...ข้ามภพ...
"นี่ ๆ...เจ้านอนในป่าแบบนี้เดี๋ยวก็โดนพวกสัตว์ป่าคาบไปกินหรอก" เสียงหญิงสาวทุ้มๆพูดเข้ามาในโสตประสาทของซูจิน เสมือนว่านี่เธอกำลังฝันถึงพี่สาวผู้หนึ่งที่กำลังกล่าวกับเธอด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แต่ดูเหมือนว่าร่างกายคล้ายจะถูกของแหลมๆทิ่มแทงอยู่ตรงส่วนหลังเบาๆ
"ขอนอนต่ออีกสักหน่อย"
"นี่...ข้ามาเตือนเจ้านะ หากยังจะนอนต่อมีหวังได้เป็นพวกอาหารเสือแถวนี้เป็นแน่"
"เสือเหร๋อ???....เสือ!!! "ซูจินจากที่นอนสะลึมสะลือคุยกับพี่สาวในฝันอยู่เมื่อได้ยินคำว่าเสือเธอก็รีบลืมตาขึ้นด้วยความรวดเร็ว เพราะกลัวจะเป็นอาหารเสือดังคำที่พี่สาวในฝันพูด แต่เมื่อลืมขึ้น ภาพตรงหน้าก็ปรากฏเป็นร่างหญิงสาวที่...แต่งตัวประหลาด
"อะไรของเจ้าเนี่ย บาดเจ็บหรอกรือ ไหน....ขอข้าดูหน่อย"ว่าจบก็ขอดูแผลที่แผ่นหลังเพราะเห็นคราบเลือดที่ไหลลงเป็นทางตรงสู่พื้นเป็นสาย ตอนแรกก็นึกว่าเพราะตัวหญิงสาวผู้นี้มอมแมมไปเล่นซนจนเปื้อนดินโครนจึงมานอนพักอยู่ตรงนี้ ไม่คิดว่าแท้จริงแล้วจะโดนทำร้ายมา
"หยุดนะ พวกคุณเป็นใคร ไอตระกูลซูส่งพวกคุณให้มากำจัดฉันหรอ"
"เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าก็แค่คนเดินผ่านไปผ่านมาและบังเอิญเดินมาพบท่านเฉยๆ ตอนนี้ท่านกำลังบาดเจ็บ ให้ข้าดูแผลท่านก่อนเถิด"พี่สาวเมื่อเห็นว่าคนตื่นตระหนกเช่นนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ ดูเป็นมิตรทันที หญิงสาวผู้นี้ผ่านอะไรมานะทำไมถึงได้ตระหนกและหวาดกลัวเช่นนี้ "ฟึ๊บ"
"ทำได้ดีมากองค์ชาย"ว่าพลางก็ขยิบตาให้น้องสหายไปทีที่ชิงพับคอหญิงสาวตรงหน้าให้สลบลงเพื่อจะได้พาไปรักษา ใจจริงก็อยากจะปล่อยผ่านไปเฉยๆ แต่เมื่อได้สบตาดูแล้วเหมือนจะถูกชะตาแปลกๆจึงส่งท่าทางให้น้องสหายที่ทำให้หญิงสาวตรงหน้าสลบลง
หมู่มวลเมฆขาวลอยบินว่อนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า "แต่...ทำไมตอนนี้ถึงมาอยู่ใต้เท้าฉันได้หล่ะ"ซูจินหลังจากที่สลบลงเธอได้เข้ามาอยู่ในห้วงฝัน ที่ดูเหมือนจะเป็นห้วงมิติซะมากกว่า สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยมวลเมฆล้อมรอบอยู่ใกล้ตัวเธอ ไม่นานก็มีร่างหญิงสาวปรากฏขึ้นตรงหน้า เธอคนนั้นก็คือ ซูเซียว
"คุณคือใครคะ"
"ข้าคือซูเซียว เจ้าของร่างที่เจ้าใช้อยู่"
"แล้วทำไมถึงต้องมอบร่างให้กับฉัน"
"เพราะว่าเจ้าสามารถช่วยข้าล้างแค้นพวกมันได้"นางเกริ่นด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวเมื่อพูดถึงคนพวกนั้น น่ารังเกียจยิ่งนัก
"แล้วทำไมต้องเป็นฉัน"
"เพราะดวงจิตเราคือคนเดียวกัน"พูดถึงตรงนี้ จะว่าซูเซียวคือซูจินในอดีตก็เป็นได้ แต่ความจริงมันมีอะไรที่ลึกล้ำกว่านั้น เพียงแต่ว่ามันเป็นความลับของบรรพบุรุษ
"ฉันคือเธอ และเธอก็คือฉัน"
"ใช่!! "
ซูจินขบคิดรวบรวมความคิดชั่วขณะ อันที่จริงก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ตอนแรกเธอคิดว่าพวกคนตระกูลซูเป็นคนจับเธอไปแต่งตัวแล้วมาปล่อยทิ้งไว้กลางป่าด้วยคิดว่าเธอตายไปแล้ว ไม่คิดว่าแท้จริงแล้วเธอข้ามภพมาในยุคจีนโบราณเหมือนนิยายที่เธอเคยอ่านในห้องเก็บหนังสือตัวเอง 'บ้าหน่า นี่จริงเหรอเนี่ย!!'
"แล้ว..ฉันต้องทำยังไง"
"ช่วยข้าแก้แค้นพวกตระกูลซู" กลับมายังคำถาม เหมือนว่าเธอจะไปกระตุกอารมณ์โกรธของซูเซียวอีกแล้ว
"แล้วฉันจะช่วยเธอยังไง ที่นั่นคือที่ไหนฉันยังไม่รู้เลย"
"หลับตาเถิด เวลาของข้าหมดแล้ว"
ทันใดนั้นคล้ายกับว่าคำพูดของซูเซียวจะเป็นคำสั่ง ดวงตาของซูจินหลับลงทันใดถึงแม้ว่าปากยังอยากจะถามต่อ
เธอหลับลงและเริ่มมีความทรงจำของใครบางคนไหลเข้ามายังโสตประสาท จนทำให้เธอต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดตรงศรีษะ ความทรงจำมากมายไม่ว่าจะยามสุขยายทุกข์ของซูเซียวถูกระลึกจดจำไว้ในเซลล์ประสาทส่วนลึกของความทรงจำจนหมด และดูเหมือนว่าความทรงจำสุดท้ายก่อนที่เธอจะสิ้นใจ มันน่าเศร้าจนตัวซูจินเองก็แค้นด้วยไม่แพ้กัน
"ไอพวกตระกูลซู ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด"
"เจ้า...ตื่นแล้วรือ ทานน้ำดับกระหายก่อนสิ"หญิงสาวก่อนหน้านี้ได้เดินเข้ามาในซุ้งและเห็นว่าซูเซียวมีอาการแปลกๆก่อนที่เธอจะลืมตาตื่นสบดคำออกมาก็รีบยื่นน้ำให้คนที่นอนอยู่บนตั่งดับกระหาย หลังจากที่หลับครึ่งค่อนวัน
หลังจากตื่นซูจินก็หยิบน้ำจากมือพี่สาวข้างหน้าเพื่อเป็นการไม่เสียมารยาท แต่เมื่อได้จิบนั้นก็รู้สึกสดชื่นขึ้นทันใดเหมือนน้ำนี่จะเป็นน้ำวิเศษยังไงยังงั้น ก่อนจะรีบขอบคุณพี่สาวเสียยกใหญ่เพื่อไม่ให้เสียมารยาทอีกครา
จะว่าไปตอนที่เจอกันครั้งแรกซูจินไม่ได้มองพี่สาวคนนี้เลยสักนิด จิตใจตอนนั้นมันหวาดระแวงไปหมดจนสติฟั้นเฟือน แต่พอตอนนี้ได้มาสังเกตุพี่สาวคนนี้ก็ดูไม่เลว เค้ามีรูปร่างที่สูงเป็นสตรีแต่มีความกำยำเหมือนชายชาตรี ไหนจะใบหน้าที่คมคายไร้ที่ติและสายตาดุจเหยี่ยวร้ายนั่นอีก ถ้าเป็นเหมือนในนิยายก็คงจะเป็นลูกศิษย์จากสำนักใดสำนักหนึ่งละมั้ง และคงจะเป็นตัวหลักด้วย นางเอกตัวแม่เลยนะเนี่ย
"เจ้าชื่ออะไรรือ ครั้งก่อนข้าถามเจ้าแต่เจ้าก็ตะวาดใส่พวกข้าซะขวัญเสียหมด ครั้งนี้ข้าถามดีๆ เจ้าก็จงตอบดีๆเถิด"
"ข้ามีนามว่าซูเซียวเจ้าค่ะ เป็นบ่าวจากตระกูลซู"
"บ่าวรือ แล้วทำไมถึงใช้แซ่เดียวกับนายหล่ะ"
"ข้าเป็นลูกของนายท่านเจ้าค่ะ แต่แม่ข้าเป็นแค่บ่าวท้ายจวน ตัวข้าที่เกิดมาจึงต้องทำงานเป็นทาสในเรือนนั้นตามท่นแม่เจ้าค่ะ"พูดถึงตระกูลนี้ซูจินก็แทบอยากจะกลับไปชำระแค้นซะเหลือเกิน ยิ่งชื่อตระกูลและสถานะในครอบครัวที่คล้ายกัน มันก็ยิ่งสร้างความคับแค้นอยู่ในอกของซูจินมากมายจนตอนนี้สามารถไปกระชากวิญญาณของคนได้เลยทีเดียว
"อ๋อ แต่แบบนี้มันก็มิควรไม่ใช่รือ ตัวเจ้าเป็นลูกก็ควรจะดูแลเลี้ยงดูให้เหมือนกับลูกคนอื่นๆสิ มาแบ่งชนชั้นกันแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน"เมื่อได้ฟังเรื่องราวของน้องสาวตัวน้อยก็คล้ายจะยั่วโทษะของพี่สาวขึ้นมาทันใด ด้วยเพราะว่าไม่เคยเห็นใครทำแบบนี้กับลูก แถมตระกูลนั้รยังเป็นตระกูลซู ขุนนางที่มียศสูงเกือบเทียบเท่าราชวงค์ ใช่ว่าจะไม่มีเงินมีทองมาเลี้ยงดูลูก นอกเสียจากว่าจงใจปล่อยปละละเลยให้มันเป็นแบบนี้
"ตัวข้าก็คิดเช่นท่าน แต่ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำอะไรไม่ได้ ชีวิตข้ากับแม่ก็ต้องมาจบลงเพราะพวกมันทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะว่าท่านแม่ขอไว้ ข้าคงหอบผ้หอบผ่อนหนีออกจากจวนนั้นไปนานแล้ว"ทุกพยางค์ทุกคำพูดถูกเกริ่นออกมารอดไรฟันเพราะอดกลั้นความโกรธที่สุมอยู่ในอก
ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นของซูเซียว ซูจินก็ยิ่งคับแค้น อย่างน้อยร่างนี้ก็มอบชีวิตใหม่ให้ฉัน ฉันก็ต้องล้างแค้นให้เจ้าของร่างให้ได้
"น้ำเสียงน้องสาวดูโกรธเคืองนัก เจ้าแค้นพวกเค้ารือ"
"ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าน้อยสติฟั่งเฟือนไปชั่วขณะ"
"ข้าน้อยอะไรกันเล่า ข้าก็เหมือนเจ้านั่นแหล่ะ เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา จะว่าไปข้าลืมบอกชื่อเจ้าหน่ะ ข้าชื่อ..หนิงเทียน เป็นศิษย์จากสำนักไห่ฉาง"
"ท่านมีสำนักด้วยรือ ตัวข้าก็อยากจะเข้าสำนักด้วยคน ไม่ทราบว่าสำนักท่านยังรับคนอยู่รือไม่"
"เอ่อ....สำนักข้า...."พูดไปไม่ทันได้คิด ตัวหนิงเทียนไม่ทันได้เข้าสำนักไหนก็พูดอวดซะแล้ว แท้จริงแล้วสำนักนี้เป็นแค่ชื่อที่แต่งขึ้นมาเล่นๆของหนิงเทียนเฉยๆ เพราะเจ้าตัวหวังจะเอาไปคุยโอ้อวดกับสหายในวัง ว่าตนได้เข้าสำนักหนึ่งแล้ว เมื่อครู่เผลอไปคิดเรื่องนั้นขึ้น ปากก็เลยพูดออกมาโดยไม่ทันได้คิด
แต่เมื่อเห็นสายตาน้องสาวตัวน้อยที่ดูเหมือนอยากจะเข้าสำนักนั้นแล้ว ตัวหนิงเทียนก็เหมือนจะจำใจพูดความจริงไม่ลง จนต้องโกหกว่าสำนักตนรับศิษย์น้อยนักก่อนจะคิดหาอาจารย์ที่จะรับตนเป็นศิษย์ปลอมๆ และ...สหายของข้านั่นเอง ที่จะมาเป็นอาจารย์ของข้า
"ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าสำนักข้าโดยตรง แต่เจ้ามาฝากตัวเป็นศิษย์กับอาจารย์ข้าก็ได้นะ มีข้าเป็นศิษย์ผู้เดียว เหงาจะแย่แล้ว ถ้าเกิดมีศิษย์น้องแบบเจ้าเข้ามาอีกคน ตัวข้าคงจะไม่เหงาแล้วหล่ะ" คำพูดของพี่สาวตรงหน้าคล้ายจะจุดประกายทางออกให้แก่ซูจิน เพราะการที่ได้รำเรียนฝึกวิชา อย่างน้อยก็ใช้ป้องกันตัวได้ก็ดี แต่มันจะดีมากถ้เค้าใช้แก้แค้นได้
"จริงรือ ข้าอยากฝากตัวเป็นศิษย์แล้วสิ" ด้วยนิสัยของซูจินดังเดิมเธอเป็นคนที่สดใสและเข้ากับคนง่ายสุดๆ จึงไม่แปลกที่ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วยามก็เขื่อใจคนได้มากถึงเพียงนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเชื่อทั้งหมด คนเราก็ต้องกรองข้อมูลก่อนคบเจอตัวจริงสิ....ใช่มั้ย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments