.
.
หลังจากออลไมท์ส่งเด็กหนุ่มกลับบ้านแล้วเด็กหนุ่มก็ขังตัวเองอยู่ในห้องเพื่ออ่านหนังสือ โดยเฉพาะภาษา ถึงเขาจะพูดได้แบบปกติแต่นั่นก็เพราะความเคยชินของร่างกาย เขาไม่ได้รู้ภาษามนุษย์ ถึงจะเห็นบางภาษาที่มันคล้ายกับเเดนเทพก็เถอะ
ยังไงก็ตาม ภาษาพวกนี้สำหรับเขาแล้วนั้นถือว่าง่ายพอตัวเลย คนละขั้นกับให้ไปนั่งวาดค่ายกลเสียอีก อีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือ หนังสือเกี่ยวเทคโนโลยีพื้นฐาน เขาเห็นโค้ดมากมายมันเหมือนกับอักขระที่เขาต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจอยู่เสมอจึงไม่ยากเท่าไหร่
.
.
และแล้ว
เช้าวันต่อมา
เด็กหนุ่มยืนมองชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนที่เขาต้องไปนิ่ง
"เสื้อผ้าพวกนี้...มันใส่ยังไง..."
เด็กหนุ่มเหลือบตามองไปที่ตู้หนังสืออันใหญ่ที่เขาพึ่งได้มา
"จริงสิ มีหนังสือการใช้ชีวิตประจำวันพื้นฐานนี่นา หวังว่าจะมีวิธีใส่เสื้อผ้านะ.."
ว่าแล้วมือเรียวก็ได้หยิบหนังสือออกมา1เล่ม เป็นหนังสือที่ค่อนข้างหนาพอตัว มีทั้งหมดเกือบ400หน้ากระดาษ
ใช้เวลาอยู่เกือบ10นาทีในการใส่เสื้อผ้า แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าไอ้เศษผ้าสีแดงๆ(เนคไท)มันใส่ยังไง
"มีตารางเรียนแต่ละวันด้วยสินะ นั่นม่าม๊าจัดไว้ให้แล้ว ดีจัง"
เนคไทที่เด็กหนุ่มยังไม่รู้ว่าต้องใส่ยังไงถูกพาดไว้บนไหล่ กระเป๋าสีเทาที่ซื้อมาใหม่ถูกสะพายไว้ที่ไหล่ข้างเดียว
เด็กหนุ่มเดินลงมาด้านล่างก็เจอกับมิโดริยะ อิงโกที่กำลังวางจานกับข้าวบนโต๊ะพอดี
"อ้าว อิสึคุ มากินข้าวก่อนสิลูก"
เด็กหนุ่มก้าวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ หยิบช้อนกับซ่อมขึ้นมาแทนการใช้ตะเกียบ และลงมือกินทันที
"จะทานแล้วนะครับ.."
หญิงสาวมองลูกชายของเธอที่กินจนแก้มป่องแล้วยิ้มอ่อน
เมื่อทานข้าวเสร็จแล้ว เด็กหนุ่มรอให้หญิงสาวเก็บจานไปล้างในครัวแล้วลุกขึ้นเก้าเดินเข้าไปหา มือเรียวหยิบเนคไทขึ้นมา
"ม่าม๊า ใส่ให้หน่อย..ครับ"
หญิงสาวงุนงงเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน รับเนคไทจากมือเด็กหนุ่มเก้าเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วลงมือผูกให้ทันที
"ไปดีมาดีนะจ้ะ"
"ครับ!" เด็กหนุ่มเปิดประตูออกไป
.
.
ระหว่างที่เดินไปโรงเรียนเด็กหนุ่มก้มหน้าก้มตาดูแผนที่ในโทรศัพท์ที่เขาพึ่งหัดใช้เมื่อเย็นวาน ถึงไม่มองทางข้างหน้าแต่เขากลับไม่เดินชนหรือสะดุดเลยสักครั้ง
เมื่อถึงหน้าโรงเรียนนิ้วเรียวกดเปิดดูแผนผังของโรงเรียนที่ออลไมท์ส่งมาให้ก่อนจะเดินเข้าไป เขาก็ยังเดินก้มหน้าดูแต่ในจอโทรศัพท์
จนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่ที่เขียนว่า 1-A
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อ มือเรียวเอื้อมเปิดประตู
หลายคนในห้องหันมองมาที่เขาและต้องตกใจตาค้าง
เด็กหนุ่มกวาดตามองรอบห้อง ขาเรียวเก้าเดินไปยังโต๊ะที่นั่งเยื้องถัดจากชายหนุ่มผมสีฟางท่าทางไม่สบอารมณ์ โดยไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่มองตามเขาจนกระทั่งนั่งลงที่โต๊ะ อีกสิ่งที่ดึงดูดพวกเขาก็คือเนคไทที่เจ้าตัวผูกมาแบบปกติไม่เหมือนทุกที
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น กวาดตามองเหล่าคนที่มองเขาอยู่พร้อมเอียงคออย่างสงสัยแต่เขาไม่คิดจะถามหรอกนะ เด็กหนุ่มละความสนใจออกไปที่หนังสือภาษาคอมพิวเตอร์ที่เขานำมาด้วย
หารู้ไม่ว่ายามที่ผู้คนที่ได้สบตาสีมรกตของเขานั้นได้ตกอยู่ในภวังค์จนโงไม่ขึ้น
อ่า ยกเว้นไว้คนนึง บาคุโก คัตสึกิ เจ้าตัวนั้นไม่ได้มองเด็กหนุ่มเลยตั้งแต่แรกที่เปิดประตู
"ฟังทางนี้! ถึงชั่วโมงโฮมรูมแล้วไปนั่งที่ซะ!" เสียงตะโกนจากหน้าห้องเรียกความสนใจทุกคนไปไม่เว้นแม้แต่ตัวเด็กหนุ่มเอง
"พวกเรานั่งกันหมดแล้วเหลือแต่นายนั่นแหละที่ยังไม่นั่ง" ชายหนุ่มผมดำที่มีฟันเหมือนอสูรทะเลในสายตาเด็กหนุ่มกล่าวขึ้น
ประตูถูกเปิดเข้ามาพร้อมร่างชายผมดำยาวประบ่าดูรุงรัง
"อรุณสวัสดิ์..." ชายผมดำที่ผิวหนังเหมือนปีศาจมัมมี่ในสายตาเด็กหนุ่มกล่าวขึ้น
"อาจารย์ไอซาวะกลับมาแล้วเรอะ!!?"
"อาจารย์ไม่เป็นไรนะครับ!?" ชายหนุ่มสวมแว่นที่เหมือนเผ่าโกเลมศิลาในสายตาเด็กหนุ่มยกมือถาม
"นายคิดว่าเขาไม่เป็นไรจริงหรอ!?" หญิงสาวผมสีน้ำตาลเอ่ย
ชายผมดำที่เด็กหนุ่มคิดว่าน่าจะเป็นอาจารย์ที่นี่เหมือนออลไมท์ได้เดินมาที่โต๊ะหน้าห้อง
เขาละความสนใจมาที่หนังสือที่ยังอ่านค้างไว้
"ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ศึกมันยังไม่จบหรอกนะ"
ด้วยคำว่าศึกนั้นดึงดูดเขามาก มือเรียวล้วงหยิบที่คั่นหนังสือสีดำรูปกระบี่ขึ้นมาแล้วปิดหนังสือ เงยหน้าขึ้นฟังอย่างตั้งใจ
เสียงจากโต๊ะด้านหลังเด็กหนุ่มตะโกนขึ้นแต่เขาไม่ได้สนใจ
ไอซาวะ โชตะเหลือบตามองเด็กหนุ่มพลันร่างกายเกร็งขึ้นอย่างสังเกตได้ชัด แต่ไม่นานเขาก็ละออกไป
"งานกีฬาของUAใกล้เข้ามาแล้ว"
"งานกีฬา!!"
"ลืมเลยว่านี่มันโรงเรียนนี่หว่า!"
"เดี๋ยวก่อน! คงไม่มีวิลเลินรอบโจมตีอีกนะ!?"
เมื่อได้ยินว่าศึกนั้นคืองานกีฬา ตัวเด็กหนุ่มนั้นพอเข้าใจบ้างว่าหมายถึงอะไรและเป็นยังไงจากที่ออลไมท์เล่าให้ฟัง จึงละความสนใจไปในที่สุด
ไอซาวะอธิบายบางอย่างเกี่ยวกับโอลิมปิคที่กลายมาเป็นงานกีฬาของUA การจับตามองของเหล่าฮีโร่และโปรฮีโร่
"งานนี้จะมีปีละครั้ง... ซึ่งรวมกันทั้งหมด3ครั้ง ถ้าเธอเล็งที่จะเป็นฮีโร่อีเว้นท์นี้ก็ไม่ควรที่จะมองข้าม"
.
.
พักกลางวัน
เด็กหนุ่มนั่งนิ่งฟังคนในห้องพูดคุยกันเกี่ยวกับงานกีฬาและอื่นๆ มีศัพท์ที่เขาไม่เข้าใจมากมายจนสมองแทบรวน
ชายหนุ่มโกเลมศิลา(อีดะ)เดินเข้ามาหาเขา เด็กหนุ่มเงยหน้ามองอย่างสงสัย อีดะ เทนยะ เมื่อสบเข้ากับดวงตาสีมรกตและใบหน้าหวานต่างไปจากทุกทีพลันร่างกายแข็งเกร็งขึ้นมา
ไม่นานเมื่อเด็กหนุ่มละออกไปเขาก็กลับสภาพปกติ และเอ่ยถาม
"นายไม่รู้สึกรึไง? นายลงทะเบียนที่UAเพื่อเป็นฮีโร่มันก็ต้องฮึกเหิมเป็นธรรมดา!"
แล้วก็มีหญิงสาวผมสีน้ำตาลบอกว่าจะบดขยี้งานกีฬาพูดบางอย่างที่เด็กหนุ่มเข้าใจบางคำ
แล้วทั้ง2ก็เดินออกไป พวกเขาหันกลับมามองยังเด็กหนุ่มที่นั่งนิ่งแล้วเอ่ยถาม
"เดกุคุงไม่ไปกินข้าวหรอ?"
'เดกุ? ใครคือเดกุ? คุ้นเคยแปลกๆ แต่นางหันมาคุยกับข้าก็น่าจะเป็นข้าแหละ'
"ไป!" เด็กหนุ่มตอบรับเสียงใสพร้อมรอยยิ้มกว้าง
อา..เขารู้สึกเหมือนตัวเองจะยิ้มบ่อยขึ้นตั้งแต่มาที่โลกนี้นะ
หญิงสาวตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่พร้อมใบหน้าที่แดงซ่าน ชายหนุ่มโกเลมข้างกายเกิดริ้วสีแดงบนใบหน้า อาการของคนในห้องเองก็ไม่ต่างกันนัก
อ่า 2คนที่ควรจะรับดาเมจเผอิญว่าออกจากห้องไปแล้ว
ระหว่างเดินไปโรงอาหารเด็กหนุ่มทำได้แค่ฟังที่พวกเขาคุยกันเองเท่านั้น เขาไม่รู้จัก2คนนี้ และไม่รู้ด้วยว่าเป็นอะไรกับร่างจุติของเขา นั่นรวมถึงคนอื่นๆด้วย
ทันไดนั้นร่างมัสเซิลฟอร์มของออลไมท์ก็ได้มาปรากฎต่อหน้าเขา
"โอ้วว! หนุ่มน้อยมิโดริยะ! อยู่ที่นี่เอง!"
ออลไมท์ได้ยกข้าวกล่องห่อผ้าขึ้นมาเอ่ยถาม "เธอสนใจจะ...ไปกินข้าวกล่องกับฉันไหม?"
"พูดอย่างกะเด็กผู้หญิงชวนไปกินข้าวเลย!"
"ไปครับ!" เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง วิ่งเตาะแตะไปรับกล่องข้าวจากออลไมท์มาถือและเดินตามไป ทิ้งให้2คนยืนงงอยู่ตรงนั้น
.
.
"ออลไมท์อยู่ในร่างมัสเซิลฟอร์มได้50นาที!?"
"ใช่ นี่มันคือขีดจำกัดและมันก็สั้นลงมาก"
เด็กหนุ่มหงอยลงอย่างรู้สึกผิดซึ่งเขาไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน
ออลไมท์ที่เห็นท่าทางกระต่ายหูลู่ตกก็รีบพูดปลอบ
"อา! ไม่ต้องขอโทษหรอก! ที่สำคัญมาคุยเรื่องงานกีฬาดีกว่า"
เด็กหนุ่มยืดตัวตรงอย่างตั้งใจฟังมากๆ
"เธอควบคุมพลังได้แล้วสินะ เป็นยังไงบ้าง?"
'ห้ะ พลัง...อ่า ข้าเอาแต่อ่านหนังสือจนลืมไปเลย'
"ก็..นิดหน่อย..ครับ"
"เธอก้าวหน้าขึ้นแล้ว ฉันดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น"
"อ่า..ครับ"
'อ่า..นอกจากนี้ข้าก็สัมผัสได้ถึงจิต7ดวง ดูเหมือนจะเป็นจิตของผู้ครอบครองรุ่นก่อน..'
"พูดตามตรงฉันคงไม่มีเวลาเหลือมากนักที่จะยืนอยู่ในฐานะสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ"
"แสดงให้พวกความชั่วร้ายได้เห็น พวกนั้นจับตามองงานนี้อยู่แน่นอน"
"เหตุผลที่ฉันให้พลังนี้แก่เธอก็เพราะว่าฉันคาดหวังให้เธอได้สืบทอดจากตัวฉัน งานกีฬาของUAเป็นอีเว้นท์ใหญ่ที่ผู้คนจากทั่วทั้งประเทศจับตามองอยู่ สิ่งที่ฉันจะพูดไม่มีอะไรอื่น ในฐานะออลไมท์รุ่นต่อไปผู้สืบทอดสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ...มิโดริยะ อิสึคุ แสดงให้พวกเขาได้เห็น อยากให้เธอทำให้ทั้งโลกได้รับรู้เอาไว้"
เด็กหนุ่มฟังแล้วได้แต่นิ่งอึ้ง
'ขอโทษ..ออลไมท์ ตลอดมาข้าอยากจะเอาชนะพี่ๆกับท่านพ่อและขึ้นสู่จุดสูงสุดเท่านั้น'
'..ถึงข้าจะไม่เคยคิดจะฆ่าใครหรือใช้วิธีที่โหดร้ายแต่ฮีโร่คงไม่เหมาะกับข้า..ไม่สิออลไมท์เป็นคนแรกที่ทำให้ข้าได้มีความรู้สึกอย่างอื่น ต่อจากนั้นก็ม่าม๊า...ถ..ถ้าออลไมท์พูดเช่นนั้น งั้นข้าจะเป็นฮีโร่ก็ได้! ฮีโร่ที่จะช่วยผู้คนด้วยรอยยิ้ม!'
เด็กหนุ่มแย้มรอยยิ้มกว้างจนตาหยีตอบรับเสียงสดใสขั้นสุด ออลไมท์มองเห็นดอกไม้สีขาวเบ่งบานอย่างสวยงาม
อีกแล้ว!
ออลไมท์ขยี้ตามองอีกครั้ง
รอยยิ้มเด็กหนุ่มนั้นสว่างมากจนออลไมท์ได้แต่หรี่ตามองกลัวว่าตาจะบอด
.
.
หลังเลิกเรียน
เด็กหนุ่มเก็บกระเป๋าลุกขึ้นเตรียมที่จะกลับบ้านไปอ่านหนังสือและทำความเข้าใจอัตลักษณ์
"อะไรกันเนี่ย!!?"
หญิงสาวผมสีน้ำตาลเปิดประตูก็เจอกับเอ่อ...ญี่ปุ่นมุง? อยู่เต็มหน้าห้อง
"มากันเต็มทางออกเลย! มันอะไรกัน"
"มาสังเกตการณ์คนที่จะเข้าแข่งในไอ้โง่ คงจะอยากเห็นพวกที่จัดการวิลเลินได้สินะ คงมาเช็คพวกเราก่อนเจอกันในศึกใหญ่"
ชายหนุ่มผมฟางเดินไปแต่ถูกขวางทาง เขาหงุดหงิดเล็กน้อย(น้อยหรอ?)
"ไร้สาระกันจริงทำไมไม่ไล่ไอ้ญี่ปุ่นมุงออกไปวะ!"
"ฉันมาดูว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าแต่ไม่คิดว่าจะอวดดีอย่างนี้" ชายผมสีม่วงถูกเซ็ตขึ้นเดินแหวกฝูงชนออกมา จากนั้นเขาก็เริ่มพูดพล่ามบางอย่างเกี่ยวกับการโอนย้าย และประกาศสงคราม
จากนั้นเห็นคนผมสีเงินที่ประกาศตัวว่ามาจากห้องBบอกว่าอย่าทำขายหน้า
'มนุษย์เนี่ย ซับซ้อนจริง...ข้าอยากกลับบ้าน' เสียงในใจของจักรพรรดิน้อย
"เดี๋ยวก่อน! นายจะทำอะไร! ตอนนี้พวกเราถูกเกลียดเข้าไส้แล้วนะ!" ชายหนุ่มผมแดงกล่าวเสียงดังลั่น
"ช่างหัวมันสิ"
"หา!!?"
"ไม่ว่าจะเรื่องอะไรนายก็แค่ไปยังระดับท็อปให้ได้--" เสียงของเขาหยุดชะงักเมื่อเด็กหนุ่มผมเขียวเดินผ่านเขาไป
บาคุโก คัตสึกิอดจะต้องมองตามไม่ได้
เด็กหนุ่มได้เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าห้อง มองเหล่าคนที่ขวางอยู่ ใบหน้าเล็กง้ำงอลงคล้ายจะร้องไห้
"ผมอยากกลับบ้าน..."
เสียงต่างๆนั้นเงียบไปตั้งแต่พวกเขาได้เห็นหน้าเด็กหนุ่มแล้ว เสียงเล็กทุ้มหวานคล้ายกระดิ่งกังวานถึงจะไม่ได้ดังแต่ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน พลันทุกอย่างที่เงียบอยู่แล้วยิ่งเงียบไปหลายวินาที พวกเขาไม่ว่าจะผู้หญิงหรือชายล้วนใบหน้าแดงก่ำก่อนจะได้สติก็รีบแหวกทางให้อย่างรวดเร็ว
เด็กหนุ่มมีสีหน้าดีขึ้น
"บ๊ายบาย" หันไปกล่าวลาเพื่อนในห้องเสียงใสก่อนจะวิ่งผ่านผู้คนมากมายที่แหวกทางให้เขาออกไป
คนในห้องที่ได้รับรอยยิ้มกระชากวิญญาณและการกล่าวลาอย่างน่ารักจากเด็กหนุ่มนั้นต่างนิ่งค้าง ใบหน้าแดงก่ำอย่างขวยเขิน เสียงในใจของทุกคนคิดขึ้นพร้อมกัน 'ไม่เคยสังเกตุเลยว่ามิโดริยะจะน่ารักขนาดนี้!'
อ่า ยกเว้นไว้คนนึงกับอีกคนที่เดินออกประตูหลังไปตั้งแต่ก่อนหน้านั้น
บาคุโกมองปฎิกิริยาทุกคนที่ค้างไปแล้วหันมองตามแผ่นหลังเด็กหนุ่มเพื่อนสมัยเด็กของเขาพร้อมใบหน้านิ่วคิ้วขมวดแทบเป็นปม
'เดกุ? ไม่ใช่ หรือว่าเปลี่ยนไปงั้นหรอ? ไอ้ความรู้สึกนี่มันอะไร? หวงหรอ? ฉันคนนี้เนี่ยนะ!? แต่ว่า...เมื่อกี้เจ้านั่นโครตน่ารักเลย'
ชายหนุ่มยกมือขึ้นปิดปากของตนพร้อมใบหน้าขึ้นสี
'บ้าเอ้ย!' บาคุโกกระแทกเท้าเดินออกไปอย่างหงุดหงิดแต่ใบหน้าของเขานั้นขึ้นสีแดงชัดเจน
ㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡ
โฮะๆๆ เจ้าหมาระเบิด เอาไปกินซะ! ความน่ารักของมิโดริยะที่ไม่ใช่เดกุของแกน่ะ!
อะแฮ่ม..ใส่อารมณ์ไปหน่อย
เม้นสิ
เม้นเยอะๆ
เราชอบอ่านเม้นนะ
มันให้กำลังใจได้ดีมาก
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
สดใส
ทุกเรื่องเรื่องที่ไรท์แต่งมันสนุกมาก
2023-01-29
1