ย้อนความกลับไปเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว...
ณ เมืองโรสโทเปียร์
เมืองที่มีการแข่งขันกันสูงในหลายๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน การเงิน หรือแม้กระทั่งเรื่องความรัก...มีหญิงสาวคนหนึ่งที่มีโอกาสได้เป็นผู้เข้าแข่งขันหรือก็คือการคัดเลือกคู่ครองให้กับลูกชายของกษัทย์แห่งเมืองนี้นั่นเองงงงงและหญิงสาวผู้โชคดี (?)
คนนั้นก็คือฉันยังไงล่ะ T-T
“เอ่อ พ่อคะพ่อลองคิดดูอีกสักรอบมั้ยคะ” ฉันที่กำลังอ้อนวอนของความเมตราให้ท่านพ่อยกเลิกความคิดบ้าๆ ที่จะจับฉันให้องค์ชายแสนโหดที่มีข่าวว่าทำร้ายคู่หมั้นจนปางตายนั้นออกไป
“ไม่จากวีรกรรมที่ลูกสาวที่น่ารัก (กัดฟันพูดสุดๆ) ได้ทำลงไปแล้วพ่อว่าทางนี้ดีที่สุด”
“พ่อคะหนูก็แค่เผลอไปร้านของพี่คริสเองนะคะ”
“ลูกใช่คำว่าแค่หรอ...ที่ๆ
ลูกไปมันคือสถานที่อโคจรชั้นนำ แถมยังถูกถ่ายรูปไปลงหนังสือพิมพ์อีกเนี่ยนะลูกรู้ตัวบ้างมั้ยว่าลูกเป็นใคร และทำอะไรอยู่”
“แม่คะ...แม่ยอมได้จริงๆ หรอคะ นี่ลูกสาวแม่นะคะ แถมรุปนั้นก็เป็นรูปที่เกิดจากความเข้าใจผิด พี่คริสก็ญาติเรานะแม่” ในเมื่อเถียงพ่อไม่ไหว ฉันจึงหันไปหามารดาผู้ที่รักและทะนุถนอมฉันยิ่งกว่าใคร
“เรื่องนี้แม่ช่วยลูกไม่ได้จริงๆจ้ะ T-T”
“แม่คะ...”
“หยุดพูดไปเตรียมตัวซะ!”
“แต่...”
“ไม่มีคำว่าแต่ถ้าลูกไม่ไป พ่อจะส่งลูกไปใช้ชีวิตทางใต้เลือกเอา!”
โอ้วววว ไม่นะชีวิตทางใต้ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากวัวควาย กับองค์ชายแน่นอนคนอย่างฉันก็ต้องเลือก…
“ลูกเลือกองค์ชายก็ได้ค่ะ” แน่นอนฉันก็ต้องเลือกทางสบายอยู่แล้ว
นั่นแหละชัวิตฉันเมื่อปีที่แล้วที่ทำให้ฉันต้องมาเข้าวังเพื่อเป็นหนึ่งในตัวเลือกให้องค์ชายเลือกไปเป็นคู่หมั้น แต่รู้อะไรไหม ตั้งแต่ฉันมาที่นี่ ฉันรู้สึกแพ้มาก ฉันพูดจริงนะ เพราะว่าครั้งแรกที่ย้อนไปเมื่อปีที่แล้วตอนที่เข้าวังครั้งแรกเพื่อให้องค์ชายได้เห็นหน้าว่าที่คู่หมั้นทั้งสอง ใช่ค่ะ มีผู้กล้าแค่สองคนที่ส่งลูกสาวเข้ามานั่นก็คือตระกูล เอราลาของฉันกับตระกูลเฮสเปอร์
คู่แข่งตลอดการของท่านพ่อของฉันนั่นเอง ส่วนครั้งที่สองก็ตอนที่จะต้องไปทานข้าวกับองค์ชายเพื่อสร้างความสนิทสนมแต่รู้อะไรมั้ยคะ อีตาองค์ชายนั่นมองแต่ยัยโอลิเวียร์จากตระกูลเฮสเปอร์ ที่แสนจะเรียบร้อยน่าทะนุถนอม ส่วนฉันน่ะหรอเหมือนชายตามอตามมารยาทเท่านั้นแหละ แหมมมมม ไม่ลำเอียงเล๊ยยยยยย ส่วนครั้งที่สามอันนี้น่าอายที่สุด ก็คือตอนที่ฉันกำลังเดินชมสวนอยู่นั้น ฉันก็สะดุดล้มแล้วอีตาองค์ชายนั่นก็กำลังนั่งจิบชาอยู่ค่ะ ประโยคที่เปิดปากมาพูดไม่ใช่คำปลอบโยนนะคะแต่เป็น ‘ทำไมเจ้าช่างไม่มีตาเอาซะเลย เจ้ารู้มั้ยว่าเจ้ากำลังทำให้ชาของเราหมดความอร่อยอยู่นะ’ เยี่ยมกลายเป็นว่าฉันต้องขอโทษตานั่นที่ทำให้ชาเสียรสชาติ
ถึงแม้จะทำไปเพราะอยากประชดก็เถอะนะ และยังมีอีกหลายๆ เรื่องที่ต้องพบเจอ แต่ก็นั่นแหละค่ะหนึ่งปีที่ผ่านไปพร้อมกับความว่างเปล่า มีแต่ความเหงาของฉันที่ถ้าเอามามัดรวมกันคงสร้างวังได้เพิ่มอีกแน่ๆ เห้อออออ
“คุณหนูคะ ตอนนี้ทางฝั่งนั้นทำคะแนนได้รัวๆ เลยนะคะ คุรหนูไม่คิดจะสู้สักนิดเลยหรอคะ” คนรับใช้คู่กายที่แสนสนิทของฉันพูดขึ้นมาฉันว่าเธอคงได้ข่าวเกี่ยวกับองค์ชายกับโอลิเวียร์อีกแล้วสินะ
“ไม่ล่ะ สู้กับคนที่ไม่มีทางชนะได้น่ะ มันเหนื่อยนะ คนไม่รักต่อให้ตีลังกาพร้อมทำมือรูปหัวใจเค้าก็ไม่รักหรอก”
“แต่ว่าคุณหนูก็ควรลองทำอะไรสักอย่างนะคะ ไม่งั้นเสียชื่อตระกูลเอราลาหมดแน่นอนค่ะ”
“แล้วฉันจะทำอะไรได้ล่ะ ให้ฝืนคนไม่มีใจ ทำยังไงก้ท้อ”
“ก็ลองดูเถอะค่ะ มาค่ะ วันนี้ออกไปสูดอากาศข้างนอกกัน แล้วก็จะได้ตามหาองค์ชายบ้าง ป่านนี้ลืมหน้ากันหมดแล้วรึป่าวก็ไม่รู้”
“ฉันนนนนนนนนน ม่ายยยยยยยยย ปายยยยยยยยยย”
“งั้นถ้าจะฉันส่งเรื่องให้ถึงหูคุณท่านคุณหนูคงไม่ว่าสินะคะ”
“โอ้ยยยยยย ไปก็ได้ ขู่เก่งจริงๆ เลยนะ” ฉันยอมลุกไปอาบน้ำแต่งตัว ชีวิตในวังทุกคนคงคิดว่าสบายมีคนช่วยนู่นนี่ แต่ความจริงน่ะนะฉันโดนอนุญาติให้มีคนติดตามแค่หนึ่งคนเพื่อให้ลองใช้ชีวิตแบบทำอะไรหลายๆ อย่างเองซึ่งมันก็ไม่ได้ลำบากสำหรับฉันนักหรอกแต่ก็ไม่สบายไปซะทีเดียว
30 นาทีต่อมา
ฉันที่แต่งตัวเสร็จแล้วก็กำลังเดินไปในสวนใหญ่ของวังฉันชอบสวนนี้นะมีดอกไม้มากมายที่บานสะพรั่งสวยงามน่ามองสุดๆ ขณะเดินไปฉันก็ไม่สะดุดเข้ากลับเงาแปลกๆตรงพุ่มไม้
“ใครน่ะ” ฉันเอ่ยถามออกไปก็กลับไม่มีเสียงอะไรออกมา
“ฉันถามว่าคะ....” ยังไม่ทันพูดจบประโยคก็มีมีดบินลอยออกมาปักท้องของฉันพร้อมเงานั่นที่รับหนีหายไป
“คุณหนู!! คุณหนูคะ!! ทหารเรียกหมอเร็ว เร็วสิ!”
“ครับ!!”
ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งวุ่นเพื่อช่วยฉัน ตอนนี้ฉันแทบไม่รู้สึกอะไรเลย มีดนี่มันเต็มไปด้วยยาพิษ ที่รุรแรงพอที่จะพรากชีวิตฉันตอนนี้ฉันกำลังจะตายสินะ ท่านพ่อ ท่านแม่ ฉันขอโทษที่ดื้อนะ ซิน เธอเป็นสาวใช้ที่ดีที่สุดในโลก องค์ชาย เชิญเสพสุขไปเลยนะยะ!! ถ้าฉันมาเกิดอีกรอบฉันจะทำให้นายตกหลุมรักฉันให้ได้ ฮรือออออออ ไม่ได้อยากตายสักหน่อย ใครทำยังไม่รู้เลย ขอได้มั้ย
ไม่ตายได้รึเปล่า…
“ฉันขอโทษ” เอ๊ะ นั่นเสียงใคร ฉันพยายามเอื้อมมือไขว่ขว้าหาคนข้างหน้า ใครมันมาบอกขอโทษฉันตอนนี้นะ คนสั่งฆ๋าหรอ หรือใคร โอ้ยยยย เจ็บแผลก็เจ็บ อยากรู้ก็อยาก พระเจ้าคะ ช่วยฉันที...ฉันไม่ไหวแล้ว...
ภาพฉากต่างๆ ที่ฉันกำลังเห็นนั้นล้วนเป็นสีขาวไปซะหมด
นี่ฉันตายแล้วใช่มั้ย แต่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลยนะ
ขนาดความรักดีๆ ฉันยังไม่มีเลย
“ฉันไม่ย๊อมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม”
“นี่เจ้าจะตะโกนทำไมกัน” เอ๊ะ สะ สะเสียงใครกันนะ ผีอีกตัวหรอ ไม่นะ ฉันยังไม่พร้อมเจอ
จะมาสภาพไหนก็ไม่โอเคน้า
“ข้ามิใช่ผี”
“แล้วคุณเป็นใครคะ?” ฉันถามด้วยความสงสัย แต่เอ๊ะ!! เค้ารู้ได้ไงว่าฉันคิดอะไรน่ะ?
“เห้อ ข้าคือผู้กำหนดชะตากรรมของวิญญาณต่างๆ แห่งโลกใบนี้”
“โกหกน่า…” ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้หรอก โกหกเพื่อเอาวิญญาณเราไปรึป่าว เราจะโดนขายวิญญาณมั้ย อร๊ายยยย ไม่นะ!!
“ตอนเป็นมนุษย์เจ้าคงอ่านนิยายมากสินะ”
“เอ่อ ก็ใช่ เอ๊ะ ท่านรู้จักนิยายด้วยหรอ”
“ข้ารู้จักทุกความเป็นไปของมนุษย์ เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า ไหนดูซิเจ้าชื่อ คาเธีย เอราลา สินะ อืมมมม...” จู่ๆ ก็มีแสงวาบขึ้นมาเป็นเหมือนหน้าจอขึ้นเป็นหน้าฉันพร้อมบอกสถานะความดีและความชั่วที่เคยทำมา
“ว้าว...ไฮเทคดีจัง”
“เจ้าไม่ใช่คนแรกที่พูดแบบนี้หรอกนะ อืมมม สถานะความดีของเจ้านี่มากกว่าที่ข้าคิดเลยนะ แถมชาติที่แล้วก็ทำความดีมากซะจนล้นเลยเจ้าอยากได้อะไรรึป่าว?”
“ข้าขออะไรก็ได้ด้วยหรอคะ? ขอให้ชาติหน้าเกิดเป็นคนสวย รวย เสน่ห์ หน้าที่การงานดี มีความรักที่ดีครอบครัวดี แล้วก็...”
“พอๆ ข้าว่าข้ามีความคิดดีๆ แล้วล่ะ”
“อะไรหรือคะ”
“ข้าจะให้เจ้าเลือกระหว่างเกิดใหม่เป็นลูกเศรษฐี ร่ำหรวย หรือจะกลับไปเป็นคนเดิมไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แต่ต้องแลกกลับสถานะความดีที่เจ้าสะสมไว้ในชาติที่แล้ว”
“ทำไมเอาแค่ของชาติที่แล้วล่ะคะ หรือท่านปราณีข้า ><”
“ชาตินี้ความดีเจ้าไม่พอน่ะ หักลบกับความร้ายกาจที่เจ้าทำไว้แล้วก็หายไปเยอะอยู่นะ”
“ไม่จริง ข้าคนดีจะตาย”
“แล้วที่เจ้าขโยเงินแม่ไปเล่นการพนันแล้วโกหกว่าเอาเงินไปบริจาคล่ะ”
“พอๆ ข้ายอม” เห้อออ ระหว่างเกิดใหม่ กับเป็นคนเดิม ฉันก็ต้องเลือกคนเดิมน่ะสิ เพราะการเป็นฉันมันดีที่สุดแล้ว แล้วเจอกันพวกที่ทำให้ฉันต้องมาพบจุดจบแบบนี้...
“ดูเหมือนเจ้าจะเลือกได้แล้วนะ”
“ค่ะ ข้าเลือกกลับไปเกิดใหม่เป็นตัวข้าเองดีกว่า”
“เจ้าแน่ใจนะ จะไม่เสียใจทีหลังใช่หรือไม่”
“ค่ะ ข้าแน่ใจ”
“ได้เจ้าจะได้ในสิ่งที่ขอ หลับตาสิ”
“ค่ะ”
พอฉันหลับตาลงก็รู้สึกได้ถึงลมกรรโชกแรงที่พัดผ่านตัวฉัน มันแรงจนฉันทรงตัวไม่อยู่เลยล่ะ
“ด้วยพลังแห่งข้า ขอให้เจ้าโชคดี”
พรึ่บบบบบบบ
เฮือกกก ฉันยันตัวลุกขึ้นจากเตียง เอ๊ะ!! เมื่อกี้มันอะไรกันนะ ฝันหรอ ข้าตายแล้วนี่ หรือข้าจะฝันไปจริงๆ ไม่สิ! ถ้ามันคือฝันข้าก็ต้องอยู่ในวังไม่ใช่บ้านของตัวองแบบนี้
ก๊อกๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูที่ดังมากดังขึ้นมาจนฉันสงสัยว่าใครมันเคาะดังขนาดนี้กันนะ
“ใครน่ะ!?”
“คุณหนู ถึงเวลาเข้าวังแล้วนะคะ คุณหนูต้องตื่นได้แล้วค่ะ”
“เข้าวังงั้นหรอ” ฉันนึก นี่ฉันได้ย้อนมาตรงนี้หรอเนี่ย เลือกช่วงได้ห่วยเสียจริงนะ
“ฉันเข้าใจแล้ว เตรียมชุดได้เลย”
“คะ!? ค่ะๆ”
ทุกคนต้องตกใจแน่ๆ ที่ฉันยอมทำตามง่ายๆ แบบนี้เพราะตอนนั้นฉันอยากหนีแทบตาย แต่ก็นั่นแหละฉันรู้ว่ายังไงเรื่องราวมันก็ต้องเป็นแบบนี้ แต่ฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองมีจุดจบแบบเดิมแน่ๆ
“ฉันพร้อมแล้ว” ฉันเดิมลงบรรไดมาพบกับภาพเดิมคือภาพที่พ่อและแม่ของฉันที่มีสิหน้ากังวล แน่ล่ะต่อให้ท่าจะลงโทษฉันยังไงท่านก็รักฉันและไม่อยากให้ฉันไปเท่าไหร่
“ไปก่อนนะคะ ท่านพ่อ ท่านแม่”
“ดูแลตัวเองดีๆนะ ถ้าใครทำร้ายลูกให้บอกพ่อได้เสมอนะ”
“ค่ะพ่อ”
“แม่รักลูกนะ”
“ค่ะ หนูก็รักแม่นะคะ ไปก่อนนะ” ฉันพูดพร้อมกับขึ้นไปนั่งบนรถที่องค์ชายได้ส่งคนมารับ ซึ่งถ้าพูดให้ถูกก็คือส่งมาตามมารยาทนั่นแหละนะ
“ฉันสัญญาว่าจะดูแลคุณหนูให้ดีที่สุดค่ะ” มีอาร์สาวใช้คนสนิทของฉันพูดพร้อมก้าวขึ้นรถตามมา
ณ
พระราชวังที่มีงานดูตัวว่าที่แฟนเอ้ยราชินีในอนาคตของเจ้าชายที่แสนดี (ตรงไหน) ฉันได้ก้าวลงจากรถยนต์คันงามของอีตาองค์ชายนั่นที่ดูยังไงๆ ก็รู้ว่าราชาเป็นคนส่งมาโดยใช้นามขององค์ชายนั่น
“พร้อมนะคะคุณหนู” มีอาร์บอกกับฉัน เธอมีสีหน้าเป็นกังวลมากกว่าชั้น 10 เท่าเห็นจะได้
“พร้อมแล้ว ไปกันเถอะ”
ฉันและมีอาร์ได้เดินเข้าไปในส่วนของวัง มันได้ถูกตกแต่งไปด้วยดอกไม้และของตกแต่งมากมาย เนื่องจากเป็นงานที่ค่อนข้างสำคัญจึงมีแขกมากมายที่จะต้องมางานนี้ให้ได้ ทั้งเพื่อเอาหน้าและเพื่อผูกมิตรสำหรับการค้าในอนาคต
“ฟุ่มเฟือยดีจังนะ” ฉันเห็นของพวกนี้ก็อดแซะไม่ได้
“สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย ขอบคุณที่มางานอันแสนสำคัญของลูกชายเรา ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับงานนี้ เอาล่ะข้าขอเชิญ หญิงทั้งสองที่จะมาเป็นคู่ครองของลูกชายเราในอนาคต คาเธีย เอราลา และ โอลิเวีย เฮสเปอร์ ”
“คุณหนูคะ ไปกันค่ะ” มีอาร์เรียกฉัน
ฉันและมีอาร์ได้เดินไปที่ส่วนกลางของงานหน้าที่นั่งของราชาและราชินี ถัดไปเป็นองค์ชายจอมหยิ่งที่กำลังมองโอลิเวียอย่างไม่วางตาทำให้พระราชาต้องกระอมไอเรียกสติ เหอะ คนผีทะเลเอ้ย
“บอกนามของเจ้าพร้อมปนิธานให้ทุกคนฟังสิ”
“ข้า โอลิเวียร์ เฮสเปอร์ สิ่งที่ข้าต้องการคือได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องค่ะ” โอลิเวียร์พูดจบพร้อมยิ้มอย่างเขินอาย
“ดีมาก” ราชากล่าว
“ข้า คาเธีย เอลารา สิ่งที่ข้าตองการงั้นหรอ...”
ก่อนตายข้าดันไปตอบว่ามีชีวิตอย่างสงบสุขไปวันๆ ทำให้คะแนนตกฮวบงั้นตอนนี้เอาเป็น...
“สิ่งที่ข้าต้องการคือการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขและทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความสุขไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรก็ตาม”
หลังพูดจบทุกและราชาก็ตบมือให้ฉัน
“ดีมากที่เจ้านึกความสุขส่วนตัวและส่วนรวมเพราะคนเรามักจะเผลอลืมสิ่งๆ นี้ไปเสมอ”
“ขอบพระทัยเพคะ” หึๆๆ ครั้งนี้ฉันชนะ
“จบพิธีกล่าวปนิธานแล้วขอให้พวกเจ้าทั้งสองเชิญไปสนุกกับงานได้”
“ขอบพระทัยเพคะ” ฉันและโอลิเวียร์ พูดพร้อมกัน
เห้ออออ ในที่สุดก็รอดมากจนได้สินะ ฉันจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ไปหาของกินแก้เครียดดีกว่า
“อ่ะ เอ่อ...” ยัยโอลิเวียร์เดิมเข้ามาหาฉัน เหมือนจะต้องการทักทายเลยแหะ
“มีอะไรรึป่าวคะ?” ฉันเอ่ยถามเธอก่อนเพราะทนความเก้ๆกังนี้ต่อไปไม่ไหว
“คะ คือว่า ฉันชื่อโอลิเวียร์ เฮสเปอร์นะคะ”
“...” อันนี้ใครๆ ก็ต้องรู้อยู่แล้วมั้ยนะ ยัยนี่จะมาบอกทำไม
“คือฉันอยากจะสนิทกับคุณน่ะค่ะ เพราะว่าฉันมาคนเดียวไม่มีเพื่อนเลย เลยอยากทำความรู้จักกับคุณเอาไว้ก่อนน่ะค่ะ”
“อ่าค่ะ สวัสดีค่ะคุณเฮสเปอร์”
“เรียกโอลิเวียร์ก็ได้นะคะ”
“ค่ะ”
“ถ้างั้นฉันขอเรียกคุณว่าคาเธียเช่นกันนะคะ”
“ตามใจค่ะและฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ มีอาร์รอฉันอยู่” หลังจากฉันพูดจบก็รีบเดินหนีทิ้งยัยนั่นไว้คนเดียวเลยเพราะว่าฉันน่ะยังมีภารกิจที่จะต้องตามหาเจ้าชายบ้านั่นอยู่ ชั่งของกินไปก่อนแล้วกัน…
“เห้อ...คนบ้าอะไรหาตัวจับยากชะมัดเลย เมื่อยขาหมดแล้วนะ!!” ฉันบ่นหลังจากที่เดินกาเจ้าชายนั่นอยู่นานสองนาน ตอนนี้ฉันถอดใจแล้วล่ะ ขอนั่งพักที่ริมระเบียงอันแสนสงบนี่ดีกว่า วิวก็สวย บรรยากาศก็ดี
“มาทำอะไรตรงนี้ครับคุณผู้หญิง”
“เอ๊ะ!!? ใครคะ”
“สวัสดีครับ ผมเอมไพร์ อีไลน่าครับ” เขาพูดพร้อมยื่นแก้มไวน์ให้ฉัน
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“น่าเสียใจนะครับที่หญิงสาวที่งดงามอย่างคุณปฏิเสธไวน์จากผม”
“...”
“ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรหรอครับ?”
“ไม่รู้จักฉันจริงๆ หรอคะ”
“55555 นี่คุณดังขนาดที่ใครๆ ต้องรู้จักเลยหรอครับ ชักน่าสนใจแล้วสิ” เข้าพูดพร้อมเดินเข้ามาใกลฉันมากขึ้น
“เปล่าค่ะ แต่ฉันคือหนึ่งในสองของคนที่พึ่งกล่าวคำปนิธานไปน่ะค่ะ เลยคิดว่าคุณน่าจะรู้ว่าฉันเป็นใคร”
“ว้าว คุณคือคนขององค์ชายนี่เอง” เขาพูดและก้าวเข้ามาหาฉันอีก
“ถ้าทราบแล้วก็ช่วยกรุณาออกไปด้วยค่ะ”
“ไม่ครับ คุณจะไปสนใจองค์ชายงี่เง่านั่นทำไมครับ ในเมื่อเขาสนใจแต่หญิงสาวอีกคนมากกว่า”
“น่ะ นี่คุณ!!”
“หรือไม่จริง ล่าสุดผมเห็นสองคนนั้นยังเต้นรำด้วยกันอยู่เลยนะครับ”
“แล้วมันยังไงหรอคะ? พวกเขาจะเต้นรำ ทานอาหาร พูดคุยมันก็สิทธิ์ของพวกเขา ฉันก็แค่ทำสิ่งที่ฉันต้องทำ
และแน่นอนว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะมายุงเรื่องของคนอื่นด้วย ไม่ใช่หรอคะ?”
“ปากร้ายไม่เบาเลยนะครับผมชักจจะสนใจคุณมากขึ้นไปอีกนะ” พูดจบเขาก็เอามือมาโอบเอวของฉัน
“นี่คุณ คุณกำลังทำตัวไร้มารยาทอยู่นะคะ”
“หืมมม อะไรนะครับ” เขาพูดและยื่นหน้าเข้ามาหาฉัน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!