ชีวิตต่างโลกอย่างกับฝัน[ร้าย?]

ชีวิตต่างโลกอย่างกับฝัน[ร้าย?]

บทที่ 1 นี่ผมต้องมาตายทั้งๆแบบนี้เหรอ?

1

จะ...เจ็บจัง ตอนเเรกยังไม่รู้สึกเลยเเท้ๆ เเต่..เจ็บจัง อะไรอุ่นๆ น่ะ

ผมเอามือค่อยๆ เเตะบริเวรช่วงเอว พอโดนเข้าก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาอย่างมาก 'นี่มันเลือดนี่นา'

เลือดค่อยๆ ไหลเรื่อยๆ ความรู้สึกนี้ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเจอเข้ากับตัวจริงๆ

'จำไว้นะคะ...ที่นั่นคือโลกความเป็นจริง'

คำพูดของควอสดังขึ้นในหัว ขณะที่ผมกำลังหมดสติลง ทำให้ฉุกคิดขึ้นว่า 'เราทำพลาดอีกเเล้วสินะ' เเต่ก็สามารถช่วยชีวิตคนทั้ง 13 คนได้โดยที่พวกเขาไม่ได้รับอันตราย เจ็บคนเดียวมันดีกว่าที่ทุกคนต้องมาเสี่ยงเหมือนกัน

"นี่ฮารุ ทำใจดีๆ ไว้"

"นี่นาย....ตะ....มาสิ..."

"คุ...คะ......ฟื้น.....สิ"

เสียงของทุกคนกำลังเเตกตื่นกับสภาพของผมที่นอนจมกองเลือดตัวเองอยู่ มันรู้สึกเจ็บเกินกว่าคำบรรยาย

มันไม่เหมือนโดนของมีคมบาดเข้า ความรู้สึกเหมือนเจ็บเเทบทุรนทุราย เจ็บเหลือเกิน

สติของผมกำลังเลือนลาง มันมักจบงี้ทุกทีเลยที่ต่อสู้เป็นอย่างนี้ตลอด สลบทุกครั้งเลย....

ร่างกายของผมถูกอุ้มขึ้นโดยใครคนนึง เเต่เเล้วหลังจากนั้นผมก็หลับไปเเบบไม่รู้เรื่อง เเต่ความเจ็บเท่านั้นที่ยังคงอยู่

ไม่เอาเเล้ว....ไม่อยากรู้สึกเจ็บ....อยาก..กลับบ้านจัง...

ไม่เคยมีความคิดนี้ขึ้นมาในหัวเลย ว่าวันนึงที่มาต่างโลกเราจะต้องลงเอยเเบบนี้ คิดว่าจะได้สร้างฮาเร็ม ใช้ชีวิตสบายๆ ในเมือง ปราบจอมมารที่สู้ง่ายๆ

เเต่นี่มัน 'ที่นั่นคือโลกความเป็นจริง' จริงด้วย เราลืมสนิทเลยว่าที่เราสามารถกินสามารถสัมผัสได้สามารถหายใจเพราะว่า ตัวของผมนั้น 'ยังมีชีวิตอยู่' เพราะยังมีชีวิตอยู่ยังไงล่ะ

ผมอาจจะยังไม่ได้ตายจากโลกนั้นก็ได้เเต่เเค่ถูกย้ายมาเองก็เท่านั้น อยากเริ่มต้นใหม่จัง อยากเริ่มใหม่อีกครั้ง อยากที่จะ.....กลับไปเริ่มต้นใหม่ ทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างเลย ขอโอกาสอีกครั้งนึง

 

*************

 

 

“เด็กอายุ 13 ฆ่าตัวตายเพราะเชื่อว่าต่างโลกมีจริง”

“ต่างโลกมีจริงหรือไม่!!”

“คาดว่าการฆ่าตัวตายของเด็กๆนั้นมาจากความเชื่อว่าสามารถไปต่างโลกได้”

'มันต้องมีอยู่เเล้วสิผมใช้เวลา 6 ปีในการวิจัยเชียวนะมันต้องมีวิธีที่ดีกว่าการฆ่าตัวตายอยู่เเล้วล่ะนะ'

ผมใช้เวลานั่งอ่านข่าวประจำวันอยู่ที่ห้องของตัวเอง

ตัวผมไม่ค่อยจะออกไปไหนเท่าไหร่เลยมักถูกคนอื่นเรียว่าฮิคิโคโมริ ผมกำลังหาวิธีที่จะไปต่างโลกให้ได้

เคยอ่านมังงะหรือดูอนิเมะที่ไปต่างโลกไหมล่ะ

นั่นเเหละคือความฝัน ผมเชื่อว่าต่างโลกมันมีจริงๆ

เเต่เเค่ยังไม่รู้วิธีไปก็เท่านั้นเอง

 

 

2

 

วันนี้ไม่รู้นึกยังไงถึงออกมาจากห้องของตัวเอง ผมตรงไปที่ห้องสมุดเเห่งนึง

เพราะหวังว่าอาจจะมีตำราการไปต่างโลกหรือโลกต่างมิติอยู่ก็ได้

“หนังสืออยู่หมวดไหนนะ”

ผมพึมพำกับตัวเองระหว่างเดินวนรอบๆชั้นหนังสือเเต่นึกๆดูเเล้วก็มีข่าวนึงที่เกี่ยวกับ

การหายตัวไปอย่างปริศนาของหญิงสาวคนหนึ่ง ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรนักหรอก

เเละเธอก็หายไปหลายปีเเล้วด้วยที่พูดมาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่ผมต้องการรู้นี่นาชั่งมันก่อนดีกว่า

“หืม….!?"

ผมเผลอส่งเสียงดังออกมาไม่รู้ตัวเเต่ที่ผมตกใจก็คือตรงหน้าผมมันเขียนว่า ‘การไปต่างโลก’

มีหนังสือเเบบนี้ถูกตีพิมพ์ด้วยงั้นเหรอผู้เขียนก็ไม่ระบุ

มันเเปลกตรงที่เดินวนมาสองรอบเเต่ก็ไม่เจอเนี่ยเเหละ

เรื่องรายละเอียดยิบย่อยน่ะชั่งมันเถอะยังไงก็ขอยืมหนังสือเล่มนี้เเล้วกันนะจะเชื่อถือได้รึเปล่าก็ไม่รู้เเฮะผมเป็นโรคที่ไม่อยากออกไปไหนเพราะชอบหมกตัวอยู่ที่บ้าน

เเต่ที่หมกตัวนั้นก็เป็นเพราะความฝันที่อยากไปต่างโลกยังไงล่ะ

ปราบจอมมาร ผจญภัยไปเรื่อยๆ สร้างฮาเร็มสาวๆ…ไม่ใช่สิผมพูดผิดไป

ที่ผมฝันอย่างนั้นก็ออกจะเหมือนคนบ้านิดๆเลยนะ

“เอาล่ะซ้ายปลอดขวาโปร่งโถงทางเดินไม่มีคน!!”

ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะว่าป้องกันสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดนั่นเองชื่อที่เรียกกันโดยทั่วไปก็คือ ‘เเม่’

ที่ต้องเเอบย่องเบาๆเข้าบ้าน

นั่นก็เป็นเพราะถ้าเกิดรู้ว่าผมออกจากห้องล่ะก็คงจะเฮกันยกใหญ่

เคยมีเหตุการณ์นึงผมไม่ออกจากห้องสองอาทิตย์กว่าพอลงมากินน้ำเท่านั้นเเหละเเม่ผมก็โหวกเหวกดีใจยกใหญ่เลยจัดงานซะใหญ่โตเรียกเพื่อนบ้านเเทบทั้งซอยออกมาเลยล่ะ

ผมอายจนเเทบอยากเอาหน้ามุดดินหนี

“อ๊ะ…..!!”

“เวรละไง”

เเม่กับผมมพบกันโดยบังเอิญ นั่นเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากยังไงตอนนี้ก็ต้องวิ่งหนีไปก่อนละ

ใช่เเล้ว!!‘ทำเป็นไม่เห็นก็พอ’ พอคิดได้อย่างงั้นผมจึงรีบวิ่งขี้นห้องอย่างไวสายตาผมหันมาเห็น

เเม่กำลังตะโกนบอกให้พ่อเเละน้องสาวไปเรียกเพื่อนบ้านมา

                ตายังไม่ทันกระพริบเลยเเม่จัดงานเสร็จเรียบร้อยซะเเล้ว

‘ไวอะไรอย่างนี้เนี่ย’

“ฟู่…”

ผมที่ถอนหายใจเเละโล่งอกอย่างเเรงเพราะว่าดีใจที่รอดมาเเบบหวุดหวิดถ้าช้ากว่านี้อีกหน่อยมีหวังต้องใส่หมวกทรงกรวยนั่งเป่าเค้กเเน่ๆ

เเค่ออกจากห้องเองจะดีใจอะไรกันนักหนานะทำอะไรชอบโอเวอร์ตลอดเลยเห้อ

“ได้มาเเล้วหนังสือที่จะทำให้ฝันเราเป็นจริงได้มันมาเเล้วล่ะ!!”

ผมยืนขึ้นชูหนังสือที่พึ่งยืมมาด้วยความดีอกดีใจ สายตาของผมที่ดูโรคจิตเเละลิ้นที่กำลังเลียทั่วมุมปาก ผมดีใจที่เจอของที่ตัวเองต้องการมาตั้งนานเป็นใครก็ต้องดีใจเเน่นอนอยู่เเล้วเอาล่ะได้เวลาเปิดอ่านเเล้ว!

“อืม……'การไปต่างโลกนั้นขั้นตอนเเรกให้นำเเก้วน้ำมาหนึ่งใบ หยิบเเล้วใช่ไหม คงจะหยิบเเล้วล่ะนะ มาที่ขั้นตอนต่อไปกันเถอะ ขั้นที่สองฉี่ใส่เเก้วนั้นซะ อย่าพึ่งตกใจไปฉันรู้ว่านายกำลังอึ้งเเน่นอนเเต่ถ้าจะไม่ทำก็เรื่องของนายนะฉันไม่ได้บังคับนี่นา'อะไรกันเนี่ยนี่มันหนังสืออะไรกันเหมือนกับการโต้ตอบกันซะมากกว่าใครเป็นคนเขียนเล่มนี้กันนะ”

ผมงุนงง กับหนังสือนี่เเต่ก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามสินะ

“ฉันทำก็ได้ ‘ดีมากอย่างนั้นเเหละ’ เรียบร้อยเเล้ว ‘จากนั้นเอาเข้าปากอมไว้เเละกลั้นหายใจด้วยจนกว่าจะขาดอากาศไปเอง’ หา!!?”

นี่ผมต้องทำจริงๆเหรอไม่มีวิธีอื่เลยรึไง? ลองเปิดดูหน้าอื่นๆดูดีกว่าเผื่อจะมีหลายวิธี

ยังไงก็ต้องมีวิธีที่เข้าท่าบ้างแหละนะ

อืม…อืม…..อืม!!! ไม่มีเลย!! ทำไมหนังสือถูกเขียนซ้ำกันหมดเลย

“เอ๊ะ?…'ไม่มีวิธีอื่นหรอก อย่าดื้อเเล้วทำซะ' คำนี้ไม่ได้มีเขียนไว้นี่นาเพิ่มมาตอนไหนกันเนี่ย”

ดูเหมือนจะหมดทางเลือกเเล้วสินะยังไงก็คงต้องทำสินะคงต้องทำจริงๆนั่นเเหละ

เเต่ว่ามันจะทำได้จริงๆงั้นเหรอเนี่ยดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเลย

“อึก…อ่า…เเหวะ!!…อ๊อค!”

เข้าปากไปเเค่นิดเดียวเเต่กลิ่นของมันตีขึ้นจมูกมากเลย

มันรู้สึกอยากจะอ้วกตลอดเวลาเลยเหม็นมากทีหลังคงต้องกินน้ำเปล่าเยอะๆเเล้วสินะ

จะได้ไม่มีกลิ่นมีสีเเบบนี้ เอาไงเอากันอึกเดียวให้มันจบๆไปเลย!!

ต้องกลั้นหายใจด้วยเหรอเเล้วจะหายใจได้เมื่อไหร่ล่ะ

หนังสือเขียนไว้ว่าอะไรนะ ‘กลั้นไปเรื่อยๆอย่าถามเยอะ’ มาจากไหนอีกเเล้ว!!!

หนังสือนี่มันจะเเปลกเกินไปเเล้วนะเฟ้ย! อ่านทีเพิ่มทีมันยังไงกันละเนี่ย

ชักไม่ไว้ใจเเล้วสิเเต่จะให้หยุดตรงนี้ก็คงไม่ได้

ผมเลือกทำตามหนังสือนั่น โดยไม่ได้ไตร่ตรองความเป็นจริงกับความเพ้อเจ้อเลย

เค้าว่ากันว่าคนช่างฝันกับคนบ้ามีเส้นบางๆกันอยู่ คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าผมอยู่ฝั่งไหน

 

 

************

 

3

 

ผมหลับไปตั้งเเต่ตอนไหนก็ไม่รู้ตอนนี้มันมืดไปหมดเลยผมเป็นอะไรไปนะเเล้วทำไมเราถึงมาหลับอยู่ตรงนี้กันล่ะ นึกไม่ออกเเหะ อ่อคงเป็นเพราะไอหนังสือนั่นสินะ

ใช่เเล้วหนังสือที่มันบอกให้ผมกินฉี่ตัวเองเข้าไปกลิ่นมันยังอยู่ อยู่เลยจะล้างออกไหมนะอากาศเย็นๆนิดหน่อยเดี๋ยวนะรู้สึกเหมือนอยู่บนฟ้าเลย

“สวัสดีค่ะ”

เสียงผู้หญิงอย่างงั้นเหรอใครกันไม่ใช่เเม่นี่นาน้องสาวก็ไม่ใช่ใครกันนะเสียงช่างไพเราะรึเกินอยากเห็นหน้าจัง

“นี่ สวัสดีค่ะ”

พูดซ้ำอีกครั้งเหรอหรือจะเป็นเทพผู้ตัดสินความเป็นความตายกันเเน่นี่ผมตายเเล้วอย่างงั้นเหรอยังไม่ทันได้ทำอะไรสำเร็จเลย เเต่กลับต้องมาตายทั้งทั้งอย่างนี้เรานี่มันไม่มีอะไรดีเลยจริงๆนั่นเเหละ

“นี่ สวัสดีค่ะ!”

หืมมีหลายคนอย่างงั้นเหรอ อา~~มีคนมารอต้อนรับเเม้กระทั่งตอนตายเรานี่มันโชคดีสุดๆไปเลยนะอยากจะอยู่อย่างนี้ไปนานๆจังเลย

“นี่!!”

“โอ๊ย อะไรกันเนี่ย”

ผมลืมตาขึ้นมาเห็นเพียงเเค่ผู้หญิงใส่ชุดประหลาดๆยืนอยู่ท่าทางดูโมโหอยู่ด้วยอย่าบอกนะเธอคือคนที่ตีผมน่ะ?

“ฉันเรียกคุณตั้งสามครั้งเเล้วนะ! มัวเเต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่นเเหละค่ะ! นอกจากจะเป็นพวกคลั่งสาวครึ่งสัตว์เเละยังเป็นโรคจิตอีกเหรอคะเนี่ย!?”

อะไรกัน! เธอรู้ได้ไงว่าเราคลั่งสาวครึ่งสัตว์เอ้ยไม่ใช่เรื่องนั้นสิอยู่ๆมากล่าวหาว่าคนอื่นเป็นโรคจิตตั้งเเต่ครั้งเเรกที่เจอเนี่ยมันจะเสียมารยาทมากเกินไปเเล้วนะ

“นี่เธอว่าใครโรคจิตกัน!!??”

“ก็คุณนั่นเเหละค่ะโรคจิตโดนผู้หญิงเรียกเเล้วยังมายิ้มน่ากลัวใส่อีก อย่ามาใกล้ฉันนะคะฉันยังบริสุทธิ์อยู่ค่ะยังไม่อยากเเปดเปื้อนตอนนี้"

พูดเป็นตุเป็นตะเลยนะผมยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย เเล้วไหงมองผมด้วยสายตาที่เหมือนกับมองสิ่งมีชีวิตที่ดูไร้ค่ายิ่งกว่าปรสิตอีกล่ะเนี่ย

“ชั่งเถอะค่ะเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า”

ต้องงี้สิผมจะได้รู้สักทีว่าผมเป็นอะไรถึงตายไป

“ว่ามาเลย”

“ตอนนี้คุณได้ตายเเล้วค่ะ …..เอ๊ะไม่ตกใจอะไรเลยอย่างงั้นเหรอคะ”

ไม่ตกใจหรอกผมอยากตายนานเเล้วล่ะนะ เเต่จริงๆผมเเค่อยากไปต่างโลกเท่านั้นเอง

“เเล้วผมตายยังไงเหรอ”

“อยากรู้จริงๆเหรอว่าตายยังไง”

“ครับ”

“จำหนังสือที่คุณยืมมาจากห้องสมุดได้ไหมคะ นั่นเเหละค่ะเป็นหนังสือของฉันเองฉันเป็นเทพมีนามว่าควอสเป็นผู้ค้นหาผู้เหมาะสมที่จะช่วยโลกค่ะ เข้าเรื่องการเสียชีวิตของคุณกันเลยดีกว่า หลังจากที่คุณอมฉี่ของตัวเองนั้นเเละกลั้นหายใจ”

“ผมตายเพราะไม่หายใจเหรอครับ”

“ไม่ใช่เลยค่ะคุณตายเพราะเหม็นฉี่ของตัวเองจนทนไม่ไหวเเม่คุณพยายามจะพาคุณไปโรงพยาบาลเเต่กลิ่นฉี่ของคุณส่งกลิ่นเหม็นมาก จนพ่อเเม่คุณต้องซื้อบ้านใหม่เลยค่ะฮ่าฮ่าฮ่า คิกคิก ฉ…ฉันนั่งดูไปขำไปฮ่าอ่าไม่ได้เจอคนที่ทำให้ฉันหัวเราะเเบบนี้มานานมากเเล้วละค่ะ โอ๊ย คิกคิก หยุดขำไม่ได้เเล้ว”

อะไรกันเนี่ยการตายที่พิลึกนั่นไม่จริง!! ผมตายได้น่าเกลียขนาดนั้นเชียวเหรอ

“หยุดพูดทีเถอะ!”

“ฮ่าฮ่า นายทำฉันขำจนน้ำตาเเตกเเล้วเนี่ย โอ๊ย! หยุดเถอะขำจนท้องเกร็งไปหมดเเล้วฮ่าฮ่าฮ่า”

ผู้หญิงที่โผล่มาจากไหนไม่รู้กำลังถือถ้วยน้ำชาเเละหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เธอหลอกให้ผมทำอะไรที่มันไม่น่าดูเอาซะเลยเห็นเเล้วสมเพชตัวเองชะมัดเลย หน็อยถ้าเอาคืนยัยนี่ได้ก็ดีสิมันมีวิธีดีๆไหมนะทำให้คนอื่นตายไม่พอเเล้วยังมาหัวเราะกับวิธีที่ตัวเองคิดขึ้นมาอีกต่างหาก

“นี่เธอน่ะจะหัวเราะฉันอีกนานไหมห๊ะ?”

ใบหน้าผมไม่ขำกับเธอซักนิดเลยเเต่เธอยังหัวเราะไม่หยุดจนร่วงจากเก้าอี้จนได้ นั่นไงสมน้ำหน้า

“โอ๊ยเจ็บๆๆ”

เธอลุกขึ้นนั่งยองๆเอามือกุมหัวไว้ กระโปรงของเธอสั้นมาก เอ๊ะ! เดี๋ยวนะเธอไม่ใส่กางเกงในอย่างงั้นเหรอ!!

“นี่เธอ!! เป็นผู้หญิงอะไรไม่ใส่กางเกงในเนี่ย!?”

“เอ๋!!! นี่นายเเอบดูฉันงั้นเหรอเป็นไอบ้าโรคจิตจริงๆด้วยสินะ!!”

​

 

ใบหน้าเธอเเดงกล่ำซะเเล้วดูท่าจะโกรธมากเป็นยังไงล่ะโดนตัวเองซะบ้างรู้สึกยังไงละ

“เรื่องนั้นน่ะชั่งมันเถอะเเล้วเธอเอาหนังสือนั่นมาให้ผมทำไม”

เธอไม่สนใจเรื่องกางเกงในซักหน่อยเลยงั้นเหรอ ปล่อยตัวเกินไปเเล้ว

ผมค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอใกล้ๆ เธอเอามือปัดไปที่ก้นปัดเศษฝุ่นออกเเต่เท่าที่เห็นก็ไม่ได้มีฝุ่นมีเศษอะไรนะเเล้วเธอปัดอะไรของเธอกัน

“ก็นายอยากไปต่างโลกไม่ใช่เหรอ”

เธอเอานิ้วชี้มาที่ผมมือข้างนึงท้าวเอวเอาไว้ดูท่าทางมั่นใจสุดๆเเต่ที่พูดมาก็ไม่ได้มีอะไรผิดไปหรอกนะผมอยากไปต่างโลกจริงๆเเต่พิธีกรรมนั่นมันอะไร

“เเล้วทำไมต้องกินฉี่ตัวเอง?”

ผมเอ่ยถามไปเพราะสงสัยกับวิธีของเธอ

“จริงๆฉันจะเเค่ลงไปรับนายหรือเคลื่อนย้ายนายก็ได้ เเต่ก็อย่างที่บอกฉันไม่ได้หัวเราะมานานเเล้ววันๆ

ต้องดูเเลคนบนโลกตั้งเท่าไหร่ ที่เลือกนายก็เพราะนายมันคลั่งต่างโลกกับสาวหูสัตว์สุดๆไปเลยยังไงละ”

ยัยบ้า! โดนเเกล้งซะได้เเสดงว่าเธอเขียนวิธีพวกนั้นขึ้นมาเองตลอดเลยสินะ อย่าให้หาวิธีเอาคืนได้เชียวนะ

“อย่าพึ่งโมโหไปเลยค่ะ ฉันขอยื่นขอเสนอให้นะ นายจะได้ไปต่างโลกเเน่นอนเดี๋ยวฉันจะอธิบายให้ฟัง เอ๊ะไม่เอาดีกว่างั้นจากนี้ก็ขอให้คุณโชคดีกับการไปต่างโลกนะคะ ฉันจะคอยอวยพรให้คุณตลอดค่ะ…..จำไว้นะคะที่นั่นคือโลกความเป็นจริง"

หลังสนทนากันเสร็จผมก็หลับตาไปอีกครั้ง ไม่คิดจะอธิบายหน่อยรึไงว่าเป็นโลกเเบบไหนกัน

         ถ้าเป็นโลกเเฟนตาซีก็ดีหรือไม่ก็เป็นโลกเวทมนต์ โลกที่มีเเต่เผ่าครึ่งมนุษย์ก็ดีนะมีเอลฟ์ซักหน่อยก็ได้

ในที่สุดความฝันก็เป็นจริงสักทีจะได้เจอสาวสวยๆรึเปล่านะถ้าให้ดีก็อยากสร้างครอบครัวจัง

เเหมพูดเเล้วน้ำลายไหลเลย

 

 

***********

 

4

 

“อ๊ะ!?”

มีอะไรอุ่นๆมาโดนหน้าผากอยู่ด้วยเเถมยังหนืดๆอีกรู้สึกเเหวะๆยังไงชอบกลเเฮะ ผมลืมตาขึ้นมาเห็นเพียงกิ้งก่า ไม่สิจะเรียกมันว่าอะไรดีล่ะมันตัวใหญ่กว่ากิ้งก่ามากเอาเป็นว่า

มันคือมังกรไม่มีปีกเเล้วกันนะ เเยกเขี้ยวให้ซะด้วยฟันขาวเชียวนะ

“ช…ช้าก่อ….!!”

อ๊าโดนคาบไปเเล้วใครก็ได้ช่วยที เเถวนี้จะมีคนไหมเนี่ย ที่บอกโดนคาบไปเนี่ยไม่ใช่ใครอื่นหรอกผมนี่เเหละ

ที่เจ็บน่ะไม่ใช่โดนมันคาบหรืออะไรหรอกจังหวะที่มันวิ่งไปมาเนี่ย หน้าผมโดนกิ่งไม้โดนรังผึ้งใบหน้าผมถลอกหมดเเล้วถ้าจะฆ่าก็ช่วยฆ่าทีเดียวเถอะอย่าทรมานกันเลย

“เอ๊ะ!! ช่วยผมด้วย!!”

ผมพบเจอผู้หญิงคนนึงที่กำลังล้างหน้าที่ริมธาร ใบหน้าผมที่ดูไม่ได้เอาซะเลย

กำลังเรียกหญิงสาวคนหนึ่งท่าทีเธอดูตกใจอย่างหนักเลยล่ะนะไม่เเปลกหรอกโดนกิ้งก่ายักษ์คาบไปมา

                เเถมใบหน้าที่บิดเบี้ยวนั่นอีกสลบลงไปอีกเเล้วผมหลับไปอีกเเล้ว นี่ผมตายอีกเเล้วเหรอเนี่ยเเต่เอ๊ะ อะไรร้อนๆอุ่นๆเเถมยังเหนียวอีกต่างหากอะไรกันเนี่ยมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย

“เอ๊อะ! ชนอะไรวะเนี่ย”

จู่ๆผมก็ชนเข้ากับอะไรซักอย่างมันดูนุ่มๆเเถมเนื้อสัมผัสยังชวนน่าคลื่นไส้อีกต่างหากผมเริ่มได้ยินเสียงอะไรหน่อยนึงเเล้ว

เป็นเสียงผู้หญิงกับเจ้ากิ้งก่า!!

“ย๊ากก!! คายออกมานะเจ้าบ้า!!"

ไม่ผิดเเน่นอนเสียงที่ผมได้ยินต้องเป็นเเม่สาวที่ริมธารเเน่นอนนี่เธอมาช่วยสิ่งมีชีวิตที่ไร้ค่ากว่าไรน้ำอีกเหรอเนี่ยซาบซึ้งจนน้ำตามันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวเลยเเฮะ

นี่เราดีใจอะไรขนาดนี้นะ ตัดสินใจเเล้วเธอคนนั้นต้องเป็นเเม่ของลูกให้ได้ ไม่ใช่สาวหูสัตว์ก็ไม่เป็นไรไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ นี่คงจะเป็นสิ่งที่คนเค้ามักจะพูดกันสินะไอคำว่า ‘รักเเรกพบ’ น่ะต้องใช่เเน่ๆเลยต้องทำงานหาเงินเเล้วมาสู่ขอเธอซะเเล้วละ 'ถ้าช้าหมดอดนะ' คำโบราณว่าไว้

“หวา!!??”

ผมร้องเสียงหลงออกมา ตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นดาบเล่มยาวเเทงทะลุกำเเพงนิ่มๆนี่มาจะเรียกว่ากำเเพงก็กะไรอยู่

เหมือนมีอะไรเเดงๆไหลออกมาด้วย

“ล….เลือด เหรอ?”

“ออกมาได้เเล้วค่ะ”

เงาของคนคนนึงค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆพร้อมกับเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เสียงนั้นดั่งเทพธิดาลงมาโปรด ผมสีทองเเผ่สยายออกสีทองตกกระทบกับเเสงจนทำผมเกือบตาบอดเลยใบหนน้าของเธอยิ้มให้กับผมช่างสวยงามอะไรเช่นนี้

เเต่ใบหน้าดูมีความคล้ายคลึงกับคนบนโลกก่อนอยู่นะคงจะเป็นเพราะเป็นโลกเหมือนกันล่ะมั้งเลยมีอะไรที่คล้ายกันอย่างต้นไม้ใหญ่ พระอาทิตย์ สัตว์จะเรียกว่าสัตว์ดีไหมนะ

มันดูเเปลกไปจากปกติมากเลย

“นี่เป็นอะไรรึเปล่าคะ??”

เธอยื่นมือเข้ามาหาผมอย่างไม่รังเกียจเลยเเละถามด้วยความเป็นห่วงอีกต่างหากผมติดหนี้เธอเข้าซะเเล้วล่ะ

ไว้สักวันผมจะมาขอเธอเเต่งงานเเล้วกันนะช่วยอดทนรอวันนั้นอีกหน่อยเถอะ

“อื้ม ไม่เป็นไรขอบคุณที่ช่วยผมเอาไว้นะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

ทำไมรู้สึกหน้ามืด เหมือนจะล้มไปทั้งอย่างนี้เลยเริ่มยืนไม่ไหวเเล้วสิ ผมสูญเสียการทรงตัวไปจู่ๆก็ล้มพับลงไปนอนกับพื้นซะเเล้ว เธอคนนั้นตกใจใหญ่ลากผมไปที่เเม่น้ำ

‘เฮือกห…หายใจไม่ออก!! นี่อย่ามาโยนทิ้งอย่างนี้สิคนนะไม่ใช่อาหารปลา’

หลับไปอีกเเล้วผมนี่ตายบ่อยจังนะหรือเป็นเพราะไอเทพนั่นอีกคราวหน้าถ้าเจอจะไม่ยกโทษให้เเล้วคอยดูเถอะบังอาจเอาผมมาสนองความต้องการตัวเองซะได้….

 

 

************

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!