เพื่อนซี้ผมเป็นผี

เพื่อนซี้ผมเป็นผี

01-เขาที่ทำให้ผมยิ้ม

“เชี่ยยยยมึง พี่โซ่โคตรเท่เลยว่ะ”

นาทีเผลอตะโกนพูดออกมากลางห้องสมุด สายตาคนในห้องสมุดจับจ้องมาที่เขา ทิวที่อยู่ข้างๆ ทำหน้าเสียก่อนจะหันไปรอบๆ แล้วก้มหัวงึกๆ เขาตบไปที่หัวของนาทีแล้วบ่นชุดใหญ่

“มึงจะตะโกนทำเหี้ยไรเนี่ยไอ้สัสที”

“มึงก็ดูดิเพลงใหม่พี่โซ่โคตรเท่” นาทีพูดก่อนจะหยิบหูฟังมาฟังเพลงต่อ เพลงเร็วที่จังหวะคึกคักทำให้เขาต้องเต้น ยึกๆ ยักๆ อย่างไม่อายใครที่มองมาเลย

ความร่าเริง ไม่สนใคร แถมไม่สนโลกของนาทีดันไปสะดุดตาใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เขามองนิ่งๆ มาก่อนจะเดินไปดึงหูฟังของนาทีออก

“ช่วยเบาๆ หน่อยได้ป่ะ เสียงมันดังอะ”

“ขอโทษทีครับ” นาทีทำหน้าเหลอก่อนจะยิ้มแหยๆ ให้อีกฝ่าย

“กูขอโทษแทนมันอีกทีว่ะไอ้ธัน”

ธันวา หนุ่มมาดขรึม ดูเย็นชา ขี้เก๊กประมาณหนึ่ง แต่เรียนเก่งมาก เก่งจนได้อยู่ห้องคิงธันวากับทิวเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กค่อนข้างสนิทกัน แต่มาตอนมอสี่ที่ทิวย้ายลงไปอยู่อีกห้องทำให้ทิวก็มาสนิทกับนาทีมากขึ้นแทน แต่ก็ยังคงคุยปรึกษากับธันวาค่อนข้างบ่อย

“เดี๋ยวกูจะพามันไปละ ไว้เจอกันมึง”

ธันวาไม่เอ่ยอะไรได้แต่พยักหน้าตอบไปด้วยหน้าที่นิ่งสุดๆ

“ทำไมมันนิ่งจังวะไอ้ทิว”

“เออช่างมันเหอะ กูต้องกลับแล้วนะ มึงไปร้านซีดีเองได้ใช่ป่ะ”

“ได้ มึงกลับเลยไว้เจอกัน”

-ร้านซีดี-

“นี่มึงคงชอบโซ่มากเลยดิ”

“เห้ย มึงรู้จักพี่โซ่ด้วยหรอวะ” นาทีทำท่าทางตื่นเต้นเมื่อเห็นธันวาที่เข้ามาชวนคุยเรื่องนักร้องคนโปรดที่เขาคลั่งถึงขนาดมีโปสเตอร์แปะอยู่ที่ผนังเต็มห้อง

“เลิกเรียนแล้วทำไมยังไม่กลับบ้านวะ”

“กูแวะมาดูซีดีพี่โซ่ไง แล้วมึงอะมาทำไร” นาทีเลิกคิ้วสูง

“มาร้านซีดี กูคงมาเข้าห้องน้ำมั้ง”

“กวนตีน”

ธันวาหยิบซีดีของโซ่ขึ้นมา แล้วเบ้หน้า ธันวารู้สึกไม่ถูกชะตากับเขาเลย

“เพลงใหม่พี่โซ่โคตรเพราะ เออมึงรู้จักพี่เขาหรอวะ” อยู่ๆ นาทีก็ทำตัวตีซี้กับธันวา

“พ่อกูเป็นเจ้าของค่าย” ธันวาพูดนิ่งๆ อย่างไม่โอ้อวด พร้อมกับหยิบซีดีเพลงขึ้นมาดูหลายอัน

“เชี่ยย งั้นมึงก็ต้องรู้ดิว่าพี่เชามีงานที่ไหนบ้างอะ บอกหน่อยดิกูจะตามไปเชียร์”

ธันวาเห็นนาทีทำหน้าทำตา ก็พอรู้ว่านาทีคลั้งไคล้โซ่ขนาดไหน

“ท่าทางจะเป็นเอามากนะมึง”

นาทีหุบยิ้ม “มึงไม่รู้หรอ”

“กูไม่แน่ใจหรอก แต่ถึงกูรู้มึงก็ไปไม่ได้หรอก เพราะมันตรงกับเวลาเรียนของเรา” ธันวาไม่สนใจท่าทีอยากรู้ของนาทีสักนิด แล้วหันไปมองซีดีที่เลือกดูไว้เมื่อกี้

“เพลงแบบที่มึงฟังมีเยอะแยะไป ลองฟังแนวเพลงที่กูฟังดูบ้างดิ” ธันวาดึงหูฟังจากแท่นวางซีดี แล้วเอามาครอบหูให้นาที ระหว่างนั้นนาทีจ้องหน้าธันวาอย่างจดจ่อ เขาไม่เคยอยู่ใกล้ธันวาขนาดนี้

“เอ่อ!” นาทีหลบตาต่ำ หัวใจเขาเต้นแรง หน้าร้อนวูบวาบนาทีคงไม่รู้ว่าเขาหน้าแดงเหมือนมะเขือเทศ

เพลงที่ธันวาเปิดให้นาทีฟัง ทำให้เขาเคลิ้มไปกับเพลงและแววตาของธันวาและรอยยิ้มที่เขาพึ่งเคยเห็นจากธันวา

“เพลงเพราะอะดิ”

“มึงว่าไงนะ!!” นาทีใส่หูฟังอยู่ จึงไม่ค่อยได้ยินที่ธันวาพูด นาทีถามกลับด้วยเสียงดังลั่น

ธันวายิ้มแหย ดึงหูฟังออก แล้วจับข้อมือนาทีลากออกมาจากตรงนั้นอย่างเร็ว เพราะไม่อยากขายขี้หน้าไปมากกว่านี้

นาทีสะบัดมือที่ธันวาจับไว้

“มึงมาลากกูทำไมวะเนี่ย”

“มึงไม่รู้ตัวเลยหรอ ว่ามึงแม่งโคตรเสียงดัง คนมองมากันหมดละมึงไม่อายแต่กูอายครับ”

“กูไปพูดดังตรงไหน กูก็พูดปกติ” นาทีเถียงตอบกลับเสียงแข็ง

“มึงใส่หูฟังอยู่ มึงจะไปรู้อะไร แต่คนอื่นเขาได้ยินแก้วหูจะแตกแล้วมั้ง”

“หรอวะ” นาทีหน้าเหวอ

“หึ ที่ในห้องสมุดไม่อาย” ธันวาขำเบาๆ คนตรงหน้า แล้วก็แปลกใจที่ตัวเองไม่ได้ยิ้มขำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ นาทีกลับทำให้เขายิ้มและขำออกมาได้

“หกโมงแล้วนี่หว่า กูต้องรีบกลับแล้ว” นาทีทำท่าทีลุกลี้ลุกลนกลัวว่ากลับบ้านไปต้องโดนแม่บ่นแน่

“กลับด้วยกันป่ะ กูก็จะกลับแล้วเหมือนกัน” นาทีพาธันวาเดินไปยังทางออกของร้าน แล้วไปเจอร้านขายบัตรทำนายโชคชะตา นาทีดึงแขนธันวาให้ตามเขาไปที่ร้านนั้น

“บัตรทำนายโชคชะตา น่าสนใจว่ะ” 

นาทีพูดขึ้นก่อนจะซื้อมาสองบัตร เขาส่งให้ธันวาอันหนึ่ง

“อันนี้ของมึง”

“ขอบใจ” ธันวารับมาอย่างสงสัย

นาทีรีบแกะดูคำทำนายด้านในและดึงบัตรทำนายออกมาคำทำนายบอกว่า “กำลังจะได้เจอกับเนื้อคู่”นาทีอ่านคำนายของตัวเอง

“เอ้ามึงรีบแกะดิกูอยากรู้”

ธันวาแกะซองบัตรตามที่นาทีสั่ง แต่เขาหน้าหมองตอนอ่านคำทำนาย

“เขาเขียนว่าไรวะ” ธันวายื่นบัตรทำนายให้นาทีอ่าน

“ช่วงนี้ให้ระวังอุบัติเหตุ” นาทีหน้าตกใจ แล้วรีบเปลี่ยนเป็นส่งยิ้มให้แทน

“โหมึงคำทำนายมันก็สุ่มๆ อะมึงอย่าไปคิดมากเลย อย่าไปเชื่อมาก”

“กูไม่เชื่ออยู่แล้ว เพราะกูไม่ได้งมงายแบบมึง”

“เอ้าสัสนี่” นาทีถลึงตาใส่ธันวา “ใครๆ ก็บอกว่ามึงเย็นชา ขรึม ไม่ค่อยพูด แค่กูว่ามึงพูดเก่งแถมพูดมากปากเสียอีก”

“ถึงกูพูดไม่เก่ง แต่ถ้าคุยถูกคอกับใครจริงๆ กูก็อยากคุยด้วยนานๆ”

“อ๋อหรอ”

นาทีกับธันวาก็เดินออกจากตรงนั้นไป ตอนธันวาจะเดินข้ามถนน นาทีดึงแขนเขาไว้ แล้วพูดขึ้นมา

“ข้ามถนนดีๆ ล่ะมึง” ถึงจะบอกไม่ให้ธันวาคิดมากแต่นาทีก็ยังรู้สึกไม่ดี

“กูไม่ใช่เด็กห้าขวบ กูข้ามเป็นหรอก”

“มึงนี่มัน กูไม่น่าเป็นห่วงเลย”

“อะๆ เห็นแก่ที่มึงห่วงกูจะระวังแล้วกัน”

นาทีมองตามหลังของธันวาที่ข้ามถนนไปแต่ ร่างของเขากลายเป็นร่างโปร่งแสง ไม่เห็นร่างกายชัดเจนแบบคนอื่น นาทีใจคอไม่ดีและเขาก็หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นนะ

วันต่อมา

ภายในห้องเริ่มมีคนเข้ามากันเรื่อยๆ ทิวที่พึ่งมาก็เดินตรงมานั่งที่ข้างๆ นาที เขาเหลือบมองไปเห็นว่านาทีกำลังเหม่อลอยเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่จึงถาม

“มึงเป็นไรเปล่า”

“มึงว่าคำทำนายแม่งมีความจริงอยู่แค่ไหนวะ”

“กูว่าบางเรื่องก็มีความจริงนะ ไม่รู้ดิไม่แน่ใจว่ะ”

คาบแรกเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ปกติอาจารณ์วิชานี้จะเข้าตรงเวลาตลอดแต่แปลกที่วันนี้เลยเวลาไปเกือบจะสิบนาทีแล้ว แถมยังเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่หม่นหมองไม่เหมือนกับทุกครั้ง นักเรียนแต่ละคนพอเห็ยอาจาณ์ที่เดินเข้ามาก็รีบกลับไปนั่งที่ของตัวเองทันที

นาทีที่หันไปเห็นธันวาที่มานั่งแทนที่โต๊ะของเพื่อนที่ไม่ได้มาก็เลยแปลกใจจึงกระซิบถามเบาๆ “มึงมาอยู่นี่ได้ไง ไม่ไปห้องมึงหรอ”

“มึงเห็นกูหรอ” ธันวาทำท่าทีดี้ด้า แต่หน้าตาเขาดูซีดเหมือนคนป่วย

“ก็เออดิ กูไม่ได้ตาบอดนะ” ธันวาที่นั่งตาค้างเหมือนจะอึ้งๆ ได้แต่อมยิ้มแล้วทำเป็นไม่สนใจอะไรนาที

“มึงคุยกับใครวะที” ทิวถามด้วยความสงสัยที่เห็นนาทีหันไปซุบซิบอะไรอยู่คนเดียว นาทียังไม่ทันได้อ้าปากตอบอาจารณ์ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนทุกคนจึงหันไปตั้งใจฟัง

“ทุกคน ครูมีข่าวร้ายจะมาแจ้ง นายธันวา มอหกทับหนึ่งเสียแล้วเมื่อคืนนี้” ทุกคนพากันฮือฮาด้วยความตกใจ แต่คนที่อึ้งไปขณะนั้นคือนาที ทันๆ ทีเขาพึ่งจะพูดคุยอยู่กับธันวาเมื่อไม่กี่นาทีนี้เอง ถ้าธันวาตายแล้ว คนที่เขาคุยด้วยเมื่อกี้ล่ะ

เขาคิดก่อนจะพูดกับตัวเองในใจ

“ไอ้ธันตายแล้ว…แล้วคนที่กูคุยด้วยเมื่อกี้ใครวะ ผะ…ผี หรอวะ!!!!!”

“ก็ใช่อะดิ” เสียงปริศนาที่ตอบกลับมาข้างหู ทำให้นาทีขนลุกซู่ขึ้นมาทันที ก่อนที่เขาจะหันไปสบตาเข้ากับเจ้าของเสียง เขาตกใจขีดสุดก่อนที่จะดันตัวเองออกห่างจนล่วงตกจากเก้าอี้ไปนั่งอยู่กับพื้นก่อนที่ร่างโปร่งแสงของธันวาจะหายไป

“นายนาทีเป็นอะไรหรือเปล่า” อาจารณ์ที่เห็นว่าหน้าตาของนาทีดูตกใจอะไรบางอย่างจึงถามด้วยความห่วง

“ไอ้ทีมึงเป็นไรวะ”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร” นาทีตอบปฏิเสธไปก่อนที่ทิวจะเข้ามาช่วยพยุงให้กลับไปนั่งที่เดิม

“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ที่ครูมาบอกข่าวเรื่องธันวาครูอยากให้ทุกคนไปงานศพ”

“ไอ้ทิว ธันมันตายแล้วจริงหรอวะ” นาทีที่ถามย้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจจริงๆ ว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง

“เออ กูเห็นข่าวเมื่อกี้เนี่ย เมื่อวานกูยังเจอมันพร้อมมึงอยู่เลยแม่งแบบใจหายเลยว่ะ”

“เชี่ยย นี่กูไม่ได้ตาฝาดหรอวะ” นาทีพึมพำอยู่กับตัวเอง

“มึงมีไรวะ ตั้งแต่เมื่อกี้ละ”

“เปล่าๆ กูก็แค่ใจหายเมื่อวานยังเห็นมันอยู่ไง แล้ววันนี้มึงจะไปงานมันป่ะกูไปด้วยนะ” นาทีพูดปัดไปที่คำถามอื่นเพื่อที่จะไม่อยากคิดเรื่องที่เขาเห็นวิญญาณของธันวาในห้องเรียนเมื่อกี้นี้

หลังเลิกเรียนทิวและนาทีพากันมารอเพื่อที่จะขึ้นรถไปงานศพของธันวาที่บ้านของเขา

“ไม่น่าเชื่อเลยว่ะ ว่ามันจะจมน้ำตายมันว่ายน้ำเป็นนี่หว่า”

“อะไรก็เกิดขึ้นได้มึง มึงคงสนิทกันน่าดู” นาทีพูดพลางเอามือตบไปที่บ่าของทิวเบาๆ

“ถ้ากูไม่ได้ย้ายบ้าน ย้ายห้อง มันก็คงเป็นเพื่อนคนเดียวที่กูมีว่ะ”

ตอนนั้นเองขณะที่ทิวกำลังพูดเรื่องเกี่ยวกับธันวา ที่หางตาของนาทีก็เห็นอะไรแว้บอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะหายไป ถึงนาทีจะรู้ว่าแสงนั้นคืออะไรแต่เขาก็ไม่อยากรู้ ไม่อยากเห็นอะไรเกี่ยวกับแสงนั้นเลย

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!