:
:
เสียงตะกุกตะกักปลุกห่าวซวนให้ตื่นขึ้นมาจากห้วงภวังค์ในใจนึกโมโหที่มาขัดจังหวะตน ซึ่งกำลังนอนซุกอกขาวเนียนสองลูก
ตุ๊บ~
“เจ้าอยากตายรึ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงลอดไรฟันทั้งๆที่ยังนอนกกกอดเจ้าตัวเล็กอยู่
แขกปริศนาเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“ลุกขึ้นมา”
ได้ยินเช่นนั้นห่าวซวนจึงรีบโพล่งตัวขึ้น เมื่อฝ่ายนั้นเผลอจึงหยิบเเจกันเขวี้ยงไปยังชายชุดดำ เพราะ ตนไม่ได้พกอาวุธไว้เลย
ชายชุดดำยืนนิ่งไม่ขยับ มือหนาข้างซ้ายแปรเปลี่ยนเป็นลายเสือพาดกลอน กรงเล็บที่เเหลมคมของมันตวัดเพียงครั้งเดียวเเจกันก็แตกสลายเป็นผุยผง
“พยัคฆ์” เขามีสีหน้าตกใจอยู่ครู่นึง เเน่นอนว่าชายผู้นี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจากพี่ชายฝาแฝดของตน
“ท่านพี่ห่าวหรานรึ” ถึงจะดีใจที่ได้พบพี่ชายที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปีแต่ก็อดหวั่นเกรงไม่ได้
“เจ้าพาสตรีมามั่วสุมเสพกามอีกแล้วรึ ข้าให้เจ้าไปตามหาใคร ” ห่าวหรานกดเสียงต่ำ ดวงตาสีทองเริ่มเด่นชัดขึ้นเวลาโกรธจัด
“ท่านพี่ต้องใจเย็นก่อน... เกิดข้อผิดพลาดนิดนึงระหว่างภารกิจ คือ.... ข้าเปลี่ยนร่างกลับเป็นมนุษย์ไม่ได้ จนมาเจอสตรีนางนี้ ”ห่าวซวนรีบแก้ต่างให้ตัวเองอย่างเร็ว
แค่กๆๆ
หนิงอันเหมิงที่อยู่ในห้วงนิทรา ใบหน้าหวานซีดเซียวลงมือบางกุมคอไว้สองข้าง ร่างบางดิ้นอย่างทุรนทุรายดั่งปลาขาดอากาศ
ห่าวซวนเห็นเช่นนั้นจึงขอร้องพี่ชายเลิกปล่อยรังสีอำมหิตเสียทีด้วยเกรงว่าหญิงสาวจะขาดอากาศตายจริงๆ เมื่อเห็นว่าห่าวหรานสงบสติอารมณ์ลงเเล้วเเละหญิงสาวก็นอนปกติตนจึงค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
“ข้าเข้าไปในเขตแดนเเคว้นซีได้เเล้ว เเต่น่าแปลกที่ข้าไม่สามารถใช้พลังได้เลยจนกระทั่งพบกับนาง น้ำตาของนางทำข้าเปล่งเสียงพูดได้เเละสามารถใช้พลังได้ในร่างกระต่าย กลิ่นกายนางหอมเย้ายวนถึงโง่ไปหน่อยก็เถิด” เขาว่าพลางทำหน้าเคลิ้มก่อนจะเคลื่อนย้ายไปนอนกอดหญิงสาวต่อ ห่าหรานมองด้วยสีหน้าเอือมระอาระคน
“น่าแปลกแคว้นซีเป็นเมืองที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับเเคว้นใด เเต่ดหตุใดถึงใช้มนต์ป้องกันศัตรูด้วย”ห่าวหรานมีสีหน้าเคร่งเครียด เเคว้นซีต้องมีควาลับบางอย่างเป็นเเน่เเท้ เเต่ว่ามันคืออะไรกัน
“ท่านจะทำยังไงต่อเรื่ององค์รัชทายาท”
“รอดูมันต่อไป”
ร่างบางดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนชายหนุ่มดวงตากลมโตค่อยๆขยับสั่นไหวไปมา
กรี๊ดดดด
หนิงอันเหมิงผลักชายหนุ่มออก ร่างบางถอยกรูจนหลังติดผนัง ดวงตาคู่งามสอดส่องไปทั่วห้อง(ทำไมข้าถึงยังไม่ตื่นจากฝันร้ายอีกเนี่ย) ก่อนสายตาจะไปหยุดตรงขอบหน้าต่างที่มีบุรุษหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับห่าวซวนนั่งอยู่เเตกต่างกันที่เขามีใบหน้าคมจริงจังอยู่ตลอดเวลา รูปร่างสูงใหญ่กว่าห่าวซวนหลายเท่า ต่างจากห่าวซวนโดยสิ้นเชิง เพราะ ห่าวซวนมีใบหน้าที่ออกไปทางหน้าถีบมากกว่าน่ามองเสียอีก
“ผะ ผีหลอก”นางมองหน้าเขาสลับกับชายหนุ่มขอบหน้าต่างอย่างไม่เชื่อสายตา
“นางโง่ดั่งที่เจ้าบอกจริงๆสินะ”ห่าวหรานเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉยชา
“ภรรยาข้า เจ้าไม่รู้จักฝาแฝดรึ”
“อยากมีผัวหน้าตาคล้ายกันสองคนมั้ยล่ะ หื้ม~”
“ผัวสองก็ดีเหมือนกันแฮะ หรือว่าจะเพิ่มอีกหนึ่งเเต่ถ้าเพิ่มอีกสองก็ดีเหมือนกันจะได้ลงเป็นสี่พอดี” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา เเต่ห่าวซวนขบกรามไปแล้ว1
“อยากโดนเอ็นฟาดปากรึ เเล้วจะนั่งท่านี้อีกนานไหม”ห่าวซวนขบกรามเเน่นไม่ต่างจากห่าวหรานที่กำลังสงบสติอารมณ์กำหนัด
นางก้มลงมองสำรวจตัวเอง นี่เขาจะไม่ใจร้ายมากเกินไปหน่อยหรอ เเค่ใส่เสื้อผ้าให้นางก่อนนอนมันอยากเย็นมากหรือไง นางจึงต้องดึงผ้าห่มผืนหนามาคลุมร่างตนเองด้วยใบหน้าที่แดงก่ำไม่รู้ว่านางเขินหรือโมโหกันเเน่
“ ยามซื่อ( 09.00 – 10.59 น.)เเล้วเจ้าไปแต่งตัวเถิด”ห่าวซวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทำเอาคนพี่เบะปากมองบน
“อือ”หนิงอันเหมิงใช้ผ้าห่มคลุมร่างเปลือยเดินขากะโผลกกะเผลกไปตลอดจนทางเดินจนถึงห้องอาบน้ำขนาดพอดี ในใจนึกขุ่นเคืองที่เขาทำแปนการนางพังตั้งเเต่ยังไม่เริ่ม นางก้มมองจุดกึ่งกายที่บวมเปล่ง หวังเพียงเเต่พี่ชิงชิงจะปลอดภัย
จะว่าไปเหมือนนางหลงลืมสิ่งใดไปสักอย่างคิดเท่าไหร่ก็ชวนให้ปวดหัวเสียจริง
“ภรรยา สามีอยากปรนนิบัติเจ้าอาบน้ำได้หรือไม่”
“ไปตายซะ” เเต่ตอนเขาอยู่บนเตียงก็เร่าร้อนดีเหมือนกันนะ เรียกผัว เรียกเมียด้วย คิคิ
“ยัยเหมิงเหมิงสติๆๆ”นางตบไปที่แก้มตนเพื่อเรียกสติก่อนจะตั้งใจอาบน้ำต่อ
พระราชวังตงเย่ว
ห่าวหรานกับหนิงอันเหมิงเดินขนาบข้างกันมายังโถงพิธีการเเต่งตั้งองค์รัชทายาท ทั้งสองต่างเป็นที่จับจ้องผู้คนมากหน้าหลายตา นางเลือกที่จะปิดหน้าตาแต่ก็ไม่สามารถปกปิดความงามภายนอกของตนได้ รูปร่างที่บอบบางเอวคอดกิ่ว หน้าอกที่เเทบจะปริแตกออกจากชุด ส่วนห่าวซวนไม่รู้เขาไปไหน
“ห่าวซวนล่ะ”นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาหวิวราวกับอากาศเเต่มีหรือพยัคฆ์เช่นเขาจะไม่ได้ยิน
“ท่านเเม่ปกปิดชาติกำเนิดของเขามาตั้งเเต่ตอนที่เขาเกิดจึงไม่มีผู้ใดทราบว่าเขามีตัวตนอยู่จริง” สองพี่น้องคู่นี้แปลกแหะ
“ประมุขหอเฟิ่งหวง เสด็จ” หลี่กงกงขันทีคนสนิทเอ่ยด้วยน้ำเสียงเล็กแหลม
“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท ขอให้พระองค์อายุยืนหมื่นปี หมื่นๆๆปีพะย่ะค่ะ”
“เอาล่ะ ไม่ต้องเกรงใจ เชิญนั่งๆ” ฮ่องเต้ในวัยชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนปนอบอุ่น
“ว่าเเต่เเม่นางรูปงามผู้นี้คือ......”
“ว่าที่คู่หมั้นกระหม่อมเอง”
“ได้ยินว่ามีหญิงสาวหลายตระกูลเเต่งเข้าจวนเจ้าเเล้วตายไปหลายคนเเล้วหนิ ข้าว่ายกเเม่นางน้อยผู้นี้ให้ข้าเถิด” นางหันไปตามเสียงจึงพบเข้ากับสองร่างในชุดสีแดงมงคลสะพรั่ง หนึ่งในนั้นคือ «โหย่วอี้ ชายหนุ่มอันเป็นที่รัก นางจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ารักเขาได้อย่างไร เเต่ยามใดที่จะนอนคำมั่นสัญญาที่เขาจะเเต่งกับนางก็ผุดขึ้นมาทุกค่ำคืน»
“อึก ข้าปวดหัวเหมือนศรีษะจะระเบิด....” หญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด เขาจึงพาเธอไปนั่งและเลือกที่จะเมินคำพูดกระแหนะกระเเหนของโหย่วอี้
“องค์ชายเเคว้นซีเสด็จ~~~~”
^^^ยังไม่ได้ตรวจคำผิด งานเยอะมาก+ขี้เกียจ เลยมาอัพช้าไปหน่อย🥺❤️❤️❤️❤️^^^
^^^ตัวละครเพียงสมมุติขึ้นเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและไม่ควรลอกเลียนเเบบ ขอให้อ่านเพื่อความเพลิดเพลินเพียงเท่านั้น^^^
^^^สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมาย^^^
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments