เรื่องมันมีอยู่ว่า... เมื่อหลายเดือนก่อน มียัยเด็กสาวปริศนาคนนึงมานอนอยู่หน้าห้องของผม
เอ๊ะ ๆ แต่...
คนปกติที่ไหนจะมานอนอยู่หน้าห้องคนอื่นแบบนี้ล่ะ นอกเสียจากว่าคนเมา แล้วยิ่งเธอเป็นผู้หญิงด้วยนะ จะมานอนหน้าห้องผู้ชายแบบนี้มันก็ผิดปกติแล้ว เป็นใครผมก็ยังไม่รู้จัก
ผมตั้งสติคิดดูอีกที ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เธอไม่ใช่มนุษย์น่ะสิ
ผมจับชีพจรและตรวจเช็คร่างกายอย่างที่เคยฝึกมา
‘แวมไพร์งั้นหรอ..’
ผมรู้ได้ทันทีเพราะหัวใจของเธอไม่ได้เต้น แต่ร่างกายยังทำงานอยู่ ลมหายใจรวยรินคล้ายจะหมดแรง
ผมพยายามเรียกเธอให้ได้สติ แต่เธอก็ไม่ตอบสนองราวกับว่าชีวิตนี้ใกล้จะตายเสียแล้ว
แน่นอนเธอถูกทำร้ายมีบาดแผลมากมายตามตัว มันไม่ได้มาจากอาวุธทั่วไป แต่มันคืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ของหน่วยล่าสังหารแวมไพร์ระดับสูง
สงสัยใช่ไหมว่าทำไมผมรู้ ผมก็เป็นหนึ่งในหน่วยนั้นเหมือนกันเพียงแต่ว่า ลาออกมาแล้วเพราะว่าเหตุผลหลายอย่าง
แต่ก็ช่างหัวพวกนักล่านั้นเถอะ ถึงแม้ว่าโลกใบนี้มนุษย์และแวมไพร์หรือเผ่าพันธุ์แปลกประหลาดอื่น ๆ จะอยู่ร่วมกันอย่างปกติ แต่ความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์ก็ยังไม่จบง่าย ๆ
คงต้องช่วยเธอก่อนแล้วค่อยถาม
ในตอนนั้นเองผมรีบอุ้มตัวเธอที่ไร้สติเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว วางเธอลงโซฟาตัวใหญ่ ก่อนจะทำในสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครทำเวลาเจอแวมไพร์มานอนใกล้ตายอยู่หน้าบ้าน
แหนะ ๆ อย่าเพิ่งคิดลึกนะ
ผมชักมีดพกประจำตัวออกมากรีดเลือดที่ฝ่ามือจนมันหยดไหลใส่ปากของเธอหลายหยด ถึงแม้ว่ามันจะช่วยรักษาอะไรมากไปได้แต่ก็ทำให้ระบบฟื้นฟูร่างกายของเผ่าพันธุ์กินเลือดลึกลับนี้ทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น
รอยกระสุนและรอยมีดที่ทำมาจากแร่โลหะเงินบริสุทธิ์ ค่อย ๆ จางหายลง แต่ก็ไม่หายสนิท คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก และในตอนที่เธอกำลังนอนหลับไม่ได้สตินั้นผมก็รีบออกไปดูสถานการณ์ข้างนอกว่ามีใครตามเธอมาหรือเปล่า
จริงอยู่ที่ผมเป็นนักล่าปีศาจเช่นเดียวกัน แต่ผมก็อยากรู้ว่าเธอมีความผิดอะไรถึงได้โดนตามล่า
ห้องพักของผมอยู่ชานเมืองแทบจะไม่มีรถผ่าน คืนนี้เลยพออุ่นใจได้บ้าง ดูแล้วคงไม่มีใครตามเจอเธอเพราะผมทำความสะอาดทั้งรอยเลือดและเคลียร์หลักฐานต่างๆออก
/กลางดึกคืนนั้น เวลาเกือบตี 1/
เธอเริ่มรู้สึกตัวแล้ว ตอนนี้บาดแผลเกือบทุกอย่างหายดีสนิท และทันทีที่เธอรู้ตัว สัญชาตญาณการป้องกันตัวของเธอก็ทำงานอย่างรวดเร็ว เธอรีบพุ่งตัวเข้าจู่โจมผมด้วยกรงเล็บและเขี้ยวคมยาวตามแบบแวมไพร์ทั่วไป
แม้ว่ามันจะเป็นการโจมตีที่รวดเร็ว แต่ผมเองก็สามารถจับทางการโจมตีแบบนี้ได้ไม่ยากเลย
“เดี๋ยวฟังผมก่อน!”
ผมพยายามพูดกับเธอในระหว่างที่เธอก็พยายามจะฆ่าผม
เธอจู่โจมได้อย่างรวดเร็ว ผมเองก็หลบหลีกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะว่าพลังกายของเธอตอนนี้ยังฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ดี
ผมปล่อยให้เธอเข้าโจมตีผมจนร่างกายอ่อนแรง โดยที่ผมไม่ได้จู่โจมเธอขับเลยแม้แต่น้อย
เราสองคนถอยออกจากกันอย่างเว้นระยะห่าง
"นายเป็นใคร !" เธอทั้งโมโหและสงสัย
"คนที่ช่วยชีวิตเธอไว้ยังไงล่ะ" ผมพยายามอธิบาย
"โกหก!" เธอไม่เชื่อง่าย ๆ
ดมซะสิ ! เลือดที่ป้อนให้เธอมันของฉันนะ ! ผมดึงผ้าพันแผลออกจนเลือดไหลอีกครั้ง
เธอนิ่งไปด้วยความสับสน แต่กลิ่นเลือดของผมเธอเองก็จำได้ เพราะเพิ่งได้รับมันไปไม่นานมานี้
คราวนี้เชื่อหรือยัง ผมพยายามทำให้เธอใจเย็น
เธอไม่ตอบ แต่ก็ถอยไปนั่งพักเหนื่อยที่โซฟาอีกตัวไม่ไกลนัก
ผมจะไม่ทำร้ายคุณหรอก ผมสัญญา
….
เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันมาคุยกับผม
“นายเองก็ไม่ใช่คนทั่วไปสินะ ถึงรู้วิธีรักษาและต่อสู้กับพวกฉันได้”
“อืม ใช่ ผมเองก็ได้รับการฝึกมา”
“เพราะนายก็เป็นพวกนักล่า”
“ลาออกแล้ว”
“ทำไมล่ะ”
“เรื่องมันยาว”
“เออ ช่างเถอะ ๆ ยังไงก็ขอบใจนะที่ไว้ชีวิตฉัน”
“ไม่เป็นไรหรอก”
“ว่าแต่เลือดนายอร่อยดีนะ”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็แบบอร่อยอะ ฉันชอบ ขอกินอีกได้ปะ”
ยัยแวมไพร์ทติดใจซะแล้ว
“เดี๋ยว ๆ ขอกันง่าย ๆ แบบนี้เลย”
“อื้ม ได้ไหมล่ะ” เธอเปลี่ยนท่าที ดูเป็นมิตรขึ้นมาหน่อย
…
“ก็ได้แต่มีข้อแลกเปลี่ยน” ผมได้โอกาสแล้ว
“อะไรล่ะ” เธอเดินมาใกล้ผม
“เธอต้อง…” ผมเดินไปกระซิบที่หูเธออย่างไม่กลัว
…
สีหน้าท่าทางเธอเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
“ไอ้บ้า ลามกอ่ะ นี่ไม่กลัวตายเลยเรอะ!”
“55555 ไม่อ่ะ”
“เออ ๆ ก็ได้ นี่ยอมเพราะว่าเลือดนายมันอร่อยหรอกนะ”
“โอเค ตกลงนะ”
อืม ๆ ><
“เริ่มเลยคืนนี้ เดี๋ยวให้ดูดจนแห้งเลย”
“ก่อนอื่นเลยนายชื่ออะไร”
“ผมอะ ชื่อ เรน เธอล่ะ”
“ลิลิธ ชื่อของฉัน”
“อื้ม ยินดีที่ได้รู้จักนะ ลิลิธ”
55555 จบ พอ ๆ แอดไปนอนละ