ห้อง425
“งั้นเรามาทำข้อตกลงการอยู่ร่วมกันดีกว่า”พ่อเทพบุตรของฉันพูดขึ้น ฉันถึงกับทำหน้างง เพราะฉันคิดว่ามันมีอยู่แต่ในละครเท่านั้น
“คุณว่ามาสิคะ ว่าต้องออกกฎอะไรบ้าง”ฉันพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมากอดอกและยืนพิงผนังห้องรับแขก
“แต่เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่านะ”พ่อเทพบุตรของฉันพูดขึ้น ซึ่งฉันถึงกับทำหน้าตกใจ เพราะคิดมาตลอดว่าเขาคงไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใครเหมือนกับฉันตั้งแต่ขึ้นเครื่อง
“คุณเอาจริงหรอคะ ฉันคิดว่าคุณไม่อยากรู้จักใครเสียอีก”ฉันพูดขึ้นพร้อมกับกำลังจะหย่อนตูดลงเพื่อจะนั่งโซฟาตัวเดียวกับเขา แต่โดนสายตาของพ่อเทพบุตรเลือดเย็นของฉันมองมา เพื่อสื่อว่าห้ามนั่งโซฟาตัวนี้ ดูแล้วน่าจะแพง ฉันจึงไม่นั่งและได้นั่งพื้นแทน ฉันถึงกับทำท่าทางฟึดฟัด เหวี่ยงๆ ไม่พอใจ หน้าบูดหน้าบึ้ง จนพ่อเทพบุตรเลือดเย็นมองหน้า แถมกระเป๋าฉันก็ยังไม่ได้จัดเข้าที่ ต้องมานั่งเสวนากับพ่อเทพบุตรเลือดเย็นก่อนเพื่อทำข้อตกลงการอยู่ร่วมกันกับเขา
“ข้อแรกคุณห้ามกลับบ้านเกิน22:00น.”ฉันถึงกับอ้าปากค้างกับข้อแรกก็ไม่บ่งบอกถึงฉันว่าคงอยู่แบบอิสระไม่ได้ต้องมีผู้ปกครองคอยดูแลตลอดเวลาพร้อมกับทำหน้าตาอึ้งว่ากล้าสั่งมาได้ ฉันควรเป็นอิสระในการอยู่ที่นี่สิ แต่นี่กลับไม่เลยฉันอยากจะร้องไห้
“ข้อสองห้ามก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัวของฉัน”
“ฉันขอพู-----....”ฉันกำลังจะพูดขึ้นแต่โดนเขามองเพื่อบ่งบอกถึงว่ารอให้เขาพูดจบก่อน
“ข้อสามห้ามยุ่งกับของของฉัน” (อยากยุ่งตายแหละ มีอะไรน่าจับบ้างมิทราบ)ฉันคิดในใจ
“ข้อสี่ห้ามรบกวนฉันเวลาที่ฉันทำงาน”
“แล้วคุณทำงานเวลาไหนบ้างล่ะคะ คงจะไม่ทั้งวันหรอกนะคะ”ฉันรีบถามก่อนที่เขาจะมองตาฉัน ได้แต่ตอบสายตาเขาในใจว่า (ก็อยากรู้หนิ)
“ไม่ทั้งวันหรอก ก็ตั้งแต่10:00-19:00น. บางวันฉันจะไปบริษัทบ้าง”พ่อเทพบุตรตอบ
“คุณเป็นพนักงานบริษัทหรอคะ? แล้วคุณทำงานที่บริษัทไหนหรอคะ?”ฉันรีบถาม แต่ก็โดนสายตาดุมาอีกครั้ง ฉันคิดว่าสายตาของฉันเวลาที่ฉันดุคมกริบกว่ามีด และดูดุกว่าคนอื่นๆ แต่ฉันผิดมาตลอด เขามีสายตาที่คมกว่าฉันยิ่งกว่ามีดหลายด้ามเสียอีก
“ไม่ต้องรู้สักเรื่องก็ดีนะ”โอ้โห พอเขาพูดแบบนี้แล้วฉันรู้สึกเจ็บแปล๊ปๆที่หัวใจ เพราะเขาหลอกด่าหาว่าฉันส.ใส่เผือก เจ็บจี๊ดถึงทรวงอกเลยล่ะ
“ข้อห้าห้องครัวมีห้องเดียว ใช้ได้แต่อย่าทำพังก็พอ”โอ้โห พูดอย่างกับฉันทำอาหารไม่เป็น แต่ก็ยอมรับแหละว่า ทำเป็นแค่บางเมนู
“รหัสประตูคุณคงรู้แล้วเนาะ”
“**ค่ะ ฉันทราบแล้วค่ะ”
“ดี คุณมีความเห็นเพิ่มไหม”
“มีค่ะ คุณก็ต้องห้ามยุ่งของของฉันเหมือนกัน”
“ได้ อ่อผมมีอีกอย่างจะบอกคุณ พรุ่งนี้เช้าทำอาหารให้ผมด้วย**”ห๊ะ!! ว่าไงนะเขาหันมาบอกฉันก่อนจะนั่งจิ้มโทรศัพท์เพื่อโทรหาใครสักคน พอพูดกับอีกสายเสร็จก็ถามฉันว่า
“คุณทำเป็นหรือเปล่า”เขาหันมาถามฉันอีกครั้ง
“ได้บางเมนูนะคะ ว่าแต่ปกติตอนเช้าคุณชอบทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ?”ฉันหันไปถามเขา ก่อนจะลุกขึ้น เพราะเริ่มรู้สึกปวดขา
“ก็ง่ายๆนะ แซนวิชพร้อมนม”ง่ายจริงแต่ไม่รู้จะรอดหรือเปล่า เพราะฉันกลัวน้ำมันกระเด็นใส่ตอนทอดไข่ดาวใส่แซนวิชนี่สิ
“โอเคค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”ฉันตอบพร้อมกับทำสีหน้าที่ลำบากใจ
“คุณมีอะไรจะถามผมไหม?”เขาหันหน้ามาถามฉันพร้อมกับลุกขึ้นยืน ตอนที่เขาลุกขึ้นยืนนั้นฉันสูงเท่าหน้าอกเขาเองอ่ะ ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดีที่เจอผู้ชายที่สูงกว่า ถ้าดีใจก็ดีใจที่ดูตัวเล็กลง ถ้าเสียใจก็คงเป็นเพราะว่าเวลาอยากจุ๊บเขามันต้องเขย่งเท้าจุ๊บ แถมยังเป็นผู้ชายในสเปกของฉันอีก
“มีค่ะ แล้วมันจะมีใบข้อตกลงการอยู่ร่วมกันไหมคะ?”
ฉันถามลองดูเผื่อฉันจะลืมกฎ เพราะฉันรู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นคนที่ลืมง่าย จำง่าย
“อ๋อ เรื่องนั้นหรอคุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ผมจะเอามาให้คุณพรุ่งนี้”เขาตอบฉันก่อนจะเดินเข้าห้องเขาไป แต่ฉันถามเขาก่อนว่า
“ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยนะคะ”ฉันรีบถามก่อนที่เขาจะสาวขาก้าวยาวๆของเขาไปถึงห้องก่อน
“ผมชื่อ หลี่หานปิง เรียกฉันว่าหลงก็ได้นะ แล้วเธอล่ะ”เขาหันหน้ามาถามฉัน
“ฉันชื่อ หวังอี้หลิน เรียกฉันว่าปลายฝนก็ได้ เรียกอยากไปไหม”ฉันถามเขาเพราะกลัวว่ามันอาจจะเรียกอยากสำหรับคนจีน
“นิดนึง งั้นฉันตั้งให้เธอใหม่ก็แล้วกัน ได้ไหม”
เขาถามความเห็นจากฉันก่อนจะนึกชื่อให้ฉัน
“มีมี่ ได้ไหมเธอชอบไหม”เขาถามฉันและฉันจึงตอบว่า
“ชอบ ฉันชอบมาก ว่าแต่มันแปลว่าอะไรหรอคะ”ฉันถามด้วยความสงสัย
“มันแปลว่า น้ำผึ้ง”เขาตอบ
“แล้วฉันถามคุณได้ไหม ว่าคุณอายุเท่าไหร่”ฉันหันหน้าไปถามเขา
“ได้ ฉันอายุ23ปี เธอล่ะ”เขาถามฉันกลับ
“ฉันอายุ17 ปีค่ะ ฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่จะมาเรียนที่จีนน่ะค่ะ”ฉันตอบเขา
“อ่อ ผมเข้าใจละ”เขาตอบพร้อมกับเดินเข้าห้อง ก่อนที่ฉันจะยิ้มให้ และหันไปเก็บกระเป๋าตัวเองไว้ในห้องอีกห้องที่เป็นของฉัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments