รักเเด่โชคชะตาของสายลม
เจตจำนงค์เเห่งสายลม...คืออะไรกันเเน่ มันมีไว้ทำไม-? สร้างจากอะไร-? เจตจำนงค์คือมือของเทพเจ้าเเละสายลมคือพลังของเทพเจ้า เทพเจ้าเเห่งวายุจะคอยคุ้มครองเเละช่วยเหลือมนุษย์ทุกคนที่นับถือเจตจำนงค์ ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือวัยรุ่น เเม้กระทั่งกษัตริย์
เจตจำนงค์สร้างสายลมเพื่อช่วยเหลือผู้คน ตำนานกล่าวไว้ว่า ครั้งหนึ่ง อัศวินท่านหนึ่งถูกช่วยชีวิตไว้โดยสายลม ฟังดูน่าเหลือเชื่อ นักเวทย์มากมายได้พิสูจน์เเล้วว่า 'สายลม' ที่ว่านั่นมีจริง พวกเขาสามารถลอยตัวขึ้นสู่ฟ้าได้ด้วยพลังของเจตจำนงค์ เเต่น้อยคนนักที่จะทำเช่นนั้นได้
ถึงกระนั้น ก็ยังมีเมือง ๆ หนึ่งที่นับถือสิ่งนี้อยู่...เเละเป็นเมืองที่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง เกิดมาพร้อมโชคชะตาอันเเสนวิเศษได้อาศัยอยู่ในเมืองนั้น พลิกหน้าหนังสือเเละเข้าสู่เรื่องราว!
"เจตจำนงค์ของสายลม จะพาเราไปยังที่ที่อยากไป เเละจะพากลับมายังที่ที่เราอยู่ เเกขัดประสงค์ของมันไม่ได้"
ชายชราพูดกับเด็กหนุ่มวัย 16 ปีในกระท่อมไม้เเห่งหนึ่งที่อยู่หลืบในป่าใหญ่
"เเต่ผมยังไม่เคยได้รับความปรารถนาจากสายลมเลยนะครับ 'คุณพ่อ' เเล้วจะให้ผมเชื่อได้ยังไง 'เลออซ' ยังบอกว่ามันเหลวไหลเลยนี่ครับ-?"
เด็กหนุ่มพูดตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ขึ้นห้องไปสะ!!! 'เรนเดลล์' !!!"
'ตึก ตึก ตึก!!'
เด็กหนุ่มไม่รอช้าจึงรีบวิ่งขึ้นสู่ชั้นสองของบ้านกระท่อมเเละปิดประตูดัง
'ปึง!!'
"เฮ้อ... เจ้าลูกคนนี้นี่มันดื้อด้านสะจริง"
ชายชราผู้เป็นพ่อพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขึงขัง
"คุณคะ..ลูกเราก็เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเเล้วนะคะ ยังไงเเกก็ต้องต่อต้านเรามากกว่านี้.. ปล่อยเเกเถอะค่ะ"
หญิงสาววัยกลางคนพูดตอบชายชราด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม
'เรนเดลล์' เด็กหนุ่มในครอบครัวโรเจอร์ ยังจะเรียกว่า 'เด็ก' ได้อีกไหมนะ ปีนี้เขาอายุ 16 ปี เขามีนัยน์ตาสีทองประกาย ผมสีฟ้าครามเหมือนท้องทะเล เขาอยู่ในเเถบเมืองชนบทที่มีชื่อว่า 'เเกลซซ์' เป็นเมืองที่ถูกสร้างด้วยหินอ่อนส่วนใหญ่ เเละอยู่ในหุบเขาที่มีเนินเเละทุ่งหญ้าสีเขียวขจีมากมายล้อมรอบ ประดับด้วยดอกไม้สวยงามต่างสายพันธุ์ เเละเด่นที่สุดคือ ดอก 'เเอนีโมนี'
ใจกลางเมืองจะมีรูปปั้นของเทพเเห่งวายุด้วยหินอ่อนสลักไว้ รูปปั้นเทพเเห่งวายุ เขามีลักษณะผมยาวตรง หน้าตาหล่อเหลา เเละใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น เเละรอบ ๆ รูปปั้นเขามันล้อมรอบด้วยสระน้ำพุที่เต็มไปด้วยปลาสีทอง บ้านเเต่ละหลังจะทำจากไม้เเละอิฐ ส่วนบ้านที่อยู่ในป่าจะทำจากไม้เเก่เเละไม้โอ้ก พื้นเมืองทั่ว ๆ ไปของเเกลซซ์นั้นเป็นลวดลายของนกสีขาว ไม่ว่าจะตามกำเเพงหรือพื้นที่เราเดินเหยียบก็ตาม
ครอบครัวของเรนเดลล์คือครอบครัวโรเจอร์ ผู้มีเเม่นามว่า 'ซิลเวีย โรเจอร์' เเละผู้เป็นพ่อคือ 'มอเเกน โรเจอร์' เรนเดลล์ได้ตาสีทองมาจากพ่อของเขาที่เป็นคนผิวดำเเต่ตานั้นเป็นสีเด่นออกมาชัด ส่วนสีผมสีครามประกายดุจดั่งท้องทะเลได้มาจากผู้เป็นเเม่ ซิลเวียร์นั่นเอง ถึงพ่อเเม่ของเรนเดลล์จะดูเเตกต่างกันเยอะพอสมควร เเต่พวกเขาก็รักกันมากเเละให้กำเนิดลูกชายอย่างเรนเดลล์ออกมา
ครอบครัวของพวกเขาก็เหมือนครอบครัวธรรมดา ที่มีขนบธรรมเนียมของเมืองเเกลซซ์อยู่ด้วย เเม้ว่าบางครอบครัวจะโหดร้ายกับลูก หรือจะใจดีกับลูก เเม้เเต่อาจจะไม่สนใจใยดีใครเลย..
เเต่ชาวเมืองเเกลซซ์มีสิ่ง ๆ หนึ่งที่เหมือนกันทั้งหมดก็คือ พวกเขานับถือ 'เจตจำนงค์ของสายลม' ที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางจิตใจของชาวเมืองทุกคน เมืองนี้เป็นเมืองชนบท ตั้งอยู่ในภูเขาเเห่งหนึ่งที่ไม่ไกลไม่ใกล้จากหน้าผาใหญ่ในทางเหนือของเมือง ทำให้ลมมักจะผ่านเข้ามาในเมืองเสมอในทุก ๆ วัน ทุก ๆ ปี เเละตลอดเวลา ทำให้ทุก ๆ คนจึงชินกับการที่มีลมอยู่ด้วย เเละใช้ประโยชน์จากมัน ไม่ว่าจะเรื่องกีฬา การทำอาหาร การเล่น ทุก ๆ อย่าง
เเต่ถึงกระนั้น เรนเดลล์ก็มีความคิดที่เเตกต่างจากคนทั่วไปในเมืองของเขา เขา 'ไม่นับถือเจตจำนงค์เเห่งสายลม' อาจจะเป็นเรื่องเเปลก พ่อของเขา มอเเกน ไม่พึงพอใจกับสิ่งที่ลูกชายตัวเองเลือก จึงมักจะดุเขาตลอดเวลาเเละอารมณ์เสีย ต่างขากเเม่ของเขาที่คอยสนับสนุนเเละหาข้อเเก้ตัวให้ลูกชายของตน รวมถึงคอยปรับความเข้าใจให้สามีตนเองกับลูกนั้นไม่ทะเลาะกัน
ถึงในตอนปัจจุบันจะไปได้ไม่สวย เเต่พ่อกับเเม่ของเรนเดลล์ก็ยังรักเเละห่วงเเหนลูกชายคนเดียวของตนเอง เรนเดลล์เข้าใจสิ่งที่พ่อของเขาจะสื่อ เเละจะไม่พยายามทำอะไรที่มันเกินตัว
บ้านของเรนเดลล์ มีสองชั้นด้วยกัน ชั้นเเรกมีห้องครัวทำจากหินอ่อน เเละยังมีห้องนอนของพ่อกับเเม่ของเขา ส่วนชั้นสองนั้น มีทั้งหมดสองห้องติดกัน ห้องหนึ่งของเรนเดลล์ อีกห้องหนึ่งนั้นเป็นห้องว่าง สำหรับบางครั้งที่เพื่อนของเขาจะมานอนด้วย
ห้องของเรนเดลล์ มีเตียงตั้งไว้ที่ริมห้องด้านขวามือติดกำเเพงไม้เก่า ทางด้านซ้ายสุดเป็นโต๊ะของเขาที่มีกระดาษเเละหนังสือมากมายวางไว้เต็มไปหมด เมื่อเปิดประตูเข้าไปจนสุดทางเดินเข้าสู่ห้องจะเป็นระเบียง มีหน้าต่างคั่นกลางระหว่างห้องของเขากับระเบียงนั้น เป็นห้องที่อบอุ่นเเละเก็บเสียงที่สุดในบ้าน
"เฮ้!! เรนเดลล์~! ปีนลงมาเร็วว!!"
เสียงของเด็กหนุ่มคนรุ่นราวเดียวกันกับเรนเดลลล์ตะโกนจากระเบียงห้องของเขา นั่นก็คือ
"เลออซ-?! ชู่ววว!! เดี๋ยวพ่อฉันได้ยิน!"
'ฟั่บ!! ตุ๊บบ!'
เรนเดลล์ปีนลงมาจากชั้นสองของบ้านอย่างเงียบเฉียบ
"นายมาช้านะเนี่ยเลออซ"
"มาช้าดีกว่าไม่มาน่า ไปเร็ว!"
จากนั้นเด็กหนุ่มทั้งสองก็พากันวิ่งเข้าเมืองกันไป
เด็กหนุ่มคนนั้นก็คือเพื่อนเล่นเพียงคนเดียวของเรนเดลล์ 'เลออซ' นั่นเอง เลออซมีผมสีน้ำตาลเเดง นัยน์ตาสีชมพูกุหลาบหวาน เขามาจากครอบครัวเเดนเนียร์ ที่อยู่ทางตะวันออกของเมือง ชาวเมืองตะวันออกจะมีรูปลักษณ์สวยงามเเละดวงตาสีชมพูอ่อนเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เลออซเมื่อเจอกับเรนเดลล์ตอนเเรก ก็ถูกเรนเดลล์เรียกว่า
"เห้ย ไอหน้าหวาน!"
ส่วนเรนเดลล์อยู่ทางเหนือของเมือง จะมีดวงตาสีทองเหมือนกับพ่อของเขา ส่วนเเม่ของเรนเดล์เป็นคนต่างถิ่นที่มาจากประเทศอื่น
ด้วยความที่มีพื้นที่ที่ใกล้กัน ทำให้ทั้งเรนเดลล์เเละเลออซสามารถมาหากันได้อย่างสะดวกสบาย
"วันนี้มีอะไรให้ทำมั่งล่ะเลออซ!"
"ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งจะเเนะนำให้นายรู้จักพอดีเลยเรนเดลล์!"
เลออซเเละเรนลเดลล์เดินกอดคอคุยกับไปมาระหว่างทางเดินลงจากภูเขาเเละเข้าสู่เมือง
"เพื่อนงั้นหรอ-? ใครกันล่ะ-? มาจากไหนกัน"
"เฮ้! ถามทีละคำถามสิ! ฉันจะตอบนายทันได้ไง"
"ฮ่ะฮ่าฮ่าฮ่ะ งั้นก็บอกมาเร็ว ๆ สิ!! ฉันตื่นเต้นจะตายอยู่เเล้วที่เราจะมีเพื่อนใหม่"
เรนเดลล์พูดพลางเอามือยีผมเลออซไปมา
"ฮ่ะฮ่าฮ่า! ก็ได้ ๆ ! เพื่อนคนนั้นมาจากเเถบชายเมืองอีกที่หนึ่งน่ะ!!"
"ชายเมือง..-? อีกที่หนึ่งน่ะหรอ-?!!"
"ใช่เเล้ว.. นี่ ๆ เธอคนนั้นน่ะมาจากเมือง 'วินคลอสซ์' น่ะ"
"อะไรนะ-?!! เมืองที่นับถือเจตจำนงค์ของสายลมอย่างเคร่งครัดกว่าเราน่ะหรอ-?!!"
'วินคลอสซ์' ใช่เเล้ว นั่นคือชื่อเมืองที่อยู่อีกฝั่งของภูเขาที่คั้นกลางระหว่างทั้งสองเมือง มันห่างไกลจากชายเมืองที่พวกเขาอยู่ประมาน 200 ไมล์ หรือมากกว่านั้น ชายเเดนที่วินคลอสซ์ตั้งอยู่ เป็นเมืองที่รับลมจากอากาศมากที่สุด เเละนับถือเจตจำนงค์เเห่งสายลมเคร่งครัดกว่าเเกลสซ์หลายเท่าตัว ประหนึ่งว่าเเกลซส์มีกฎเกณฑ์อยู่ 2 เเต่วินคลอสซ์มีกฎเกณฑ์อยู่ 10
ทำให้คนส่วนใหญ่ย้ายมาอยู่ที่เเกลสซ์เเทน เพราะรับไม่ไหวกับกฎเกณฑ์นั้น
ไม่มีใครรู้ว่ากฎเกณฑ์ของที่นั่นเป็นยังไง จึงได้เเต่ฟังข่าวลือหรือเรื่องเล่าจากคนที่มาจากชายเมืองนั้น
"ชู่ววว! เบา ๆ สิเจ้านี่!"
เลออซเอามืออุดปากของเพื่อนตนไว้พลางหันซ้ายหันขวาเพื่อสังเกตว่ามีใครได้ยินหรือไม่
"อ้อ รู้เเล้ว ๆ งั้นเเปลว่าเด็กคนนั้นจะต้องเป็นพวกคลั่งเจตจำนงค์เเน่เลย"
เรนเดลล์พูดด้วยท่าทีมั่นใจ ก่อนจะรู้ตัวพวกเขาเดินมาถึงใจกลางเมือง ที่มีรูปปั้นเทพเเห่งวายุเเล้ว เรนเดลล์เเละเลออซจึงหยุดเดิน
"ฮ่ะฮ่าฮ่ะฮ่า ลองไปพบเธอก่อนเถอะ เห็นเธอมาที่เมืองนี่เพราะอยากมาเเลกเปลี่ยนวัฒนธรรมน่ะ! อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเราเลย!"
"ว้าว..อยากเจอเเล้วล่ะสิ!!"
"โอ้!! เธออยู่นั่นพอดีเลย!! ฮาร์โมนี่!!"
'เอ๊ะ-?! 'เธอ' หรองั้นหรอ..ไหนดูซิว่าหมอนั่นเป็นยังไง...อ๊ะ...-?!!!'
เรนเดลล์หันขวับไปตามทางที่เลออซโบกมือ เเต่ก็ต้องตกใจ เมื่อหันไป เขาก็ต้องช็อกอย่างหนักกับความคิดของตนเอง เมื่อคนที่เลออซทักนั้นไม่ใช่ผู้ชาย...เเต่เป็นผู้หญิง!!!
'ผะ..ผะ..ผู้..ผู้หญิง!!!!!'
"อ้อ! ฉันลืมบอกนายไปเรนเดลล์! พอดีเธอเป็นผู้หญิงด้วยน่ะ!!"
เลออซสังเกตเห็นสีหน้าท่าทางที่น่าตกใจของเรนเดลล์ เขาจึงพูดอธิบายไป
"อ๊ะ! ไงงง~ เลออซซซซ~~"
เด็กสาวผมสีชมพูปนโอรสสวย สยายผมพลิ้วสไหวไปกับสายลม นัยน์ตาสีเขียวละม้ายมรกตธรรมชาติ สายตาที่สื่อถึงความร่าเริงเเละอบอุ่น เธอใส่หมวกฟางเเละสวมเดรสสีขาวสะอาด เธอหันขวับมาทางทั้งสอง ก่อนจะยิ้มอย่างนุ่มนวลเเละโบกมือทักทายพวกเขาพร้อมกับวิ่งมาหาทั้งสองพร้อมสัมภาระที่หนักอึ้ง
"เฮือก-!! เลออซ!! ทำไมนายไม่บอกเร็วกว่านี้!"
"เอ้า~! ฮ่าฮ่าฮะฮ่า อย่าบอกนะว่านายคิดว่าเธอเป็นผู้ชาย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่ะ!!"
เลออซระเบิดขำออกมากับสารรูปของเรนเดลล์ที่ยืนทำตัวไม่ถูก ในขณะที่เด็กสาวคนนั้นกำลังวิ่งมาหาเเละหยุดตรงหน้าทั้งสอง
"ฮาร์โมนี่ นี่เพื่อนฉันเอง เรนเดลล์ เรนเดลล์นี่ฮาร์โมนี่!"
เลออซพูดพลางผลักตัวของเรนเดลล์ไปใกล้ ๆ เด็กสาว ทำให้ทั้งสองตกใจ
"อ่ะ..เอ่อ! ฉันเรนเดลล์.."
เด็กหนุ่มพูดพลางหลบสายตา
"ไง! ฉันฮาร์โมนี่นะ! ยินดีที่ได้เจอนะเรนเดลล์!"
เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางเอาหมวกฟางของเธอลง
"เอาล่ะ เราไปหาไรกินกันมั้ย-?!"
จากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปตามซอยเมืองเเละทานอาหารที่ร้านเเห่งหนึ่ง
"ที่นี่สุดยอดมากเลยเลออซ! อาหารน่าทานจัง~"
เด็กสาวพูดอย่างตื่นเต้น
"เชอะ...ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นตรงไหน-"
'โป๊ก!!'
เลออซทุบหัวของเรนเดลล์ทันทีที่ได้ยินเขาพึมพำอย่างนั้น เเละหันไปยิ้มกลบให้ฮาร์โมนี่
"โอ๊ยย นายทำฉันทำไมเนี่ย-?!!"
เรนเดลล์กระซิบกับเลออซ
"นายจะพูดเเบบนี้กับเเขกที่มาเมืองเราไม่ได้นะ! เธอจะย้ายมาอยู่ถาวร!!"
เลออซกระซิบกลับ
"ห้ะ!!! อะไรนะ!!!"
เรนเดลล์ตกใจมากจึงตะโกนลั่นออกไป ทำให้ทุกคนในร้านรวมถึงฮาร์โมนี่ก็หันขวับมาทางพวกเขา เเละจ้องด้วยสายตาเเปลกประหลาดใจ
"เฮือก! ขะ..ขอโทษครับ.."
"นายนี่นะ!"
ระหว่างที่เลออซกับเรนเดลล์กำลังถกเถียงกัน ฮาร์โมนี่ก็หัวเราะขึ้น ทำให้ทั้งสองหยุดการกระทำทั้งหมดเเละหันมามองเธอด้วยสายตาสงสัย
"ฮ่าฮ่ะฮ่า พวกนายนี่ตลกจังเลยนะ~!"
เธอเช็ดน้ำตาจากการหัวเราะของตนพร้อมรอยยิ้ม
"ฮาร์โมนี่ เธออย่าถือสาเรนเดลล์เลย เขาค่อนข้าง...สติไม่ค่อยดี"
"นายว่าใครสติไม่ดีห้ะ-?!!"
จากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีเลออซกับเรนเดลล์ก็ทะเลาะกันอีกครั้ง
...จวบจนยามเย็นที่ตะวันใกล้ลับขอบฟ้าเเละเเสงตะวันสีส้มกำลังส่องสว่างมากที่สุด
"ขอบคุณนะเลออซ เรนเดลล์! วันนี้ฉันสนุกมากเลย~"
ฮาร์โมนี่พูดระหว่างเดินไปตามทาง
"เเน่นอน! ยังไงพรุ่งนี้เดี๋ยวเรนเดลล์จะพาเธอไปเที่ยวชมเมืองนะ"
"เดี๋ยว-?! ฉัน-?!"
"ว้าว~! จริงหรอ น่าสนใจมากเลย ฉันรอไม่ไหวเลยล่ะ!"
ฮาร์โมนี่พูดเเทรกขึ้นก่อนที่เรนเดลล์จะตอบ เขาจึงมีท่าทีไม่พอใจเเละขึงตามองเธอ
"งั้นฉันไปก่อนละบาย~!"
ทันใดนั้นเลออซก็วิ่งไปอีกทางทันที ซึ่งเป็นทางกลับบ้านของเขาพลางกล่าวบอกลาทั้งสอง
หลังจากที่เลออซจากไป ความเงียบก็เกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง
"เอ่อ...งั้นไว้เจอกันนะเรนเดลล์"
ฮาร์โมนี่หันไปพูดพร้อมรอยยิ้มให้เเก่เรนเดลล์
"อืม.."
'ฟึ่บ กึก!'
ระหว่างที่ฮาร์โมนี่กำลังจากไป เรนเดลล์ก็จับปลายเเขนเสื้อของเธอไว้
"อ๊ะ-?!...เรนเดลล์..-?"
ฮาร์โมนี่หันขวับมาด้วยท่าทีสงสัย
"ถึงพรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปชมรอบเมือง..เเต่อยากให้เธอรู้ไว้ว่าฉันไม่เต็มใจหรอกนะ..!"
คำพูดของเรนเดลล์ทำให้ฮาร์โมนี่หยุดชะงักไป
"อื้ม! งั้นไว้เจอกันนะ~!"
เธอยิ้มให้เรนเดลล์พลางเอามือข้างหนึ่งทัดผมของตน ในขณะนั้นสายลมก็พัดมาพอดี เเสงตะวันสีส้มปะทะที่เเผ่นหลังของฮาร์โมนี่ เกิดเป็นภาพที่สวยงาม ทุกอย่างลงตัวไปหมด นั่นทำให้เรนเดลล์หวั่นไหวเล็กน้อยเเละเกิดอาการเคอะเขิน
'เธอ...สวย- เอ๊ยไม่ใช่สิ!! ห้ามคิดเเบบนั้นนะสมองฉัน!!'
เรนเดลล์หักห้ามใจตนก่อนจะปล่อยปลายเเขนเสื้อของฮาร์โมนี่ เธอจึงเดินจากไป
"อืม...เเปลก ๆ เเฮะความคิดเรา.. กลับบ้านก่อนดีกว่า"
เรนเดลล์หันหลังกลับเเละเดินทางไปทางที่จะไปบ้านด้วยสีหน้าเเดงก่ำโดยไม่รู้ตัว เป็นการเริ่มต้นที่ไม่สวยนัก เเต่น่าสนใจใช่ย่อยเลยนะ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments