Evil 3 การพบเจอกันครั้งแรก
วันนี้เป็นวันแรกที่ตุลย์ได้มาเรียน ณ โรงเรียนแห่งนี้ วันนี้ทุกคนที่มาใหม่จึงได้รับตารางพร้อมห้องเรียน และตุลย์ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เพราะว่าวันนี้คือวันแรกตุลย์จึงเริ่มจัดของเข้าห้องของตน ตุลย์กับอลิซต่างแยกย้ายไปยังห้องของตัวเอง เมื่อตุลย์เข้ามาในห้องของตัวเองแล้วตุลย์ก็ได้กลับมานั่งคิดอยู่ว่าสิ่งที่อยู่ในตัวเขามันคืออะไร แล้วเขาจะสามารถควบคุมมันได้หรือไม่ เมื่อตุลย์นั่งคิดอยู่ได้สักพักตุลย์ก็ได้ลุกไปยังห้องน้ำ และเมื่อตุลย์ส่องกระจกและได้เห็นเงาของตัวเอง “แกที่อยู่ในตัวของเรา…แกคือตัวอะไรกันแน่” ตุลย์บ่นกับตัวเองเบา ๆ “นี่เป็นครั้งแรกงั้นสิที่เราได้คุยกัน” เสียง ๆ หนึ่งได้ดังขึ้นข้าง ๆ หูของตุลย์ และเมื่อตุลย์ได้มองไปยังกระจกอีกครั้ง ตุลย์ก็ได้พบว่าครึ่งซีกของใบหน้านั้นมันไม่ใช่ใบหน้าของตนเอง มันเป็นใบหน้าของอสูรกายตนหนึ่ง “แกคือตัวอะไรกันแน่” ตุลย์ได้เอ่ยปากถามอสูรกายที่อยู่อีกครึ่งของใบหน้าตนเอง “ฉันคืออสูรธรรมดา ๆ ตนหนึ่งก็แค่นั้น” ตุลย์ได้มองเงาอีกครึ่งในใบหน้าของตนเอง “เราไม่รู้ว่าแกคือตัวอะไร…และทำไมถึงต้องเป็นเรา”
เมื่อตุลย์ได้ปล่อยคำถามของตัวเองออกไป เงานั้นก็นิ่งเงียบและไร้ซึ่งการตอบรับใด ๆ “แม่บอกกับเราว่า…ถ้าเรายิ่งพึ่งพลังจากแกเท่าไหร่รูปลักษณ์ของแกก็จะปรากฎออกมาบนร่างกายมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสุดท้ายแกก็จะยึดร่างของเราไป” ตุลย์ได้พูดให้กับเงาอีกครึ่งหนึ่งได้ฟัง “ที่แกพูดน่ะมันถูกแค่ครึ่งเดียวนะ…ต่อให้แกมีร่างกายที่เป็นฉันไปแล้วแกก็ยังคงเป็นตัวเองจนกว่าฉันจะออกมาใช้ร่างกายของแก และแกก็ยังคงมีสติทุกอย่างแต่แกจะควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ ก็เพราะว่าฉันกำลังใช้ร่างของแกอยู่ไง” เงาอสูรกายนั้นได้พูดกับตุลย์
“แต่เราไม่ได้อยากเป็นอสูรกายแบบแก” ตุลย์ได้บอกกับเงาอสูรกายอีกครึ่งหนึ่งของตนเอง “มันคือสิ่งแลกเปลี่ยนในการใช้พลัง…แต่แกไม่ต้องห่วงหรอกนะ เพราะฉันไม่ได้กระจอกจนถึงขั้นทำให้แกผิดหวังหรอกนะ รับรองว่าพลังที่แกจะได้มันจะคุ้มกับค่าใช้จ่านที่แกต้องจ่ายแน่นอน” อสูรกายนั้นได้พูดเหมือนกับจะบอกให้ตุลย์ยอมรับกับสิ่งที่กำลังจะเป็นไป
แต่สำหรับตุลย์แล้วมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ กับการที่จะยอมรับให้กับสิ่งนี้ เพราะตุลย์ยังคงอยากจะใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์ต่อไป ตุลย์จึงได้ตัดสินในกับตัวเองว่าถ้าไม่เข้าตาจนจนถึงที่สุดจริง ๆ ตุลย์จะไม่ยอมใช้พลังนี้เด็ดขาด ถึงแม้ว่าอสูรกายนี้จะพึ่งพาได้ในการต่อสู้ แต่ถ้าตุลย์จะต้องสูญเสียความเป็นมนุษย์ไป ตุลย์พยายามที่จะคิดวิธีหาทางที่จะควบคุมพลังนี้ให้ได้เขารับไม่ได้ แต่ดูเหมือนอสูรกายนี้จะไม่อยากที่จะให้ตุลย์ทำแบบนั้นสักเท่าไหร่ ตุลย์ได้เอาตัวเองออกจากกระจกเพื่อที่จะเลิกติดต่อกับอสูรกายกายที่อยู่ในร่างกาย ตุลย์จึงได้ตัดสินใจออกไปเดินเล่น
เมื่อตุลย์นั้นได้ออกมาเดินเล่นและเมื่อตุลย์เดินไปได้สักพัก ตุลย์กลับรู้สึกเหมือนว่ามีใครกำลังมองเขามาจากบนต้นไม้ ตุลย์จึงตัดสินใจที่จะหันไปมอง แต่เมื่อตุลย์นั้นเงยหน้าขึ้นไปมองบนต้นไม้ก็กลับพบว่ามีแต่เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น จากนั้นตุลย์จึงได้รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครเข้ามาประชิดตัวเขาจากด้านหลัง แต่เมื่อเขาทำท่าทางว่ารู้สึกตัว เงานั้นก็ได้จู่โจมเขาทันทีด้วยการกัดเข้าไปที่คอของเขา
ตอนนี้ตุลย์นั้นกำลังรู้สึกได้เลยว่าเขานั้นไม่สามารถที่จะขัดขืนหรือต่อสู้กับสิ่งที่เข้ามาโจมตีเขาได้เลย และเมื่อเงานั้นได้กัดคอของเขาจนรู้สึกหนำใจแล้ว เงานั้นจึงได้ปล่อยคมเขี้ยวออกจากเขา แต่ตอนนี้สิ่งที่โจมตีเขาเมื่อครู่กลับต้องเป็นฝ่ายตกใจเสียเอง
“เราดูดเลือดเธอจนเธอน่าจะตายไปแล้วแน่นอน…แต่ทำไมเธอกลับไม่ตายและแถมยังดูเป็นปกติด้วย” สิ่งที่จู่โจมตุลย์นั้นได้พูดกับตุลย์ มันจึงถึงเวลาแล้วที่ตุลย์จะต้องหันไปมองให้รู้สักทีว่าสิ่งที่จู่โจมเขานั้นมันคือตัวอะไร ตุลย์จึงได้ค่อย ๆ หันหลังกลับไปอย่างช้า ๆ เมื่อตุลย์ได้เห็นถึงสิ่งจู่โจมเขาแล้ว มันก็ทำให้ต้องอึ้ง สิ่งที่โจมตีเขาคือผู้หญิงคนหนึ่งที่สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ใบหน้ากลมเล็ก มีเขี้ยวสองเขี้ยวซ้ายและขวา ดวงตาสีแดงทับทิมใส่วาวเป็นประกาย หูแหลมเหมือนกับหูของค้างคาว และท่าทางของผู้หญิงคนนั้นที่ได้ตระหนกตกใจที่ตุลย์นั้นไม่ได้ตายอย่างหญิงสาวได้พูดออกไปก่อนหน้านี้ “เธอเป็นตัวอะไรกันแน่” หญิงสาวคนนั้นได้เอ่ยปากถามกับตุลย์ที่กำลังยืนมองเธออยู่ “แล้วเธอล่ะ…คือตัวอะไร” ตุลย์จึงได้ตั้งคำถามกลับไปยังหญิงสาวคนนั้น
“เราคือแวมไพร์ที่เพิ่งได้มาเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตแบบมนุษย์…แต่เพราะยังไม่ชินเราจึงได้เข้าดูดเลือดมนุษย์อย่างเธอ แต่เธอไม่เป็นอะไรเลย…สรุปเธอเป็นตัวอะไรกันแน่” หญิงสาวได้แนะนำตัวว่าตัวเธอนั้นคือแวมไพร์ “เราเป็นโอปปาติกะ…เราไม่ใช่มนุษย์” ตุลย์จึงได้บอกถึงที่สิ่งตัวเองนั้นเป็นออกไป แต่หญิงสาวคนนั้นกลับไม่อยากจะเชื่อ “เราได้กลิ่นมนุษย์จากตัวของเธอไม่ผิดแน่ ๆ แล้วโอปปาติกะนี่มันคืออะไรกันแน่” ดูเหมือนว่าหญิงสาวนั้นจะไม่รู้จักตัวตนที่เรียกว่าโอปปาติกะ จึงทำให้เธอนั้นเชื่ออย่างสนิทใจเลยว่าตุลย์นั้นต้องเป็นมนุษย์อย่างแน่นอน
“เราก็อธิบายไม่ถูกนะ…เพราะเราก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน” ตุลย์ได้ตอบหญิงสาวไปด้วยท่าทีที่กำลังสับสนกับทุกสิ่งที่เจอมาจนถึงตอนนี้ “เป็นไปได้ยังไง” หญิงสาวได้บ่นออกมาแบบที่ไม่อยากจะเชื่อ “เราไม่ใช่มนุษย์…นี่แหละความจริง” ตุลย์จึงได้ตอกย้ำกับหญิงสาวอีกครั้ง “เราชื่อแอลลี่ เอลิเซ่ ฟรอน โคมินัส” แอลลี่ตัดสินใจแนะนำชื่อของตัวเองให้กับตุลย์ได้รู้ “เราชื่อตุลย์ ตุลย์ตุลา ธาดาการ” ตุลย์จึงได้แนะนำชื่อของตนเองเช่นกัน
“เธอโกรธรึเปล่า…ที่เราดูดเลือดของเธอ” แอลลี่ได้ถามกับตุลย์ “เราไม่โกรธหรอก…เราตกใจมากกว่า” ตุลย์จึงตอบกลับแอลลี่อย่างอ่อนโยน เมื่อแอลลี่เห็นท่าทีแบบนั้นของตุลย์จึงได้ทำให้เธอรู้สึกประทับใจในตัวของตุลย์ พร้อม ๆ กับที่รู้สึกผิดไปด้วยในเวลาเดียวกัน ส่วนตุลย์นั้นก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมแอลลี่ถึงได้บังเอิญมากัดคอของเขา ทั้งที่ในโรงเรียนแห่งก็น่าจะมีคนที่เป็นโอปปาติกะเหมือนกัน
ตอนนี้ทั้งสองคนได้แต่ยืนเขินและรู็สึกผิด รู้สึกสงสัยกันและกัน แต่เมื่อทั้งสองคนตั้งสติได้ทั้งสองคนจึงได้ขอตัวแยกย้ายออกจากกัน แต่ตุลย์นั้นยังคงเดินเล่นต่อไปเรื่อย ๆ จนตุลย์ได้เห็นชายสามคนที่กำลังจะเดินเข้ามาใกล้ เมื่อทั้งสามคนเดินมาจนถึงตัวของตุลย์ ทั้งสามคนได้เข้ายืนล้อมตัวของตุลย์เอาไว้ “เห้ย ๆ นี่มันเด็กใหม่นี่หว่า” ชายที่ดูเหมือนจะเป็นหัวโจกของกลุ่มได้พูดขึ้น “รับน้องกันสักหน่อยดีมั้ยนะ” คนที่ดูเหมือนสมุนหมายเลขหนึ่งได้พูดต่อ “เด็กใหม่…เช็ดรองเท้าให้พวกเราหน่อยดิ” ชายที่ดูเหมือนสมุนหมายเลขสองได้พูดขึ้นมา “เช็ดด้วยลิ้นของมึงเป็นไง” ชายที่ดูเหมือนหัวโจกได้พูดต่อ
แต่สุดท้ายเมื่อตุลย์ฟังจบตุลย์ก็ได้แต่ยืนนิ่งมองหน้าของทั้งสามคนในขณะที่แอลลี่ก็แอบตามดูอยู่ไกล ๆ “พ่อหนุ่ม…สลับตัวกันหน่อยดิ” เสียงของอสูรกายในตัวของตุลย์ได้พูดขึ้นในจิตสำนึกของตุลย์ “แกคิดจะทำอะไร” ตุลย์ได้ถามอสูรกายในร่างกายผ่านจิตสำนึก “ฉันจะสั่งสอนไอกร้วกสามตัวนี่…ให้รู้สำเนียกสักหน่อยว่ามันหาเรื่องผิดคน” อสูรกายในตัวของตุลย์ได้พูดขึ้นในจิตสำนึกของตุลย์ “ไม่…เราจะไม่ใช้พลังของแกพร่ำเพรื่อ” ตุลย์ได้ตอบกลับอสูรกายในร่างกายผ่านจิตสำนึก เมื่อสามเกรียนเห็นว่าตุลย์จะไม่ทำตามคำสั่ง ชายที่ดูเหมือนหัวโจกจึงได้ตบหัวของตุลย์
แต่สิ่งที่ชายที่ดูเหมือนหัวโจกของสามเกรียนได้ทำไปนั้นมันเสมือนเป็นการลั่นไกในจิตใจของตุลย์ ในที่สุดภาพสุดท้ายของตุลย์ก็ได้ตัดไป แต่เมื่อภาพทั้งหมดที่ตัดไปนั้นได้กลับมาก็ปรากฏว่าสามเกรียนนั้นได้ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนแอลลี่ที่แอบมองอยู่ห่าง ๆ ก็ได้เห็นภาพทั้งหมดอย่างชัดเจน
ภาพที่แอลลี่ได้เห็นนั้นคือตุลย์ดูเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนหลังจากที่ตุลย์นั้นถูกตบหัว และหลังจากนั้นตุลย์ก็ได้ซัดสามคนนั้นอย่างรวดเร็วจนสามคนนั้นหมดสภาพและลงไปนอนกองอยู่กับพื้นอย่างรวดเร็ว แอลลี่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าตุลย์นั้นจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ จึงได้ทำให้แอลลี่เธอยิ่งรู้สึกนิยมชมชอบในตัวของตุลย์มากกว่าเดิมเข้าไปอีก และภาพนี้ไม่ได้มีเพียงแค่แอลลี่เท่านั้นที่ได้เห็น แต่อลิซเองเธอก็ได้เห็นภาพนั้นด้วยเช่นกัน เพราะเธอได้ลงมาจากห้องพักเพื่อสำรวจรอบ ๆ โรงเรียนและเธอก็ได้เดินผ่านมาเจอพอดี
ตอนนี้ตุลย์ได้สร้างความประหลาดใจให้กับดวงตาทั้งสองคู่เป็นอย่างมาก ดวงตาของแอลลี่คือความประทับใจ ส่วนดวงตาของอลิซคือความประหลาดใจที่คนที่เธอเพิ่งเจอวันแรกนั้นเก่งได้ถึงขนาดนี้ ส่วนสามเกรียนได้แต่นอนหมอบอยู่กับพื้นในแบบที่ไม่มีปัญญาจะตอบโต้อะไรได้เลย
อลิซเธอได้เดินมุ่งหน้าตรงมาหาตุลย์ในทันที “ตุลย์…นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!!” อลิซเธอถามตุลย์ด้วยความกังวลและความเป็นห่วงตุลย์ “ฝีมือโอปปาติกะที่อยู่ในตัวเราน่ะ…เจ้านั้นขอสลับจิตกับเรา พอเราได้สติคืนมาไอสามคนนี้ก็มีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละ” ตุลย์ตอบกลับอลิซด้วยสีหน้าที่กังวลเช่นกัน อลิซเธอจึงได้เอื้อมมือของตัวเองไปคว้ามือของตุลย์และจูงมือตุลย์ออกมาจาตรงนั้นทันที ตามที่ตุลย์ถูกอลิซฉุดกระชากลากไป ตุลย์ก็เลยต้องไหลตามอลิซไปด้วย
“ตุลย์…เราเห็นนะว่ามีผู้หญิงแอบมองเธออยู่ แล้วถ้าจะให้เราเดายัยนั่นก็คงจะเป็นแวมไพร์” อลิซได้พูดขึ้นมาแบบลอย ๆ ตอนนี้อลิซได้พาตุลย์มายังร้านคาเฟ่ร้านหนึ่ง “เธอจะพาเรามานั่งกินกาแฟเหรออลิซ” ตุลย์ได้เอ่ยถามกับอลิซ “เธอไปหาที่นั่งสิ…เดี๋ยวเราตามไป” อลิซได้ตอบกลับตุลย์ จากนั้นตุลย์จึงแยกตัวไปหาที่นั่ง ในขณะที่อลิซก็ได้เดินยังเคาเตอร์เพื่อสั่งกาแฟ สักพักอลิซก็ได้เดินมาหาตุลย์พร้อมกับกาแฟสองแก้วในมือ
เมื่ออลิซได้นั่งลงพร้อมกับวางแก้วกาแฟแล้ว อลิซก็ได้เลื่อนกาแฟหนึ่งแก้วไปยังตรงหน้าของตุลย์ “แก้วนี้ของเธอนะตุลย์” อลิซได้บอกให้ตุลย์เข้าใจในการกระทำของเธอ ตุลย์จึงได้กล่าวขอบคุณอลิซ “เมื่อกี้ที่เราเห็นเราสัมผัสได้นะว่าสิ่งที่อยู่ในตัวเธอนั้นอันตรายมาก ๆ” อลิซได้พูดถึงสิ่งที่ได้เห็นเมื่อครู่ “เราไม่รูัตัวหรอกว่าเราทำอะไรลงไป…พอสติเรากลับมาได้สามคนนั้นก็ลงไปกองกับพื้นแล้ว” ตุลย์ได้บอกกับอลิซด้วยท่าทางที่เหมือนจะรู้สึกผิด
“เป็นไปได้ยังไงกัน…เธอจะบอกว่าเธอจะเสียสติทุกครั้งที่ใช้พลังเหรอ” อลิซเธอได้ถามกับตุลย์ พลังของเราคือเรามีอสูรกายอยู่ในร่างกาย…และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่อสูรกายในร่างของเรามันได้แสดงฝีมือ เราเองก็ตกใจเหมือนกัน!!!” ตุลย์ก็ได้ตอบอลิซพร้อมความสงสัยในตัวเองไปด้วย “แล้วยัยแวมไพร์ที่แอบสะกดรอยตามเธออยู่ล่ะ…มันหมายความว่ายังไงกันแน่” อลิซเธอเองก็เห็นเหมือนกันว่าทำไมแอลลี่ถึงได้แอบสะกดรอยตามตุลย์มาตลอดจนถึงตอนนี้
“เธอหมายความว่ายังไงอลิซ” ตุลย์ได้ถามกับอลิซด้วยความสงสัย “เฮย~ ไม่รู้ตัวเลยสินะ! ตอนนี้มียัยแวมไพร์ตัวขาวซีดแอบสโตรกเกอร์เธออยู่นะ” อลิซได้ตอบกลับตูลย์พร้อมกับจิบกาแฟไปด้วย ตุลย์จึงได้คิดตามที่อลิซพูดอยู่ชั่วครู่ “จริงสิ! ก่อนหน้าที่เราจะเจอกับสามคนนั้น เราได้เจอกับแวมไพร์ผู้หญิงคนหนึ่ง” ตุลย์ได้บอกให้อลิซฟัง “คงใช่แหละมั้ง” อลิซตอบกลับตุลย์ไปแบบชิลล์ ๆ
“อลิซ…เธอพอจะมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับแวมไพร์บ้างไหม” ตุลย์ได้ถามกับอลิซ “ก็พอจะมีอยู่บ้างล่ะนะ…เธออยากรู้อะไรล่ะตุลย์” อลิซถามตุลย์เพราะอลิซรู้แล้วว่าตุลย์นั้นเริ่มมีความสนใจในแวมไพร์แล้ว “ถ้าถูกแวมไพร์กัดจะเป็นยังไงเหรอ” ตุลย์จึงได้ถามอลิซทันที “มันขึ้นอยู่กับการกัดนะ…ถ้าเป็นแวมไพร์สายเลือดแท้อ่ะนะ” อลิซได้ตอบตุลย์กลับไป
ตุลย์ทำท่าทางครุ่นคิดเพราะตุลย์ก็ยังไม่เข้าใจกับสิ่งที่ตัวเองได้เจอมา เพียงแต่มันไม่รู้จะเอาไปถามใคร แต่ตอนนี้ตุลย์คิดแล้วว่าอลิซอาจจะให้คำตอบในสิ่งที่เขากำลังสงสัยอยู่ได้ก็เป็นไปได้ “เล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยอลิซ” ตุลย์ถามอลิซ “ถ้าเป็นแวมไพร์สายเลือดแท้จะมีการกัดสองแบบ 1.กัดเป็นอาหาร…คนที่ถูกกัดก็ตาย 2.กัดเพื่อเปลี่ยนให้เป็นพวก” อลิซได้อธิบายให้กับตุลย์ได้ฟัง เมื่อตุลย์ฟังจบแล้วตุลย์จึงได้ถามอลิซต่อ “แล้วถ้าถูกกัดเป็นอาหาร…แต่คนที่ถูกกัดกลับไม่ตายล่ะ! มันจะเป็นไปได้รึเปล่า?” เมื่ออลิซฟังที่ตุลย์พูดจบเธอก็ได้ทำหน้าถอดสีตกใจกับคำถามของตุลย์ ตุลย์ก็ได้แต่นั่งมองหน้าอลิซด้วยความสงสัย
“มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะห๊ะ!!! มันไม่เคยมีหรอกนะ…ที่ถูกกัดเป็นอาหารแล้วจะรอดอ่ะ” อลิซตอบกลับตุลย์แบบที่ตะคอกใส่ตุลย์ด้วยความร้อนรน จากนั้นตุลย์จึงได้เอามือไปจับและลูบที่คอเบา ๆ ตุลย์ก็ได้พบว่ารอยกัดที่คอของตุลย์นั้นมันได้หายไปแล้ว
ด้วยความที่อลิซเธอนั้นตะคอกใส่ตุลย์และเสียงของเธอได้แหวกกระเจิงความสงบของคาเฟ่ จึงได้ทำให้ทุกสายตานั้นได้หันมามองอลิซ และเมื่ออลิซเธอมองไปโดยรอบแล้วและเห็นว่าทุกสายตานั้นจับจ้องมาที่เธอ จึงทำให้เธอรีบเก็บอาการและสงบลง จากนั้นอลิซจึงได้กลับมาคุยกับตุลย์แบบปกติ
“ถ้าเกิดว่ามันมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นจริง ๆ มันจะเป็นเพราะสาเหตุอะไรได้บ้างล่ะอลิซ” ตุลย์นั้นได้ถามอลิซด้วยความสงสัยและก็คิดว่าอลิซนั้นน่าจะให้คำตอบกับเขาได้ “เราไม่เคยยินมาก่อนนะว่าคนปกติที่ถูกกัดแล้วจะรอดอ่ะ…แต่เราไม่รู้ว่าถ้าเผ่าพันธุ์อื่นถูกกัดมันจะเป็นยังไง เรารู้เพียงแค่ว่าถ้าพวกไลแคนถูกกัดแบบเปลี่ยนให้เป็นพวก ไลแคนที่ถูกกัดนั้นก็จะกลายเป็นเลือดผสม แต่ถ้าแบบให้กำเนิดก็เป็นเลือดผสมนะ และแบบให้กำเนิดจะเก่งกว่าแบบที่ถูกกัด”
เมื่อตุลย์ได้ฟังที่อลิซอธิบายมาจนจบตุลย์นั้นก็ยังมีความสงสัยอยู่ นั่นก็เพราะว่าสิ่งที่อลิซอธิบายมานั้นมันยังไขข้อกระจ่างให้กับเขาไม่ได้เลย “อลิซ…สมมุติว่าถ้าโอปปาติกะถูกแวมไพร์กัดมันจะเป็นยังไงเหรอ” ตุลย์ได้เริ่มถามกับอลิซในสิ่งที่เขานั้นอยากจะรู้จริง ๆ แล้ว
“ไม่รู้สิ! เพราะเราเองก็ไม่เคยได้ยินหรืออ่านเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน” อลิซได้ตอบตุลย์กลับไป แต่อลิซเธอนั้นก็ไม่ได้รู้อะไรเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้อลิซจะเริ่มมีความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะคำถามของตุลย์นั้นมันได้ไปเหนี่ยวไกใส่ต่อมอยากรู้อยากเห็นของอลิซเข้าอย่างจัง
อลิซได้นั่งมองหน้าของตุลย์อยู่ชั่วครู่ “ตอนนี้เราเองก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าถ้าเธอถูกแวมไพร์กัดขึ้นมามันจะเป็นยังไงกันนะ” อลิซได้พูดขึ้นพร้อมกับมองใบหน้าของตุลย์อย่างมีเลศนัยและก็ยิ้มอย่างกับว่ามีแผนการร้ายอยู่ในใจ “เธอคิดจะส่งเราไปให้พวกแวมไพร์กัดคออยู่รึเปล่าอลิซ” ตุลย์ได้ถามราวกับว่าเขารู้ทันความคิดของอลิซ “เปล๊า!!! เราไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย” อลิซตอบปฏิเสธตุลย์อย่างมีเลศนัยเหมือนเดิม
ตุลย์และอลิซยังคงนั่งจิบกาแฟกันต่อไป “ว่าแต่!!! เธอมีคนที่ชอบมั้ยอ่ะตุลย์” อลิซได้ถามกับตุลย์ ดูเหมือนว่าอลิซจะเริ่มมีความสนใจและอยากจะรู้จักในตัวตนของตุลย์ให้มากขึ้นไปอีก “ไม่มีหรอก…เราไม่เคยชอบใครมาก่อน แล้วก็ไม่เคยมีใครมาชอบเราด้วย ว่าแต่เธอถามทำไมเหรออลิซ?” ตุลย์ถามอลิซด้วยความสงสัยในคำถามของอลิซ “เปล่าอ่ะ…ไม่มีอะไรหรอก!!!” อลิซตอบกลับตุลย์ ในขณะที่ตุลย์ก็ยังคงมองอลิซด้วยความสงสัยอยู่ “ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะมีคนที่มาชอบเธอแล้วก็ได้นะตุลย์” อลิซเธอได้บอกกับตุลย์
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments