั่นล่ะค่ะ ฮิเมรากิ นางิสะ"
"อาคัตสึกิ โชวตะ..... คนในรูปนี้คือ คาเลสบลัส สิน่ะ เอ๋!?"
นางิสะเบิกตากว้างเมื่อเห็นรูปถ่ายที่ถูกร่อนลงบนพื้นสัมผัสของ "ไตรธรรมิก" ต่างกำลังยิ้มเจื่อนอยู่ด้านหลังม่านตอนนั้นเอง นางิ จึงได้เข้าใจว่าทำไมคนทรงดาบที่ยังอ่อนหัดอย่างตนถึงได้รับเลือกให้ทำภารกิจสำคัญเช่นนี้
"ทวนคำสั่งอีกครั้งนะคะ ฮิเมรากิ นางิสะ จากนี้ไปขอ ให้คุณเข้าใกล้เเละจับตาดูเขาไว้อย่างสุดความสามารถ ส่วนเรื่องการย้ายเข้าโรงเรียนไซคิ นั้นพวกเราได้ดำเนินการไว้หมดเเล้ว_____ เท่านี้ล่ะค่ะ
หลังจากพูดจบเพียงฝ่ายเดียว สัมผัสของเหล่าผู้อาวุโสก็หายไปจากด้านหลังม่านไม้ไผ่
นางิสะที่ถูกทิ้งให้เหลืออยู่คนเดียวบนวิหารสักการะได้เเต่เพียงจ้องหอกในมืออย่างเลือนลอยจนลืมหายใจ
สายเลือดอสูร ย้ายโรงเรียน เข้าติดต่อ จับตาดู กำจัด เมื่อคิดว่าตนอาจจะต้องมาพัวพันกับเคราะห์ร้ายเหลือเเสนเข้าเเล้ว นางิก็เผลอถอนหายใจออกมาเบาๆ โดยไม่รู้ตัว
เเม้เด็กสาวจะไม่สันทัดด้านการทำนาย เเต่เธอก็จะได้รู้ว่าลางสังหรณ์ของตนนั้นถูกต้องในอีกไม่ช้านี่เอง-----😱😱😱
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments