13/10/373
ณ บ้านของชาวบ้านเล็กไปในอาณาจักรซิลวาเนีย
ผม กัช ชาวบ้านธรรมดาๆที่หาเลี้ยงกินค่ำจนๆคนหนึ่ง ในคืนนี้ที่ผมและภรรยา(แคส)กำลังดื่มอยู่ จู่ๆเสียงร้องของเด็กทารกได้ร้องดังขึ้นและเงียบหายไป ผมผู้เป็นพ่อและแคสที่เป็นแม่ที่กำลังดื่มสุรามึนเมาได้รีบวิ่งเข้าไปที่ห้องนอนด้วยความเป็นห่วง แต่กลับไม่พบลูกของเราบนเตียงเด็ก พบเพียงชายแก่เปลือยกายปริศนาที่นั่งยองๆอยู่บนเตียงของผมที่ไม่รู้ว่าเข้ามาได้ยังไง ร่างกายของเขาผอมแห้งผิวหนังติดกระดูกแต่ร่างกายดูสูงใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อเส้นผมและหนวดเคราน่าจะหลุดร่วงจนแทบจะไม่มีแล้ว ผมกับแคสอยู่ในความเงียบและมองหน้าส่งสายตากัน
ผมลองเดินเข้าไปหาชายแก่คนนั้นเรื่อยๆ และผมได้ใช้มือของผมจับไปที่ไหล่ของเขาผิวของเขาหยาบกร้านมากเหมือนกับกำลังจับเปลือกไม้อยู่เลย และหางตาของผมก็ได้เหลือบไปมองเห็นภาพที่สยดสยองและน่าสะอิดสะเอียนที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา
นั่นคือร่างของลูกสาวทารกของผมที่ไม่มีหัวและแขนตัวเปียกโชกไปด้วยเลือดและชายแก่กำลังใช้ HUM ของเขาโยก HEE ลูกน้อยที่ไร้วิญญาญของผมอยู่ HEE ของเธอฉีกขาดจนเห็นลำไส้ออกมา ผมล้มลงไปด้านหลังน้ำตาของผมเริ่มไหลรินและอ้าปากค้างกับภาพที่อยู่ตรงหน้า แคสเธอเดินเข้ามาหาผมด้วยความเป็นห่วงและได้พบกับภาพศพของลูกที่ตัวเองรักที่กำลังถูกโยกอยู่ ภาพนั้นทำให้เธอกรีดร้องพร้อมน้ำตามและเริ่มดึงเส้นผมและตะโกนหาลูกด้วยอาการขาดสติและล้มลมกับพื้น
ผมได้วิ่งออกมาจากห้องนั้นและไปที่ห้องครัวเพื่อหยิบท่อนไม้ ไม่นานผมก็กลับไปที่ห้องและพบว่าชายแก่คนนั้นได้เปลี่ยนเป้าหมายเป็นภรรยาของผมแทนเสื้อผ้าของแคสขาดรุ่งริ่งและโดนมือของชายแก่ปิดปากเอาไว้ ระหว่างนั้นชายแก่ก็ใช้มือของตนในการล้วงรูทวารของแคสน้ำตาเธอไหลด้วยความเจ็บปวดและสลบไป และชายแก่ก็ดึงออกมาและเลียไปที่มือของตนผมแทบจะอ้วกออกมาในทันที ในตอนนี้ผมสะอิดสะเอียนในพฤติกรรมของมันเต็มทน ผมพุ่งเข้าไปเพื่อที่จะใช้ท่อนไม้ตีมันและดูเหมือนว่าจะโดนที่คอมันเต็มๆ
แต่มันกลับดูเหมือนว่าจะไม่เจ็บไม่คันอะไรเลยอยู่ๆมันก็ลุกขึ้น และพบว่ามันมีขนาดร่างกายที่สูงใหญ่อย่างเหลือเชื่อจากการวัดด้วยสายตาของผมไม่ต่ำกว่า 2.50 เมตรแน่นอน ส่วนสูงของมันสร้างความสะพรึงให้กับผมเป็นอย่างมากทำให้ผมเริ่มรู้สึกหวั่นๆในตัวของมัน
มันได้จ้องมองมาที่ผมและเริ่มยิ้มแปลกๆเหมือนกับว่ามันมีความสุขอยู่อย่างงั้น ผมได้ลองฟาดมันไปอีกทีแต่แทนที่กระดูกของมันจะหักแต่ไม้ดันหักแทนซะงั้น ผมเดินถอยหลังด้วยความกลัวมันต้องเป็นปีศาจแน่ๆสูงมากกว่า 2 เมตร รูปร่างที่ผอมแห้งไร้ชีวิตและรอยยิ้มที่เหมือนหลุดออกมาจากหนังสือสยองขวัญ
จู่ๆมันก็เอ่ยออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง " ตาย... " และมันก็ได้ยกเท้าขึ้นเพื่อเหยียบหัวของแคสที่กำลังสลบอยู่ ผมได้พยายามวิ่งเข้าไปหยุดเอาไว้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว มันได้เหยียบไปที่หัวของแคสจนแบนราบไปกับพื้นใต้เท้าที่ใหญ่โตของมันได้มีเลือดไหลลามไปทั่วห้องเหมือนกับลำธาร มันได้ยกเท้าขึ้นและเผยให้เห็นใบหน้าที่เละเหลวแบนเป็นกระดาษไม่บอกก็รู้ว่าแม่งตายไปแล้ว ผมได้เข่าทรุดและอาเจียนออกมาในทันทีด้วยความน่าสะอิดสะเอียน ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้วทั้งลูกและเมีย ผมได้จ้องไปที่มันด้วยสายตาอาฆาตรุนแรง
แต่สายตาที่อาฆาตของผมก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเริ่มกลายเป็นสายตาที่ความหวาดกลัว หลังจากไดเห็นรอยยิ้มของมันมุมปากของมันเริ่มฉีกออกเลือดสีแดงเข้มเริ่มไหลออก ผมตะโกนด้วยความกลัวและหวาดผวา " ปีศาจ!!!! " ตัวมันเริ่มหัวเราะด้วยเสียงที่แหบแห้งที่ดูน่ากลัวพร้อมรอยยิ้มที่ฉีกถึงหู ไม่นานนักตัวมันก็เริ่มบิดเบี้ยวหนวดหมึกตาคนตาสัตว์หัวหมาหัวควายเริ่มปรากฏตามร่างกาย และเริ่มกลายเป็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยเมือกเหนอะหนะดูลื่นๆ
ตอนนี้สมองของผมแทบที่จะระเบิดเพื่อที่จะทำความเข้าใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ระหว่างนั้นตัวมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆและลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า จู่ๆภาพของผมก็ตัดไปเหมือนกับว่าหัวของผมได้ระเบิดไปแล้ว
" ไม่! " ผมได้สะดุ้งตื่นมาในตอนค่ำและพบว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น ลูกสาวของผมก็ยังปลอดภัยดีและกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงเด็ก แคสได้เข้ามาในห้องและบอกให้ผมไปทานข้าว ในตอนนี้ผมไม้คิดอะไรแล้วผมลุกขึ้นและพุ่งเข้าไปกอดแคสในทันที แคสกอเผมกลับและไม่ถามอะไรเรากอดกันหลายนาที หลังกอดเสร็จแคสก็เสนอให้เรามาดื่มกันอาจจะคิดว่าผมเครียดสะสมล่ะมั้ง
เราสองคนดื่มติดต่อกันหลายชั่วโมงและทันใดนั้นเสียงของเด็กทารกก็ได้ร้องดังขึ้น....
จบ