ภายในห้องเรียน พิโอนี กำลังนั่งพิงหลังเก้าอี้อย่างสบายใจพิโอนีเพื่อน ๆ ของพิโอนีชอบเรียกเขาว่า โอนีมากกว่าสายลมอ่อน ๆ พัดใบหน้าของโอนีเสียงจอแจของเพื่อน ๆ เขาดังเข้ามา
"นายคิดว่านักเรียนใหม่จะเป็นชายหรือผู้หญิง"
"อ้าว...มีนักเรียนใหม่เข้ามาด้วยหรอวะ"
"...."
"...."
ความเงียบงัน ปล่อยให้เสียงจอแจของคนอื่นดังแทรกขึ้นมา ทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่คนถามนั้นจะพูดต่อ
"นายเป็นลูกคุณครูก็นึกว่าจะรู้ ขอโทษที่ถามเรื่องโง่ ๆ ไป"
"แน่นอน ถ้าฉันไม่โดนยึดโทรศัพท์แม่คงเล่าให้ฟัง"
"ถึงว่านายไม่จับโทรศัพท์เลยตั้งแต่เช้า" ชายคนที่พูดก็ส่งสายตาสงสารให้
__________( °∆°)/ (-_-)/__________
โอนีไม่สนใจนักเรียนใหม่เลย มีน้อยเรื่องมากที่ทำให้เขาสนใจได้ คนอื่นมักเรียกเขาว่านักเรียนเกเรของห้อง
โอนีแทบไม่มีเพื่อนแต่ลูกน้องก็มีสองสามคนแต่ตอนนี้พวกเขาก็โดนพักการเรียนไปแล้ว ตอนนี้โอนีก็แทบไม่มีใครคุยด้วยเลย
ความรู้สึกเหงาเขาเกาะกินหัวใจ แต่เขาไม่แสดงออก เขาจะไม่อ่อนแออีกแล้ว
เสียงเปิดประตูดังขึ้นมา ทุกคนต่างเงียบเพราะเวลานี้โอกาสเป็นคุณครูสูงมาก
คนสองคนเดินผ่านเข้ามาคนที่เดินนำเป็นคุณครูชายหน้าตาหล่อแต่ดูเจ้าเล่ห์เพทุบายเขาใส่แว่นตาเดียวมีหลายคนถามมาใส่ทำไม
"ก็มันเท่ไง"
ส่วนคนที่เดินตามมาคือชายหน้าตาหล่อ ขอบตาดำนิดหน่อย นัยน์ตาสีดำไร้แสงประกาย ผมสั้นดำไม่จัดทรง
"แนะนำกับเพื่อน ๆ หน่อย~"
คุณครูที่พยายามทำตัวให้เท่เสมอพูด ผู้ชายหลายคนมักจะเมื่อยใจแทนมันดูไม่เท่เลยมันดูตลกแทนในสายตาโอนีและผู้ชายคนอื่น ๆ คิดว่าผู้หญิงจะรู้สึกยังไงนะ ?
"ผม พลับพลึง อายุ 16 ปี....ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
คุณครูจัดที่นั่งให้อยู่ด้านข้าง โอนี มันเป็นที่นั่งของนักเรียนคนหนึ่งที่ออกไปแล้วแน่นอนเพราะโอนี จะเรียกว่าเพราะโอนีก็ไม่ถูกมันกวนโอนีแล้วลูกน้องก็ไปสั่งสอนมัน ตอนนี้เขาลาออกไปแล้ว
__________┐( ̄ヘ ̄)┌
ผ่านไปหลายวันแล้ว หลังจากนักเรียนใหม่มาโอนีลืมชื่อนักเรียนใหม่ไปแล้ว เลยตั้งชื่อนักเรียนใหม่เลยว่า ไอ้มืด เหมาะมากโอนีคิด
ชายคนนั้นเขากับคนอื่นได้ดี "ไอ้มืด" โอนีคิดกับปัญหาการจำชื่อตัวเอง โอนีถอดหายใจเบา ๆ
"ไอ้มืด ยืมปากกาหน่อยดิ" โอนียืนมือไปหาไอ้มืดแน่นอนปากกาที่ยืมไปครั้งก่อนหายแล้ว ถึงยืมอีกครั้ง
ปากกาอันเล็กเหมาะมือมันสวยงามรูปการ์ตูนต่าง ๆ อยู่บนปากกา ที่สำคัญมันคืองานฝีมือ
โอนีแอบหันไปมองไอ้มืด รอยยิ้มของชายคนนั้นคงเช่นเคยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
__________(→_→) (*´ω`*)__________
หลายวันผ่านไป-
แสงของพระอาทิตย์ยามเย็นมันดูอบอุ่นหัวใจคล้ายกลับไปในครรภ์มารดา บริเวณเขตก่อสร้างโมรินอนอยู่บนหญ้าอ่อน ร่างกายมีรอยแผลฟกช้ำเต็มไปหมด
พี่ชายของนักเรียนที่ลาออกไปเพราะลูกน้องเขา ได้พาคนอื่นมาซ้อมเขา เขาถอดหายใจอย่างเมื่อยอ่อน
ร่างกายเจ็บไปหมด แทบไม่รู้สึกอยากลุกขึ้นเขาคิดถึงเตียงนอนและอาหารอร่อย ๆ
เสียงเหมือนคนเดินเข้ามาถึงโอนีจะรู้สึกไม่อยากให้ใครมาเห็นเขาในสภาพนี้ แต่สภาพดันไม่เอื้ออำนวยเขาหลับตารอให้ คนนิรนามเดินจากไป
"ให้ช่วยไหมเอ่ย"
เสียงไอ้ดำดังผ่านประสาทเขา เขาไม่คิดเลยว่าจะมีใครอยู่ที่นี่เลย บางทีนี้อาจเป็นฝันร้าย
__________(-ᄒᴥᄒ-) (◕ᴗ◕✿)__________
สรุปแล้วโอนีคล้ายบังคับไอ้มืด แต่เหมือนไอ้มืดจะตั้งใจช่วยอยู่แล้วเลยตั้งใจเขาบ่น ใบหน้ายังประดับไปด้วยรอยยิ้มเสมอ
ในบ้านโอนีตอนนี้ก็มืดแล้ว โอนีตอนถึงเตียงนอนก็หลับไปเลย พอตื่นขึ้นมาก็เจอไอ้มืดนอนอยู่ข้าง ๆ ขอบตาเขาดำคล้ายคนไม่ได้นอนถ้าไม่มันเขาจะดูหล่อขึ้นมาเลย โอนีนายคิดอะไรอยู่
ร่ายกายเขาเปลือยเปล่าเหลือเพียงกางเกงในชิ้นเดียว โอนีมองไปที่ตู้เสื้อผ้ามันมีกระจกอยู่ โอนีมองร่างกายตัวเองพลาสเตอร์เต็มร่างกายโอมีไปหมด แสดงได้ถึงความไร้สามารถการรักษา
ร่างกายของโอนีเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ผมที่คล้ายเปลวเพลิง นัยน์ตาสีมรกตสีส้ม เขาต้องแข็งแกร่งกว่านี้
ก่อนที่เขาจะหลับไปอีกครั้ง ในฝันเขากำลังอยู่ในอ้อมกอดของมารดา
__________ᕦ(ò_óˇ)ᕤ
หลายวันผ่านไป
ฉันโอนีและไอ้มืดเหมือนจะสนิทกันขึ้น บางครั้งโอนีและลูกน้องจะพาไอ้มืดไปทำแบบพวกเกเรกันทำ แน่นอนว่าไอ้มืดไม่อยากไปพวกเราเลยไปหาอย่างทำ
เช่นเล่นเกมในร้านอินเตอร์เน็ต ไปนั่งปิกนิกที่เขตก่อสร้างบนตึก ตกปลา
ผ่านไปนานในที่สุดวันหนึ่ง ตอนที่พวกเราเล่นมุขกัน โอก็รู้สึกว่าไอ้มืดไม่เคยหัวเราะเลย บางที่มุขอาจไม่ตลกพอ หรือก็เป็นพวกขำยาก
__________ᕙ(☉ਊ☉)ᕗ (>0<;)__________
วันเวลาผ่านไป
ไอ้มืดไม่เคยขาดเลย วันนี้ก็เป็นวันที่สองแล้วโอนีเลยไปถามคุณครูเจ้าเล่ห์ถึงที่อยู่ไอ้มืด
บ้านไอ้มืดไกลจากตัวเมืองมากโอนีใช้เวลาเดินทางนานถึง 3 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินอยู่นานจนเกือบมืดบางทีต้องค้างบ้านไอ้มืดแล้ว
บ้านหลังเก่าที่ดูสะอาดสะอ้านแต่กับไม่มีสิ่งมีชีวิตมีเพียงความเงียบงันราวกับหวังว่าจะไม่มีวิญญาณร้ายนะโอนีคิดกับตัวเองทำไมเราต้องมาหาไอ้หมอนี่ด้วยนะ
โอนีเดินเขาไปหน้าประตูเขาเคาะประตูพร้อมร้องเรียก
"มีใครอยู่ไหม"
มีแต่ความเงียบตอบโอนี ผ่านไปไม่นาน ไอ้มืดก็เปิดประตูออกมาใบหน้าคล้ายไม่ได้หลับนอนมาหลายวันแต่ไอ้ดำยังคงยิ้มให้โอนีเช่นเคย
ลมอ่อน ๆ ยามเย็นทำให้โอนีรู้สึกขนลุกแปลก ๆ
"มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า" ใบหน้าที่แข็งกร้าวขอโอนีอ่อนลงอย่างมาก บางทีนี้อาจจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่โอนีมีใบหน้าแบบนี้
"ก็ไม่นิ" ไอ้มืดพูดเล่นกับโอนีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม กัน นัยน์ตาสีดำสนิทที่ไร้แสงของความมีชีวิตชีวา
"นายไม่ไปโรงเรียนหลายวันแล้วนะ"
"ฉันคิดว่าจะลาออกแล้วล่ะ ฝากขอโทษทุกคนด้วยนะ แล้วก็ไม่ต้องคิดถึงฉันหรอก ทำให้ฉันเป็นเพียงสายลมก็พอ"
"แล้วก็บางทีวันนี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายของฉันแล้ว"
"พูดอะไรของนาย ! นายเป็นอะไรจิตไม่ดีหรอ" มือทั้งสองของโอนีลูบหัวไอ้มืดอย่างแรง สีหน้าของไอ้มืดรู้สึกตกใจ โอนีเริ่มจั๊กจี้ไอ้มืดไปมาแต่ไอ้มืดกลับไม่หัวเราะอย่างที่คิด
โอนีไม่ยอมแพ้ โอนีกอด โอนีแกล้งเบาหู โอนีจับมือไอ้มืดให้ลูบหัวเค้า ไอ้มืดลูบหัวโอนีอย่าอ่อนโยน ก่อนหัวเราะเบา ๆ
"ฮ่าฮ่า" ทั้งสองนอนบนพื้นต่างพากันหัวเราะ
"กว่าจะหัวเราะได้นะ นึกว่านายจะหัวเราะไม่เป็นแล้วสักอีก นายนี้มันหัวเราะยากจริง ๆ เลยนะ เพื่อน"
"โอนีนายมันบ้า"
พวกเค้าหัวเราะกันสักพักก่อนที่ไอ้ดำจะหยุดโอนีก็มาจั๊กจี้ไอ้มืดต่อ
"พอแล้ว ยังกับเด็กเลยนะนายเนี่ย"
"ไม่ใช่สักหน่อย แล้วจะจะไม่ต้อนรับเข้าบ้านเลยหรอ ขนาดฉันยังต้อนรับนายอย่างดีเลยนะอย่างน้อยก็ให้นอนที่เตียงเลย"
"ไม่ต้อนรับจ้า แต่ฉันรู้จักโรงแรมดีแห่งหนึ่งนะบางทีนายอาจชอบไปกันเถอะ"
"บ้านนายไม่ทำความสะอาดหรอ นายก็ดูเป็นคนรักสะอาดนะ ของเหลือจากใครก็ไม่เอา"
"ขนมจากนายมันดูไม่ปลอดภัย โอนีนายไม่ค่อยล้างมือด้วย จำตอนนั้นได้หรือเปล่า นายเล่นฟุตบอลแล้วมาเอาขนมจากฉันไปเฉยเลย แล้วมาเอาคืนให้ฉัน นายมันแย่มากมือนายไปโดนอะไรมาบ้างนายรู้ไหม"
ทั้งสองต่างเดินไปเรื่อยโดยที่ไอ้มืดนำทาง แสงดวงอาทิตย์เริ่มทอแสงรัศมีสีเหลืองผ่านก้อนเมฆ ระหว่างนี้ก็เล่าความหลังกันตั้งแต่เจอกัน
เมื่อมาถึงโรงแรมโอนีถามไอ้มืดในห้องทั้งสองต่างนอนบนเตียงแล้วฟังเรื่องเล่าที่ยาวนาน
"เกิดอะไรขึ้นถึงไม่ไปโรงเรียน"
"แค่ไม่อยากไป"
"นายก็เรียนไม่ได้แย่เลยนะ ถึงจะไม่ตั้งใจเลย ปัญหาที่โรงเรียน เพราะฉันหรือเปล่า"
"ใช่"
"...."
"ดูสีหน้านายตอนนี้สิ นายเชื่อจริง ๆ หรอ"
"ฉันจะเล่าเรื่องของฉันให้ฟัง แต่ฉันเล่าไม่เก่งเลยมันอาจจะขัดหูบ้างนะ พร้อมยัง"
"อืมม-"
"ต่อไปนายต้องเล่าให้ฟังนะ"
"ครั้งหนึ่ง มีเด็กน้อยคนหนึ่ง เด็กน้อยที่มีแต่ความสุข เด็กน้อยที่คอยมอบความรักให้กับคนอื่นแต่กับไม่เคยได้รับความรักกลับคืนมาเลยได้รับเพียงคำพูดที่แสนเจ็บปวด และ คำพูดที่ปลูกเมล็ดแห่งความกลัว ความไม่กล้า ความเศร้า ปลูกความคิดว่าตัวเองไร้ค่าแค่ไหน.."
"เด็กน้อยคือนายหรอ"
"เด็กน้อยก็คือเด็กน้อย ฉันก็คือฉัน"
"เฮ...แต่นายกำลังเล่าเรื่องนายนะ"
"...ฮ่า ฮ่า"
"หัวเราะอะไรขอนาย"
"เด็กน้อยไม่ใช่ฉันสักน้อย ฉันโตแล้วนะแถมฉันยังมีชื่อใหม่แล้ว ไอ้มืด ถึงมันจะไม่เหมาะกับคนผิวขาวถึงขั้นกระดาษเอสี่ก็เถอะ"
"ฮ่า ๆ มันไม่ใช่เพราะฉันจำชื่อนายไม่ได้หรอกนะ นายชอบก็ดีแล้ว"
"เหมือนฉันเลย ฉันแทบจำชื่อคนไม่ได้"
"ต่อไปตานายแล้ว ทำไมนายถึงทำตัวแบบนั้นฉันรู้ว่านายต้องมีเหตุผล ฉันอยู่กับนายมานานจันรู้สึกว่านายไม่เหมือนคนเกเรเลยมันเหมือนเด็กเล่นกันมากกว่า โดยเฉพาะตอนนายถอดเสื้อโชว์ว่านายไม่อาย แบบชายแท้แต่หน้านายแดงอยู่แถมกางเกงในนายมันโครตเด็กน้อยเลยเพื่อน"
ทั้งสองต่างหันมาจ้องตากัน บางทีโอนีอาจเริ่มชอบไอ้มืดขึ้นมาแล้วก็ได้ ใบหูโอนีเริ่มร้อน
ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ของ ก่อนโอนีจะเอาคืนโดนจั๊กจี้ไอ้มืดคืน
"มันอาจไร้สาระอยู่บ้างนะ ฉันแค่อยากให้แม่สนใจฉันขึ้นมาบ้าง..แค่นั้นแหละ"
"แค่นั้นจริงหรอ"
"ก็มีเรื่องพี่ชายฉันที่เก่งไปสักทุกอย่างเลย..แม่ชอบเปรียบเทียบ ซึ่งฉันไม่ชอบเลย"
"เด็กน้อยยยย จังงงเลย"
"หน้าแดงอีกแล้วนะ มาให้กอดหน่อยสิ เด็กน้อย" โอนีกอดไอ้มืด ซึ่งไอ้มืดไม่นึกเลยว่าโอนีจะกอดเค้า
"ฉันรักนายนะ"
เสียงอันแผ่วเบาดังเข้ามาในใบหูของไอ้มืด น้ำตาเริ่มไหลออกจะขอบตาของไอ้มืด ไม่เคยเลย ไม่เคยมีใครรักเค้าทุกครั้งมักจะทำให้เค้าเจ็บปวด รอยยิ้มที่ปกปิดรอยร้าวในหัวใจเค้ามันไกล้จะสลายไปแล้ว...เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยที่กำลังปกปิดเสียงไม่ให้ใครได้ยินดังขึ้น
ในคืนนั้นเอง...โอนีหลับไปแล้ว
ไอ้มืดเดินไปที่ห้องน้ำ หยิบยาบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง ไอ้มืดเทยาออกจากกระปุกลงโถส้วมด้วยสีหน้ายคล้ายโดนปลดปล่อย
"ลาก่อน พลับพลึง"
ในวันธรรมดา ชีวิตประจำวันของผมก็เหมือนทุกวัน ตื่นมาไปเรียน กลับมาบ้านก็ทำการบ้าน ทำเสร็จก็นอน เป็นแบบนี้ทุกวัน
ในวันเสาร์ อาทิตย์ มันคือสวรรค์ของผม วันนี้พี่ชายของผมกลับบ้านโดยนำสัตว์เลี้ยงมาด้วย
ใช่มันคือ แมว เริ่มต้นเป็นทาสของฉันซะเจ้ามนุษย์
แมวน้อยตัวเล็กน่ารัก มันชอบให้ลูบขน ผมชอบเล่นกับมันมากกกกกกกก มากที่สุดรองจากสุนัขของผม ในที่สุดผมก็เห็นคุณค่าของพี่ชายก็วันนี้ แค่วันนี้
วันแรก พี่ซื้ออาหารเม็ดมามากมาย เอาให้เห็นภาพก็ถุงขนาดใหญ่ ไม่พอสิ่งที่แมวชอบเป็นซองก็มีอย่างกับกันชาแมวเลย
ด้วยความที่บ้านผมเป็นบ้านขนาดให้ครอบครัวก็เยอะถึงผมจะไม่เห็นพวกเขาเป็นครอบครัวก็เถอะเพราะครั้งหนึ่ง น้าขับรถเหยียบขาสุนัขผม แล้วก็ไม่ดูแลมันเลย คนในครอบครัวต่างไม่ดูแลมันเลย ไม่พาไปหาหมอด้วยซ้ำ
ตอนนั้นผมยังจำได้ ผมไม่เห็นสุนัข ผ่านไปหลายวัน พวกเขาบอกว่ามันตายแล้ว แค่นั้น ? ใช่แค่นั้นแหละมันน่าเจ็บใจ ทั้งที่คนที่รับเลี้ยงไม่ใช่ผม แต่คนที่รับเลี้ยงที่แท้จริงกลับไม่รักมันเลย
บ้านนี้ไม่เหมาะเลี้ยงสัตว์เลย
ผ่านไปหลายวัน ทุกวันหลังเลิกเรียน ความเครียดจากครูและการบ้านมากมาย ยังดีที่มีเจ้าเหมียวค่อยปลอบประโลมหัวใจให้บางทีมันอาจจะเพื่อนคนหนึ่งในหัวใจผมแล้วก็ได้
วันหนึ่งยายในบ้านไม่ชอบแมวไม่อยากให้แมวอยู่บ้าน บางทีพวกเค้าอาจจะแกล้งผมอยู่ก็ได้
แมวถูกย้ายไปอยู่สวน
บ้านกลับมาเงียบเหงาเหมือนเดิน ผ่านไปวันเสาร์ผมถึงมีเวลาไปเยี่ยมมัน
แต่ก็แค่วันเดียว มันจะลืมผมไหมนะ ว่าแต่ยายจะแพ้แมวจริง ๆ หรอ ว่าแต่ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้ ว่าแต่ทำไมเรามันไร้ประโยชน์แบบนี้ทำไมทำอะไรไม่ได้เลยนะ ทำไมเราไม่มีอิสระเลย พี่สามารถเลี้ยงแมวได้
แต่เราทำอะไรไม่ได้เลย เป็นหุ่นยนต์ที่ทำแต่สิ่งที่กำหนดไว้
วันผ่านไป จากวันเป็นเดือน
วันนี้ข่าวร้ายมา แมวที่สวนโดนสุนัขกัด พวกเขาบอกว่ามันเขามาในสวน ใช่มันเขามา เข้ามากัดแมวเรา !
ความคิดแรก อะไรนะ ทำไม สุนัขตัวนั้นมันต้องตายเลย ใครมัันปล่อยสุนัขว่ะ เกิดอะไรทำไม ถ้ามันไม่อยู่สวน แต่ทำไมไม่ดูแลมันดี
ผมถามว่าทำอะไรได้ไหม พวกเขาบอกไม่ได้ "สุนัขตัวนั้นได้ไหม" พวกเขาส่ายหน้าอย่างเห็นใจ ผมรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่ความรู้สึกในใจมันสำคัญกว่าครอบครัวนี้ด้วยซ้ำ ถ้าผมเลือกได้ผมยอมให้ครอบครัวนี้ตายแทนแมวผมยังได้
ทุกวันผ่านไปด้วยความเศร้า
ผมเริ่มหาความสุขจากนิยาย
เริ่มตัดตัวเองจากโลกภายนอก
โลกมันแย่ ๆ พอกับอึ
ครอบครัวที่เสียงดัง ปากสุนัขโดยเฉพาะยาย เป็นครอบครัวหัวโบราณ เป็นครอบครัวที่สนับสนุนคนเลว
ผมออกจากโรงเรียน
ตรงหน้าผมมีเชือกผูกคอ ผมอาจคิดไม่ดีแต่มันไม่มีใครที่เป็นเพื่อนผมอีกแล้ว มันไม่มีใครอีกแล้วที่ผมรัก ผมไม่มีจุดมุ่งหมายอีกแล้ว ไม่มีสิ่งที่รัก ไม่มีสิ่งที่ต้องดูแล
ใจสลาย เพราะแมวตัวหนึ่ง
ความมืดมิดยามค่ำคืนในป่าใหญ่ เสียงนกร้องขับขานคล้ายบทเพลงแห่งความตาย เด็กชายที่ร่างปกคลุมไปด้วยความมืดมิด กำลังนั่งแหงนมองดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
"ขาผมชาไปหมดแล้ว... อาหารกระป๋องก็หมดแล้วทำไงดีพี่ชาย... ผมหิวจัง"
เสียงพึมพำเบาๆ ของเด็กชายดังขึ้น มีเสียงตอบรับของเหล่าสัตว์ป่าที่อาจมาทำร้ายเมื่อไหร่ก็ได้ แต่แล้วเด็กชายกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย ความเมื่อยล้าทำให้ร่ายกายอยากพักผ่อน
"พี่ครับ... แม่ครับ... ผมโดนงูกัด... ผมขอโทษที่ดูแลตัวเองไม่ดี ขอโทษสำหรับทุกสิ่ง"
ความง่วงงันที่เด็กชายทนกัดฟันมานาน... เริ่มออกอาการจนไม่อาจฝืนลืมตาได้
"ทำไมต้องทิ้งผมไว้อีกแล้ว... ทำไม!"
ฟุ่บ!
ร่างกายของเด็กชายล้มลง ความเจ็บปวดของบาดแผลมากมายไหลผ่านสมองของเขาแต่จิตใจไม่อาจรับความรู้สึกอื่นใดได้อีกแล้ว
เด็กชายพยายาม'ยิ้ม'และจิตนาการว่ามันคือ 'ความสุข' ของตนเอง
น้ำตาของเขาไหลผ่านใบหน้า ความทรงจำมากมายในอดีตเริ่มเลือนลางลงเรื่อยๆ
-เด็กกำพร้าพ่อตั้งแต่จำความได้
-ได้รับความโกรธของแม่ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน
-มีพี่ชายที่ไม่สนใจน้องชาย
-มีครอบครัวที่ไม่รักและไม่เคยใส่ใจและเอาแต่ทำร้ายโดยคำพูด
-มีปมจนทำร้ายตัวเอง สังคมแย่ ๆ โรงเรียนแย่ ๆ
"ผมโชคดีจังที่เกิดมาครบสามสิบสอง... " เด็กชายเริ่มบ่นประชดกับตนเอง
ใบหน้ามีรอยยิ้มแต่ก็คล้ายไม่ยิ้มอยู่ น้ำตาไหลผ่านใบหน้าอันมอมแมม
"ผมโชคดีที่พวกเขาให้บ้านอยู่ โชคดีที่ให้เงินผมใช้ โชคดีที่เคยมีเพื่อน โชคดีที่มียังชีวิตอยู่"
เสียงของเด็กชายเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เขาไม่ร้องไห้อีกแล้ว ไม่อาจรับรู้เสียงใดๆ ได้อีกแล้ว ลมหายใจเริ่มเบาลง เมื่อความตายใกล้เข้ามาถึงความรู้สึกบางอย่างจะเกินขึ้น อย่างเช่น ความกลัว,ความรู้สึกผิด
"โชคดี... อืมมม ยังเหลือโชคดีอะไรอีกนะ คิดไม่ออกแล้วอ่ะ"
เมื่อความตายใกล้เข้าความรู้สึก'ไม่แยแส'สิ่งใดก็ยิ่งมากขึ้นคล้ายกับความรักหายไป
มือที่เต็มไปด้วยรอยแผลกำลังกำมีดเล่มหนึ่งไว้ มีดโบราณที่เขาเจอในป่ารวดลายมันแปลกประหลาดกับสัญลักษณ์ที่ไม่คุ้นเคย
"ยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว... ทำเรื่องบ้าๆ หน่อยก็แล้วกัน"
'ความกลัว' ไม่เหลืออะไรต้องกลัวอีกแล้ว
เด็กชายใช้มีดกรีดแทงเข้าไปในช่องท้องอย่างช้า ช้าาา... เพื่อสัมผัสความรู้สึกเจ็บปวดให้เต็มที่ ความรู้สึกเมื่อมีมีดมาแทงทำให้ใบหน้าของเขาเริ่มแดงคล้ายโดยคนที่ชอบบอกรัก เลือดอุ่นๆ กับเครื่องใน ผิวสัมผัสนุ่มนวลดีจัง
'รู้สึกดีจัง~'
"รู้สึกดีจัง... มีความสุขที่สุดเลย"
ความรู้สึกสุดท้ายภายใต้รอยยิ้ม... ในที่สุด
ลมหายใจของเด็กชายหมดลง... เมื่อถึงตอนเช้าเผยให้เห็นร่างกายอันผอมบางแทบหนังหุ้มกระดูกเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งผ้าพันพร้อมกับแผลมากมาย นัยน์ตาไร้แสงกำลังมองท้องฟ้าพร้อมกับรอยยิ้มของเด็กชาย
สัตว์ป่ามากมายวันแล้ววันเล่าต่างเดินผ่านไป คล้ายกับมองไม่เห็นร่างอันไร้วิญญาณนั้นเลย
ไม่มีใครรับรู้เลยว่ามีใครตายเลย ไม่มีใครออกมาสำรวจ แล้วในที่สุดเรื่องราวคงเงียบหายไป... ตามกาลเวลา
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!