"แก้ว" หญิงสาวผู้ตาบอดตั้งแต่เกิด นั่งเหม่อลอยอยู่ริมหน้าต่างเก่า ๆ ของหอพักนักเรียนคนพิการ
เธอใช้ชีวิตแบบมืดมนมาตลอด แต่หัวใจยังเต็มไปด้วยความหวัง แม้เธอจะไม่เคยเห็นใบหน้าใครเลย... แต่เธอก็เชื่อว่าสักวันหนึ่ง เธอจะ 'มองเห็น' รักแท้จากใครสักคนได้
12 มีนาคม 2545
เอ ชายหนุ่มนักศึกษาจิตอาสา เดินเข้ามาในชีวิตของเธอ เอ ไม่ได้มองเธอด้วยสายตาสงสาร เขาหัวเราะและพูดคุยกับเธอเหมือนเธอเป็นเพื่อนธรรมดาคนหนึ่ง เขาสอนเธออ่านเบรลล์ พาเธอเดินเล่นในสวน เล่าเรื่องท้องฟ้า แม่น้ำ และสีสันของโลกภายนอกให้เธอฟัง
เอพูดกับแก้วว่า…
"แก้ว... เธอสวยกว่าทุกอย่างที่ฉันเคยเห็นมา"
คำพูดที่ทำให้หัวใจของ แก้ว เต้นแรง... แม้จะมองไม่เห็น แต่เธอก็รู้สึกได้
1 ปี ต่อมา…
12 มีนาคม 2546
โชคชะตาก็หักเห หมอแจ้งกับ แก้ว ว่า มีผู้บริจาคดวงตาให้เธอแล้วนะ เป็นชายหนุ่มนิรนามที่เพิ่งเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ
โอกาสนี้หายากและแทบเป็นไปไม่ได้ แก้ว ลังเลอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด
หลายเดือนผ่านไป...
หลังการพักฟื้นยาวนาน
แก้ว"มองเห็น" ได้จริง ๆ ครั้งแรกที่เธอลืมตาขึ้นมา เห็นแสงแดดทะลุผ้าม่าน เห็นมือของหมอที่ยื่นมาทักทายและที่สำคัญที่สุด...
ในวันหนึ่ง
เอ มาเยี่ยม แก้ว ได้เห็นใบหน้าของ เอ เป็นครั้งแรก ชายหนุ่มที่เธอเคย 'มองเห็น' ด้วยหัวใจ... ตอนนี้ปรากฏต่อหน้าเธออย่างสมบูรณ์แบบ
แต่แก้ว "เลือก" ที่จะแกล้งทำเป็น "ยังมองไม่เห็น" เพราะเธอกลัว... ถ้าเขารู้ว่าเธอมองเห็นแล้ว เขาอาจไม่รักเธอเหมือนเดิมอีก
เอ ยังคงดูแลเธอเหมือนวันแรก...พาเธอเดินข้ามถนนอย่างทะนุถนอม บรรยายท้องฟ้าและพระอาทิตย์ให้เธอฟังเหมือนเดิม...โดยไม่รู้เลยว่าแก้วกำลังมองเขาด้วยสายตาที่มีน้ำตาคลอเบ้าแทบทุกครั้ง แต่ในใจลึก ๆ ของแก้ว เต็มไปด้วยความสงสัยและเจ็บปวด
"ถ้าเขารู้ว่าฉันมองเห็นแล้ว... เขาจะยังรักฉันอยู่ไหม?"
3เดือนต่อมา
ในคืนหนึ่ง
แก้ว ขอให้ เอ พาไปเดินเล่นในสวนเหมือนแต่ก่อน เมื่อถึงสวนดอกไม้ที่เธอเคยได้กลิ่นแต่ไม่เคยเห็น แก้ว หยุดเดิน หันไป "มอง" เอ ตรง ๆ เป็นครั้งแรก มองด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา
แก้ว ตัดสินใจเปิดเผยความจริง
แก้ว: “เอ..."
"ฉัน...มองเห็นแล้ว"
เอ: ยิ้มตอบ
เอไม่มีท่าทีตกใจ ไม่โกรธ ไม่เสียใจ
แต่กลับยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน
เอ: "แก้ว... ฉันรู้มาตลอด"
"ตั้งแต่วันที่เธอหลบสายตาฉันครั้งแรก... ฉันก็รู้แล้ว"
แก้ว: "แล้วทำไม..." สะอื้นถาม
เอ: ยิ้มบาง ๆ
"ก็ฉันรักเธอ... ไม่ใช่เพราะเธอมองเห็นหรือมองไม่เห็นนี่"
"ฉันรักเธอ... เพราะเธอคือ แก้ว ของฉัน"
แก้วโผเข้ากอดเขาแน่นกลางสวนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานเต็มที่
ดวงตาคู่ใหม่ของเธอพร่าเลือนด้วยน้ำตา... แต่หัวใจกลับชัดเจนที่สุดในชีวิต
ตอนที่ 1: กลิ่นแสงแดดในบ่ายวันนั้น
เสียงนกร้องแว่ว ๆ ลอยมากับลมบ่าย แก้วนั่งอยู่ริมหน้าต่างไม้เก่า ๆ ของหอพักนักเรียนคนพิการ ผ้าม่านผืนบางไหวแผ่วตามแรงลม แสงแดดลอดผ่านม่านลงมาต้องใบหน้าเธอเบา ๆ กลิ่นแดดอุ่น ๆ ปนกลิ่นฝุ่นไม้เก่า... กลายเป็นกลิ่นประจำของทุกบ่าย
"วันนี้ท้องฟ้าเป็นสีอะไรนะ..."
เธอพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง พลางยิ้มบาง ๆ อย่างเคยชิน
ตั้งแต่จำความได้ แก้วไม่เคยเห็นอะไรเลยสักครั้งเดียวในชีวิต แต่เธอจำเสียงฝน เสียงนกร้อง และกลิ่นลมจากหน้าต่างห้องพักของเธอได้ทุกวัน... เพราะสิ่งเหล่านี้คือโลกทั้งใบของเธอ
จนกระทั่ง...
“เอ่อ... ขอโทษครับ ผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหม?”
เสียงผู้ชายแปลกหน้า... นุ่ม ละมุน และมีพลังบางอย่างที่ทำให้แก้วสะดุ้งนิด ๆ แล้วหันใบหน้าไปตามเสียงนั้น
“ตรงนี้...เหรอคะ?”
“ครับ ผมเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก เป็นนักศึกษาจิตอาสา เขาให้ผมมาช่วยดูแลเด็ก ๆ ที่นี่ ผมชื่อ 'เอ' ครับ”
แก้วนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มบาง ๆ “ชื่อแปลกดีค่ะ... เอ”
เอหัวเราะเบา ๆ “ใช่ครับ ผมก็ว่างั้น”
เอ: “แล้วคุณล่ะ ชื่ออะไรครับ?”
แก้ว: “แก้วค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงเบา แต่ชัดเจน
“แก้วที่ไม่เคยเห็นอะไรเลย... นอกจากความมืด”
เอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า...
“งั้นผมจะเล่าให้ฟัง ว่าวันนี้ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าอ่อน ๆ มีเมฆบาง ๆ ลอยเหมือนขนนก แดดไม่แรงมาก ลมกำลังดี... เหมาะกับการนั่งฟังเสียงใบไม้”
แก้วหัวเราะในลำคอเบา ๆ “คุณพูดเก่งจังค่ะ”
เอ: “ผมอยากให้คุณได้เห็นมัน... ต่อให้ด้วยใจ ก็ยังดี”
ครั้งแรกที่แก้วได้ยินคำพูดแบบนั้น น้ำเสียงของเขาไม่ปนความสงสาร ไม่ใช่ความเวทนา มันอบอุ่นเหมือนแดดบ่าย...
เธอไม่รู้ว่าระหว่างเธอกับเขา... จะได้เจอกันกี่ครั้ง
แต่เธอรู้ว่า ตั้งแต่นาทีนั้น เธอไม่เหงาอีกต่อไป
ตอนที่ 2: เสียงของสายลม และมือของเขา
หลังจากวันนั้น “เอ” มักมานั่งข้าง ๆ แก้วเสมอ
ทุกบ่ายวันอังคาร เขาจะมาพร้อมกับหนังสือเบรลล์เล่มหนึ่ง กลิ่นแชมพูอ่อน ๆ กับเสียงฝีเท้าเบา ๆ ของเขากลายเป็นสิ่งที่แก้วจดจำได้ดีไม่แพ้กลิ่นลมจากหน้าต่าง
"วันนี้เราจะเรียนพยัญชนะ ก-ฮ กันต่อนะครับ"
เขาวางมือลงบนมือของเธออย่างนุ่มนวล
มือของเขา... ใหญ่ อบอุ่น และใจเย็นจนน่าแปลก
“นิ้วของเธอต้องวางแบบนี้ แล้วค่อย ๆ ลูบเบา ๆ ตรงนี้... ใช่ แบบนั้นแหละ”
แก้วไม่ได้ตั้งใจฟังเนื้อหาทั้งหมดหรอก
เธอกลับรู้สึกถึง “น้ำเสียง” ที่คล้ายจะยิ้มอยู่ตลอดเวลา
แก้ว: “เอ...”
เอ: “ครับ?”
แก้ว: “ถ้าฉันเห็นได้ ฉันคงชอบฟังเวลาคุณยิ้ม”
เอเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะตอบเบา ๆ ว่า…
เอ: “แล้วถ้าผมบอกว่า... ผมชอบเวลาคุณไม่เห็นอะไรเลยล่ะครับ”
เอ: “เพราะคุณตั้งใจฟังผมจริง ๆ”
แก้วนิ่งไป หัวใจเธอเต้นแรงจนน่ากลัว
ไม่รู้ว่าเธอกำลังรู้สึกอะไร
แต่ทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้ ๆ... ความมืดที่เธอเคยกลัว กลับอุ่นขึ้นอย่างประหลาด
เวลาผ่านไปเป็นเดือน
แก้วเริ่ม “เห็น” โลกผ่านคำบรรยายของเอ
เธอจินตนาการดอกไม้ในสวนได้จากกลิ่น
จินตนาการท้องฟ้าจากลมหายใจของเขาที่เป่ารดหน้าเธอเบา ๆ
และเธอจินตนาการ “ตัวเขา” จากคำพูดประโยคหนึ่ง
“แก้ว... เธอสวยกว่าทุกอย่างที่ฉันเคยเห็นมา”
...
และในค่ำวันหนึ่ง ก่อนที่เขาจะกลับ เอยืนเงียบอยู่หน้าห้องเธอครู่หนึ่ง แล้วพูดเบา ๆ
“ฉันหวังว่า... สักวันหนึ่งเธอจะได้เห็นทุกอย่างด้วยตาของตัวเองนะ”
“แต่ถึงจะไม่ได้เห็น ฉันก็จะอยู่ตรงนี้... อยู่กับเธอแบบนี้ต่อไป”
เสียงฝีเท้าเขาค่อย ๆ หายไปในความเงียบ
ส่วนแก้ว... ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
มือของเธอ... ยกขึ้นแตะแก้มของตัวเองเบา ๆ
ตรงที่ร้อนผ่าวเพราะหยดน้ำตาแห่งความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้
ตอนที่ 3: แสงแรก... ที่ยังไม่กล้ารับ
12 มีนาคม 2546
แก้วนั่งอยู่ในห้องพยาบาลเงียบ ๆ เหมือนทุกครั้งที่มาตรวจร่างกายตามนัด เธอไม่คิดว่าจะมีอะไรพิเศษในวันนี้
จนกระทั่ง... หมอคนเดิมที่ดูแลเธอมานาน พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงต่างจากทุกครั้ง
หมอ: “แก้ว... วันนี้หมอมีข่าวจะบอก”
เธอหันหน้าไปตามเสียงอย่างสงสัย
แก้ว: “ข่าวอะไรคะหมอ...”
เสียงของหมออ่อนลง เหมือนพยายามระงับอารมณ์
หมอ: “มีผู้บริจาคดวงตาให้เธอแล้วนะ แก้ว...”
ทุกอย่างในหัวแก้ว... ว่างเปล่า
โลกที่เคยนิ่งเงียบสั่นไหวทันที
แก้ว: “...หมายความว่าไงคะ”
หมอ: “หมายความว่าเธอมีโอกาสได้ ‘เห็น’ แล้ว ผู้บริจาคเป็นชายหนุ่มนิรนาม เพิ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ครอบครัวเขาตัดสินใจบริจาคดวงตา และผลเข้ากันได้กับเธอพอดี”
“เป็นโอกาสที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย...”
แก้วเงียบงันไปนานมาก
เธอไม่ได้ร้องไห้
แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนหัวใจเธอกำลังจะหลุดออกมาจากอก
เห็น... ได้เห็นจริง ๆ เหรอ?
เธอเคยฝันถึงแสง
เคยถามเอว่า ท้องฟ้าเป็นอย่างไร
เคยจินตนาการใบหน้าเขาผ่านเสียง
แต่เธอไม่เคยคิดว่า... เธอจะได้ ‘รู้จัก’ โลกจริง ๆ ผ่านดวงตาของใครอีกคน
แก้ว: “หมอคะ... ถ้าฉันรับดวงตาคู่นั้นไป ฉันจะเห็นหน้าคนที่ฉันรักได้จริง ๆ ไหม”
หมอยิ้มบาง ๆ
หมอ: “ได้สิ แก้ว... ถ้าเขาอยู่ตรงนั้น เธอจะได้เห็นเขาเต็มตาเลยล่ะ”
...
คืนวันนั้น แก้วนอนไม่หลับ
เสียงนาฬิกาเดินดังในความเงียบ
ความดีใจผสมกับความกลัวอย่างประหลาด
เธอกอดตุ๊กตาผ้าที่เอเคยให้ไว้แน่น แล้วกระซิบในใจ
“เอ... ถ้าฉันเห็นได้จริง ๆ แล้วคุณยังจะอยู่ตรงนี้ไหม”
“หรือคุณจะหายไปจากฉัน... เหมือนทุกอย่างที่ฉันเคยมองไม่เห็น”
ตอนที่ 4: กลัวแสงแรก… แต่ก็อยากเห็น
หลายวันหลังจากหมอบอกเรื่องการบริจาคดวงตา
แก้วกลายเป็นคนเงียบขึ้นอย่างผิดสังเกต
เธอไม่ได้ปฏิเสธ ไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้พูดว่า "ไม่กล้า"
แต่ทุกเช้าที่ยังได้ยินเสียงนกร้อง และทุกค่ำที่ยังได้ยินเสียงลมพัดผ่านม่านบาง ๆ — เธอแค่ "นั่งนิ่ง"
และ "คิด"
...
เอยังมาหาเธอเหมือนเดิม
เขายังคงพาเธอเดินไปที่สวนหลังหอ
ยังพูดถึงท้องฟ้า ยังเล่าเรื่องพระอาทิตย์ตก
และยังจับมือเธอเหมือนเดิม — เหมือนทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
แต่แก้วรู้... ว่าเธอเปลี่ยนไปแล้ว
"เอ..." เธอพูดขึ้นกลางสวนดอกไม้ในเย็นวันหนึ่ง
"ครับ?"
"ถ้าฉันมองเห็นได้จริง ๆ ... คุณจะยังอยู่ตรงนี้ไหม"
เอนิ่งไปเพียงครู่
ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแน่ใจ
"อยู่สิ... ผมไม่ได้อยู่กับคุณเพราะคุณมองไม่เห็นนี่ครับ"
"ผมอยู่... เพราะคุณคือคุณ"
ประโยคนั้นควรจะทำให้เธอโล่งใจ
แต่มันกลับทำให้เธอกลัวมากกว่าเดิม...
...
คืนหนึ่ง แก้วฝัน
ในความฝันนั้น เธอยืนอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยแสง
ทุกอย่างขาวจ้าเกินไป จนเธอมองอะไรไม่เห็นเลย
ไม่มีเสียงของเอ
ไม่มีคำบรรยาย ไม่มีรอยยิ้มของเขา
ไม่มีมืออุ่น ๆ ที่เคยจับเธอไว้
เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาในความมืด
เหงื่อท่วมตัว หัวใจเต้นแรง
เธอกอดตัวเองแน่น แล้วเอ่ยเสียงแผ่ว ๆ
“ฉันกลัว... กลัวว่าถ้ามองเห็นแล้ว ฉันจะไม่เหลืออะไรเลย”
...
แต่ในอีกวันหนึ่ง
เมื่อเอเดินมาหาเธอพร้อมเสียงหัวเราะเบา ๆ
"ผมเอาใบไม้ที่เธอเคยชอบกลิ่นมาให้... จำได้ไหม?"
เขายื่นใบไม้แผ่นหนึ่งให้เธอ
เธอยื่นมือไปรับ — ปลายนิ้วแตะลงบนผิวใบหยาบ ๆ อย่างแผ่วเบา
ในตอนนั้นเอง แก้วรู้... ว่าเธอไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในความมืดอีกแล้ว
ไม่ใช่เพราะเธอเกลียดมัน
แต่เพราะเธออยากเห็น "เขา"
แม้จะต้องแลกด้วยความกลัว
แม้จะต้องเจอกับแสงที่แสบตา
แม้เธอจะไม่รู้เลยว่า โลกที่เธอฝันถึง... จะสวยงามเหมือนที่เขาเคยบรรยายหรือเปล่า
เธอก็อยากรู้
...
วันรุ่งขึ้น แก้วบอกหมอว่า
“หนูพร้อมแล้วค่ะ”
ตอนที่ 5: ก่อนจะเห็นแสง
เสียงนาฬิกาในห้องพักคนไข้เดินอย่างช้า ๆ
แก้วนั่งนิ่งอยู่บนเตียงสีขาว
กลิ่นแอลกอฮอล์และผ้าปูสะอาด ๆ ทำให้เธอรู้สึกแปลกแยก
นี่ไม่ใช่ห้องของเธอ ไม่ใช่กลิ่นจากสวนที่เอเคยพาไป
ไม่ใช่ลมหายใจอบอุ่นที่เธอคุ้นเคย
วันนี้เป็นวันผ่าตัด
เธอจะได้ "มองเห็น"
แต่กลับรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอ "หลับตา"
...
พยาบาล: “กลัวไหม?”
เสียงของพยาบาลคนหนึ่งถามขณะช่วยจัดชุดคนไข้ให้
แก้วพยักหน้าช้า ๆ
แก้ว: "กลัวค่ะ..."
พยาบาล: “กลัวอะไรที่สุดเหรอ?”
เธอเงียบไปนาน ก่อนจะตอบด้วยเสียงเบา ๆ
แก้ว:“กลัวว่า... เมื่อเห็นแล้ว ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม”
...
ประตูเปิดออก
เอยืนอยู่ตรงนั้น ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีซีด — กลิ่นแชมพูแบบเดิม
เสียงฝีเท้าแบบเดิม
แต่วันนี้ เขาไม่พูดเหมือนทุกครั้ง
เขาแค่นั่งลงข้างเตียง จับมือเธอไว้แน่น
เอ: “แก้ว... เธอไม่ต้องเป็นใครเลยก็ได้นอกจากตัวเอง” “ไม่ว่าจะมองเห็นหรือมองไม่เห็น เธอก็ยังเป็นแก้วของฉันอยู่ดี”
เธอจับมือเขาแน่นขึ้นอีกนิด
เสียงหัวใจเธอเต้นแรงจนน่ากลัว
เธออยากเก็บเสียงนี้ไว้… เผื่อว่าเมื่อเธอลืมตาขึ้นมาแล้ว โลกจะไม่ใช่อย่างที่เขาเคยเล่า
...
เสียงล้อเตียงเลื่อนดังแผ่ว ๆ ไปตามทางเดิน
ห้องผ่าตัดอยู่ไม่ไกล
แต่กับเธอ มันเหมือนระยะทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อถึงหน้าห้อง
หมอถามเธอเบา ๆ
“พร้อมนะ แก้ว?”
เธอเงียบ... แล้วพยักหน้า
ก่อนจะพูดประโยคสุดท้ายออกมา
“ขอให้หนูได้เห็น ‘เขา’ ก่อนใคร...”
แล้วประตูห้องก็ปิดลง
แสงจากหลอดไฟขาวสว่างจ้าเหนือศีรษะ
ความกลัวถูกคลุมด้วยผ้าสีเขียว
แต่ใต้เปลือกตาอันปิดสนิทของแก้ว
มีความหวังบางอย่างที่กำลังเต้นแรงไม่ต่างจากหัวใจ
เธอไม่รู้ว่าเมื่อเธอลืมตาขึ้นมา — เอจะอยู่ตรงนั้นหรือไม่
แต่เธอรู้ว่า... นั่นจะเป็นครั้งแรกที่เธอได้ "มอง" โลกนี้จริง ๆ
ตอนที่ 6: แสงที่เข้ามาเบา ๆ
เสียงนกกระจิบร้องแผ่ว ๆ อยู่ไกล ๆ
กลิ่นดอกไม้ในแจกันใกล้หัวเตียงลอยอ้อยอิ่ง
ลมหายใจของเธอค่อย ๆ กลับมาเป็นจังหวะ
...
เปลือกตาของแก้วหนัก
เหมือนมีผ้าม่านบาง ๆ ปิดอยู่
เธอไม่กล้าเปิดมัน — ไม่ใช่เพราะเจ็บ
แต่เพราะไม่แน่ใจว่า "แสง" ที่เธอเคยฝันถึง จะเป็นเหมือนที่เขาเคยเล่าหรือไม่
มือของใครบางคนวางเบา ๆ ที่หลังมือเธอ
อบอุ่น
ไม่เร่ง
ไม่ถาม
...
“แก้ว... วันนี้เป็นวันที่ดีนะ”
เสียงของพยาบาลสาวพูดแผ่ว ๆ ข้างเตียง
“อากาศดีมากเลย แดดนวล ๆ ลอดม่านเข้ามาเป็นลายแบบที่เธอเคยชอบให้เอเล่าให้ฟังไง”
แก้วกลั้นใจ
"ตอนนี้... ฉันควรลืมตาใช่ไหม"
เธอค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้น
ช้า
ช้ามาก
...
แสง...
ไม่สว่างจ้าอย่างที่เคยกลัว
มันอุ่น
นวล
เหมือนตอนที่เขาเคยจับมือเธอครั้งแรกแล้วพูดว่า
“ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่ตรงนี้”
เธอกะพริบตาถี่ ๆ
เห็นแสงลอดผ่านม่านสีครีมบาง ๆ
เห็นมือของตัวเอง... ผอมบางกว่าในจินตนาการ
เห็นแจกันที่ใครบางคนวางไว้ข้างเตียง
และที่สำคัญ...
เห็นโลก
แม้ทุกอย่างยังพร่าเบลอ
แม้เธอยังต้องเรียนรู้ใหม่
แต่ในตอนนี้ เธอได้รู้แล้วว่า
"การมองเห็น" ไม่ใช่แค่ใช้ดวงตา... แต่คือ "กล้าเผชิญกับมัน"
...
เอ... ไม่อยู่ในห้องตอนนั้น
เขาไม่ได้มาเป็นภาพแรกที่เธอเห็น
และนั่นทำให้ใจของเธอเงียบลงอย่างประหลาด
อบอุ่น — เพราะแสงนั้นสวยกว่าฝัน
เงียบเหงา — เพราะคนที่เธออยากเห็นที่สุด… ยังไม่ปรากฏ
แก้วหันไปมองประตูห้อง
รอ...
ด้วยหัวใจที่ค่อย ๆ เปิดรับแสงไปทีละนิด
...
ตอนหน้าจะเป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอ "เอ" ด้วยดวงตาของตัวเอง — อยากให้ฉากนั้นมีความรู้สึกแบบไหน? ตื่นเต้น เศร้า หรือซาบซึ้ง?
ตอนที่ 7: ครั้งแรกที่เห็น ‘เขา’
หลายวันผ่านไปหลังการผ่าตัด
สายตาของแก้วเริ่มชัดขึ้นทีละนิด
เธอเริ่มแยกสีฟ้าจากขาว
เริ่มมองเห็นต้นไม้ไหวตามลม
เริ่มคุ้นกับเงาของโลกที่เคยเป็นเพียงเสียง
แต่ในใจลึก ๆ ของเธอ มีเพียงคำถามเดียวที่วนเวียนอยู่...
"หน้าเขา... เป็นแบบไหน?"
...
บ่ายวันหนึ่ง
พยาบาลบอกว่า "มีคนมาเยี่ยม"
หัวใจของแก้วเต้นรัวตั้งแต่ยังไม่ทันได้ยินเสียงฝีเท้า
เธอหันหน้าไปทางประตูโดยอัตโนมัติ
มือข้างหนึ่งกำผ้าห่มไว้แน่น
ดวงตาเบิกโพลง ทั้งอยากมองและอยากหลบในเวลาเดียวกัน
...
เสียงเปิดประตูเบา ๆ
ฝีเท้าที่เธอจำได้
กลิ่นแชมพูที่เธอเคยซุกหน้าลงไปในอดีต
เสียงลมหายใจที่ไม่รีบร้อน
เขา... ยืนอยู่ตรงนั้นจริง ๆ
"แก้ว..."
เสียงของเขาแผ่วเบาแต่ชัดเจน
เธอหันไปมอง
และในที่สุด... ก็ได้เห็นเขา
...
ตึก ตัก ตึก ตัก
หัวใจของเธอดังเหมือนกลอง
เธอมองตาเขาอย่างตรงไปตรงมาเป็นครั้งแรกในชีวิต
คิ้วเข้ม
ตาอ่อนโยน
มุมปากที่มักจะยิ้มอย่างไม่เต็มใบหน้า แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ
เธอกลั้นหายใจ
ใช่เลย... คน ๆ นี้ คือ "เอ" ของเธอ
...
แต่เธอกลับเบือนหน้า
ไม่ใช่เพราะผิดหวัง — แต่เพราะกลัว
กลัวว่าเขาจะรู้ว่าเธอมองเห็น
กลัวว่าอะไรบางอย่างจะเปลี่ยน
"แก้ว..." เขานั่งลงข้าง ๆ
"ไม่เห็นต้องหลบตาฉันเลย"
เธอกัดริมฝีปากแน่น
มือที่วางอยู่บนตักเริ่มสั่น
เขาจะรู้ไหม?
เธอซ่อนสายตาไม่เก่งเหมือนที่เคยซ่อนความกลัว
...
"ฉัน..."
แก้วพยายามพูด แต่เสียงแผ่วเกินจะเป็นคำ
เขาจับมือเธอเบา ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ... ถึงเธอจะมองเห็นแล้ว หรือยังไม่เห็นเลย ฉันก็ยังอยากอยู่ตรงนี้”
คำพูดนั้น… ทำให้เธอเกือบเผลอร้องไห้ออกมา
แต่เธอยังไม่กล้าบอก
ไม่ใช่วันนี้...
แต่ "สักวันหนึ่ง" เธอจะมองเขาอีกครั้ง — ด้วยสายตาที่กล้าเปิดเผยความจริง
...
ตอนที่ 8: เพลงที่ไม่มีเสียง
หลังจากวันนั้น
แก้วเริ่ม "แอบ" มองเอาบ่อยขึ้น
ทุกครั้งที่เขานั่งข้าง ๆ
เธอจะลอบมองคิ้วของเขาตอนขมวด
มุมปากตอนพูด
ดวงตาที่มักจะหลุบต่ำเวลาเขาเล่าเรื่องจริงจัง
และทุกครั้ง
หัวใจของเธอจะเล่นดนตรีเงียบ ๆ
ทำนองเดียวกันทุกวัน
แต่กลับไม่เคยเบื่อเลย
...
มีบางวัน
เขาพาเธอออกไปเดินในสวนอีกครั้ง
เหมือนวันเก่า ๆ ที่เขาจูงเธอผ่านเสียงของนกร้อง ผ่านกลิ่นดอกไม้ ผ่านเสียงลมเฉื่อยที่พัดกระทบใบไม้
แต่ครั้งนี้… แก้ว "มองเห็น"
เธอมองเห็นเขาที่กำลังบรรยายท้องฟ้า
มองเห็นมือเขาที่จับมือเธออย่างทะนุถนอม
มองเห็นรอยยิ้มที่ส่งมาทั้งที่เธอแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น
และเธอกลัวจะหลุด — กลัวจะร้องไห้ออกมาตรงนั้นเลย
...
ในใจเธอเหมือนมีเปียโนล่องลอยอยู่
กดคีย์แต่ละตัวด้วย
ตอนที่ 9: เธอแกล้งไม่เห็น… เขาแกล้งไม่รู้
"พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปสวนดอกไม้ตอนเย็นนะ"
เอพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
แก้วพยักหน้าเบา ๆ
ยิ้มให้เขาแวบหนึ่งก่อนจะรีบหันกลับไป
ดวงตาของเธอมีประกายบางอย่างที่ไม่เคยหลบซ่อนเก่งเหมือนใจ
...
ในหัวของเธอมีเสียงดังตลอดเวลา
"เขารู้หรือเปล่า?"
"ทำไมเขายังจับมือฉันข้ามถนนอยู่?"
"ทำไมเขายังบรรยายท้องฟ้าให้ฉันฟังทุกวัน ทั้งที่ฉันมองมันได้แล้ว?"
...
เย็นวันต่อมา
เขาพาเธอเดินผ่านทางเดินเก่า ๆ
ดอกลีลาวดีร่วงหล่นอยู่ใต้เท้า
เสียงใบไม้แห้งที่แตะฝ่าเท้าดังกรอบแกรบ
ทุกก้าวของเธอสั่น
แต่ทุกก้าวของเขา… มั่นคงและอ่อนโยนเหมือนเดิม
"วันนี้ท้องฟ้าเป็นสีส้มอ่อน ๆ"
เอพูดขณะจูงมือเธอเดินช้า ๆ
“เมฆดูเหมือนขนมสายไหมเลยล่ะ”
แก้วเหลือบมองฟ้า
มันเป็นแบบที่เขาพูดจริง ๆ
เธอแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่
...
เขาหยุดเดิน
หันมามองเธอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่คุ้นเคย
"แก้ว... เธอรู้ไหมว่าเธอเงียบลงเยอะเลยนะช่วงนี้"
“หรือว่า… แอบซ่อนอะไรอยู่ในใจเหรอ?”
เธอเม้มริมฝีปากแน่น
หัวใจเต้นแรงแบบเดิม
แต่คราวนี้มีความรู้สึกบางอย่างเปลี่ยนไป
เหมือนเขา... รู้
รู้ว่าเธอมองเห็นแล้ว
รู้ว่าเธอกำลังซ่อนบางอย่างไว้
และที่น่าตกใจที่สุด — คือเขายังอยู่ตรงนี้
ยังยิ้มเหมือนเดิม
ยังพูดเหมือนวันแรก
เหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย
...
“ฉัน...” แก้วพูดแผ่ว ๆ
แต่เขากลับวางนิ้วลงบนริมฝีปากเธอเบา ๆ
"ยังไม่ต้องพูดก็ได้ แก้ว"
"บางความจริง... มันจะพูดออกมาเองในเวลาที่เหมาะสม"
เธอมองหน้าเขา
ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมอีก
ไม่ใช่แค่ใบหน้า... แต่คือหัวใจของเขาทั้งดวง
และตอนนี้ เธอรู้แล้วว่า
เขารู้... รู้ตั้งแต่แรก แต่ก็แกล้งไม่รู้ เพื่อให้เธอสบายใจ
...
ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ ลับฟ้า
แสงสุดท้ายของวันตกลงบนรอยยิ้มของเขา
และดวงตาของเธอ... มีน้ำตาซึมอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้เป็นเพราะรู้สึกขอบคุณ
ขอบคุณที่เขาไม่เคยจากไป
แม้กระทั่งในวันที่เธอกลัวที่สุด
ตอนที่ 10: คำสารภาพใต้แสงไฟสวนเก่า
คืนนั้น สวนดอกไม้เงียบกว่าทุกวัน
แสงไฟสลัว ๆ จากโคมเล็กข้างทางทอดเงาลงบนพื้น
ลมพัดกลีบดอกไม้ปลิวลอยราวกับเวลาหยุดเดิน
เอจูงมือเธอเดินอย่างช้า ๆ
เหมือนรู้ว่าเธอมีบางอย่างจะพูด
แต่ก็ไม่เร่ง ไม่ถาม ไม่กดดัน
ปล่อยให้ความเงียบพาเธอเดินไปเอง
...
“เอ…”
เสียงของแก้วเบากว่าลมที่พัดผ่านต้นไม้
เอหยุดเดิน หันมาหาเธอ
แสงไฟจากด้านข้างจับแววตาเขาให้สว่างขึ้นเล็กน้อย
ดวงตาคู่นั้น… ไม่เปลี่ยนเลย
แก้วเม้มปากแน่น
สองมือกำชายกระโปรงแน่นจนสั่น
น้ำตารื้นในตา — แต่ครั้งนี้เธอไม่เบือนหน้าหนีอีกต่อไป
...
เพิ่มข้อความในส่วนเนื้อหาเล็กน้อย
...
น้ำตาของแก้วไหลลงโดยไม่ขออนุญาต
แต่หัวใจกลับโล่งอย่างบอกไม่ถูก
"แล้วทำไม... นายไม่พูดอะไรเลยล่ะ?"
เสียงของเธอสั่นไหว
เอมองเธอ
แล้วค่อย ๆ เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาบนแก้มให้เบา ๆ
"เพราะฉันอยากให้เธอบอกเอง"
"เพราะฉันรู้ว่าเธอกลัว"
"แต่ฉันอยากให้เธอรู้ไว้ว่า… ฉันไม่เคยรักเธอเพราะเธอมองเห็น หรือมองไม่เห็น"
“ฉันรักเธอ... เพราะเธอคือ แก้ว ของฉัน”
...
เธอโผเข้ากอดเขา
แรงสั่นจากหัวใจส่งผ่านไปถึงมือที่สั่นไหวของเขา
เธอหลับตาแน่น น้ำตาเปียกแผ่นอกของเขา
แต่หัวใจกลับสว่างที่สุดในชีวิต
...
และท่ามกลางกลีบดอกไม้ที่ลอยอยู่ในอากาศ
ในคืนที่แสนเงียบ
เธอเห็นความรักได้ชัดเจนที่สุด
ไม่ใช่แค่ด้วยตา
แต่ด้วยทั้งหัวใจ
ตอนจบ: สายตาฉันมีแค่เธอ
หลังจากคืนนั้น
ทุกอย่างเปลี่ยนไป
แต่ก็เหมือนไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย
แก้วยังคงตื่นมาในเช้าวันใหม่
มองเห็นแสงอาทิตย์ลอดผ่านหน้าต่างห้องที่คุ้นเคย
เธอยังได้ยินเสียงนกร้องเบา ๆ ตอนเช้า
และเสียงรองเท้าของเอเดินขึ้นบันไดมาหาเธอทุกวันเหมือนเดิม
...
ความรักของเธอกับเอ
ไม่หวือหวา
ไม่ต้องการคำสัญญา
ไม่ต้องการดอกไม้หรือแหวนวงไหน
แค่เพียง “อยู่” อย่างที่เป็น
...
เอยังพาเธอเดินข้ามถนน
แต่ตอนนี้เธอไม่ได้แกล้งจับมือเขา
เธอจับแน่นอย่างตั้งใจ
และมองหน้าเขาเต็มตาในทุกแสงไฟจราจร
เขายังคงเล่าท้องฟ้าให้เธอฟัง
แต่ครั้งนี้ เธอมองขึ้นไปเห็นพร้อมกับเขา
แล้วพูดกลับว่า...
“มันไม่ได้สวยกว่านายเลยสักนิด”
...
หลายปีผ่านไป
ดอกไม้ในสวนเก่าโรยร่วงไปหลายครั้ง
แต่หัวใจของเธอไม่เคยโรยตาม
เธอยังจำคืนที่เธอพูดความจริงได้
จำมือเขาที่เช็ดน้ำตาให้
จำสายตาที่มองเธอ — ไม่ใช่เพราะเธอมองไม่เห็น
แต่เพราะเธอเป็น “แก้ว” ของเขา
...
และสุดท้าย
ไม่ว่าจะมองโลกด้วยสายตาแบบไหน
เธอก็รู้ชัดในใจว่า
"สายตาฉันมีแค่เธอ"
จบบริบูรณ์