“กลรักบุรุษบ้านสวน” Y

“กลรักบุรุษบ้านสวน” Y

ตอนที่ 1 (ยังไม่แก้คำผิด)

ตอนที่ 1

(ยังไม่แก้คำผิด)

ช่วงเท้าของใครบางคนก้าวเดินผ่านผืนหญ้าและโคลนมา ก่อนที่เรือนร่างของชายหนุ่มที่แสนจะอิดโรยจะทรุดตัวลงนอนไปกับพื้นตรงนั้น ในใจของหนุ่มหน้ามนต์ได้แต่หวังเล็กๆว่าจะมีใครผ่านมาเห็นและได้ช่วยเขาไว้ แต่เหมือนโชคชะตาไม่เข้าข้าง เพราะบริเวณที่เขานั้นนอนอยู่เต็มไปด้วยต้นอ้อยสูงใหญ่ เพียงแค่ยื่นก็แทบจะมองไม่เห็นอยู่แล้ว และตอนนี้เขานอนอยู่คงยากที่จะมีใครผ่านมาเห็น นี่เขาจะต้องมาจบชีวิตได้อนาถขนาดนี้จริงๆหรือ

เปลือกตาพริ้มค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆ ลมหายใจอ่อนค่อยๆโรยริน ก่อนที่สติในเซี่ยวสุดท้ายของชายหนุ่มผิวสีเผือกจะดับหลุดไป

แกไม่อาจเป็นเหมือนพี่สาวของแกได้หรอก ไม่มีวัน!!

เสียงของผู้เป็นบิดาดังซ้ำวนเวียนอยู่ในหัว ก่อนที่ภาพของพ่อจะปรากฏขึ้นมา ภาพเรื่องราวในอดีตอันแสนขื่นขมเล่นวนหลอกหลอนอยู่แบบนั้นไม่รู้จบ

อึก....

"ตื่นแล้วๆ" เสียงของหญิงสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเตียงเอ่ยขึ้น ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งออกจากห้องไป ทิ้งให้ชายหนุ่มใบหน้างามคล้ายหญิงนอนนิ่งอยู่บนเตียงท่ามกลางเสียงพัดลมเพดานที่ดังอยู่

นี่เขาอยู่ที่ไหน

ประโยคยอดฮิตสำหรับผู้ที่พึ่งได้สติหลังจากหลับไปไม่รู้กี่ชั่วโมง แต่มันก็ควรถามอย่างงั้นจริงๆสำหรับเขาแล้ว เพราะเท่าที่ดูบรรยากาศโดยรอบก็ไม่ได้มีความคล้ายโรงพยาบาลเลยสักนิด

แล้วเขาชื่ออะไร?

จู่ๆคำถามที่เขาตั้งคำถามแต่แรกก็แล่นเข้ามาในหัว เขาชื่ออะไรยังไม่รู้ด้วยซ้ำ จำได้แค่ว่าเขานั้นเหมือนจะถูกนำมาทิ้ง แล้วเขาดันรอดมาได้ จากนั้นก็เดินผ่านไร่สวนของชาวบ้านมา แล้วก็สลบไปเพราะร่างกายขาดน้ำและพิษของแสงอาทิตย์ แล้วเขาก็มาโผล่ที่นี่

กึก

ประตูไม้สักงานดีถูกเปิดออกก่อนคนภายนอกห้องจะเดินเข้ามาเป็นชายหนุ่มเรือนร่างสูงโปร่ง ผิวแทนใบหน้าหล่อเข้มและหญิงสาวในชุดผ้ากันเปื้อนกับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่คน

ทันทีที่พวกเขามาถึง ชายคนเดียวที่เข้ามาก็พุ่งเข้ามากระชากตัวเขาทันที ข้อมือขาวถูกมือหนาเต็มไปด้วยเส้นเลือดบีบเค้นอย่างแรงจนปวด ตามด้วยออกแรงพยามดึงร่างของเขาลุกออกจากเตียง

"ตื่นแล้วก็ไสหัวไป" คำแรกที่ชายหนุ่มคนนั้นเอ่ย ช่างเป็นคำทักทายที่ดีจริงๆ อะไรกันจู่ๆก็มาทำร้ายร่างกายเขาเสียอย่างงั้น ทั้งๆที่คนพวกนี้ก็ดูเหมือนช่วยเขาไว้ไม่ใช่หรือยังไง

"คุณเอกใจเย็นๆนะคะ" หญิงสาวรับใช้เอ่ยขึ้นปรามนายของตน

"ป้าใจผมรู้นะว่าป้ายังรักและเอ็นดูอีนี่อยู่" ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยขึ้น

"ไม่ใช่นะคะแต่ที่คุณเอกทำมันรุนแรงไปนะคะ มีนตราก็อยู่ตรงนี้เด็กเห็นมันจะไม่ดีนะคะ" ป้าใจเอ่ยก่อนจะพยามดึงร่างของเด็กสาวอายุวัยเพียงแปดขวบมากอดไว้

เอกยอมปล่อยมือออกจากแขนของหนุ่มน้อย ก่อนที่เขาจะขอให้ป้าใจพามีนตราลูกสาวของตนออกไปจากห้องนี้และปิดประตูเสียให้เรียบร้อย เหลือเพียงเขาและชายหนุ่มหน้าหวานเพียงสองคนในห้อง

"นี่ยังกล้ากลับมาที่นี่อีกงั้นหรอ?" เอกเอ่ยถามกับชายหนุ่มบนเตียงที่นั่งจับข้อมือของตน ก่อนที่ชายหนุ่มผู้นั้นจะมีสีหน้าที่ไม่เข้าใจกับสิ่งที่เอกนั้นถามไป

"อย่ามาทำเสแสร้งฉันรู้ทันคารมแสนยั่วสวาทของเธอแล้ว" เอกเอ่ยด้วยท่าทีรังเกียจอีกฝ่ายเอามากๆ

"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณพูดถึงอะไร แต่ฉันจำอะไรไม่ได้หรอก"

"อย่ามาตอแหล เธอเนี้ยนะจำไม่ได้ขายประวัติฉันไปเท่าไหร่แล้วล่ะจำไม่ได้ที่เธอว่า"

"ฉันจำไม่ได้จริงๆ ฉันรู้แค่ว่าฉันตื่นขึ้นมาแล้วก็เดินมาเรื่อยๆแล้วก็เป็นลมไป รู้ตัวอีกทีก็-"

ไม่ทันที่หนุ่มน้อยจะพูดจบ มือหนาของเอกก็เข้าไปบีบที่กรามของชายหนุ่มอย่างแรง เอกออกแรงไม่มากแต่ก็ทำให้แก้มขาวใสของชายหนุ่มเกิดรอยแดงเขียวได้แล้ว

"อื้อ" หนุ่มน้อยพยามดิ้นด้วยความเจ็บปวด มือบางก็ทุบไปที่หน้าอกแกร่งของเอกด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด ก่อนที่น้ำตาของเขาจะไหลออกมาด้วยความเจ็บปวดที่อดทนไม่ไหว

"น้ำตางั้นหรอ?" เอกเอ่ยเมื่อเห็นน้ำตาที่ค่อยๆไหลอาบแก้มของหนุ่มน้อยตรงหน้า

"นี่เธอร้องไห้งั้นหรอ"

"อื้อ อ่อย! "

"เธอกล้าบีบน้ำตาต่อหน้าฉันงั้นหรอ​​​!!!" เอกเอ่ยตะหวาดใส่ ก่อนที่เขาจะปล่อยมือออกจากใบหน้าของชายหนุ่มด้วยท่าทีหัวเสีย

"กลับไปซะ"

"ให้ฉันไปไหน?"

"มาทางไหนก็ไสหัวไปทางนั้น" เอกเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้ม

"ก็ฉันบอกอยู่ว่าฉันจำอะไรไม่ได้ จะให้ไปไหนล่ะ"

"กูบอกให้ไป​!!"เอกเอ่ยตะคอกอีกครั้ง ก่อนที่หนุ่มน้อยจะสะดุ้งด้วยความหวานกลัว เขาไม่มีทางเลือกทำได้เพียงเก็บซ่อนความกลัวแล้วเดินออกจากบ้านนี้ไป แม้เขานั้นจะยังไม่มีเรี่ยวแรง

ชายหนุ่ทเดินออกมาอย่างไร้จุดหมายรู้แค่เพียงตนต้องเดินออกมาให้ไกลจากบ้านหลังนั้นก่อนแล้วจะเอายังไงต่อค่อยคิดอีกที

ช่วงเท้าบางไร้รองเท้าห่อหุ่มก้าวเดินไปดนดินแห้งแข็ง ก่อนที่เขานั้นจะพบว่าที่นี่ก็คือส่วนหนึ่งของบ้านหลังนั้นแน่ๆ คิดว่าน่าจะเป็นส่วนเพาะปลูกที่ไม่ใช้แล้ว ดูจากสภาพที่ดินน่าจะปลูกพืชผลไม้แล้วตาย บวกกับที่นี่เหมือนถูกปล่อยให้รกร้างมีหญ้าขึ้นสูงเต็มไปหมด

แววตาคมพินิจสอดส่องทั่วบริเวณ ในตอนนี้เขารู้สึกว่าตนได้เดินมาไกลจากบ้านหลังนั้นมากพอสมควรแล้ว ชายหนุ่มมองไปมองมาก็เห็นว่ามันมีกระท่อมร้างเล็กๆอยู่กระท่อมหนึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเขามาก เขาไม่รอช้ารีบเดินไปที่นั่นด้วยท่าทีทุลักทุเล

เด็กหนุ่มคิดว่าตนน่าจะยังไม่หายดีจากการสลบไปครั้งที่แล้ว ทำให้ในตอนนี้เขานั้นยังมีอาการวินเวียนศีรษะอยู่ ก่อนที่จะได้เข้าไปหลบในกระท่อมเด็กหนุ่มได้เงยใบหน้าขาวเนียนขึ้นมองบนท้องฟ้าพบว่าในตอนนี้ก็เย็นแล้ว แถมฝนก็ทำท่าเหมือนจะตก เพราะฉะนั้นการเข้าไปพักในกระท่อมหลังนี้คงเป็นความคิดที่ดีที่สุด

แม้จะจากออกมาจากชายหนุ่มบ้าคลั่งนั่นแล้ว แต่สำหรับเขา เรื่องที่ชายหนุ่มได้พูดกับเขาทั้งท่าทีที่เหมือนเขาเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน กับท่าทีรังเกียจเขาจนออกนอกหน้า เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าชายหนุ่มนั่นจำคนผิดหรือเขาเคยอยู่ที่นั่นแล้วทำอะไรไม่ดีไว้จริงๆ

นั่งพักได้ไม่นานความมืดก็ค่อยๆคลืบคลานเข้ามา ก่อนที่เสียงฟ้าจะดังขึ้นบนฟากฟ้ายามเย็น แม้จะยังไม่ได้มืดค่ำ แต่คงเพราะฝนจะตก เลยทำให้ภายในกระท่อมที่ชายหนุ่มพักอยู่นั้น มืดไปหมดไร้เเสงสว่าง ครั้นจะหาอะไรมาช่วยให้แสงก็ยากเพราะมันมืดไปแล้ว หาไปก็ไม่เจอเผลอๆ เสี่ยงโดนงูกัดเอาได้เพราะสภาพภายในกระท่อมก็รกเอาเรื่องอยู่

ฟ้าร้องสองถึงสามครั้งไม่นานฝนก็เทลงมาอย่างที่คาด เม็ดฝนตกลงกระทบหลักคากระท่อมน้อยช้าๆ ก่อนจะค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ จนตกแรงในที่สุด ชายหนุ่มที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อตนเองได้แต่นั่งกอดเข่าด้วยความหนาวเย็น ผ้าสักผืนก็ไม่มีมีแต่เก้าอี้ไม้เก่าๆ กับกระดานอะไรสักอย่าง

กระดาน?

เขาค่อยลุกขึ้นยืนช้าๆ ก่อนจะพยามเดินไปยังกระดานขนาดไม่ใหญ่มากโดยพยามใช้แสงสว่างจากฟ้าแล็บด้านนอกนำทาง และเมื่อเดินมาถึงเขาก็ไม่รอช้าหยิบกระดานนั้นขึ้นมาดู พบว่ามันคือเฟรมผ้าใบที่เอาไว้ใช้วาดรูป ชายหนุ่มรีบนำเฟรมนั้นไปตรงที่แสงฟ้าแล่บจะสาดส่องถึงเพื่อให้เห็นว่าเฟรมนั้นมีอะไรกันแน่

แสงจากสายฟ้าด้านนอกสว่างวาบพร้อมกับภาพบนเฟรมผ้าใบที่ปรากฏให้ชายหนุ่มนั้นได้เห็น และมันก็ทำให้เขานั้นตื่นตกใจเอามากๆ มือบางที่ถือเฟรมนั้นสั่นทอนอย่างเห็นได้ชัด เพราะรูปวาดนั้นมันคือรูปของชายหนุ่มที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับเขานั่นเอง

"ใครวาดรูปเราไว้เนี้ย....หรือ...แค่หน้าเหมือน"

ไม่ทันที่เขาจะได้สงสัยอะไรไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มต้องระทิ้งตวามสงสัยทุกอย่างเมื่อเขารับรู้ได้ถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึงตัวเขา

ปึก!!!

ประตูของกระท่อมที่ชายหนุ่มนั้นได้ล็อกเอาไว้ถูกอะไรบางอย่างกระแทก ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งไปหลบในมุมมืด ก่อนจะพยามใช้สายตามองผ่านความมืดเพื่อหาของมีคมหรืออะไรก็ได้ที่พอจะใช้มาเป็นอาวุธป้องกันตัว

เสียงเหมือนผู้ชายสองถึงสามคนกำลังคุยกันอยู่ข้างนอกกระท่อม ก่อนที่เด็กนุ่มจะพยามฟังว่าพวกนั้นกำลังพูดว่าอะไร

"ทำไมประตูล็อกวะ?"

"นั่นดิ หรือว่าเจ้าของไร่แม่งมาล็อกวะ"

"ได้ไงมันบอกกับปากเองว่าพวกเราจะใช้ทำอะไรก้ทำไป แล้วมาล็อกแบบนี้ได้หรอวะ?"

"หรือว่า.....จะมีคนอยู่ข้างใน"

คำพูดนี้ขึ้นมาทำให้เด็กหนุ่มที่แอบอยู่นั้นเสียวหลังวาบ ก่อนที่เขาจะรับรู้ได้ทันที่ว่าตนเองนั้นไม่ปลอดภัยแล้วแน่ๆ ไม่ทันที่จะได้คิดอะไร ประตูไม้เก่าๆก็ถูกพวกชายหนุ่มสามคนนั้นพังเข้ามาอย่างง่ายดาย

"สวัสดีจ่ะ" หนึ่งในสามคนนั้นเอ่ยพูด

"ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง.....อยากจะบอกไว้เลยว่าตอนนี้พวกเราทั้งสามอยากเอามากๆ เพราะฉะนั้นออกมาเป็นของบำเรอในคืนฝนตกให้พวกพี่เสียดีๆ อย่าให้ต้องใช้กำลังกันเลยนะ"

ชายหนุ่มขดตัวแทบอยู่หลังโวฟาเก่าด้วยความตื่นกลัวอย่างถึงที่สุด จู่ๆน้ำใสๆก็ไหลออกจากตาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาทำไ้เพียงเก็บซ่อนความกลัวนั้นไว้ให้เงียบที่สุด ไม่ทำเสียงอะไรออกไปให้พวกนั้นได้ยิน

"คงไม่มีอะไรแล้วมั้งวะ" หนึ่งในสามคนนั้นเอ่ย

"เออแม่ง เสียดายคิดว่าจะได้เจอของดีซะแล้ว กลับไปตอกเองที่บ้านก็ได้วะพวกมึง" พวกนั้นเอ่ยคุยกันก่อนที่จะพากันเดินออกจากตรงนั้นไป ส่วนชายหนุ่มนั้นเขารอให้แน่ใจก่อนว่าพวกนั้นจะไปกันจริงๆแล้ว เขาจะรีบหนีออกไปจากที่นี่ทันทีแม้ฝนจะยังตกก็ตาม

เมื่อเห็นว่าด้านนอกปลอดภัยแล้ว เขาไม่รอช้ารีบลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งออกไปทางประตูทันทีก่อนจะโดนอะไรบางอย่างรั้งเขาไว้ที่แขน เมื่อหันไปมองก็พบว่าพวกมันนั้นยืนดักรอเขาอยู่ที่หน้าประตู

"จะไปไหนครับเด็กหนุ่มสุดน่ารัก"

"นี่คิดว่าพวกพี่โง่หรอคะ ที่นี่ไม่มีใครอยู่นอกจากพวกพี่ แล้วข้าวของกระจัดกระจายขนาดนั้นคงคิดว่าเป้นแมวแน่ๆ" ชายหนุ่มที่ท่าทีคล้ายหัวหน้าแก้งค์เอ่ย ใบหน้าเข้มแต่ผิวขาวที่คิ้วมีรอยบั้งเพื่อความเท่ห์ จมูกโด่งกดสูดดมที่ต้นคอขาวของชายหนุ่มทันที

"เนื้อหอมซะด้วย"

"อย่าทำอะไรผมเลยนะ ผมแค่หลงทางปล่อยผมไปเถอะ" ชายหนุ่มเอ่ยร้องขอชีวิต

"ไม่พวกพี่ไม่ได้จะทำร้ายน้องหรอก แค่จะพาน้องไปสวรรค์ก็เท่านั้นเอง" สิ้นคำพูดคนที่รั้งแขนของชายหนุ่มก็ออกแรงดึงพาเขากลับเข้าไปในกีะท่อม แต่แน่นอนว่าเขานั้นย่อมต้องขัดขืนอยู่แล้ว ดีที่เขายังเป็นผุ้ชายด้วยกันแม้แรงอาจจะสู้ไม่ได้แต่ก็พอที่จะสะบัดให้แขนหลุดออกมาได้ เขาสะบัดแขนอย่างแรงจนหลุดออกจากพันธนาการของพวกมัน แล้วรีบสาวเท้าวิ่งออกมาทันที

ก่อนจะโดนหัวโจ่กพุ่งเข้ามารัดคอเขาไว้ด้วยท่อนแขนแกร่ง อย่างรวดเร็ว โดยที่เขานั้นแทบจะต่อต้านอะไรไม่ได้เลย

"พี่บอกแล้วไงว่าอย่าขัดขืน" มันเอ่ยขึ้นก่อนจะเหวี่ยงร่างขแงชายหนุ่มไปอย่างแรง กระแทกเข้ากับโซฟาเก่า ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้ามารุมข่มขืนเขาทันทีทั้งสามคน

มือบางทั้งสองถูกรั้งไว้กับโซฟาด้วยแรงกดจากชายเพียงคนเดียว ก่อนที่หนึ่งในสามจะก้มลงมาดูดขบเม้มเนื้อคอเนียนอย่างหื่นกระหาย

"อื้อ​!! ปล่อย....นะ" เสียงแหบพล่าเอ่ยขึ้นอย่างทุลักทุเล ก่อนที่เขาจะใช้ขาของตนเตะเข้าไปที่ระหว่างขาของชายที่ก้มไซร้คอของตนอยู่ ทำให้มันร้องออกมาด้วยความจุกและเจ็บอย่างดัง

"อีเหี้ยไม่ยอมดีๆใช่ไหม!!!??"

มันเอ่ยพูดก่อนที่มันจะพุ่งเขช้ามาสาวหมัดหนักใส่ท้องของเด็กหนุ่มทันที แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาสลบเหมือนในละคร เขากัดฟันทน ออกแรงถีบหน้าสวนไปอีกหนึ่งที จนชายคนนั้นหงายท้องล้มลงไปนอนกับพื้น

"คนสวยดื้อหรอคะ พี่ต้องดุแล้วนะ" หัวโจ่กเอ่ยก่อนที่มันจะขึ้นคร่อมร่างของเด็กหนุ่มแล้วรัวหมัดใส่ท้องของเด็กหนุ่มไม่ยั้ง จนเชานั้นจุกจนแทบร้องไม่ออก ก่อนที่เขาจะทนความเจ็บปวดไม่ไหวสลบไปในที่สุด สติทุกอย่างดับมืดพร้อมกับคำพูดตัดพ้อในใจว่าตนนั้นได้ทำเต้มที่ที่สุดแล้ว หากต้องตายก็คิดว่าถึงคราวเสียจริงๆ

"พวกมึงทำเหี้ยอะไรกัน​​!!??"

"เฮียเอก​!!?"

TBC.

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!