“นี้มันคืออะไรกันเหรอครับท่านผู้เฒ่า”พ่อของยูเรียถามด้วยความประใจ
“ของสิ่งนี้ข้าได้รับเมื่อนานมาแล้วในตั้งแต่สมัยที่ข้ายังหนุ่มยังแน่นบางทีนี้อาจจะถึงเวลาที่จะได้ใช้มันแล้วก็ได้ เจ้าสิ่งนี้มันคือไอเท็มที่เก็บงำพลังมหัศจรรย์เอาไว้
ไอเท็มที่หากใช้มันแล้วอาจจะอัญเชิญเทพหรือว่าจอมปีศาจมารับฟังคำอ้อนวอนขอร้องจากผู้ที่ใช้มัน
ซึ่งข้าเองก็ไม่อาจบอกได้เลยว่าผู้ที่จะตอบรับการอัญเชิญของไอเท็มนี้จะเป็นเทพเจ้าที่มาช่วยเหลือหรือว่าปีศาจที่จะมาทำลายล้างกันแน่
ข้าจึงเก็บมันไว้มาเป็นเวลานานกว่า 50 ปีโดยไม่กล้าที่จะนำมาใช้ ข้ายกมันให้เจ้าก็แล้วกัน
ไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ก็ให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจเอาเองแล้วกัน
กว่าฟ้าจะมืดลงก็ยังเหลือเวลาอีก 4 ชม. ค่อยๆคิดให้ดีๆแล้วกัน
คนแก่อย่างข้าก็คงทำได้แค่นี้แหละ”
แม้ว่าจะเหลือเวลา
4
ชม.แต่สำหรับพ่อของยูเรียที่ต้องแบกรับการตัดสินใจครั้งนี้เวลานั้นมันก็ช่างเดินไปไวพอๆกับเวลาแค่
4 นาที
เมื่อท้องฟ้าเริ่มท้อแสงด้วยสีส้มก่อนที่ท้องฟ้าจะถูกกลืนกินด้วยความมืดอีกครั้ง
เสียงเคาะระฆังดังกังวานขึ้นทั่วหมู่บ้าน มันคือสัญญาณเพื่อเรียกให้ทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านมารวมตัวกัน
ไม่นานนักชาวบ้านก็ต่างพากันมารวมตัวกันบริเวนลานกว้างกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านทุกคนยืนล้อมเป็นวงกลมสายตาพากันจับจ้องไปยังผู้นำหมู่บ้านของพวกเขาที่ยืนอยู่ตรงกลาง
พ่อของยูเรียสอดส่องสายตามองไปรอบๆ
เมื่อเห็นว่าจำนวนคนมากันเยอะแล้วไม่มีทีท่าว่าจะมีคนมาเพิ่มแล้วเขาก็ได้พูดขึ้น “ข้าในฐานะที่เป็นผู้นำหมู่บ้านคนปัจจุบัน
ที่ได้ตีระฆังเรียกทุกคนมาวันนี้หลายๆคนก็น่าจะรู้ว่าเพราะเหตุผลอะไร
แต่สำหรับคนที่อาจจะยังไม่รู้ วันนี้ก็คือวันคล้ายวันเกิดของยูเรียลูกสาวของข้า
ซึ่งปีนี้ก็จะครบ 18 ปี นั้นก็คือวันที่หัวหน้ากลุ่มโจรหัวแดงได้กำหนดไว้ว่าจะมารับลูกสาวข้าไปแต่งงาน
และก็จะลดการเก็บค่าคุ้มครองลงจากที่ 70/30 จากผลผลิตทั้งหมดที่พวกเราหาได้เป็น 50/50”พ่อของยูเรียหยุดคิดสักพักก่อนจะพูดขึ้นต่อ “ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า
5 ปีที่พวกเราถูกกดขี่และข่มเหง วันนี้ในที่ฐานะที่ข้าเป็นผู้นำหมู่บ้าน
และในฐานะที่ข้าเป็นพ่อของลูกสาวผู้แสนน่ารักที่จะต้องไปเป็นเจ้าสาวของหัวหน้าโจรผ้าแดง
ข้าได้ตัดสินใจแล้วว่าหลังจากนี้ข้าจะไม่ยอมอดทนอีกต่อไป เพราะข้ามีไอ้นี้!”พ่อของยูเรียชูไอเท็มคริสตัลรูปทรงเหมือนไข่สีขาวประหลาดๆที่ได้รับมาจากผู้อาวุโสขึ้นให้กับชาวบ้านทุกคนได้เห็น
เมื่อชาวบ้านทุกคนได้เห็นไอเท็มนั้นต่างพามองดูสิ่งนั้นด้วยความตื่นเต้นและประหลาดใจบางก็พูดถึงของสิ่งนั้นไปต่างๆนาๆว่ามันคืออะไร
“ไอ้ของประหลาดนั้นคืออะไรกัน”
“ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
“ของนั้นมันคืออะไร”
“หรือมันจะเป็นไข่วิเศษ”
“ด้วยลักษณะเช่นนั้นข้าว่ามันเป็นไข่มอนสเตอร์ระดับสูงมากกว่า”
“ท่านผู้นำของสิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่ครับ
แล้วมันใช้ทำอะไร” ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ย
พ่อยูเรียมองดูของสิ่งนั้นที่อยู่ในมือของตัวเองด้วยสีหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความหวังก่อนพูดขึ้น“เอาละข้าจะบอกให้ทุกคนได้รู้ มันก็เป็นไอเท็มที่ข้าได้รับมาจากท่านผู้เฒ่า
มันเก็บงำพลังอำนาจมหัศจรรย์ใช้เพื่ออัญเชิญเทพเจ้าหรือจอมปีศาจมารับฟังคำอ้อนวอนจากพวกเรา
ถ้าเทพเจ้ายอมรับฟังคำร้องขอจากพวกเรา ต่อให้มีกองโจรสักกี่กองโจรพวกเราก็ไม่ต้องกลัวมันอีกแล้ว”
ได้ยินคำอธิบายจากผู้นำหมู่บ้านของตนแล้วชาวบ้านต่างพากันพูดซุบซิบถึงไอเท็มนั้นด้วยความตื่นเต้นและยินดีก่อนที่ผู้นำหมู่บ้านจะพูดต่อ
“ข้าเรียกให้ทุกคนมารวมกันก็ด้วยเรื่องนี้แหละ
ขอถามความเห็นจากทุกคนหน่อยว่า ถ้าข้าจะใช้ไอเท็มนี้มีใครที่ไม่เห็นด้วยบ้างหรือไม่”
“เดี่ยวก่อนสิท่านผู้นำท่านบอกว่ามันอัญเชิญเทพเจ้าหรือจอมปีศาจมา
แล้วถ้าเกิดสิ่งที่มาคือจอมปีศาจ พวกเราจะไม่แย่กันเหรอ”ใครบางคนถามขึ้นโดยความกลัว
“ถ้าเกิดว่าสิ่งที่ออกมาคือจอมปีศาจจริงๆทุกคนไม่ต้องห่วง
ข้าเองพร้อมสละร่างกายของข้าเป็นเครื่องสังเวย” ผู้นำหมู่บ้านตอบด้วยความมุ่งมั่นที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้เป็นผู้กระทำ
“ท่านพ่อ!” เสียงของหญิงสาวผู้หนึ่งดังขึ้นมาก่อนที่เธอจะเดินมาหาผู้นำหมู่บ้านแล้วพูดต่อ “ท่านไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้
ข้าบอกแล้วว่าข้ายินดีเป็นเจ้าสาวไปอยู่กับหัวหน้ากองโจรผ้าแดง…”
เพี๊ยะ!
พ่อของยูเรียตบหน้าลูกสาวสุดที่รักแล้วพูดด้วยน้ำตาคลอในขณะที่มืออีกข้างกำแน่น “ยูเรียลูกรู้บ้างรึเปล่า พ่อเลี้ยงเจ้ามาตั้งแต่เล็ก
ถึงเจ้าจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่จะให้ข้าผู้เป็นพ่อนิ่งเฉยได้อย่างไร
เจ้ารู้ไหมว่าข้ารู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน”
“แต่ว่าท่านพ่อ...”ยูเรียพูดด้วยเสียงสะอื้น
“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว
ขอให้พ่อได้ทำในสิ่งที่พ่อทำได้ในตอนนี้เถอะ”
“ข้ารักท่านพ่อนะ”ยูเรียพูดทั้งที่น้ำตาไหลก่อนจะโผเข้ากอดพ่อของตัวเองแล้วร้องให้สะอึกสะอื้น
“หยุดร้องให้ได้แล้วเด็กโง่พ่อยังไม่ตายสักหน่อย
และเราเองก็ยังมีความหวังอยู่” ผู้เป็นพ่อพูดปลอบลูกสาวของตน หลังจากที่ทั้งสองสงบสติอารมณ์ได้จึงเอ่ยถามชาวบ้านอีกครั้ง
“ตอนนี้ยังมีใครไม่เห็นด้วยบ้างหากข้าจะใช้ไอเท็มประหลาดนี้บ้างไหม”เมื่อชาวบ้านได้เห็นเหตุการณ์ที่แสนหดหู่ของสองพ่อลูกแล้วก็ไม่มีใครกล้าที่จะคัดค้าน
“ขอบคุณทุกคนที่เห็นด้วย
ถึงแม้จะเป็นความหวังที่เล็กน้อย แต่มันก็คือความหวังที่มีค่ามากแก่พวกเรา”เมื่อพูดจบเขาก็นึกถึงวิธีการใช้ไอเท็มนี้ที่ผู้อาวุโสได้บอกไว้
ให้เจ้าวาดวงกลมขึ้นที่พื้นดินแล้ววาดรูปดาวห้าแฉกไว้ในวงกลมนั้นอีกทีหนึ่ง
เจ้าจงยืนข้างนอกห่างจากสัญลักษณ์ประมาณสามเมตร แล้วพูดว่า
“ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ข้าขออัญเชิญท่านผู้ยิ่งใหญ่”
จากนั้นให้จับไอเท็มนี้ให้แน่นและทุบทำลายมันลงไปตรงกลางของสัญลักษณ์ที่วาดไว้
ผู้นำหมู่บ้านไม่รอช้า
ปฏิบัติตามลำดับขั้นตอนทุกอย่างได้อย่างสมบูรแบบ หลังจากที่ได้ทำลายไอเท็มนั้นเขาจึงรีบออกหากจากสัญลักษณ์ที่พื้น
ไม่นานภาพที่เห็นเบื้องหน้าก็กำเนิดสายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมาหลายหน
จนเกิดฝุ่นหนาขึ้นตลบอบอวนจนไม่สามารถมองเห็นว่ามีสิ่งใดอยู่ในวงกลมนั้นหรือไหม
ทุกคนในบริเวณโดยรอบต่างจับจ้อง
สายตาทุกคู่มองดูด้วยความตื่นเต้นว่าสิ่งที่ถูกอัญเชิญมานั้นแท้จริงแล้วจะเป็นอะไรกันแน่
เวลาผ่านไปไม่กี่อึดใจ ฝุ่นควันค่อยๆจางลงที่ละนิดและก็สลายหายไปจนหมด วินาทีถัดมาสิ่งที่เข้ามาอยู่ในความคิดของทุกคนนั้นก็คือความสิ้นหวัง
เพราะภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าของพวกเขา คือ ความว่างเปล่า
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments