บทนำ: ๐๐
"เวิ่นหลาง!! นี่เจ้าก่อเรื่องเช่นนี้มากี่ครั้งแล้ว "
ร่างของประมุขหลันตวาดผู้เป็นลูกลั่นด้วยความโมโห ที่ลูกชายคนเล็กดังเช่นเวิ่นหลาง สร้างเรื่องชกต่อยกับเพื่อนและพี่ชายไม่เว้นวัน
"เหอะ ท่านก็สนใจแค่เวลาข้าก่อเรื่อง เวลาข้าทำเรื่องดีๆท่านเคยสนใจข้าบ้างมั้ยเล่า!!? ท่านก็สนใจเพียงท่านพี่ จวินคุน ไม่เคยใยดีข้าด้วยซ้ำ!"
ถูกเรียกชื่อถึงกับตกใจกับประโยคเมื่อครู่ เขาเองก็รักเวิ่นหลางเพราะเป็นน้องคนเล็ก แต่หากจะถามหาเรื่องดีๆจากเจ้าน้องคนนี้เขาเองยังนึกไม่ออกเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นหากเขายังไม่รีบห้ามคงได้มีสงครามเล็กๆเกิดขึ้นเป็นแน่
"อ่า..ท่านพ่อใจเย็นๆก่อน อาหลางยังเด็กนักอารมณ์ฉุนเฉียวต้องมีเป็นธรรมดา "
แต่ยังไม่ทันทีประโยคพูดของเขาจะจบดีผู้เป็นพ่อก็เอ่ยขึ้นมาต่อ
"นี่กี่ครั้งแล้วที่เวิ่นหลางทำเช่นนี้จวินคุน! ข้าเตรียมเรือไว้ให้เจ้าแล้วอาหลาง จงไปเก็บของเสีย ข้าจะดัดนิสัยเจ้า"
จวินคุนถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า หากทำเช่นนั้นเวิ่นหลางก็จะยิ่งเข้าใจว่าตนไม่ได้รับความรักจากพ่อ... เรื่องจะไม่ยิ่งบานปลายหรือ
"ไม่ต้องห่วง..หากเจ้ากลัวว่าอาหลางจะคิดว่าข้ารักลูกไม่เท่ากัน เจ้าเองก็ไปด้วยจวินคุน จะได้เลิกใจอ่อนกับเรื่องแบบนี้ซักที!"
สองพี่น้องหันมองหน้ากันก่อนจะหันกลับไปหาผู้เป็นพ่อ
"นี่ท่านไม่ใช่เพียงขู่หรือ"
เวิ่นหลางเริ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเผื่อเขาจะไม่ต้องไปเหนื่อยกับเดินทางไกล
"ข้าขู่เจ้ามาหลายรอบเจ้าก็ยังทำซ้ำๆเดิมๆ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ เชิญเจ้าทั้งสองกลับไปเก็บเสื้อผ้า แล้วพรุ่งนี้เช้าไปที่ท่าน้ำเสีย ข้านัดคนไว้ให้เจ้าแล้ว"
ชายวัยกลางกล่าวออกมาโดยไม่สนใจสีหน้าของคุณชายทั้งสองที่ได้แต่พยักหน้ารับด้วยความงงงวย
"หากพรุ่งนี้เจ้ามาสายข้าจะจับโบยยามละ10ไม้ ส่วนค่ำนี้ราตรีสวัสดิ์"
ผู้เป็นประมุขกล่าวออกมาก่อนจะเดินออกไปทันที ทิ้งให้คุณชายทั้งสองขำแห้งอยู่กับชะตากรรม
"นี่เจ้าพาข้ามาซวยด้วยหรือน้องรัก...."
"ท่านยื่นมือเข้ามาเอง! ขะ..ข้าไม่เกี่ยวเสียหน่อย!!!!"
-----------------
ซ่า...
เสียงเรือลำไม่ใหญ่ออกตัวไม่ได้ปลุกให้เวิ่นหลางตื่นจากอาการสะลึมเลยสักนิด นัยน์ตาคมมองวิวรอบข้างด้วยสายตากึ่งหลับกึ่งตื่น จนกระทั่งมีเสียงอสบหูชวนระคายเคืองดังขึ้น
"นี่เจ้า!! จะนอนอยู่ตรงนั้นอีกนานเท่าไหร่"
"หนวกหู!!!!! นี่เจ้าเป็นใคร!!"
"ข้าก็เป็นคนที่พ่อเจ้าส่งมาดัดนิสัยลูกหมาเช่นเจ้ายังไงเล่า!"
"ลุกขึ้นมา! ดูเช่นพี่เจ้าบ้าง จดบันทึกการเดินทาง
..แล้วดูเจ้ามัวแต่หลับแต่นอน!"
เสียงแว๊ดดังขึ้นจนร่างของเวิ่นหลางต้องหันไปมองก็พลเข้ากับร่างเพรียวบางในอาภรณ์ขาวสลับทอง ผมยาวด้านหน้าถูกเกล้าขึ้นเป็นทรง ปักด้วยปิ่นทองคำ ผมหน้าม้าด้านหน้าถูกแหวกออกจนเห็นรูปจันทร์เสี้ยว บนหน้าผากมน หากไม่ใช่ว่าเขากำลังง่วง..บุคคลตนหน้าคงน่าเข้าไปเกี้ยวพาราสียิ่ง
"เพราะเห็นว่าเจ้าเป็นสตรี จะไปไหนก็ไปข้าจะไม่ทำอะไรเจ้า"
สตรี ....ฝ่ายถูกเรียกหางคิ้วกระตุกกับคำพูดเมื่อครู่ สตรี...งั้นรึ...
ผวะ!
พัดสีขาวสลับทองถูกมือเรียวจับเอาฟาดไปที่ศีรษะของคนที่ไม่ยอมตื่นขึ้นมา เต็มแรง
"โอ้ย!!!!!"
"เช่นนี้ เจ้ายังคิดอยู่มั้ย..ว่าข้าเป็นสตรี..."
นิ้วเรียวจิกขยำเส้นผมของชายร่างใหญ่ให้เงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าที่งดงามจนใครเห็นคราแรกก็คงคิดว่าเป็นสตรียิ้มกว้างมาให้คุณชายคนเล็ก แต่สายตากับการกระทำมันช่างตรงข้ามกันเสียเหลือเกิน
"โอ้ยๆ!! ท่านพี่ช่วยข้าด้วย! พี่จวินคุน!"
ข้อมือบางที่ดูแรงน่อยนั้นพอเล่นเข้าจริงๆกลับจิกเข้าหนังศีรษะร่างสูงจนแทบหลุดออกมา
"ท่านพ่อให้ข้าตามมาดูเจ้า...มิใช่ขัดขว้างการดัดนิสัย...ข้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้..."
จวินคุนเพียงยิ้มตอบเพราะบุรุษร่างบางตรงหน้าก็คงเล่นตนหนักแน่ๆหากตนเข้าไปขัดขว้าง
"ทีนี้รู้รึยังว่าควรจะเชื่อฟังข้าน่ะ...คุณชายเวิ่น....."
มือนั่นยังคงกำเส้นผมเอาไว้ก่อนจะกล้าวบอกด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่เป็นมิตรเสียเท่าไหร่นัก
"โอ้ยๆข้าเข้าใจแล้วข้าตื่นแล้วท่าน!!!"
เวิ่นหลางตะโกนลั่นด้วยความโมโหปนกับเจ็บแสบ จนสุดท้ายมือเรียวนั่นก็ปล่อยออกจากเส้นผมสีดำสนิทของเขา
"ฮ่าๆ...แบบนี้ค่อยคุยง่ายหน่อย...ข้า 'หยงฝูเยว' ยินดีที่ได้รู้จักคุณชายหลัน"
ใบหน้าหวานยิ้มออกมากว้างเหมือนเรื่องเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"แล้วท่านให้ข้าตื่นมาทำไม..มีเรื่องอะไรใครตายงั้นรึถึงบังคับให้ข้าตื่น"
เมื่อหลุดจากการเกาะกุมเวิ่นหลางก็เอ่ยถามขึ้นอย่างยียวนกวนประสาท
"ตอนแรกข้าก็ว่าจะให้เจ้านั่งดูวิว....แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว.....ดูเจ้าคงจะเบื่อหากนั่งดูวิวเพียงอย่างเดียว"
ใบหน้าหวานเอียงคอยิ้มออกมากว้างก่อนจะเดินไปหยิบกองหนังสือจำนวนนึงมาถือเอาไว้
"ฮ่าๆ เจ้าน่าจะสนุกหนา...คัดหนังสือพวกนี้มาส่งข้า ภายในเวลาก่อนลงจากเรือ หากเสร็จไม่ทัน.... ข้าจะให้เจ้าคัดเพิ่มอีก ...แล้วก็...ทำความสะอาดเรือให้เรียบร้อยด้วยเล่า "
มือเรียววางกองหนังสือกระดาษและพู่กันไว้ตรงหน้าเวิ่นหลางด้วยรอยยิ้มที่แลดูเป็นมิตรเสียจนเวิ่นหลางกำหมัดแน่น
"อ่อ...หากเจ้าไม่ทำ....ข้าไม่รับประกันว่าเจ้าจะได้กลับไปอย่างปกติ..."
จวินคุนมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มบางๆ ในใจก็คิดสงสารเวิ่นหลาง... แต่ก็ชื่นชมท่านพ่อ...ท่านเลือกคนมาถูกแล้วจริงๆ....
'ฝูเยว...ข้าเคยได้ยินชื่อคนคนนี้...ที่ไหนกันนะ.....'
"คุณชายใหญ่ กำลังสงสัยอะไรอยู่งั้นหรือ"
เสร็จสิ้นคำสั่งร่างของฝูเยวก็เดินกลับเข้ามาหาจวินคุณด้วยรอยยิ้มกว้างแล้วถามคำถามออกมาคล้ายกับว่าอ่านใจเขาออก
จวินคุนเพียงส่ายหัวไปมาตามมารยาทแต่อีกฝ่ายกลับกล่าวออกมาเอง
"หากท่านกำลังคุ้นชื่อแซ่ข้า ข้าจักบอกให้มานี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอกัน คุณชายใหญ่พอจะนึกออกรึไม่ "
คุณชายใหญ่หันใบหน้าร่างตรงหน้าอย่างเพ่งพินิจ แต่ก่อนจะนึกอะไรออกร่างบางก็ชิงพูดออกมาเสียก่อน
"หากท่านยังนึกไม่ออก ก็ช่างเถิดคุณชาย "
ใบหน้างามหม่นเศร้าลงแล้วหันหลบไปมองทิวเขาด้านหน้า
'ผืนแผ่นดินกว้างไกล คนเราพบปะคนมากมาย
ลืมเลือนมักเป็นเรื่องธรรมดา
แต่เหตุฉไหนเลย..ท่านจึงลืมข้าได้เพียงฝ่ายเดียว '
นัยน์ตากลมทอดมองออกไปด้านนอก ไร้ซึ่งบทสนทนาระหว่างสองบุคคล
และหากจะพูดถึงตัวต้นเหตุที่พาให้พวกเขาได้ลงเรือลำเดียวกันตอนนี้ ก็ชิงหลับไปอีกเสียแล้ว!!!
"โอ้ย!!! อะไรของท่านเนี่ย! "
หนังสือเล่มหนาถูกเขวี้ยงใส่หัวคุณชายรองเพื่อปลุกให้เจ้าเด็กตัวแสบตื่นมา
นัยน์ตาคมตวัดมองร่างที่ยืนท้าวเอวด้วยสายไม่พอใจนัก
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!