สายของวันรุ่งขึ้นที่ตึกเรียน สามสาวเดินคุยกันเข้ามาในห้องพร้อมสอดส่ายสายตามองหาที่นั่ง ในห้องมีโต๊ะเรียนตัวยาวเรียงเป็นแถวหันหน้าไปทางหน้าชั้นเรียนแต่ละแถวนั่งได้ประมาณสิบคน ชนิกานต์พาเพื่อนสองคนเดินมายังแถวเกือบสุดท้ายด้วยเหตุผลว่าวันแรกขอหยั่งเชิงวิชาเรียนก่อนว่าจะน่าเรียนหรือน่าเบื่อ หากน่าเรียนคาบหน้าค่อยหาที่นั่งแถวหน้าแต่ถ้าน่าเบื่อก็ยึดที่ตรงนี้เป็นที่ประจำกลุ่มพวกเธอไปเลย เมื่อเลือกที่นั่งได้ สามสาวก็เริ่มสนทนากันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน...
“นี่ คนเล็ก ผู้ชายที่เราเจอเมื่อวานนี้ ฉันว่าเขาหล่อดีนะแต่ไม่น่าเป็นคนแบบนั้นเลย” อังคณาพูดพลางนึกถึงใบหน้าคมคายของหนุ่มคนนั้น
“นั่นสิ ฉันเห็นด้วยกับแกเลยนีน่า ตานั่นทำเกินไป เสียดายหน้าตาจริงๆ ว่าไหมคนเล็ก?” สุธาสินีหันไปถามกับเพื่อนสาว
ชนิกานต์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “เฮ้อ...อย่าไปพูดถึงไอ้บ้านั่นเลยนะ ไม่เจอมันอีกก็ดีแล้ว” เธอตอบ
“แต่ถ้าพวกเขาตามเราอีกล่ะ คนเล็ก เราจะทำยังไง” อังคณาตอบโดยมีสุธาสินีพยักหน้าเห็นด้วยอยู่ด้านหลัง
ชนิกานต์แหวใส่เพื่อนทันควัน “อย่าพูดให้ใจคอไม่ดีได้ไหม มันคงไม่กล้าตามเราหรอก”
“อยากรู้จังว่าพวกนั้นชื่ออะไร” สุธาสินีพูดออกมาอย่างอยากรู้
“จะอยากรู้ไปทำไม? ฉันว่าอย่าพบเจอกันอีกเลยจะดีกว่า พวกบ้ากาม!” ชนิกานต์พูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจนัก
“ฉันว่า...เดี๋ยวเราได้รู้จักพวกนั้นแน่นอน” อังคณาพูดออกมาอย่างมั่นใจ
ชนิกานต์ส่ายหน้าระอากับความคิดของเพื่อน “จะเป็นไปได้ไง แกอย่ามั่วได้ไหม นีน่า”
“นั่นไง เขาเข้ามาแล้ว มากันครบทุกคนเลยล่ะ” อังคณาจับหน้าชนิกานต์หันไปที่กลุ่มของชายหนุ่มที่ทยอยเดินเข้ามาในชั้นเรียน
“ใช่พวกนั้นจริงๆ ด้วย แกดูสิ” สุธาสินีร้องออกมาแล้วลุกขึ้นชี้มือไปทางกลุ่มชายหนุ่ม
“เฮ้ย! แล้วแกจะลุกขึ้นชี้ทำไมล่ะ” ชนิกานต์กระชากแขนเพื่อนสาวให้นั่งลง แต่ไม่วายที่ชายหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มจะมองเห็น
“โป้ง นั่นไงยัยตัวแสบเมื่อวานน่ะ”
“อ้อ อยู่คณะเดียวกันแบบนี้ก็ดีจะได้ไม่ต้องตามหา” ว่าจบกลุ่มของชายหนุ่มก็เดินเข้ามาหาสามสาว ชนิกานต์หน้าหงิกไม่พอใจอย่างมาก
“คนเล็ก ฉันว่าเราเฉยดีกว่านะ ถ้าเป็นเพื่อนกันไม่ได้ก็เฉยไว้เพราะยังไงก็ต้องทนเรียนด้วยกันไปจนจบดีกว่ามีศัตรูนะ” สุธาสินีหันมาพูดกับชนิกานต์โดยมีอังคณาพยักหน้าเห็นด้วย แต่ชนิกานต์ส่ายหน้าไม่ยอมและเป็นจังหวะเดียวกันกับที่กลุ่มของชายหนุ่มเดินเข้าหาพวกเธอ
“เอ่อ พวกเราขอนั่งด้วยนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
“ไม่ได้” ชนิกานต์ปฏิเสธทันทีอย่างอัตโนมัติ
ชายหนุ่มค้านขึ้นทันที “ทำไมล่ะ ที่นั่งยังว่างนี่ เราจะได้รู้จักกันไว้ไง ไหนๆ ก็เรียนด้วยกันแล้ว”
ชนิกานต์จะปฏิเสธอีกแต่โดนอังคณาอุดปากและจับตัวไว้
“ได้สิ นั่งกับพวกเราก็ได้” สุธาสินีชิงตอบโดยพยายามมองไม่เห็นชนิกานต์ที่กำลังส่ายหน้าและดิ้นรนแกะมืออังคณาออกจากปากอย่างเอาเป็นเอาตาย บรรดาชายหนุ่มอมยิ้มที่เห็นภาพนั้นก่อนจะพากันนั่ง
“เอ่อ งั้นขอแนะนำตัวก่อนนะ ฉันชื่อสุธาสินี เรียกว่าก้อยก็ได้นะ”
“เราชื่ออังคณา ชื่อเล่นว่านีน่าค่ะ”
“......” ทุกชีวิตที่นั่งร่วมโต๊ะหันมามองชนิกานต์พร้อมกันเพราะเธอไม่พูดอะไรสักคำเดียว แต่จะว่าไม่พูดก็ไม่ใช่ เพราะเธอยังโดนอังคณาปิดปากไว้
“เฮ้อ... ยัยนี่ชื่อชนิกานต์ ชื่อเล่นว่าคนเล็กน่ะ” สุธาสินีกล่าวจบ ชนิกานต์ก็ถลึงตาให้เธอเป็นรางวัล
“งั้นฝ่ายเราบ้างนะ เราชื่อนัท ชื่อจริงว่านพณัฐ”
“พีร์ พีรยุทธ ครับ”
“เราชื่ออนุชิต ภโวทยากรณ์ เรียกว่าโป้งก็ได้ครับ”
...อ่อ อีตานี่ชื่อโป้งนี่เอง หน้าตากวนประสาทมาก คิ้วเข้ม ตาคม จมูกโด่ง ริมฝีปากบาง หน้าใส ผิวขาวเนียนละเอียดอมชมพู ท่าทางเป็นมนุษย์เจ้าสำอางล่ะสิ ก็ดูดีหรอกไม่น่านิสัยเสียเลย แล้วดูมันมองสิ ไอ้แววตาวิบวับนี่มันอะไร เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด คิดว่าฉันจะเคลิ้มตามรึไง ฝันไปเถอะ ยิ่งนึกถึงเรื่องเมื่อวานยิ่งเจ็บใจนักเชียว... ชนิกานต์นั่งวิเคราะห์หน้าอนุชิตในใจแล้วขมวดคิ้วนิ่วหน้าด้วยความหงุดหงิด
“ไงคนเล็ก อยากใช้นามสกุลฉันบ้างไหม” อนุชิตเอ่ยถามชนิกานต์ด้วยสีหน้ากวนประสาท
อังคณาเห็นชนิกานต์หน้าเครียดและนิ่งเงียบไปไม่ตอบโต้ก็ยอมปล่อยมือออกจากปากของเพื่อนสาว เมื่อหลุดจากพันธนาการของเพื่อน ชนิกานต์มองเพื่อนสาวด้วยใบหน้าเรียบเฉย เธอคว้ากระเป๋าสะพายใบโปรดก่อนจะเดินเลาะตามโต๊ะเรียนไปยังที่นั่งแถวหน้าแล้วเดินไปหาที่นั่งแถวใหม่ทำเอาพวกชายหนุ่มและเพื่อนของเธอหน้าเหวอไป
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 31
Comments
Jihan Song
เพื่อนสองคนนี่ระริกระรี้หาผู้เกินไปนะ 😱
2021-09-03
1
~" J o o m i e z e "~
อันนี้ก็เกินไปนิดนึงนะ เพิ่งทำเรื่องแย่ๆ ต่อกันเมื่อวาน วันนี้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบนี้ก็ได้หรอ 🤔🤨🤔🤨
2021-09-01
3