...พาทย์คุณนที(โนอาห์)...
หลังจากที่ผมทนฟัง2สามีภรรยาเถียงกันสักพักผมเลยตัดสินใจเดินออกมาสำรวจรอบๆตัวบ้าน ข้างนอกบ้านก็จะมีสวนหย่อมให้ได้พักกายพักใจแล้วก็มีดอกไม้ต้นไม้หลายพันธุ์ มาจากหลากหลายประเทศมีทั้งดอกกระดุมทอง ดอกดาหลา และอีกมากมาย บากดอกผมก็ไม่รู้จัก มีทั้งดอกไม้ที่มาจากต่างประเทศและในประเทศ ผมเดิมชมนกชมไม้ไปได้สักพักก็มีเสียงแอะอะโวยวายมาจากในบ้านจนผมต้องสาวท้าวเข้าไปดูสถานะการกลัวว่าบ้านจะถล่มซะก่อนเพราะเสียงที่ผมได้ยินคือเสียของคุณหญิงจอมโวยวายยังไงหล่ะครับ
...ภายในบ้าน...
"นี่คุณปล่อยลูกไปได้ยัง!!!" "ลูกยิ่งจำอะไรไม่ได้อยู่ด้วยดิฉันปวดหัวกับคุณพี่มากนะคะ" คุณหญิงได้โวยวายขึ้นเมื่อเห็นว่าลูกที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตนได้หายไป "โถ่คุณลูกคงไปเดินเล่นสูดอากาศแหละ" "นี่คุณไม่หวงลูกเลยหรอ ลูกทั้งคนเลยนะคุณ!!" "คุณหญิง! ตั้งสติก่อนอย่าห่วงลูกเกินเหตุ" "คุณ..คุณตะคอกใส่ฉันปกติคุณไม่ทำ คุณมีคนอื่นใช่มั้ย" "ไปกันใหญ่แล้วคุณ"
"อึก.!.ฮื้อ!!...ฟืด!..~.คุณเปลี่ยนไป" ผมที่ยืนมองสถานการณ์มาสักพักผมก็อดขำไม่ได้แค่ผมเดินออกมาดูรอบๆบ้านก็ทำให้สองสามีภรรยานี้ทะเลาะกันได้ดูๆไปแล้วสามีคุณหญิงนี่ตามใจภรรยาพอสมควรยอมทุกอย่างเลยผมคิดว่าถ้าไม่ยอมคงต้องมีบ้านพังกันบ้างแหละนี่แหละคับที่มาของคำคมที่ว่ารักชีวิตอย่าคิดสู้เมีย ผมรีบออกจากความคิดของตัวเองก่อนจะมีสงครามกลางบ้าน
"มีอะไรกันหรอคับ" ผมแกล้งถามเป็นมารยาททั้งที่ผมก็มองดูเหตุการณ์ต่างๆตั้งแต่ต้นจนจบ "นทีลูกป๊าเขาขึ้นเสียงใส่แม่" นั้นไงพอผมโผล่หัวมาก็ฟ้องผมทันทีแถมยังมากอดรัดผมไว้อีกหายใจจะไม่ออกอยู่แล้วโว้ย!!!! "แหะๆ..คุยกันเองดีกว่านะคับผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย" ผมตอบไปให้สุภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้พร้อมกับมือที่พยายามแกะกอดของคนที่กอดผมอยู่
"ทำไมคุณลูกเปลี่ยนไป" เขามองหน้าผมก่อนที่จะทำหน้าบึ้งตึงใส่ "นี่คุณหญิงลูกความจำเสื่อมจะให้เหมือนเดิมได้ยังไง" มีเหตุผล!ในที่สุดก็มีคนสติดีเพิ่มมาอีกหนึ่งคน "จริงด้วยสิ!" แหม๊ความจำสั้นจังนะครับคุณหญิง
"ถึงเวลาทานข้าวเที่ยงแล้วค่ะคุณหญิง" เสียงของสวรรค์! ช่วยชีวิตผมจริงๆถ้ามาช้าอีกนิดคงได้ตายคามือคุณหญิงนั้นแน่ ว่าแต่นี่เที่ยวแล้วหรอบ้านตั้งกว้างนาฬิกาไม่มีซักเรือน!!ให้ตายเถอะแล้วเขาใช้ชีวิตกันยังไงว่ะ นาฬิกาก็ไม่มี เวลาก็ไม่รู้ "เชิญค่ะคุณนที" "คับเดี๋ยวผมตามไป"
นทีได้บอกป้าก่อนที่จะเดินกลับออกไปทางสวนหย่อมและได้นั่งลงตรงเก้าอี้ไม้ที่แกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม ถ้าเป็นในยุคก่อนหน้านี้ที่ผมจากมาคงขายได้หลายล้านแต่สมัยนี้คงซัก....5-6หมื่นบาทเพราะสมัยนี้ไม้สักน่าจะมีเยอะแถมผมคิดว่าน่าจะมีการซื้อขายกันเยอะแถมต่อที่ผมย้ายมาอยู่ร่างนี้ บ้านนี้ สมัยนี้ ยังมีกลิ่นตลบอบอวนหอมจนเวียนหัวมีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆแต่กลิ่นที่ชัดที่สุดคือกลิ่นดอกมะลินี่ขนาดบ้านของคนธรรมดายังหอมขนาดนี้ถ้าในวังจะขนาดไหนกันว่ะ
"นทีลูก!" พึ่งได้พักหายใจมาอีกละคุณหญิงจอมป่วน "ครับว่ายังไงคับคุณหญิง" "ว๊าย! ตายแล้วเรียกคุณแม่สิคะลูก" "ครับคุณแม่" โอ้ย!!! กระดาษปากชิบหายให้ตายเถอะแม่ง! นี่กูมีแม่สองคนหรอว่ะตายๆๆ อยากจะเอาหัวมุดลงดินจริงๆ "แม่มาบอกเรื่องงานหนะช่วงเดือนหน้าจะมีงานแอ๊กสะบีเชน" ห้ะ!?ขออีกทีนะงานเชี้ยไรนะเอกอะไรนะ
"อ..อ๋อคับ" ผมตอบปากรับคำทั้งที่ไม่รู้เลยว่ามันคืองานอะไรหรือเทศกาลอะไรแถมยังไม่รู้เดือนรู้วันอีก อีกอย่างนะไม่มีเพื่อนไม่มีคนรู้จักโคตรอ้างว้างมันโล่งไปหมด "งั้นคุณแม่ไม่กวนแล้วนะคะคุณลูก" หลังจากที่พูดจบคุณหญิงก็รีบเดินออกไป แถมทิ้งข้อสงสัยให้ผมอีกมากมายทั้งเรื่องานเอกอะไรซักอย่าง คิดไปก็ปวดหัวป่าวๆค่อยไปด้นสดหน้างานละกัน เห้อไม่เข้าใจคนสมัยนี้เลยภาษาก็แปลกเหมือนภาษาไทยคำต่างดาวคำ ฟังไม่รู้เรื่องโว้ย!
"คุณหนูคะคุณท่านให้ตามคุณหนูไปทานข้าวค่ะ" นทีได้ออกมานั่ฃในสวนได้พักใหญ่ๆก็คุณป้าแม่บ้านหรือที่คนในบ้านเรียกว่าแม่นม "คับ เดี๋ยวผมตามไป" นทีได้เอ่ยออกไปก่อนที่จะเดินตามแม่นมเข้าไปในบ้าน
...พาทย์นที(โนอาห์) ...
ผมมานั่งบนโต๊ะอาหารยาวๆมีที่นั่งประมาน13ที่ฝั่งละ6ที่ละมีหัวโต๊ะอีก1ที่ผมนั่งกลางๆไม่บนมากและไม่ท้ายมาก มีอาหารประมาณ3-4อย่างวางตรงหน้าผมนี่ขนาดผมทานคนเดียวนะเนี่ย นี่ยังไม่รวมพวกขนมหวานอีกประมาน4-5อย่าง "ขอบคุณคับ" หน้างจากที่อาหารมาวางข้างหน้าผมได้สักพักผมก็เอ่ยขอบคุณป้าแม่บ้านที่เอาอาหารมาเสริฟถึงที่แถมยังเอาข้าวเอาน้ำมาให้ถึงที่นี่มันอยู่อย่างราชาชัดๆไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าจะได้ใช้ชีวิตที่สดวกสบายขนาดนี้ถ้าเป็นที่ที่จากมานะหญิงแม่คงใช้ให้ไปหางานหรือไม่ก็เอาผมไปฝากกับบริษัติดังๆให้ผมได้เข้าทำงานโดยใช้เส้นสายผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ ถามว่าไม่ชอบที่หญิงแม่ใช้เส้นสายหรอคับ? เปล่าเลยคับผมไม่ชอบที่หญิงแม่ใช้ให้ผมไปทำงานนี่แหละ หยอกๆนะคับไม่ดราม่ากันนะคับ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments