ฝนเม็ดเล็กกระทบกระจกหน้าต่างห้องเช่าเสียงดังติ๋ง ๆ กานต์นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวเก่า แสงไฟสลัวจากหลอดฟลูออเรสเซนต์กระพริบวูบวาบเหมือนจะดับลงทุกเมื่อ
สองปีแล้ว... ตั้งแต่วันที่เขาเห็น “มินตรา” เดินจากไปพร้อมรอยยิ้มและน้ำตา
ย้อนกลับไปวันนั้น กานต์ยืนมองเธอถือกระเป๋าเดินออกจากห้องเล็ก ๆ ที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยกัน เขาอยากวิ่งตาม อยากกอด อยากตะโกนบอกว่า “อย่าไปเลย อยู่กับฉันเถอะ” แต่เสียงในใจกลับติดอยู่ในลำคอ
เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาปล่อยเธอไปก็เพราะ… เขาเชื่อว่าเธอสมควรได้รับอนาคตที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่อนาคตที่เต็มไปด้วยหนี้สิน งานรับจ้างรายวัน และความจนแสนสาหัสแบบที่เขาเผชิญอยู่
หลังจากวันนั้น กานต์ใช้ชีวิตเหมือนคนไร้วิญญาณ เขายังทำงานก่อสร้างเหมือนเดิม กลับห้องเหมือนเดิม เปิดลิ้นชักดูร่มสีเหลืองคันเล็กที่เธอเคยใช้ทุกครั้งที่ฝนตกเหมือนเดิม
“กานต์… ร่มนี้เราเก็บไว้นะ เผื่อวันไหนฝนตกหนัก จะได้ไม่เปียก”
เสียงเธอในวันนั้นยังดังอยู่ในหัว เขาจำแม้กระทั่งรอยยิ้มที่มีหยดฝนเกาะอยู่บนแก้ม
แต่กานต์ไม่เคยกางร่มคันนั้นอีกเลย… เพราะเขาเชื่อว่าหากกางออก มันจะยิ่งตอกย้ำว่าเธอไม่อยู่แล้วจริง ๆ
ค่ำคืนนี้ฝนตกหนักผิดปกติ เสียงฟ้าร้องเหมือนสะท้อนความเจ็บปวดในใจ กานต์เปิดลิ้นชักอย่างช้า ๆ มือสั่นเมื่อสัมผัสร่มสีเหลือง ร่มที่ยังคงมีกลิ่นอ่อน ๆ ของน้ำหอมที่เธอเคยใช้ติดอยู่
เขากางร่มออก น้ำตาก็ไหลพรากลงมา “มินตรา… ถ้าฉันรั้งเธอไว้ วันนั้น… เราอาจจะยังเดินกางร่มด้วยกันอยู่ก็ได้”
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นท่ามกลางเสียงฝน กานต์สะดุ้ง เงี่ยหูฟังอย่างไม่แน่ใจ
เคาะ… เคาะ…
เขารีบปาดน้ำตา เปิดประตูออกไป แต่ตรงนั้นไม่มีใครเลย มีเพียงฝนที่สาดเข้ามา กับเงาร่มสีเหลืองอีกคันหนึ่งตั้งอยู่ที่พื้นหน้าห้อง ร่มที่เหมือนกับของเขาทุกประการ
กานต์ทรุดลงคุกเข่า กอดร่มนั้นแนบอก ร้องไห้ออกมาไม่อายใครอีกแล้ว
เขารู้ดีว่าเธอคงไม่กลับมา… แต่เธอยังคงอยู่ในทุกหยดฝน ทุกสายลม และในหัวใจของเขาตลอดไป
---
😭 จบ