บทที่3
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครคนใช้เมียมึงหรอ”ธามเอ่ยถาม
สีหน้าของเขายังคงราบเรียบปกติแต่สายตาคู่คมกับมองไปยังตะวันคล้ายกับว่าสนใจ
ภูมินทร์ที่ได้ยินดังนั้นจึงหันหน้าไปทางตะวันผู้หญิงที่เพื่อนเขาจ้องมองอย่างไม่ละสายตา
เขาเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ตอนไปรับเพลงพิณที่มหาวิทยาลัยแต่ก็ไม่ค่อยบ่อยมากนัก
“สนใจ?”
“เปล่า” แว็บแรกที่ได้เห็นเธอ เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะดูจากการแต่งตัวแล้วก็น่าจะไม่ใช่คุณหนูบ้านไหนอย่างแน่นอน แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงเข้ามาในงานแบบนี้ได้
“ชื่อตะวันเป็นเพื่อนกับเพลง”
“อืม”ธามไม่พูดอะไรต่อหลังจากนั้น เพียงแค่ละสายตาจากเธอมองไปที่รูปของพ่อตนเท่านั้น
“ที่แท้ก็เป็นเพื่อนกันหรอเนี่ยน่ารักดีนะ”เพทายที่ฟังการสนธนาของทั้งคู่จึงพูดออกไปดวงตาจ้องมองไปที่หญิงสาวเป็นตาเดียว มือก็พลางลูบไปที่คาง ปากหยักยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเลห์
ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาล้วนเป็นความจริงไม่ได้ประชดแต่อย่างใดจากที่เคยผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วนตะวันถือว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารักและสวยอย่างบอกไม่ถูก
“หยุดความคิดของมึงเลย เขาไม่เอามึงหรอก”เวร์หาที่ได้เห็นท่าทีของเพทายก็นึกอดหมั่นไส้ไม่ได้จึงพูดแขวะและห้ามปราม
สายตาของเพทายตวัดค้อนไปอย่างทีเล่นทีจริง
“แหม ไอเวร์อิจฉากูก็ไม่บอก ไม่เป็นไรนะกูเข้าใจหัวอกคนอกหัก”ไม่พูดเปล่ามือขวาก็พลันไปค้องคอมุมปากยกยิ้มขึ้นอย่างทะเล้นไปให้เวร์หา
ตุบ
เวร์หาไม่รอช้าใช้ศอกของเขากระทุ้งไปที่ท้องของเพื่อนตัวดีทันที
“โอ้ย!!จุกนะเว้ย”
“สม”
“เห้อ กูหล่ะหนักใจกับมึงสองคนจริงๆ”การันต์ถึงกับใช้มือกุมขมับเพราะเหนื่อยใจกับสองคนนี้เสียจริงไม่กัดกันสักวันมันจะตายรึไง
ผ่านไปเพียงไม่นานทั้งห้าคนจึงเดินไปนั่งยังแถวหน้าใกล้ๆกับตะวันและเพลงพิณ ด้านตะวันที่เห็นว่าชายกลุ่มนั้นกำลังเดินมายังตนจึงได้คิดหาข้ออ้างเพื่อจากออกจากตรงนี้
“เพลงเดี๋ยวฉันมานะ”
“แกจะไปไหน?”
“ก็ไปจากตรงนี้หน่ะสิขืนอยู่นะฉันได้บ้าตายแน่ๆ”
“ใครจะตาย?”ดวงตาพลันเบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงทุ้มของใครบางคนเอ่ยออกมาจากด้านหลังขนที่ตัวเธอลุกซู่ตั้งแต่หัวจรดเท้าน้ำเสียงของเขามันชั่งเยือกเย็นซะเหลือเกิน
สองสาวที่ยืนคุยกันก่อนหน้านี้จึงรีบหันหลังไปหาชายหนุ่มทั้งห้า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตะวันเพื่อนของเธอถึงอยากออกไปจากตรงนี้นัก
“สวัสดีค่ะ”เพลงพิณพนมมือไหว้ต่อผู้มาใหม่เนื่องจากคนตรงหน้ามีอายุมากกว่าเธอทั้งหมด จึงต้องทักทายกันเป็นมารยาท
ชายหนุ่มทั้งห้ารับไหว้อย่างเป็นกันเองพร้อมหันไปหาคนที่ยืนข้างๆหญิงสาวที่ยังเอาแต่ยืนเงียบไม่พูดไม่จา
“ตะวัน”
“หะ?”เธอหันไปหาเพื่อนของเธออย่างสงสัย
“มือ”เพลงพิณใช้สายมองไปที่มือเพื่อนบ่งบอกอะไรบางอย่าง
“ต้องไหว้ด้วยหรอ?”
คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนเป็นปมสีหน้าของธามในตอนนี้บ่งบอกถึงความไม่พอใจเป็นที่สุด เด็กอะไรไม่มีสัมมาคารวะเสียจริง ต่างจากเพื่อนของเขาที่ยิ้มด้วยความเอ็นดูมากกว่า
“อ๋อสวัสดีค่ะ”ตะวันพนมมือพร้อมกับยิ้มให้กับชายหนุ่ม
“รอนานมั้ยเพลง”ภูมินทร์เข้าไปโอบเอวหญิงผู้เป็นที่รัก
“ไม่นานค่ะ”
“วันนี้มีนักธุรกิจมากันหลายคนอาจจะต้องกลับดึกหน่อยนะเธอไหวรึป่าว”
“ค่ะ”เธอยิ้มตอบ
“จริงสิ เสียใจด้วยนะคะคุณธาม”เพลงพิณคุยกับภูมินทร์เสร็จจึงหันไปบอกธาม
เขาไม่ตอบอะไรจึงพยักหน้าเพื่อเป็นการรับน้ำใจจากหญิงสาวเท่านั้น
“ขรึมแท้..”ตะวันพึมพัมกับตัวเองไม่วายก็ถูกสายตาอำมหิตจับจ้องมาที่ต้นคำพูดที่หญิงสาวพูดมาเขาได้ยินหมด
“อุ้ย”ตะวันที่เห็นว่าเขาส่งสายตามาจึงหันหน้าไปมองทางอื่นทันที
“แล้วธุรกิจที่ร่วมมือทำด้วยกันเป็นยังไงบ้างคะ”เพลงพิณถามออกไปเพราะธุรกิจที่เขาทำกันอยู่เป็นการร่วมมือในเครือของบริษัททั้งห้าคน
“ค่อนข้างไปได้ดีเลยหล่ะครับ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงอยู่”เวร์หาว่าตามจริงพวกเขายังต้องประชุมกันอีกหลายอย่างถึงแม้ผลลัพธ์ที่ออกมาค่อนข้างที่จะดีแต่ก็ยังไม่ค่อยพอใจสำหรับพวกเขาสะเท่าไหร่
“หืม คงซีเรียสกันหน้าดูนะคะ”
“ใช่แล้วครับ โดยเฉพาะไอภูกับไอธามเครียดมากเลยครับ”
“ไอการันต์”
“พวกคุณเคยเครียดกับเรื่องธุรกิจกันด้วยหรอคะ”ตะวันพูดออกไปอย่างหน้าตาใสพวกเขาเนี่ยนะจะเครียดกับเรื่องพันนี้ไม่มีทางหรอก
"..." ไร้เสียงตอบรับใดๆทุกคนยืนอึ้งกับคำถามของสาวน้อยไม่น่าเชื่อว่าเธอจะถามจะกล้าได้ถึงขนาดนี้ แต่ที่เธอพูดก็มีเหตุผลอยู่หากว่าจะมีเรื่องอะไรให้เครียดก็คงจะเป็นเรื่องผู้หญิงไม่ก็ศัตรูที่เข้ามา
“เข้าใจถามนะเรา”เพทายกล่าว ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าผู้หญิงคนนี้จะมีดีอะไรอีก
มีแว็บนึงที่ธามลอบมองไปทางตะวันแววตาของเขายังเย็นชาเช่นเดิมแต่ในใจกลับคิดอะไรบางอย่างเขาทำทีเป็นไม่สนใจแต่แล้ว
ปั้ง ปั้ง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments