ตอนที่3 เทียวไปจนฝนหยุดตก

ตอนที่3

ตอนที่3 เทียวไปจนฝนหยุดตก

จากตอนเช้าตรู่

เสียงดังขึ้น

"แกรกๆ"

ตอนนี้พายฝนเริ่มหยุดเพราะหมดแรงโมเมนตัมของธรรมชาติที่กีร์เชื่อ

กีร์ตื่นขึ้นเพราะเสียงแกรกๆนั้น

อะไรนะที่นี่มีแต่คนรวยมีจักิน

จะมา"แกรกๆ"ทำไม

พลันกีร์ตื่นขึ้นจากหมอนข้างคู่ใจสีดำ

ขลับเปื้อนน้ำหอมดีสกุลฝรั่งเศส

แมวรักชื่อว่า "โนวา" นอนซบที่

ปลายเท้าของกีร์อย่างซื่อสัตย์

มันนอนแทนเมียรักที่กีร์จะสวมกอดกันตามปกติเมียรักในอุดมคติของกีร์เหมือนบรรยากาศที่นอนกับเมียรักตอนฝนและพายุอ่อนมาทีเดียว

ความคิดแวบนนั้นผ่านไป

ใครนะมากวาดขยะตอนเช้าตรู่แบบนี้

กีร์จึงเปิดหน้าต่างไปดู

เช้นวันนั้นกีร์ไม่เปิดแอร์นอนเพราะอากาศหนาวมาก

มันเป็นคนกวาดขยะและคนที่ทำคือเจ้าเชวานั่นเองไม่มีใคร

กีร์จึงถามตนเองว่ามันกวาดขยะทำไมตอนเช้าตรู่แบบนี้ปกติคนงานก็มีทำให้มัน

สำหรับเชวาเคยเป็นหนี้ไส้เหลี่ยมจัด

กับครอบครัวของกีร์

มันฉวยโอกาศตอนกีร์ไม่อยู่บ้านกับ

แม่

แม่ของกีร์บอกว่าหนี้ของเชวายังไม่

คืน

ครับแม่กีร์ตอบรับ

เชวามากระลิ่มกระเลี่ยแม่ตลอดเวลา

หาเงินหมุรเวียนช่วงสร้างตัวในที่จับจอง1000ไร่ ที่อีก5ปีจะรับผล

ช่วงนั้นมันขาดทุนหมุนเวียน

มันเป็นคนนิสัยไม่ดีชอบฉวยโอกาส

และเอาเปรียบเพื่อน มักง่ายมือไว

เผลอไม้ได้

กีร์รู้อยู่แก่ใจและจับได้ผ่านกล้องวงจรปิดกีร์ไม่เคยโกรธเชวา

เพราะโกรธมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

ปรัชญากีร์มีว่าในเมื่อเราไม่ต้องการแขกไม่รับเชิญมาก็ปิดประตูบ้านเสียปล่อยหมาเอาไว้ถ้ามีเสียงเรียกอีกก็งดเสียงตอบเท่านั่นเองปัญหาก็จบล

หากเชวาทำแสร้งแก้ตัวทำเป็นเจ็บขอความข่วยเหลือ

กีร์จะสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาอาชีพและเป็นเหลี่ยมโจร

ถ้าเชวาหรือใครเจ็บจริง

กีร์จะโทรเรียกรถพยาบาลมาจัดกา

ร!

เขาจะมาทันที รถพยาบาลที่นี่เยี่ยมมากเพราะได้รับเงินสนับสนุนอย่างงามจากรัฐและนายทุนเอกชนและมูลนิธิชนิดกินก่อนจ่ายทีหลังได้ที่เบลนดิ

สกี

"อันนี้ไม่แปลกที่เบลนดิสกีมีวัฒนธรรมอันดีงาม"

แม้ ร.พ.จะอยู่แสนไกลรถพยาบาล

ก็จะวิ่งเข้ามาไวสุดด้วยหวูดหวอ

กับพนักงานพยาบาลเร่งด่วนจำนวน 2 คนเสมอ

ที่กีร์เคยเห็น

รถเร่งด่วนชนิดนี้เงินเดือนงามเงินสมทบอีกเพียบ ถ้ามีการตายสิ่งของติดตัวคนตายเขายกให้คนที่หามผีอีกด้วย

กรณีนี้บริการฉุกเฉินอย่างนี้คนที่เบลนดิสกีรู้เรื่องนี้ดี

ฉะนั้นที่นี่ ถนนสายบีหมายเลขที่

1013 ชื่อเรียกทั่วไปเรียกว่าถนน"โค้งผีสิงคนตาย10ศพชอบ"ของเมืองเบลดิสกี

ใช่! รถฉุกเฉินช่วยได้

มันจึงสามารถช่วยคนเจ็บได้ท้นทีหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่ถนนหน้าบ้านเบลนดืสกีอาคารเรือน(เอ )นี้หรือแม้ในบ้านเบลนดิสกีและบ้านอื่นที่รู้จักใข้บริการนี้

"เชวานิสัยเสีย" กีร์ใช้คำนี้อธิบายนิสัยของเจ้าเชวา"

เชวาชอบชอบริการเอื้อแบบทางเพ

ศเพื่อแลกกับเงินของคนหญิงสาวด้อยโอกาสและกับคนงานสาวๆด้วยเงินตอบแทนให้เพียงเล็กน้อยต่อการร่วมเพศหนึ่งครั้ง

เชวาชอบมาขอยืมเงินแม่ของกีร์เสมอในชั่วโมงเร่งด่วน เขวา เป็นหนี้แม่ก็ไม่คืน เท่าที่กีร์รู้

แม้ดอกเบี้ยและดอกทบต้นก็คง

ไม่เหลือมีให้ตามระบบหนี้ที่เชวาสร้างไว้กับแม่ของกีร์แน่นอน

เชวาชอบกินเหล้าที่แม่ของกีร์คบเพราะเห็นว่าเชวาเป็นหลานของเพื่อนบ้านเก่าที่เป็นเพื่อนกันสมัยเด็กต่อมาเธอนางโขมพาแม่ของเชวา

ตายด้วยอุบัติเหตุงูกะปะกัดตายชนิดช่วยไม่ทัน และไม่มีใครเห็นในวันคริสต์สมาส-อีฟ(Christmas eve)

กีร์จะดำเนินการอย่างไรกับ"เชว

า"ไหม?

เป็นคำถามอยู่ในใจของกีร์

คำตอบต่อมาของกีร์คือ

กีร์ไม่คิดใจอะไรทั้วสิ้นกับเชวาแต่จำไว้"มันมีได้ครรั้งเดียวนี้เท่านั้นของอดีตที่ผ่านเลยไปนี้. และจะไมมีอีก"

เป็นคำตอบ

ตามด้วยแนวคิดเชิงปฏิทัศน์ของกีร์ต่อมาว่า

ถ้าเชวากลับตัวใหม่

คือกีร์ขอ

ย้ำว่า"สักวันหนึ่งเชวาคิดว่า"คนผิ

ดสำนึกได้

เขาก็จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีเอง

เพราะกฎวิทยาศาสตร์และกฎแห่งคุ

ณธรรมคือกฎแห่งกรรมที่กีร์เชื่อ หลังเรียนที่มหาวิทยาลัยเบลนดิสกีแล้วตอบโจทย์นี้ได้แน่นอน

คือกีน์จะปล่อยเขาไป

เพราะเรื่องของฆาตกรนมที่ไม่เปื้อนเลือดมันเป็นอาญาชีวิตพิสดารชนิดหนึ่ง

มันเกิดไปแล้ว

วันหนึ่งศาลแห่งเทพเจ้าที่กีร์เชื่อว่ามีจริงจะหวนลงโทษเชวาเอง

มันหนักกว่าศาลกว่าคุกอีกหลายร้อยพันเท่าแม้ถ้านับ

ชาติเกิดแล้วมันยากที่จะจบสิ้น

"ว่างั้น" อันนี้กีร์เน้นคือโทษนี้"จะมิใช่เหตุผลให้คนในสังคมเข็ดหลาบ แต่มันเป็นความจริงอันอมตะ"

กีร์มีความเชิ่อและเชื่ออย่างนี้

แม้โลกจะไม่มีจารึกจริงๆว่าเคยมีประวัติศาสตร์ว่ามี เคยมีพระเจ้าในร่างมนุษย์ถูกตรึงด้วยไม้กางเขนตายอย่างทรมานก็ตาม

สรุปเหตุเสียงแกรกๆที่เกิดเช้าตรู่ที่หนาวๆและลมเย็นยะยือกแบบนี้นั้นคือเชวาต้องการปลุกให้กีร์ลุกขึ้นมาของเช้าวันอาทิตบ์ที่ปกติวันอาทิตย์จะไม่มีมคนทำงานที่เบลนดิสกีนี่

เพื่อกีร์จะได้ถูกงูกัดหรือภัยบางอย่างเพราะ

เชวาสืบทราบมาว่ากีร์มานอนพักที่

บ้านเบลนดิสกีเรือน(เอ)หรือเชวามีแผนบางอย่างในใจ

เพื่อขออะไรกับกีร์

เพราะปกติเชวาจะทำโดยพลการแต่เมื่อพลาดสายตากีร์แต่

บังเอิญเช้านี้กีร์นอนจุดติดถนนใหญ่ที่บ้านของเชวาอยู่ใกล้ในฝั่งตรงข้า

มที่มีต้นเมเปิล-จามจีรี

ใหญ่ค้นหนึ่งอายุ100 ขึ้นอยู่

เชวาจึงใช้กลอุบายนั้ด้วยวิธีกวาดขยะหน้าบ้านตน ที่มีมบไม้ร่วงมากมาย แค่ปกติเชวาไม่เคยทำแบบนี้ในวันอาทิตย์

เพราะเสียงแกรกๆนั้มันกวนประสาทส่วนกลางได้ดีชมัดในคนใครก็ตามเมื่อหลัยสนิทอยู่เมื่อได้ยินเสียง"แกรกๆ"แบบนี้ต้องตื่นทันที

มันเป็นเสียงไม้กวาดกระทบพื้นปู

นหนือดินถนนหรือป่าหญ้าเรียบ

แม้จะกวาดขยะในฐานะการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดี (civics) เพื่อทำ ให้ถนนหน้าบ้านของตนได้ดูสะอาด

แต่เสียงนี้มัน

มีพิษต่อประสาทส่วนกลางของมนุษย์

คือคนที่หลับสนิทต้องจำใจตื่นขึ้น

ทำลายอาอารมณ์ว่างั้น

ฉะนั้นเชวาทำคุณบูชาโทษและมีแผนบางอย่างอยู่ในใจกับท่านกีร์ลูกรักของเพื่อนแม่ตนเองนั่นเองด้วย

ปกติดเชวาไม่มีนิสัยซีวิคแบบนี้เลย

บนขบวนรถไฟแบบฉบับแบบเทียวมาและเทียวไปของท่านกีร์ณแห่งเบลนดิสกี (Guy von Blendisky)/(ท่า

าน กีร์ ณ. เบลนดิสกี)

กีร์นั่งสำรวมความในใจที่กำลังนึกคิดในสมองของตนเองมากกว่าจะไปคิดเรื่องสุภาพสตรีที่นั่งใจจดจ่อกับการอ่านหนังสือพิมพ์อยู่

สมองของกีร์ตอนนี้พร่ำคิดว่าพอถึงเมืองโนวาสคอตต์แล้ว

จะต้องทำอะไรบ้างเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทางที่สถานีโนวาสคอตต์ที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

เพราะเมืองโนวาสคอตต์มีความ

หลังสำหรับกีร์มากมาย

และทันทีที่สมองมันๆไม่เดินด้วยกีร์จึงมองไปทางหน้าต่างรถไฟโบกี้ที่ 7ที่หอบผู้โดยสารอย่างกีร์มาวันนี้

ที่ตนโดยสารมานั่นมันเป็นด้านมุขด้านตะวันตก

กีร์จำได้ว่า

หิมะตกเช้านั้น มันเป็นบรรยายกาศดีมากแม้จะหนาวเหน็จมือเย็นออกสีคล้ำๆ

อากาศเย็นมากถึงแม้บริสุทธิ์แห่งความเย็นจะมีของเช้านี้" กีร์รำพันในใจตนเอง"

ลมพัดปะทะบานกระจกหน้าต่างรถไฟเป็นระยะๆ

ตัวรถไฟวิ่งไปเรื่อย ๆ เพราะมันมีฟืนกับไอน้ำร้อนมันวิ่งนิ่มเพลินดีบางครั้ง ๆ มันก็กระชาก

พร้อมมีเสียงหวูด เรามักจะได้ยินตลอดทาง

" เสียงมันเหมือนคนร้องไห้ด้วยสำเนียงที่ กีร์แปลออกเป็นว่า

"เหยื่อยจังเลย"

- อยากพพักไปกินข้าวไร่ผัดปูและเบียร์ดีๆในห้องอาหารที่ตู้รถไฟตู้เสบียงสักงกรึบนะ"

จากหน้าต่างของรถไฟ

ที่เขาปิดกั้นกันหยดหิมะสีขาวปุ

ยงามสีผ้าฝ้าย

ที่มันโปรยปลิวเล็ดลอดเข้ามาโดนที่พนักโดยสารที่กีร์นั่ง

แน่นอนมันเย็นนะเช้านี้ "กีร์เพ้ออยู่ในใจ"

โชคดีที่วันนี้มีสตรี

สวยๆนั่งตรงกันข้ามแทนคนขึ้เมา

ที่กินบำนาญโดยสารมาที่ปกติจะพบเมื่อโดยสารมากับรถไฟขบวนนี้

กีร์ รู้สึกหนาว ๆนิดๆ

แม้สวมมใส่เ

สื้อกันหนาวขนสัตว์ตัวแมคการูน(ลาคูน)

ที่เบามากและบางแต่อุ่น

เพิ่มครอบทับมันเป็นการกันหนาวสีจากขนลาคูนเป็นสีน้ำตาลลายคาดดำคล้ายสีของขนกระรอกไฟหรือปีกนกเขาไฟสีขนข้นน้ำตาลปึกไหม้ที่ดูเป็นผสมปุยขาวอ่อนคาด

ที่อ่อนโยนตาเมื่อเผลอไปมองพบที่ไหนสักแห่งกลางป่สละเมาะทุ่งกว้าง

ใครตาถึงจะรู้ว่าเวสื้อหนังตัวลาคูนนี้มันกันหนาวได้ดีและเบานี่คือโอเว่อร์โค้ดที่กีร์สวมมาวันนั้น

ทุกคนมองเสื้อลาคูนตัวนั้นที่กีร์

สวมใส่มานั้นมันอย่างอิจฉา แม้คนที่มองอย่างอิจฉาทุกคนว่า"ตนเองก็มีสิทธิ์ซื้อมันเหมือนกันแต่หาซื้อแสนยาก ต่อกีร์เสื้อตัวนี้กีร์ซื้อมันมาจากร้านขายของเก่ามือสอง

แต่กีร์มองว่ามันถูกเกินเพราะได้มาเสมือนฟรี

ในรถขบวนนี้ไม่มีใครกลัวว่า

มันจะหนาวอะไรกับหยด

หิมะขนาดนี้ในเช้านี้ คนอื่นจึงลืมสวมเสื้อกันหนาวกันมาและเพราะส่วนใหญ่กินเหล้าหนักๆกั

นมาทั่งนั้นเช่นวอดก้ารัวเซีย

และคอดหญักฝรั่งเศส

และวิสกี้สกอตและสามดาวของอเมริกัน บางคนหล่อเหล้ารสหนักๆพกใส่ขวดเล็กเหน็บกระเป๋าติดตัวมาด้วย

เพราะว่ากีร์ไม่กินเหล้าหนักเป็นอาชีพ

จึงกลัวหนาวไว้ก่อนจึงได้เตรียมเสื้อกันหนาวมาตัวลาคูนมาด้วย

คนโดยสารอื่นส่วนใหญ่คอเหล้าหนักส่วนมากที่มากับรถไฟขบวนนี้

เพราะรถไฟขบวนนี้ปกติ

จะขนส่งพวกกรรมกรเหมืองถ่านหินเดินทางไปกลับระหว่างเหมืองที่ทำงานกับที่บ้านพัก

แวบ!หนึ่งกีร์บังเอิญมองไปที่

ยกทรงนมตึงแข็งตรงสู้ลมและขาอ่อนสตรีคนนั้นอีก

เหมือนว่า ยกทรงนมตึงและขาอ่อนของเธอจะไม่หนาวเอาเสียเลย

กีร์จึงคิดว่าเราเคยเห็นเธอที่ไหนหนอ! วันนี้มันหนาวเธอดูสวยคมขึ้น

ผิวขาว ลมหนาวทำให้เธอ ที่กีร์น่าจะหันมามองซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เป็นอาห

ารตา

กีร์ จำได้ว่า"เคยเจอเธอกันครั้ง

หนึ่ง"

"ที่ไหนหนอกีร์พยายามทบทวนความคิดบนหัวอันน้อยนิดของตนเอง"

และนั้นก็คือบนรถไฟขบวนนี้นี่

"นั่นเอง" แต่คนละเที่ยวเดินทาง

มันเป็นเหมือนบังเอิญมาก

แต่จากนั้นกีร์ก็ฉุกคิดขึ้นอีกมาอีกว่า

ทำไมเราจึงได้มาพบกับแกอีกทั้งๆที่เราไมเคยรู้จักกันมาก่อน แล้วมันได้ตั๋วที่นั่งใกล้กันอีกด้วย"มันแปลก"

กีร์หลับตาลงคิดต่อไปแต่คราวนี้ทำเป็นงีบหลับ แบบทำตาปิดๆ

แต่ไม่ได้หลับคือทำตาหลับแบบคนจิตตก

สู่ภวังค์ คือแต่แกล้งหลับ

" แต่กีร์ก็หารู้ไม่ว่า"

ผู้หญิงคนนี้นั่นนละคือคู่ชีวิคของกี

ร์ในอนาคต

แต่กีร์ตัวเองนั้นไม่รู้มาก่อน

กีร์นิสัยปกติจะไม่ชอบหมอดูและไม่เชื่อในเรื่องความดลบันดาลในเทพเจ้าหรือพระเจ้า จะเชื่ออก็เรื่อง

เหตุบังเอิญว่านั่นคือพระเจ้า

และในภาวะไม่ปกติ

กีร์จะไม่เชื่อในกฎแห่งกรรม แต่เชื่อแต่กฎหมายและสิ่งที่คิดเอาเองทำเองดีเองได้เท่านั้น

"ถ้างั่นเธอคงจะไม่ใช่เมียของกีร์ในอนาคต จากประโยคตกคิดของกีร์ที่กล่าวมา"

ดูต่อไป

คือว่าตามชะตากรรมผู้หญิงเธอจะเป็นคนรักแรกของกีร์ได้

ในฉากชีวิตและโอกาสต่อๆมา

ในหนแห่งวันหลังๆนานมาแล้วถึงปัจจุบันมีอยู่หลายคน แต่ไม่เคยมี

ใครลงตัวสักคนเดียว

ไม่รู้อย่างงัย!นะ

แต่มันเป็นอย่างอย่างนั้นเฉยๆเลย

ชะตากรรมของคนประหลาดนะ

กีร์เสริมคิดคล้อยตาม

แต่ว่า"นั่นแหละ" ที่คนที่เบลนดิสกี

เขาเคยทักมาเหมือนศาลเพียงตาและเทวาอารักษ์ที่ทีเกลื่อนกลาดที่เบลนดิสกีเคยตามบันดาลบอก

กัน

แต่กีร์ไม่เชื่อเรื่องนี้

แต่เมื่อนับความจริงของความจริงและพอมาเอาเข้าจริงๆเข้า

"ชะตาลิขิตมันนำพาไปเองทำให้ทั้งคู่เป็นคนรักกันจนได้

"งง"

ความจริงนี้แปลกมาก

"นี้น่างง"

กล่าวคือ

สตรีคนนี้เธอมีผัวแล้วและผัวของเธอตายไปแล้ว และเธอมีลูกติดหนึ่งคนแล้วต่อมาลูกติดนนั้นก็ตายไปแล้วเช่นกัน

และต่อมา..ต่อมา...ยังไม่มีใครู้ได้ตอนนี้

สำหรับกีร์ ชีวิตมีระเบียบและกีร์ไม่ชอบชีวิตอะไรที่จะทำให้สังคมตำหนิได้และทำให้น่าสงสัย

ยิ่งการจะได้คนรักสักคน

ที่มีลูกติดมีผัวแล้วกีร์ไม่รับได้แน่นอน!

ถ้าเธอมีสิ่งนี้แต่เธอมีคสามสวยในสายตาของกีน์อันนี้กีน์ตัดไปเลยที่จะเอาวามสวยของเธอมาบดบังการตัดวินใจยกให้เปลืมเสียเถิดสำกรับกีร์แต่เปฌนเพื่อรึุยกันได้

กีร์กับเธอเป็นคน

รักกันมาก

แต่ความรักแป็นสิ่งไร้เหตุผล

คืออะไรก็ได้ถ้ามันรักกันและมันลงตัวอะไรก็โอเคหมด

นี้คืออานุภาพของความรัก"กีร์คิด"

" ก็มาถึง"

เมื่อมาถึงคืนวันที่กีร์จะนัดหมา

ยกับ

เธอและกีร์จะสารภาพกับเธอเพื่อหมั้นกับเธอและกำกนดวันสู่ขอแต่งงานกัน

กลับมเป็นว่าวันอันสำคัญยิ่ง

วันนั้น

"เธอผิดนัด" แต่ก็มิได้หมายความว่า"เธอจะปฏิเสธกีร์"

เพราะอะไรหรือ?เธอถึงได้ผิดนัด

ก็เพราะว่ส"เธอได้ตายลงเสียก่อน

"

จึงทำให้กีร์

เสียใจมาก

แต่กีร์ก็ร์ยังสงสัยว่า

ทำไมหนอ

ทำไมเธอถึงมาด่วนตาย

"ต่อมาพบว่า"

เธอฆ่าตัวตายเพราะเธอสารภาพบาปกับตนเอง ด้วยแรงแรกรักที่มืดบอด เธอจำใจต้องโกหกกับกีร์ว่า

ที่จริงเธอมีผัวมาก่อนแล้วหนนึ่งคน

เยื่อพรหมจรรย์ของเธอกระจุยไปแล้ว

เธอมิใช่หญิงรักแรกกับกีร์

ตามที่เธอทำให้กีร์เข้าใจแม้รักแรกจะเป็นรักปริศนาแบบมีการคลุมถุงชน เพราะเธอถูกพ่อเลี้ยงของเธอบังคับแต่งงานกีบลูกชายหัวแก้วหีวแหวนที่เพื่อนของแม่และมีมรดกมาก

กีร์คือชายคนแรก

คนแรกที่"อานองค์"เธอรักกีร์จากใจเธอชื่ออานองค์ๆชื่อเธอนี้เหมือนชื่อเมืองแคว้นหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส

ท้ายสุดเธอจึงตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย

ขออธิษญานไปพบรักกับกีร์ในชาติต่อไปหากชาติหน้ามีจริง

"ใช่"

เมื่อชีวิตรักมีอุปสรรค หลายคนตัดสินใจทำแบบนี้แบบอานองค์แต่อีกหลายคนไม่

"โลกนี้ก็แปลกดีน่ะ"

เมื่อกีร์ทราบว่า "อานองค์"เธอฆ่าตัวตายไปเสียแล้ว

แต่กีร์ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมแต่ กีร์โดยส่วนตัว คิดสงสัยว่า"พ่อหรืแแม่ของอานองค์ไม่ชอบตนเอง หรืออะไรสักอย่าง

กีร์พยายามปิดบัญชีรักนี้ แม้กีร์ยัง

เสียใจอยู่ "มึนตึบแบบทำอะไรไม่ถูกไปหลายเดือนทีเดียวละ!

กีร์ยังเสียใจอยู่ในส่วนลึกๆ

สำหรับการคิดฆ่าตัวตายตามอา

รองค์ไปด้วยนั้น

กีร์คิดว่า

"มันเป็นเรื่องไร้สาระ

สำหรับการที่มนุษย์คิดฆ่าตัวตาย" แม้กีร์จะมองว่ารักนี้สำหรับกีร์และอานองค์เป็นรักอมตะ"ก็ตาม

กีร์ครวญพินิจคิดต่อไปว่า:

การหาทางออกที่ดีกว่ามีเยอะสำหรับมนุษย์ แม้จะสูญเสียความ่รักไป ที่รักนี้บริสุทธิ์ที่กีร์ถือว่าการสูญเสียอานองค์คนรักของตนเองไปครั้งนี้มันยิ่ง

ใหญ่เหลือน่ะ!สำหรับในชีวิตของคนๆหนึ่ง

มีปมน่าสงสัยโดยคนข้างเคียง

เชื่อว่า " ถ้าอานองค์แต่งงานใหม่

รเกของผัวเก่าที่ตนควรได้รับตามพินัยกรรมที่"เมย์"ๆชื่อผัวคนแรกของอานองค์ที่ทำไว้ให้กับอาองค์

ทั้งหมดจำนวนมาก ระบุไว้ว่าถ้าอานองค์แต่งงานใหม่

มรดกทุกชนิดที่เมย์ทำไว้ให้เธอหลังเมย์ตายลงมรดกนั้นๆจะถูกระงับโดยพินัยกรรมมนทุกกรณี"

แต่กีร์ไม่สนใจติดใจอะไรและไม่เคยคิดเรื่องเงินๆทองๆเหล่านี้และ

กีร์ไม่รู้เรื่องเหล่านี้ด้วย

ระหว่างที่กีร์คบกับอานองค์ๆไม่เคยแย้มพรายอะไรเหล่ายนี้ให้กีร์รู้

แต่กีร์ก็แวะไปที่วันศพเธอลงหวุมที่สุสานของโบสถ์ในฐานะเพื่อนรักผู้

สนิทกันมากเท่านั้น

จะอย่างไรก็ตาม

กีร์เสียใจเหมือนคนทั่วไปเสียใจ

เมื่อคนรักมาด่วนตายลง

แต่สำหรับกีร์มันไม่ถึงหลั่งน้ำตาอาบแก้มให้คนใกล้เคียงได้เห็น

แต่น้ำตาที่ใจของกีร์ไหลพรากอย่างเต็มหัวอกแน่นอน

สังเกตดีๆในวันฝังศพอันๆร้วิญญาณชีพของอานองค์นั้น

กีร์มีอาการอย่างนี้

ที่สีหน้าของกีร์ได้บ่งบอกได้อย่างชัดมาก

กีร์ยอมเสียใจเรื่องชีวิตและความรักเป็นปกติคือเป็นคน'ทำใจได้"

กีร์คิดว่าชีวิตคนเรามันก็เหมือนนิยายเดี๋ยวมีรักเดี๋ยวหมดรัก

เดี๋ยวตายจากกัน

เดึ๋ยวเปลี่ยนแปลงโน้นนี่นั่น

ทุกคนมันมีสิ่งเหล่านี้อยู่ร่ำไป

ปรัชญาชีวิตที่กีร์

เคยเรียนมาตอนอยู่โรงเรียนและ

ตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย

กีร์นำมาใช้ทุกอย่างทุกๆหัวข้อจากทุกๆหน่วยการเรียน ที่จำได้แม่นและสอบผ่านมา

เมื่อกีร์พบปัญหาชีวิต

เมื่อชีวิตมีอาการผกผันเกิดขึ้นๆไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขขึ้นก็ตาม

กีร์ได้ข้อสรุปว่าขีวิตไม่ใช่ภาพที่นักเขียนวาดเอาตามใจชอบได้

แม้มีองค์ประกอบมีสีสัน สวยงามเป็นมโนคติ สากลนิยมได้แบบไหนก็ตาม "ชีวิตมีใช่ภาพวาดแต่ชีวิตเหมือนนิยาย " กีน์เชื่

อว่าอย่างนั้นแน่นอน"

ต่อมาเมื่อ2ปีผ่านไป กีร์ได้พบรักใหม่

สวยกว่าเก่าอีก และทีฐานะมีสกุงเชื้อเจ้าน

ายโบราณอีก

ด้วยและแถมมีความรู้สูงอีกต่างหาก

"ใช่"

เป็นิวลา2ปีผ่านไปหลังจากที่อานองค์แฟนคนแรกของกีร์ตายลง

จากความเป็นจริง ที่กีร์ไม่อยากจะเปิดเผยให้ใครรู้นอกจากตนเอง "นั้นคือ"

"คือว่า"แต่กีร์พบในจิตเบื้องลึกของตนเองว่า

"อานองต์

คือหญิงแรก

หญิงที่

สวรรค์มอบให้มาสำหรับตนเอง

"เทพเจ้าแห่งความรักประทามา

จริงๆ" กีร์อุทานในใจของตนเอง

ในที่ลับๆหมือนแมลงภู่หาที่เจาะทำรังอยู่ในไม้เนื้ออ่อนผุๆ

ตามที่เงียบคนตาม

ยุ้งข้าวตามบ้านนอกสุดๆ

และตามที่มันทำตามวงจรชีวิตของมันอย่างสัตว์ปีกชนิดนี้ชอบกระทำ

แม้กีร์จะแต่งงานแล้วตอนนี้กับคนรักใหม่ครั้งที่สองนี้

แต่ใจของกีร์ยังคงคิดถึงอานองค์

เสมือนหนึ่งว่า

อานองค์

คือคนรักเดียวเท่านั้น

และเป็นรักที่รักมากๆ

แบบอมตะ

ถ้านิยายชีวิตจะมีให้เลือก

อย่างชนิดตามใจตนเอง

แบบเลือกรักได้ตามใจชอบ

กีร์พยายามสารภาพกับตนเอง

ที่ชายทะเลน้ำสีน้ำสีปานภาพวาดทิวทัศน์แห่งหนึ่งที่ชายทะเลเอเจีรา

ของเย็นวันหนึ่งบังเอืญกีน์ต้องผ่านไป ครเดียว ยามว่างสุดๆ

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

เป็นคำถาม "ก็ในเมื่อเรื่องของอานองค์ มันได้จบไปแล้ว"

ในเมื่ออดีตมันผ่านไปนานมาแล้ว

รถไฟและหิมะที่สถานีเบลนดิดสกี้ในวันนั้น ยังไม้ให้คำตอบนี้

ให้กีร์หายข้อวใจ

แม้กีร์

เองก็ไม่พบคำตอบนี้ แต่ภาพ

ที่สถานีเบลนดิดสกี้ในวันนั้น

และภารกืจของกีร์เพื่อก่ารเดินทางไปสถานีที่เมืองโนวาสกอตต์ก็จบไปหมดแล้ว เหมือนอาหารมื้อโปรดที่ได้ชิมและตนเองได้อิ่มไปแล้ว

พอใจไปแล้ว

แต่ทำไม ภาพวันนั้นที่สัาาเวลนดิดสกี้แงะหิมะตกโปรยลงมาขณะรภไฟกำลังแล่น

ภาพความทรงจำนั้นๆ

มันยังมาหลอนให้กีร์นึกเป็นมโนภาพที่ให้กีร์เห็นมันอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ร่ำไป

หรือว่า

"ผีหลอก"

กีร์จึงภาวนาว่า

ถ้าผีจะมาหลอก

ผีจงไปอยู่ส่วนผีเถอะ อย่ามาลวงหลอกมนุษบ์ลย

และสำหรับกีร์ไม่เชื่อว่าผีมีจริง

กีร์มีปืนไว้ในครอบครอง

เสียงกระสุนของปืนมีจริง

และลูกดนะสุนมันสามารถทำลาย

ชีวิตคนได้

กีร์เขื่อเรื่องอานุภาพของปืน

แม้กีร์จะเป็นเจ้าของมันแต่ไม่เคย

ใช้มันเลย เพราะปืนมันอันตราย

พอดีเป็นมรดกีร์จึงมีมัน

และปืนก็มีไว้เพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น

มิใช่มีปืนไว้เพื่อฆ่าคน หรือไว้ยิงผี

อันนี้เป็นความคิดของกีร์

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!