...นิทาน...
...กาลครั้งหนึ่ง ในเมืองที่สงบนั้น ได้มีหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาอยู่คนหนึ่ง นิทานที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่อง ความรักอันแสนทุกข์ระทมของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้น...
.......
.......
........
.........
ในวันที่พายุเข้า ยังมีหญิงคนหนึ่งเดินเข้าป่าไปหาเสบียงอาหาร แม้ว่ามันจะดูอันตรายแค่ไหน แต่เธอก็ไม่หวั่น อาจเป็นเพราะเธอได้เติบโตมากับการเลี้ยงดูของผู้เป็นพ่อคนเดียว จึงทำให้เธอดูแข็งแกร่งและแข็งแรง ในสายตาของคนละแวกใกล้เคียง
ฝีเท้าได้เหยียบย่ำลงบนพื้นที่เปียกฝนและลื่น ในขณะที่ในยังไม่มีทีท่าว่าจะซาลงเลยสักนิดเดียว เสบียงที่เธอเข้ามาเก็บในป่าในวันนี้ ก็จะมีพวกเห็ดต่างๆที่สามารถกินได้แล้วก็พืชบางชนิด
"ราเซีย"
เสียงของชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นพ่อของหญิงสาวได้เอ่ยขึ้นร้องทักเธอ ด้วยกันนั้นหญิงสาว ที่มีชื่อว่า ราเซีย ได้หันไปตามเสียงเรียกของผู้เป็นพ่อ
"แค่นี้พอแล้วล่ะราเซีย!! เราออกไปจากที่นี่กันเถอะก่อนที่ฝนฝนจะตกหนักกว่านี้แล้วดินมันจะถล่มลงมา"
"ค่ะ"
ราเซียก็ได้ขานตอบผู้เป็นพ่อ ก่อนที่จะเตรียมตัวออกจากป่าแห่งนั้น แต่ก่อนนั้นเธอได้เอามือล้วงไปที่กระเป๋าข้างๆเธอเอาขนมอบชิ้นเล็กๆออกมาใส่กระดาษแล้ววางไว้ใต้โคนต้นไม้ พร้อมกับกล่าวว่า
" ขอบคุณมากเจ้าค่ะ ที่ได้ให้ข้าและครอบครัวเข้ามาในที่แห่งนี้และหาของกินนี่คือสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆที่ข้าจะให้ได้"
พอวางเสร็จราเซียก็ได้หันหลังและเดินออกจากป่าไป แต่ก็มีบางอย่างปรากฏขึ้นหลังจากที่เธอนั้นได้วางขนมอบไว้ที่ใต้ต้นไม้นั่น
ซ่อนสปอยล์
" หญิงสาวเอ๋ย... ภายนอกช่างแข็งกร้าวแต่ภายในนั้นกับอ่อนโยนและอ่อนแอ อนาคตของเจ้าช่างเศร้ายิ่งนัก แต่ข้าก็จะอยู่ข้างเจ้าเสมอ... "
พอกลับมาถึงบ้าน ราเซียก็รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เธอกลับไม่ปริปากบอกผู้เป็นพ่อให้รู้เลยแม้แต่นิดเดียว ได้เพียงแต่บอกพ่อว่า จะขึ้นไปพักผ่อนบนห้องของตัวเอง โดยราเซียได้ปฏิเสธมื้อเย็นทั้งหมด
คืนนั้น ในความฝันของเธอได้ฝันถึงที่ไหนสักที่ คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ไม่ ในห้วงนิทราอันเงียบสงบ ให้เธอได้รู้สึกตัวในความฝันนั้น ราเซียได้กลายเป็นคนอื่น เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวของเธอเอง
ราเซียได้เดินเท้าเปล่าเข้าไปในสวนแห่งหนึ่ง เธอเดินไปถึงกลางสวนที่มีศาลาหลังเล็กไว้ให้นั่งพัก ตรงหน้าของเธอได้มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ได้นั่งอ่านหนังสืออยู่ ราเซียตะลึงกับความงามของชายที่อยู่ตรงหน้าสักพัก ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันมาเจอเธอ ชายหนุ่มทีท่าดีใจเมื่อได้เห็นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าของเขา
ด้วยท่าทีที่ดีใจของเขาเหมือนกับว่าเขาจะเรียกชื่อของคนที่ยื่นอยู่ตรงหน้า แต่น่าประหลาดใจนักทำไมเธอถึงไม่ได้ยินเสียงของเขาเลยละ รอยยิ้มนั่นท่าทีที่ดูร่าเริง เพียงกระพริบตาเดียวร่างของชายหนุ่มก็เข้ามาสวมกอดเธอเอาไว้แน่น ......... แค่นั้นเองก็ทำให้ราเซียตื่นจากห้วงของความฝัน
ในเช้าตรู่หลังจากที่เธอตื่นจากความฝัน เธอได้สับสนไปชั่วขณะว่านั่นเป็นเรื่องจริงหรือเป็นแค่ความฝัน ราเซียลุกออกจากเตียงและลงไปด้านล่างเพื่อไปทานอาหารเช้าแล้วออกไปทำงาน ราเซียนั้นค่อนข้างที่จะเป็นที่ชื่นชอบของคนในหมู่บ้านมาก ด้วยความที่ว่าเธอแข็งแรงและเป็นคนใจดีเธอมักที่จะช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนอยู่เป็นประจำ หน้าตาของหญิงสาวอาจจะไม่ได้มีใบหน้าที่งดงามเหมือนหญิงสาววัยเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นคนในหมู่บ้านก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น แถมบางครั้งก็ยังมีหนุ่มมาแวะเวียนอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งคุณพ่อก็ปฏิเสธเรื่อยไป ก็แน่นอนอยู่แล้วเขามีลูกสาวคนเดียวนี่นาจะให้ปล่อยไปทั้งอย่างนี้เลยคงทำไม่ได้หรอก
3 วันถัดมา
มีข่าวพูดไปทั่วหมู่บ้านว่าจะมีขบวนขุนนางผ่านมาทางนี้ ชาวบ้านบางคนก็เฉยๆบางคนก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นขุนนางคนใหญ่คนโต ราเซียก็สนใจเล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เดินทางเข้าป่าแล้วไปหาเสบียง ราเซียได้เดินไปตามเรียบธารน้ำเพื่อหาปลาและพืชที่อยู่แถวนั้น แต่เธอกลับไปสะดุดสายตากับคนคนนึงเข้า ตัวของราเซียเริ่มสั่นเทาหัวใจเธอเริ่มเต้นแรง แต่เธอต้องตั้งสติ
" ท่านที่อยู่ตรงนั้นคือผู้ใดกัน เหตุใดท่านถึงมายืนกลางป่ากลางเหวแบบนี้เล่า ไม่กลัวว่าสิงสาราสัตว์จะมาทำร้ายท่านหรืออย่างไร "
ชายหนุ่มได้ยินเสียงเรียกของราเซียก็ได้หันมาหาเธอ ปรากฏเป็นใบหน้าที่เหมือนกับภาพวาดราวกับอยู่ในความฝันของเธอเมื่อคืนนั้น
" ฮ่าๆ ข้าต้องขอโทษด้วยนะเพียงแค่หลงทางนิดหน่อย เจ้าดูเหมือนจะเป็นคนของที่นี่สินะ แต่น่าจะเป็นการเสียมารยาทหรือไม่ที่ข้าขอถามคำถามเจ้าหน่อย ว่าเจ้าเคยเห็นข้าที่ไหนหรือเปล่า "
คำถามนั้นดึงสติของราเซียกลับมาได้ทันท่วงที มันช่างน่าแปลกประหลาดยิ่งนักที่เขาถามคำถามนั้นมา เริ่มวางตัวยิ่งขึ้นมือทั้งสองจับอาวุธที่ใช้หาอาหารและสายตาจ้องมองไปที่ชายหนุ่มผู้นั้นอย่างไม่ลดละ
" ท่านแปลกคนนัก มันคือความจริงที่ข้าเป็นคนแถวนี้ แต่หากคำถามที่ท่านถามข้าเมื่อครู่ งั้นข้าขออะไรท่านอย่างได้หรือไม่ ตอนนี้ข้าขอไม่ไว้ใจท่านก็แล้วกัน "
หลังจากที่ราเซียได้ถามกลับ เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะร่ามาจากชายหนุ่ม เธอยืนงงๆอยู่สักพักสงสัยว่ามันเป็นเรื่องน่าขำมากขนาดนั้นเลยหรือยังไง แต่กระนั้นใบหน้าที่สวยงามราวกับภาพวาดนั้นช่างดึงดูดสายตาของเธอเหลือเกิน
หลังจากหาเสบียงเสร็จราเซียก็ได้เดินออกมาจากป่าพร้อมกับชายหนุ่มแปลกหน้า ราเซียก็ได้สังเกตเห็นกลุ่มคนที่ใส่ชุดแปลกตาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ก่อนที่ชายหนุ่มแปลกหน้าข้างๆจะเอ่ยขึ้นมาว่า
" โอ๊ะ นั่นกลุ่มของข้านี่ ขอบใจเจ้ามากเลยนะเจ้า.... "
" ราเซีย "
พอราเซียเอ่ยนามของตนขึ้น นัยน์ตาของชายหนุ่มเบิกโตขึ้นเหมือนกับว่าเขาได้พบเจออะไรสักอย่างแล้ว แต่นั่นมันก็คงเป็นการเสียมารยาทที่ถามชื่อเธอเพียงฝ่ายเดียวแต่ไม่ได้บอกว่าตัวเขาเองชื่ออะไร คาเอล นั่นคือชื่อของชายหนุ่มที่เขาแนะนำตัวให้กับราเซีย
1 วันถัดมา
หิมะเริ่มตกเพราะฤดูกาลนี้คือหน้าหนาว ส่วนขบวนของคาเอลก็ได้หยุดพักที่หมู่บ้านแห่งนี้ คาเอลได้เล่าว่าขบวนของเขานั้นจะทำการเดินทางจากอาณาจักรแห่งหนึ่งไปยังอีกที่นึงซึ่งการเดินทางนั้นช่างยาวไกล และมันก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นักที่จะเดินทางในช่วงฤดูหนาว ที่ทั้งหนาวและอันตรายอย่างนี้ ขบวนของคาเอลเลยตัดสินใจที่จะหยุดพักที่หมู่บ้านของราเซียจนกว่าฤดูหนาวจะเบาบางลง
ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเป็นฤดูหนาวแต่ราเซียนั้นก็ไม่เคยที่จะหยุดเข้าป่าไปหาเสบียงเลยแม้แต่วันเดียว แต่ครั้งนี้ต่างไปจากเดิมเล็กน้อยเพราะมีชายหนุ่มอย่างคาเอลอาสาที่จะมาเป็นเพื่อนเธอ คาเอลค่อนข้างที่จะเป็นคนที่พูดมากเลยทีเดียวที่ขัดกับรูปร่างและหน้าตาของเขาที่งดงามเรากับภาพวาดทำให้บางทีราเซียถึงกับเอือมระอาเพราะอาการพูดมากของเขา พอราเซียมาหยุดที่ต้นไม้ใหญ่ที่ดูเหมือนจะเป็นต้นไม้ใหญ่และดูมีอายุมากที่สุดในป่าเขตนี้ ราเซียได้ทำการวางขนมอบแบบที่เคยทำทุกครั้งไป แต่คาเอลนั้นเพิ่งมาเห็นอะไรแบบนี้เขาก็ถามคำถามว่า.
ราเซีย จะวางขนมอบตรงใต้โคนต้นไม้ทำไมหรือ ทำแบบนั้นพวกสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยเช่นแมลงมันจะไม่มากินหรอ
ปกติข้าทำแบบนี้ประจำตอนข้าเข้ามาในป่าแห่งนี้ เพราะข้าคิดว่าต้นไม้ที่ดูมีอายุต้นนี้เป็นเหมือนเทพธิดาที่คอยปกปักรักษาผืนป่าแห่งนี้ อีกทั้งทุกครั้งที่ข้าได้นั่งใกล้ต้นไม้ต้นนี้รู้สึกเหมือนปลอดภัยทุกครั้ง สิ่งที่ข้าทำได้ที่เหมือนจะเป็นการขอบคุณก็คือการเอาขนมอบมาถวาย
หลังจากที่ราเซียพูดจบคาเอลก็ดูเหมือนจะมีการครุ่นคิดอะไรสักนิดกับตัวเอง....แค่เพียงชั่วครู่เท่านั้นสายตาของคาเอลจากเป็นมิตรก็เปลี่ยนเป็นมืดมนเหมือนมีนัยยะแฝงอะไรสักอย่าง แต่ถ้าหากราเซียไม่รู้อะไรเลยเธอก็คงเป็นคนโง่ที่เข้าป่ามาเฉยๆ ราเซียรับรู้ได้แม้จะเป็นแค่ไม่กี่วินาทีก็ตาม แต่ราเซียไม่ได้มีท่าทีที่ขัดแย้งอะไรเลยแม้แต่น้อย...บางทีเธอสงสัยว่าเธอก็อาจจะกลายเป็นคนโง่แล้วก็ได้ หลายวันมานี้ยิ่งนอนเธอยิ่งฝันฝันเห็นคาเอลที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเธออย่างมีความสุขในฝันนั้น แต่อย่างนั้นเธอก็ไม่เคยรู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย เธอยอมรับในใจว่าเธอนั้นแอบรักคาเอล แต่ก็มีบางอย่างคาใจเธอ คาใจเธอว่าเธอในฝันนั้นใช่เธอที่เป็นราเซียหรือเปล่า
ข้าว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้วล่ะคาเอล หิมะวันนี้ตกหนักกว่าปกติมาก ข้ามีที่นึงที่เอาไว้คอยพักเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ข้าตกลง ดูเหมือนยิ่งอยู่ข้างนอกยิ่งรู้สึกหนาวกว่าปกติ
ซ่อนสปอยล์
โหกระท่อมนี้ค่อนข้างดีใช้ได้เลยนะเนี่ย
ก็แน่นอนอยู่แล้วล่ะข้ากับพ่อของข้าช่วยกันทำขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่พักพิงแก่คนที่เข้าป่ามาแล้วเกิดเหนื่อยกลางทาง ได้เข้ามาพักผ่อนก็แค่นั้น
ภายในกระท่อม
ภายในกระท่อมที่อบอุ่นด้วยไฟของเต่าผิงเล็กๆ ก็ทำให้ราเซียนั้น อยู่ๆก็พูดอะไรบ้างอย่างขึ้นมา
นี่คาเอล ข้าขอถามอะไรได้หรือไม่?
ได้สิ
เจ้ามีคนรักมั้ย ข้าได้ยินมาว่าพวกคนชั้นสูงมีคู่ครองของตนตั้งแต่เด็กๆ นั่นจริงหรือ
ดวงตาของคาเอลเบิกกว้าง เหมือนตกใจกับคำถามของราเซียเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเงียบเพื่อเก็บสีหน้าตัวเองสักพัก และตัวของเขาก็เริ่มเล่าทุกอย่างให้ราเซียฟัง
ตั้งแต่วัยเด็กของคนชั้นสูงนั้น การจับคู่หรือมีคู่ครองตั้งแต่เด็กๆมันถือว่าเป็นปกติมาก ซึ่งตัวเขาเองก็เหมือนกัน คาเอลมีคู่ครองของตัวเองตั้งแต่ อายุ10ปี เขาเล่าว่าตอนที่ตัวเขานั้นเจอคู่หมั้นของตัวเองนั้น เรียกได้ว่ารักแรกพบเลยก็ว่าได้ ลักษณะของเธอในตอนนั้น ราวกับตุ๊กตา ดวงตากลมโต นัยตาสีเขียวอ่อน ผิวขาวสมวัย ริมฝีปากอมชมพู และผมสีบลอนด์สวย หลังจากที่ได้เห็นคาเอลก็สาบานต่อหน้าเด็กคนนั้นว่า จะรักและปกป้องไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่! นับตั้งแต่นั้นมาเขาทั้งสองได้รักใคร่กลมเกลียวกันมาตลอดจนกระทั่งคาเอลแล้วก็คู่หมั้นของเขาอายุได้ 15 ปี ก็ได้เกิดเหตุการณ์ใจหายเกิดขึ้น คาเอลนั้นได้สูญเสียคู่ครองอันเป็นที่รักของตนจากโรคร้ายที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้
คาเอลเล่าเรื่องจบตัวเขานั้นก็ทำสีหน้าที่เศร้า ราเซียพูดอะไรไม่ออก การที่เธอแอบรักคาเอลเพียงเพราะเห็นในความฝัน มันเป็นอะไรที่หน้าตลกสิ้นดี ...
วันเวลาผ่านไปจนจะหมดฤดูหนาว ความรู้สึกของราเซียก็แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าตัวของเธอนั้นรักคาเอล
นี่... คาเอล ไม่ไปได้ไหม? ข้าไม่อยากให้ท่านไปเลย อยู่ที่นี่ต่ออีกสักพักไม่ได้หรือคาเอล
.........
คาเอลไม่ได้พูดอะไรเขาเอาแต่ยิ้ม ใช้มือลูบใบหน้าของเราเซีย แล้วพูดบางอย่างที่โหดร้ายไป
ฉันรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร แต่หยุดคิดซะ มันไม่มีท่างเป็นไปได้หรอก ฉันมีแค่ นาเจีย เพียงคนเดียวเท่านั้น
พูด...เรื่องอะไรของเจ้า คาเอล
ราเซียหน้าชาไปหมด ไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร ไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไง ราเซียเจ็บไปหมดเธอไม่รู้จะรับมือกับความรู้สึกพวกนี้ยังไง แต่ก่อนจะได้พูดอะไร พ่อของราเซียที่แอบฟังมานาน ก็เข้ามาดึงตัวลูกสาวของเข้าออกไป
ทำไม.. ลูกดูเหมือนคนโง่เลยละท่านพ่อ ช่วงเวลาที่ฤดูหนาวผ่านพ้นไป มันยังเร็วไปกับสิ่งที่เรียกว่า ความรัก หรือท่านพ่อ
ราเซียเอ๋ย... เจ้าไม่ใช่คนโง่ ถ้าความรักมันทำให้คนได้รักคนนึงจนสุดหัวใจ พ่อเองก็คงโง่เหมือนกัน เพราะพ่อเองก็รักแม่ของลูกจนสุดหัวใจเช่นกัน
!!!!!!!!
เสียงเหมือนอะไรบางอย่างไหม้ เสียงกรีดร้องของใครหลายคนได้ดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน
ได้มีกองโจรกลุ่มหนึ่ง ได้บุกเข้ามาปล้นหมู่บ้านที่ราเซียอาศัยอยู่อย่างกระทันหัน
ไปขนมาให้หมด!!! ทั้งเสบียงอาหารและของมีค่า
สิ้นเสียงของโจร พวกมันก็เริ่มบุกเข้าบ้านเรือนของชาวบ้านทีละหลัง ท่ามกลางความชุลมุนนั้น ราเซียได้รีบไปช่วยชาวบ้านบางส่วนให้อพยพออกไปทางลับของหมู่บ้าน และหันไปเห็นคาเอล จากชายที่มีให้หน้าเหมือนรูปวาด ตอนนี้กลับบิดเบี้ยวและหวาดกลัวอย่างที่สุด
คาเอล!!!!!
ร.... ราเซีย
ท่านมาทำอะไรอยู่ที่นี่ตั้งนานสองนาน รีบไปรวมกับชาวบ้านบางส่วนได้แล้ว !!!
ราเซีย!! ช่วยตายแทนข้าที่ เจ้ารักข้าไม่ใช้หรอ รักข้าแล้วทำเพื่อข้าได้มั้ย ข้ายังไม่อยากตาย ข้าจะไปรอ นาเจีย กลับมาหาข้า!!! ช่วยตายแทนข้าที
.........?? !!!!
คาเอาได้เอามีดสั้น แทงเข้าไปที่ท้องของราเซียอย่างจัง ด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเขาก็เผยรอยยิ้มราวกับคนบ้า
...........
ก่อนที่เจ้าจะตายข้าขอเส้นผม กับเลือดของเจ้าไปให้นาเจียนะ แม่มดอีกที่หนึ่งสามารถนำนาเจียกลับมาหาฉันได้ ของแค่เอาเลือดและเส้นผมของเธอไป นางจะทำให้นาเจีย ฟื้นคนมาได้
คาเอลนั้น ใช้มีดสั้นที่เขาพกติดตัวแทงเข้าไปที่ท้องของราเซียหลายครั้ง จนไม่สามารถห้ามเลือดด้วยมือเปล่าได้ คาเอลตอนนี้นั้นเหมือนกับโรคจิตคนนึงที่พยายามเอาผ้ามาซับเลือดแล้วบีบเข้าโหลแก้ว และพยายามตัดเส้นผมของราเซียเอาไปกับตัวเอง เสร็จสรรพตัวคาเอลนั้นก็วิ่งเข้าไปในทางลับทางหนีของหมู่บ้าน ....... เพียงชั่วครู่ที่ราเซียสามารถขยับได้ในหัวตอนนี้เธอไม่ได้คิดถึงเรื่องความรักหรือชายหนุ่มอีกต่อไป เธอพยายามเอาร่างที่เจ็บปวดทั้งกายและใจ ใช้มือของเธอจับไปที่ไม้ที่กำลังโดนไฟไหม้เพื่อให้มันพังลงมาทับทางออก ตอนนี้เธอคิดภาวนาแค่ว่าขอให้พ่อของเธอแล้วก็คนในหมู่บ้านที่เหลือปลอดภัย
สภาพของเจ้าตอนนี้ช่างอนาถนัก โดนคนรักทรยศหรือยังไงกันแม่สาวน้อย เดี๋ยวกองโจรผู้นี้จะช่วยทำให้เจ้าพ้นจากความทรมาน เดี๋ยวนี้....
ข.....ข้า....
หลังจากสิ้นเสียงของราเซีย โจรคนนั้นก็ได้ลงคมดาบมาที่ตัวเธอ แล้วเดินจากเธอมาปล่อยให้เธอนอนอยู่กลางกองเพลิง
ทางด้านของคาเอลนั้นตัวของเขาได้วิ่งไปตามทางยาวที่เป็นอุโมงค์จนไปถึงแสงสว่าง ขอได้วิ่งชนกับชาวบ้านคนนึง จนทำให้เศษผมและเลือดที่อยู่ในโหลแก้วที่เขาเอามาด้วยหล่นลงพื้น เขาลุกลี้ลุกลนรีบเก็บของทั้งหมด แต่นั่นมันช้าไปเพราะคนที่เขาวิ่งชนก็คือผู้เป็นพ่อของราเซีย เขาไม่สนอะไรทั้งสิ้นเขารีบเก็บและกำลังจะวิ่งออกไปแต่มีบางอย่างขัดขวางเอาไว้
ในเมื่อตอนเจ้ามา เจ้ามาแต่ตัว เหตุใดตอนเจ้ากลับเจ้าจะพรากสิ่งสำคัญไปจากพ่ออันเป็นที่รักของเธอ ข้าขอเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย คือสิ่งที่เจ้าขโมยไปวางไว้อยู่ตรงหน้าบิดาของเธอเดี๋ยวนี้
ชาวบ้านทุกคนรวมถึงพ่อของราเซียก็ตกตะลึง เพราะว่าพวกเขาเพิ่งจะเคยเห็นเทพธิดาเป็นครั้งแรก แต่ถึงกระนั้น ตัวพ่อของราเซียนั้นก็ตั้งสติและทวนคำพูดของเทพธิดา
..... ไม่จริง ไม่จริง ไม่จริงๆๆๆๆๆ ลูกพ่อ!!!!!! ราเซียย!!!! ลูกสาวของพ่อ ฮือ!! ราเซีย
ตัวพ่อของราเซียนั้นได้วิ่งเข้าไปผลักคาเอลอย่างแรงและกอดเอาเศษผมและโหลแก้วที่เต็มไปด้วยเลือดของลูกสาวเอาไว้ในอ้อมอกของตัวเอง ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์พอเรียบเรียงสถานการณ์ได้ก็ต่างตกใจไปตามๆกัน
...ทำอย่างนี้ทำไม เจ้าทำอย่างนี้กับลูกข้าได้ยังไง ฮือ นางรักเจ้ามากนะ เจ้าทำร้ายลูกข้าทำไม ลูกสาวเพียงคนเดียวของข้า นางเคยทำอะไรให้เจ้าโกรธเกลียดแค้นหรืออย่างไร ทำไมต้องพรากนางไปจากข้า...
พ่อของราเซียโอดครวญด้วยความเจ็บปวดเจ็บใจ เขาเอาแต่ถามคาเอลด้วยคำถามเดิมๆว่า พรากลูกสาวเขาไปทำไม ฆ่าลูกสาวเขาทำไม ในขณะที่ทุกคนกำลังตกใจและเศร้าเสียใจ คาเอลก็ได้ใช้จังหวะนี้วิ่งหนีเข้าป่าเพื่อหลบหนีความผิดของตัวเอง
ฮึก..!! อ๊ากกกกก
...เจ้าจะหนีความผิดของตัวเองไปได้ยังไง ข้าไม่ให้อภัยเจ้า ทั้งทรยศความรู้สึกและหักหลังคนที่รักเจ้าแบบนี้ เจ้าคิดจะหนีไปใช้ชีวิตที่มีความสุขแบบที่เคยเป็นหรือยังไง ถ้านางตายเจ้าก็ต้องได้สิ่งเดียวที่เจ้าทำกับนางตอนนี้เลย!!!!...
เทพธิดาโกรธกริ้วเป็นอย่างมาก เธอได้เสกให้รากไม้มาพันรอบตัวของคาเอล แล้วค่อยๆบีบรัดตัวเขา กระดูกในร่างกายเขาค่อยๆแตกละเอียดไปตามแรงลัดแรงบีบของรากไม้ ในที่สุดตัวเขาก็ได้ตายลงเพราะที่เขาทรยศและทำลายความรู้สึกของราเซีย
.......
.......
.......
วันนี้ฟ้าครึ้ม และมีความเศร้าโศกเต็มไปหมดมันเป็นวันที่ชาวบ้านและพ่อของราเซียมาทำพิธีฝังศพของหญิงสาว
หากอีกภพชาติมีจริงลูกเอ๋ย พ่อไม่ได้ขอให้เจ้ามาเป็นลูกพ่ออีกครั้ง แต่พ่อคนนี้ขอให้เจ้าได้พบกับครอบครัวที่มีแม่และพ่อ เจอความรักและเพื่อนที่จริงใจต่อเจ้า นี่เป็นคำอวยพรครั้งสุดท้ายของพ่อคนนี้
หลังจากที่พ่อของราเซียพูดจบ ร่างของเธอก็ถูกนำลงหลุมแล้วถูกฝังกลบด้วยดิน ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ที่เธอชอบเอาขนมอบไปวางไว้ และราเซียก็ได้หลับไหลใต้โคนต้นไม้เหมือนกับการพักผ่อนที่เธอเหนื่อยล้าจากการหาของในป่า แต่ครั้งนี้เป็นการพักผ่อนที่เธอจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกเลย..............
...the end...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments