ยัยเพี้ยนรักกับหนุ่มอาคาชิ
ตอนที่ 3วันเกษียณ
คำเตือนตอนนี้แนะนำให้กเเลื่อนข้างไว้ เพราะเนื้อหาตอนเยอะ
เป็นวันเฉลิมให้แก่เหล่าเจ้าหน้าที่ลับแลที่ทำงานอย่างหนักเป็นเวลาหลายร้อยปี
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลการเกิดของเด็ก การตาย การตัดสิน หรือกระทั่งเทวดา แม่ซื้อต่างๆ ทำงานในเมืองลับแลจนเลื่อนขั้นตำแหน่งสูงสุดหรือทไงานเกินหลักร้อยปี
และพอถึงวันเกษียณเป็นวันพวกเขาได้ถูกสรรเสริญก่อนจะเข้าประตูเปิดมนุษย์ เพื่อเกิดเป็นมนุษย์และใช้ชีวิตบำนาญ
และบำนาญเหล่านั้นก็คือผลบุญที่สั่งสมจากทำงาน
ผลบุญพวกนั่นทำให้ เหล่าเกษียณ ได้ดังนี้ ไปเกิดเป็นมนุษย์เพรียบพร้อมฐานะ หน้าตา กับคำอธิษฐานและใช้ชีวิตไม่ลำบากอีกต่อไปในชาติหน้า
เจ้าหน้าที่ในเมืองลับแลในที่แห่งนี้ตามทำงานไปมากกว่า 100 ปี มีไปกว่า 10 คนกำลังเดินมายัง สนามหญ้าแถว
โดยมี
นงเยาว์
ทศ xxxx
xxx. xxxxx
xxxx. xxxxx
ตัวประกอบ
อึก ฮือ เฮือก!!!//ร้องไห้
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
ตึกตึกตึกตึกตึก//เดินมา
ทศ(เพื่อนนางเอก)
ตึกตึกตึกตึกตึกตึก//เดินมาตามหลังนงเยาว์
ในระหว่างเดินถึงเหล่าประชาชนหลากหลายคนต่างก่อนกันมาทำพิธีและร้องห่มร้องไห้
ชื่อเรียกชื่อเหล่าผู้เกษียณในปีนี้
เพราะพวกเขาตั้งใจทำงาน และคุณงามความดีให้แก่เมืองลับแลมากมาย
แต่นับจากนี้คงไม่อาจได้พบที่รักคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่อาจรั้งไว้ได้เช่นกัน
พวกเขาเดินถึงสนามหญ้ามีเวทีทางด้านแท่นจุดคบเพลิงที่ไร้ไฟ ด้านหลังที่นั่งสำหรับเจ้าหน้าเกษียณสิบคน
เปลวไฟวิไลวรรณจับคบเพลิงสีส้มเหลืองสว่าง กำลังจุดแท่นคบเพลิงขนาดใหญ่
วิไลวรรณ(เทพให้พร)
ตึกตึกตึกตึกตึก//เดิน
วิไลวรรณ(เทพให้พร)
//ถือคบเพลิง
วิไลวรรณ(เทพให้พร)
ฟรึ่บ!!//ลุกโชน
ทันทีที่เจ้าเมืองลับแลจุดคบเพลิงลุกโชนเสร็จ
ทุกคนนั่งคุกเข่าตามที่พระพุทธศาสนา ผู้หญิงนั่งเทพธิดา ผู้ชายนั่งเทพบุตร และพนมมือไหว้ สวดมนต์
ยกเว้นเจ้าเมืองและผู้เกษียณที่นั่งบนเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ แต่ก็ร่วมพนมมือไหว้
พระถือใบพัด ทำหน้าที่สวดมนต์ตามหลักศาสนาพุทธ
และพิธีดำเนินไปอย่างราบรื่นไร้อุปสรรคปัญหาใดๆติดขัด
ไม่มีใครก่อหรือสร้างปัญหา ทุกคนนิ่งสงบร่วมกันทำพิธีอย่างดี
หลังจากสวดมนต์เปิดพิธีเรียบร้อย ก็ถึงการแสดงต่างๆให้กับเหล่าผู้เกษียณทั้งสิบ
ไม่ว่าจะเป็นการแสดงพันดาบ
ตัวประกอบ
ชิ้ง ฟึ่บ//โยนดาบ
เหล่านักแสดงร่ายรำดาบและรำไทย ต่างตั้งอกตั้งใจร่วมใจกัน ฝึกซ้อมจนเป็นการแสดงที่สมบูรณ์แบบ
เพื่อให้เหล่าเกษียณมีความสุขเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะกลับไปเกิดบนโลกมนุษย์แล้วใช้ชีวิตอยู่บนบำนาญ
ก่อนจะเป็นเช่นนั้น จึงตั้งใจทำ ทดแทนกับสิ่งทำมาให้แก่เมืองลับแลเป็นร้อยปีแห่งนี้จนเกษียณ
วิไลวรรณ(เทพให้พร)
คนแรกตามอายุราชการ
วิไลวรรณ(เทพให้พร)
นงเยาว์เจ้าคนแรก
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
เจ้าค่ะ//ขานรับ
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
ตึกตึกตึกตึกตึกตึก//เดิน
เธอก้มตัวลงและรับคำสั่งก่อนจะเดินไปยังหน้าประตูหน้า
นงเยาว์เดินถึงตรงหน้าของประตูมนุษย์ที่ทำให้ไปเกิดเป็นมนุษย์ แต่สามารถเข้าได้ทีละคน ไม่สามารถเข้าได้หลายคน
สองเจ้าหน้าที่เปิดประตูทั้งสองบานออก
เห็นเป็นแสงสว่างสีขาวจนแสบตา
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(ถึงเวลานี้แล้ว..)//หลับตา
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(ก้าวอีก 20 ก้าวเราจะไปเกิดแล้ว)
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(ขอบคุณท่านวิไลวรรณ ที่ท่านช่วยข้าไว้และยื่นข้อเสนอให้หับข้า)
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(ขอบคุณเหล่าชาวเมืองลับแลที่คอยสรรเสริญยิ่งยิ้มมาให้)
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(ลาก่อนเมืองลับแล~!)
นงเยาว์หยุดเดิน หลับตานึกถึงเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งในเมืองลับแล
แม้งานจะหนัก จะเหนื่อย จะท้อ จนอยากจะออกจากที่นี้ แต่นางลึกๆในใจคงผูกพันไปกับที่แห่งนี้
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(แล้วก็ลาก่อนเพื่อนสนิท)
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(ที่ร่วมหัวจมท้ายสมัยมัธยม)
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(ทศ)
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(ถึงนายจะคอยกวนประสาทให้ฉันโมโหอยู่บ่อยครั้ง)
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(แต่ก็ไม่เคยทิ้งกัน)
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(คอยให้กำลังใจกันมาเสมอจนถึงตอนนี้)
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
(ขอบใจมากนะ)
นงเยาว์มองขอบคุณ ชายผมน้ำตาลที่อยู่หลังรองจากนางที่อยู่ด้วยกัน นับตั้งแต่ม.ต้นไปจนถึงมหาลัย เรียนจบ
เรื่องราวที่ทำร่วมกระทำกันมา ผ่านเรื่องราวทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายไม่เคยทิ้งกันแม้แต่ครั้งเดียว
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
ตึกตึกตึกตึกตึกตึก//ก้าวเดิน
และหันหลังเดินต่อไปไปยังประตู
ทศ(เพื่อนนางเอก)
//มองนงเยาว์
ทางด้านของทศหนุ่มหน้าหล่อแต่นิสัยกวนประสาท
ก็กลับมองนงเยาว์อยู่ทางด้านหลัง
ทุกครั้งที่หญิงสาวผมดำชุดไทยแดงสดก้าวเท้าไปยังประตูเกิดโลกมนุษย์
เหมือนอยู่กับว่าหัวใจเขาจะหยุดเต้นเป็นระยะๆตามจังหวะการก้าวแต่ละก้าว
ยักษ์นงค์เยาว์(นางเอกชาติก่อน)
ตึกตึกตึกตึก วิ้ง วืด!
นงเยาว์และหลับตาเดินเข้าหาประตู แสงสว่างกระทบจนมิดเหลือเพียงโครงล่างเลือนสุดแล้วหายไป
________________________________
Comments