"นังริน! แกจะอ่านไปทำไมนักหนาไอ้พวกหนังสือหนังหาเนี่ย"
เสียงกราดเกรี้ยวของมารดาทำให้คนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้รีบละวางหนังสือลงก่อนจะหันไปทางมารดา พอได้เห็นสีหน้าของท่านแล้วเธอก็เดาได้ทันทีว่าเล่นไพ่เสียมา
"แม่กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ"
รินนภัสเอ่ยถามผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มและไม่คิดโกรธเคืองท่านเลยแม้แต่น้อยที่มาถึงก็อาละวาดกับเธอทุกครั้งไป
"ไม่กลับมา แล้วแกจะเห็นฉันยืนหัวโด่อยู่นี่หรือไงล่ะ แล้วนี่นังรส น้องแกอยู่ไหน"
ถามไปแล้วก็กวาดสายตามองหาลูกสาวสุดที่รักที่ตนอยากจะฝากผีฝากไข้เอาไว้ยามแก่เฒ่า เพราะส่งให้เรียนมหา'ลัยดีๆ จะได้มีงานทำที่ดีมาแลี้ยงดูตน
"เอ่อ..."
รินนภัสอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบมารดาอย่างไรดี เพราะตั้งแต่น้องสาวออกไปเรียนจนตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วก็ยังไม่กลับเข้าบ้าน เธอได้โทรหาน้องสาวแล้วแต่น้องสาวไม่รับโทรศัพท์ เลยไม่รู้ว่าตอนนี้น้องสาวกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน หรือว่ากำลังเดินทางกลับบ้าน
"แกจะเอออาทำไมนังริน!" ผู้เป็นแม่ตวาดถามด้วยอารมณ์หงุดหงิด
"น้องยังไม่กลับเข้าบ้านเลยจ้ะแม่"
"ก็แล้วทำไมมันยังไม่กลับบ้าน"
คนเป็นแม่ย้อนถามไป ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าลูกสาวคนเล็กกว่าจะกลับเข้าบ้านได้ก็เกือบเที่ยงคืนของทุกวัน โดยที่ลูกสาวคนเล็กก็อ้างเสมอ ว่าต้องไปทำรายงาน ต้องไปติวหนังสือกับเพื่อน แต่ถึงจะรู้สาเหตุที่ทำให้ลูกสาวคนรองกลับบ้านดึกดื่นแทบทุกวัน ทว่าคนเป็นแม่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ เลยต้องถามหาทุกครั้งที่กลับเข้าบ้านแล้วไม่ได้เห็นหน้าลูกสาวคนเล็ก
"น้องคงออกไปติวหนังสือบ้านเพื่อนเหมือนทุกวันแหละจ้ะแม่"
รินนภัสเอ่ยตอบไปอย่างที่น้องสาวเคยบอกมารดาทุกครั้งยามที่กลับบ้านดึก แต่ทั้งเธอและมารดาไม่รู้เลยว่าบ้านเพื่อนที่ว่านั่นอยู่ที่ไหน
"แต่นี่มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว ทำไมน้องแกมันยังไม่กลับบ้านอีก"
"รินไม่รู้หรอกจ้ะแม่"
"แกนี่มันเป็นพี่ประสาอะไร ถามอะไรก็ไม่รู้สักอย่าง!"
"ก็ริน...รินไม่รู้จริงๆนี่จ๊ะแม่ แล้วรินโทรไปหาน้องแล้วด้วยแต่น้องไม่รับสาย"
รินนภัสแย้งด้วยเหตุผล แต่ฝ่ายมารดาที่ออกไปเล่นไพ่ตั้งแต่บ่าย ทำให้เหลือเงินแค่ค่ารถไม่ฟังเหตุผลของลูกสาวคนโตเลยสักนิด นางยกมืหยาบกร้านจากการทำงานหนักเพื่อเอามาเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสองขึ้นแล้วสบัดใส่หน้ารินนภัสที่มึนงงไปพักใหญ่ เพราะไม่เข้าใจว่ามารดาตบหน้าตนด้วยสาเหตุอะไร
"แม่...แม่ตบรินทำ..."
รินนภัสทวงถามหาสาเหตุที่โดนตบ ทว่าพูดไม่ทันจบประโยคเสียงมารดาก็แทรกขึ้น
"แกรีบออกไปตามหาน้องกลับบ้านซะนังริน!"
"แต่รินไม่รู้จะไปตามหาน้องที่ไหนนี่จ๊ะแม่"
รินนภัสแย้งเสียงอ่อน แต่ที่เธอแย้งไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากออกไปตามหาน้องสาว ทว่าการที่ออกไปตามหาแบบไร้จุดหมายก็รังแต่จะทำให้เสียเวลา สู้รอให้เธอติดต่อน้องสาวได้และถามว่าอยู่ที่ไหนแล้วค่อยออกไปรับยังดีกว่าการเดินออกไปตามหาแบบไร้จุดหมาย
"ถึงไม่รู้ แกก็ต้องไป!"
"จ้ะแม่"
รินนภัสรับคำแล้วเดินหายเข้าไปในห้อง หยิบกระเป๋าสะพายข้างใบเล็ก ก่อนจะเดินออกบ้านไปตามหาน้องสาวในเวลาเกือบเที่ยงคืน ความมืดมิดและเงียบสงัดทำให้เท้าเล็กชะงักอยู่ที่หน้าบ้าน ก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์ราคาพันกว่าบาทออกมากดโทรหาน้องสาว แต่ก็เหมือนเดิมคือน้องสาวไม่ยอมรับสาย คิ้วเรียวสวยขมวดยุ่งไม่รู้ว่าจะต้องไปเริ่มต้นตามหาน้องสาวจากที่ตรงไหนดี
'ลองไปดูที่มหา'ลัยก่อนก็แล้วกัน'
คิดได้ดังนั้นสองเท้าก็เริ่มออกเดินทันที เพราะยิ่งช้าก็จะยิ่งดึก ทว่าเธอเดินไปยังไม่ถึงครึ่งซอยก็หยุดตามเสียงขานเรียก
"ริน! จะออกไปไหนเนี่ย"
คนที่นั่งคร่อมบนรถมอเตอร์ไซต์เอ่ยถามด้วยความสงสัยหลังดับเครื่องยนต์ เพราะเกรงใจบ้านเรือนแถวนั้นที่ตอนนี้ทุกคนพากันเข้านอนไปหมดแล้ว
"แม่สั่งให้รินไปตามน้องกลับบ้านน่ะ แล้วทัพพ์ล่ะ จะออกไปไหนเหรอ" รินนภัสถามยิ้มๆ
"ไม่ได้จะไปไหนหรอก พอดีทัพพ์เพิ่งกลับจากงานวินเกิดเพื่อนแล้วขี่รถผ่านมาเห็นรินเดินออกจากบ้านพอดี ว่าแต่ทำไมน้าวลัยถึงได้ใช้ให้รินออกไปตามหาน้องดึกๆดื่นๆแบบนี้ล่ะ น้อแกไม่รู้หรือไงว่าในซอยบ้านเรามีพสกวัยรุ่นแปลกหน้าชอบมารวมกลุ่มกันอยู่บ่อยๆ"
ทัพพ์ นักศึกษาหนุ่มสู้ชีวิต เพราะต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยและเลี้ยงดูมารดาที่ป่วยออดๆแอดๆ จนถูกให้ออกจากงานมาขายของเล็กน้อยอยู่กับบ้านเช้าบ่นไปตามเรื่อง เพราะถึงน้าวลัย มารดาของรินนภัสจะรู้ว่ามีคนแปลกหน้าเข้าออกบ่อยแค่ไหน ถึงอย่างไรน้าแกก็ใช้ให้ลูกสาวคนโตออกไปตามลูกสาวคนเล็กอยู่ดี
"จริงเหรอทัพพ์"
รินนภัสทำหน้าประหลาดใจ เพราะปกติแล้วเธอไม่เคยออกไปไหนมาไหนค่ำมืดจึงไม่ทราบเรื่องนี้ ที่พอมารู้ก็ทำเอาเธอนึกกลัวอยู่เหมือนกัน
"จริงที่สุดเลยแหละ นี่โชคดีนะที่ทัพพ์กลับมาเห็นรินก่อน มาขึ้นรถเลย เดี๋ยวทัพพ์จะพาไปตามหาน้องเอง"
นักศึกษาหนุ่มขันอาสา เพราะเป็นห่วงหญิงสาว
"เอ่อ..."
รินนภัสอ้ำอึ้ง เนื่องจากเกรงใจอีกฝ่ายที่ยังไม่ทันจะได้เข้าบ้านเลย ก็ต้องขี่รถออกไปอีกครั้ง
"ไม่ต้องเอ่อหรอกริน ขึ้นมาเลย"
"ก็ได้ แต่รินบอกไว้ก่อนเลยนะว่ารินไม่รู้หรอกว่าจะไปตามหาน้องที่ไหน"
เพราะจากที่คิดว่าจะไปตามหาดูที่มหาวิทยาลัย คงต้อเปลี่ยนแผนแล้ว เพราะเธอนึกขึ้นได้ว่าวันนี้น้องสาวไม่มีกิจกรรมที่จะต้องทำที่มหาวิทยาลัย
"แล้วน้องรินชอบไปที่ไหนบ้างล่ะ แต่ปกติแล้วน้องสาวรินก็จะกลับบ้านใกล้ๆ เที่ยงคืนตลอดไม่ใช่เหรอ แล้ววันนี้น้าวลัยนึกอะไรขึ้นมาถึงได้สั่งให้รินออกไปตามหา" ทัพพ์ถามอย่างสงสัย
"รินไม่รู้หรอกทัพพ์ เพราะรสไม่เคยพูดไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลยแม้แต่แม่ก็ยังไม่รู้จักบ้านของเพื่อนรสสักคน"
เธอเองก็เช่นกันที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเพื่อนของน้องสาวมีใครบ้าง แล้วแต่ละคนมีนิสัยอย่างไร
"น้องสาวรินนี่แปลกคนจริง ทำไมทำตัวเหมือนคนมีความลับ"
พูดจบทัพพ์ก็หันไปหยิบหมวกมาให้อีกคนสวม จนเมื่อเรียบร้อยแล้วเขาก็สตาร์ทเครื่องขี่ไปตามถนนพร้อมกับมองหารสรินทร์ไปด้วย แต่คล้อยหลังจากรถมอเตอร์ไซต์ของทัพพ์ขี่พ้นซอยเข้าบ้านไปไม่เท่าไหร่ก็มีรถเก๋งสีขาวขับเข้ามาในซอยและมาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง
"นี่บ้านของน้องรสเหรอครับ"
นัฐพล หนุ่มหล่อเจ้าของรถถามขึ้น พลางมองเข้าไปในบ้านไม้สองชั้นด้วยสีหน้าใคร่รู้ เพราะก่อนจะมาส่งหญิงสาวที่บ้าน ทางเพื่อนของเจ้าตัวได้แอบบอกเขามาว่าบ้านของรสรินทร์หลังใหญ่โต แต่จากที่เห็นมันไม่ใช่เลย งานนี้เขาเลยไม่เข้าใจว่าเพื่อนของหญิงสาวจะโกหกเขาไปทำไม
"เอ่อ...เป็นบ้านของเพื่อนค่ะ คุณพลคงไม่โกระนะคะที่รสไม่ยอมให้ไปส่งที่บ้าน"
หญิงสาวฉีกยิ้มหวานเอาใจ เพราะกลัวว่าหนุ่มคนใหม่จะโกรธเคืองที่เธอไม่ยอมให้พาไปส่งที่บ้าน
"แล้วทำไมผมจะต้องโกรธน้องรสด้วยล่ะครับ"
นัฐพลยิ้มไม่ถือสาเรื่องที่เธอไม่ยอมให้ไปส่งที่บ้าน ซึ่งก็ไม่ต่างจากเขานักที่ยังไม่อยากเข้าไปทำความรู้จักกับพ่อแม่ของเธอเช่นกัน เพราะเขาและรสรินทร์เพิ่งจะรู้จักกันได้แค่สัปดาห์เดียว แต่ถึงจะแค่สัปดาห์เดียวก็ทำให้เขาและเธอไปถึงไหนๆ กันแล้ว แถมเขายังชื่นชอบเธอซะด้วย ที่เห็นเรียบร้อยๆ แต่พออยู่บนเตียงแล้วเก่งกาจไม่เบา
"ถ้างั้นรสก็สบายใจหน่อย แต่รสสัญญาว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่ของรสยอมให้มีแฟนได้เมื่อไหร่ รสจะรีบพาคุณพลไปแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักทันทีเลยนะคะ"
รสรินทร์ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มสากเบาๆ อย่างเอาใจ
"แล้วผมจะรอนะครับ"
จากนั้นก็รั้งหญิงสาวเข้ามาจูบอยู่หลายนาทีกว่าจะยอมปล่อยให้หญิงสาวกลับเข้าบ้าน รสรินทร์ยืนรอจนรถของแฟนใหม่ขับห่างออกไป แล้วก็เดินเข้าบ้านท่าทางมีความสุขจนคนเป็นแม่ที่นั่งทานข้าวรอลูกสาวคนเล็กจ้องตาไม่กะพริบ
"สอบเสร็จแล้วหรือไงนังรส หน้าตาแกถึงได้มีความสุขนัก"
"อ้าวแม่! ยังไม่นอนอีกหรอ"
ตอบจบแล้วก็เดินไปนั่ง พลางจ้องมองดูอาหารที่มารดาทานก็เบ้ปากเพราะอาหารที่ว่านั่นก็คือน้ำพริกกับปลาทูทอดสองตัว
"นังนี่ถามแปลกๆ ถ้าฉันนอนไปแล้ว แกจะเห็นฉันนั่งกินข้าวอยู่นี่หรือไงล่ะ"
ต่อว่าแล้วก็ทำท่าเหมือนจะเอาปลาทูยัดปากลูกสาวคนเล็กที่รีบเอนหน้าถอยหนีไปแบบหวุดหวิด
"แม่ก็พูดกวนฉันเหมือนกันนั่นแหละน่า ว่าแต่แม่ไม่เบื่อบ้างหรือไง ที่กินข้าวกับน้ำำริกแล้วก็ไอ้ปลานี่ได้ทุกวี่ทุกวัน"
"ไม่กินแบบนี้ แล้วแกจะให้ฉันกินยังไงล่ะนังรส รึแกมีเงินมีทองมากมายจะไปกินอาหารหรูๆ กันล่ะ"
วลัยมองค้อนอย่างหมั่นไส้
"จะไปมีเงินได้ไงล่ะแม่ ฉันเป็นนักศึกษานะแม่ งานการก็ยังไม่มีทำ"
"แกก็รีบๆ เรียนให้มันจบๆซะสิ จะได้ไปหางานมีเงินเดือนเยอะๆ ทำอีกหน่อยจะได้เลี้ยงแม่บ้าง"
"ฉันก็เรียนอยู่นี่ไงล่ะ ว่าแต่ทำไมวันนี้พี่รินนอนเร็วจังล่ะแม่"
รสรินทร์เอ่ยถามไปอย่างนั้น เพราะปกติแล้วพอกลับมาเธอก็จะเห็นพี่สาวนั่งถักไหมพรมเพื่อหารายได้เสริมอีกทาง นอนเหนื่อจากการไปเป็นสาวโรงงาน แต่ตอนนี้โรงงานที่ว่าก็ปิดตัวลงไปแล้ว เลยยิ่งทำให้ครอบครัวขัดสนเรื่องเงินมากทีเดียว แต่ก็ขัดสนเฉพาะแม่และพี่สาวเท่านั้น เพราะเธอได้เงินจากแฟนคนใหม่ใช้เดือนละหลายพันบาท
"ไม่อยู่ ออกไปตามหาแกนั่นแหละ"
บอกอย่างไม่ใส่ใจ และทั้งที่รู้ว่าตอนนี้ลูกสาวคนเล็กกลับถึงบ้านแล้ว แต่คนเป็นแม่ก็ไม่คิดจะโทรไปบอกลูกสาวคนโต ที่ตอนนี้กำลังนั่งซ้อนท้ายรถของทัพพ์ตระเวนหาผู้เป็นน้องสาวตามสนถานบันเทิง เพราะทั้งสองไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน
"ไปตามหาฉันทำไมล่ะแม่ ฉันก็เคยบอกแล้วว่าฉันจะกลับบ้านใกล้เที่ยงคืน"
"ก็เห็นหน้าพี่แกแล้ว ฉันหงุดหงิดไง เลยไล่ไปให้พ้นๆ หน้า"
"แม่เล่นไพ่เสียมาล่ะสิ ถึงไปลงกับพี่ริน ระวังเถอะแม่ ให้พี่รินออกไปดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ เดี๋ยวได้โดนคนลวงไปฆ่าข่มขืน แล้วคราวนี้จะเป็นแม่นั่นแหละที่ต้องเสียใจไม่มีใครช่วยแม่ทำงานหาเงิน"
ใช่ว่ารสรินทร์จะเป็นห่วงเป็นใยชีวิตพี่สาว ทว่าเธอห่วงกลัวไม่มีคนหาเงินส่งเธอเรียนเสียมากกว่า เลยต้องพูดให้มารดาได้คิด
"แกพูดมามันก็ถูก"
คนเป็นแม่เห็นคล้อยตามคำพูดของลูกสาวคนเล็ก
"งั้นแม่ก็รีบโทรบอกพี่รินสิว่าฉันกลับมาแล้ว"
"ก็แล้วทำไมแกไม่โทรบอกเองล่ะนังรส!"
"ฉันเริ่มง่วงแล้ว แม่นั่นแหละต้องโทรไปบอก แต่รีบๆ โทรไปด้วยล่ะ เพราะถ้ามัวชักช้าเดี๋ยวตัวช่วยหาเงินเข้าบ้านของแม่จะโดนลวงไปฆ่าซะก่อน"
พูดจบรสรินทร์ก็เดินตัวปลิวเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำเข้านอน ส่วนคนเป็นแม่ก็มองตามหลังพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ก่อนจะลุกไปหยิบโทรศัพท์ที่ชาร์จแบตเอาไว้มาโทรบอกลูกสาวคนโตว่าให้รีบกลับเข้าบ้าน ซึ่งกว่าที่รินนภัสจะกลับมาบ้านก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง ก่อนเธอที่จะรีบอาบน้ำเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องรีบไปสมัครงาน ที่บังเอิญเห็นป้ายติดรับสมัครงานติดเอาไว้ว่ารับแม่บ้านด่วน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!