บนท้องฟ้าสีครามมีร่างสองร่างกำลังดิ่งลงมาตามแรงโน้มถ่วง
"อีกนานไหม?" นั่นคือประโยคที่ผมเอ่ยถาม ชายร่างยักษ์ มีเขาสีดำ ร่างเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ เขาคือจอมมาร
"อาจจะ5นาที...ไม่สิซัก3นาที" เสียงแหบๆเอ่ย
"...ฮ่าๆๆๆๆ" ผมทำเพียงแค่นยิ้มแล้วหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
"แกคิดอะไรอยู่?" จอมมารถาม
"ฮ่าาา ฉันก็แค่เหนื่อย""
จอมมารทำหน้าสงสัย เอียงคอถา
"คุณควรจะดีใจสิ คุณเป็นผู้กล้า ผู้กล้าที่สังหารจอมมาร มีเกียรติเป็นที่เคารพ"
"ไม่เลย..ฉันเบื่อที่จะต้องแบกรับทุกอย่างเอาไว้ เป็นเวลากว่าร้อยปีที่ฉันไม่ได้หยุดพัก ครั้งแล้วครั้งเล่า" ผู้กล้าหวนนึกถึงอดีต
"..." จอมมารยังคงเงียบก่อนจะค่อยๆหลับตา ผมเองก็เช่นกัน
1นาที
.
.
.
45วินาที
.
.
"น่าเสียดายยิ่ง"จอมมารเอ่ย
ผมเลิกคิ้วสงสัย
"ข้าคิดว่าเราช่างคล้ายกันบางที..."
.
.
30วินาที
.
"แกจะพูดอะไร" ผมถามแล้วลืมตาขึ้น
.
.
.
.
.
10วินาที
.
.
.
"...."จอมมารยังคงเงียบ
.
.
.
.
.
5วินาที
ผมค่อยๆหลับตาลงอีกครั้ง มองไปยังร่างตรงข้ามดูเหมือนอีกฝ่ายจะหมดสติแล้ว
.
4
.
3
.
2
.
1
.
ตู้มมมมมม!!
.
.
.
.
.
.
ณ ภูเขาต้องห้าม(ชิวหลิงจินตี้)แห่งพรรคมาร
ตึกๆๆ
"แฮ่กๆๆๆ...อั่ก! อ้อก!" ซางจิ๋นอวี่หอบหายใจถี่รัว ก่อนจะสะดุดรากไม้กลิ้งม้วนตัวอยู่สามตลบก็ถึงพื้น
ทว่าในยามที่เขาพยายามลุกขึ้นเพื่อออกวิ่งขาทั้งสองข้างกลับอ่อนล้า
"ให้ตายสิ นี่ข้าอยู่ในมือพวกมันตั้งแต่แรกแล้วหรือนี่.." ซางจิ๋นอวี่บอกตัวเองพลางมองไปข้างหน้าก็พบร่างเงาเจ็ดร่างของมือสังหาร
"คุณชายซางวิ่งมาเกือบหนึ่งชั่วยามไม่หยุดพักคงเหนื่อยน่าดูเลยนี่" ชายที่ดูท่าจะเป็นหัวโจกพูด
"ถึงอย่างนั้นพวกเราก็รอนานจนเกือบหลับรอท่านแล้ว" ชายอีกคนกล่าว
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!!!
ก่อนที่กลุ่มคนตรงหน้าจะหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในความน่าสมเพชของเขา
ซางจิ๋นอวี่ทำได้เพียงกัดฟันกรอดอย่างแค้นเคือง
"เอาหละพวกเรารีบมากำจัดสายเลือดชั้นต่ำนี่กันเถอะ"
ตัวข้าคงมิอาจรอดไปได้แต่อย่างน้อยพวกแกก็ต้องตกตายตามข้าไป!
สิ่งที่มือสังหารกล่าวสร้างความขุ่นเคืองให้ซางจิ๋นอวี่เป็นอย่างมาก มือของเขาลอบหยิบมีดสั้นขนาดพอดีมือด้ามจับทำจากไม้แลดูธรรมดาออกจากสาบเสื้อ
ด้วยความดูแคลนในจังหวะที่มือสังหารเคลื่อนไหวเข้าประชิดตัวเขา มันกำรอบคือเขาแล้วยกขึ้นจนตัวลอย
"ย่าาห์!!"
ซางจิ๋นอวี่ยิ้มที่มุมปากก่อนจะเตะเสยเข้าที่ปลายคางมือสังหารจนมันเสียการทรงตัวแล้วกระโจนเข้าหาวาดมีดสั้นออกใส่มือมาบริเวณคอหอยจนตาย!
เพียงชั่วพริบตามือสังหารเหลือ6คน!!
มือสังหารที่เหลือที่เห็นเพื่อนของมันตกตายก็ได้ละทิ้งซึ่งความประมาท
อะไรกันคนที่ไม่ชำนาญการต่อสู้กลับสังหารสมาชิกพรรคมังกรมาร คนเช่นนี้หากได้รับการฝึกจนชำนาญก็นับได้ว่าเป็นบุคคลที่น่ายำเกรง
คิดได้ดังนั้นหัวหน้ามือสังหารก็ส่งสัญญาณให้พวกมันที่เหลือค่อยๆกระจายตัวล้อมซางจิ๋นอวี่ตั้งขบวนรูปแบบดาวกระจายหกแฉก สายตาที่มองซางจิ๋นอวี่ได้เปลี่ยนไป
ไม่เหลือแรงหนีแล้ว..ทำไงดี ซางจิ๋นอวี่เริ่มกังวลคิ้วเข้มหมวดมุ่นกัดฟันข่มความเจ็บ
"เหตุใดพวกเจ้าต้องการสังหาร ข้าด้วย"
"หากมีคุณสมบัติเป็นผู้สืบทอดเรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องปกติ"
"อัก!!" หัวหน้ามือสังหารใช้เข่าเสยเข้าที่หน้าของเขาก่อนจะใช้ดาบแทงเข้าบริเวณช่องท้องแล้วเหยียบซ้ำขยี้จนเลือดไหลทะลัก สร้างความเจ็บปวดให้ซางจิ๋นอวี่
เขามองพวกมือสังหารตรงหน้าทีละคนๆ ด้วยสายตาแข็งกร้าว
ในวินาทีสุดท้ายเขาเพียงยิ้มเยาะเย้ยกับโชคชะตา ไม่ได้กล่าวโทษท่านแม่หรือใคร ไม่ได้กล่าวโทษร่างกายที่อ่อนแอ
ฉึก!! ความเจ็บปวดทั้งหมดค่อยหายไปร่างกายตอบสนองช้าลง
ก่อนที่เขาจะสิ้นสติ เขาปรารถนาถึงการแก้แค้นคนที่ทำให้เขาต้องตกตาย แก้แค้นผู้หญิงแพศยาต้องการอยู่เหนือกว่าใคร ต้องการขึ้นเป็นประมุขพรรคมาร!!
นี่หรือคือการปรารถนาในสิ่งที่มิอาจเป็นจริง
.
.
.
.
.
วูบบบบบ!!!!
"สังหารซางจิ๋นอวี่สำเร็จ ภารกิจเสร็จสิ้น" หลังจากตรวจเช็คความเรียบร้อยชายหัวโจกและพวกของมันกำลังเดินออกไป
อั่กๆ!! แหวะๆ!!!
เพียง10ลมหายใจที่กลุ่มมือสังหารได้ก้าวออก ร่างที่ควรจะไร้วิญญาณของซางจิ๋นอวี่กับกระอักเลือดออกมาก้อนใหญ่ ฝีเท้าที่ก้าวออกพลันหยุดชะงักบนใบหน้าเผยความฉงนระคนประหลาดใจ หัวหน้ามือสังหารเป็นคนแรกที่ตระหนักได้ถึงความไม่ถูกต้อง ลางสังหรณ์กู่ร้องบอกมันถึงความตายที่ใกล้เข้ามา มันตั้งท่าก่อนจะหันไปแล้วกระโจนเข้าใส่ใช้ออกด้วยกระบวนท่าถึงห้ากระบวนท่าหวังปลิดชีพซางจิ๋นอวี่ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว!!
ซวบ!!ๆๆๆ
สีหน้าของหัวหน้ามือสังหารเผยถึงความตระหนกและตึงเครียด การโจมตีของมันถูกอีกฝ่ายหลบได้ทั้งสิ้น มันคงจะไม่น่าแปลกใจหากอีกฝ่ายอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม ทว่าร่างของบุรุษตรงหน้ามันกลับชุ่มโชกไปด้วยเลือดทั่วทั้งร่างได้รับบาดเจ็บคงไม่แคล้วกระดูกหักและใกล้ตายเป็นแน่
อัก!! อ๊ากกก!!!
ในจังหวะมันวาดดาบเข้าบริเวณช่องท้องซ้ำแผลเดิม มือของซางจื๋นอวี่ไม่รีรอที่จะจับยึดที่ข้อมือของมันก่อนที่เขาจะกัดฟันข่มความเจ็บปวดสวนกลับด้วยกระแสดาบนับไม่ถ้วน
ก่อนที่มันจะได้ตกตายลงก็ตัดสินใจหยิบดาบยาวอีกเล่มออกมาตัดแขนซ้ายที่ถูกยึดไว้ ซางจิ่นอวี่ก็ไม่ได้มทีท่าตกใจราวกับล่วงรู้ถึงความคิดนั้น ในจังหวะเดียวกับที่หัวหน้ามือสังหารกำลังจะตัดแขนตนเองซางจิ๋นอวี่ก็บั่นหัวอีกฝ่ายลงในเวลาเดียวกัน
มือสังหารเหลือ5คน
พวกมันที่เหลือมองไปที่ฉากตรงหน้าราวกับตัวโง่งม ก่อนสบสายตากันสักครู่ก็เตรียมกระโจนเข้าใส่เยี่ยงสุนัขจรจัด
"คุณชายยยย คุณชายเจ็ดท่านอยู่แถวนี้หรือไม่!?"
"แย่หละ พวกเราถอย!!"
ซางจิ๋นอวี่ที่ตั้งท่าเตรียมสู้ เมื่อเห็นพวกมือสังหารเลือกที่จะถอยฉากออกไปร่างที่โงนเงนของเขาก็ล้มลง...
.
.
.
.
เฮือก!!
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ฉันควรที่จะตายไปแล้วสิ"
ก๊อกๆๆๆ "
คุฌชายนี่ข้าองค์รักษ์เฉินเองขอรับ"
พูดเสร็จชายที่บอกว่าคือองค์รักษ์เฉินกับชายแก่ก็ก้าวเข้ามาในห้อง พร้อมถ้วยในมือที่ส่งกลิ่ยชวนขมคอทำให้นป่วยอย่างเขาอดไม่ได้ที่จะทำท่าทางน่าเกลียด
"ตอนนี้ท่ายังคงต้องพักรักษาตัวอีกราวๆสองสัปดาห์" ชายแก่พูดพลางลูบเครายาวสีขาว
"ขอบท่านหมอโหยวหลานมาก" องค์รักษ์เฉินกล่าวมือก็ประสานกันโค้งตัวลง ก่อนจะพากันออกไป
.
.
นี่มันชักจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว เท่าที่จำได้ฉัน 'มาเอล'เป็นผู้กล้าแห่งดาบตกมาจากฟ้าหัวโหม่งพื้นตายพร้อมกับจอมมารหลังจากนั้นก็ควรจะได้พักผ่อน รู้ตัวอีกทีฉันก็ตื่นมาเกือบจะโดนฆ่าตายแล้วยิ่งกว่านั้นคือคนพวกนั้นเรียกฉันว่าคุณชายเจ็ด นี่มันไม่ถูกต้อง!?
มาเอลในร่างของซางจิ๋นอวี่เผยถึงความฉงน
"ระบบกำลังดำเนินการฟื้นคืนความทรงจำ"
ทันใดนั้นเสียงเย็นเยียบก็ดังเข้ามาที่โสตประสาทของเขา พร้อมบรรดทัดเส้นแสงหิ่งห้อยก็ปรากฏตัวเลือก
โปรดเลือก (Yes/Yes)
มาเอลจ้องมองข้อความตรงหน้านิ่งๆบนใบหน้าเฉยชาก่อนที่เขาจะหลับตาล้มตัวลงนอนปล่อยให้ข้อความกระพริบวูบวาบต่อไป...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!