วันแรกที่เดินทางมาถึงบ้านใหม่ (แบบไม่เต็มใจ) เคยคิดว่า อยู่ที่ไหนก็เหมือน ๆ กันแหละ มีบ้าน มีข้าว มีที่เรียน มีเงินให้ใช้ จบ! แต่ชั้นคิดผิด นี่มันโค-ตะ-ระ บ้านนอกชัด ๆ นั่น ๆ !! ควายตัวเบ้อเร่อ กำลังเล็มหญ้าอยู่ริมทาง ถ้าชั้นเปิดกระจกรถให้มันเห็นหัวแดงเพลิงของชั้น มันจะร้องว้าวหรือวิ่งไล่รถพ่อตามขวิดชั้นกันล่ะเนี่ย
มาริน หรือมินนี่ คือชื่อของชั้นเอง แม่ตั้งชื่อชั้นแบบนี้เพราะคิดว่าพี่ชื่อมิคกี้แล้ว ให้น้องตั้งชื่อคล้องกันไปเลย เหมือนตัวการ์ตูนอินเตอร์เรื่องนึงที่แม่ชอบดูตั้งแต่เด็ก แต่ตัวจริงของชั้น ช่างตรงข้ามกับคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนตัวนี้ชะมัด
ชั้นไม่ชอบกระโปรง ไม่ชอบสีชมพู ไม่ชอบรองเท้าคัชชู และที่สำคัญ ชั้นกัดกับไอ้พี่มิคบ่อยมากกกก.... จนคิดว่า ใช่พี่น้องกับมันแน่เหรอวะ ขัดทุกเรื่อง แย่งทุกอย่าง ใครดีใครได้ แม่บอกว่ามีลูกหัวปีท้ายปี เลยให้เรียนชั้นเดียวกัน เพราะขี้เกียจไปประชุมครูหลายรอบ แจ็คพ็อตว่าได้อยู่ห้องเดียวกันซะด้วย
ครูชอบเอาไอ้พี่มิคมาเปรียบกับชั้น ว่าชั้นเหมือนผู้ชายมากกว่ามัน เพราะต่อหน้าครูหรือผู้ใหญ่ มันจะพูดแนวตัวเองเป็นพระเอกและชั้นเป็นนางร้ายหรือไม่ก็เป็นคนใช้ในละคร แถมมันยังเรียนดีซะจนนึกว่ามันไม่น่าจะเรียน ม.ปลายเล้ย น่าจะจบ มหาลัยฯ ไปได้แล้ว ความน้อยเนื้อต่ำใจจากสภาพสังคมรอบ ๆ ตัวจึงบังเกิดข้างในจิตใจลึก ๆ ของชั้น จนแสดงออกมาเป็นคำพูดและการกระทำกับมัน เวลาครูให้แข่งขัน มันจะเสนอตัวคนแรก แข่งเองน่ะไม่เป็นไร มันดันใส่ชื่อชั้นในทีมตลอด โดยที่ชั้นยังไม่ทันอ้าปากปฏิเสธ ครูก็ตอบตกลง เออออห่อหมกกับมันด้วย งานเข้าชั้นสิทีนี้ เอาควายออกนอกโรงเรียนไปโชว์ตัวให้โรงเรียนอื่นดูชัด ๆ
สามปีของ ม.ปลาย ผ่านไป ไวเหมือนหนังหน้านังโบกี้ หมาพันธุ์ปั๊กที่บ้าน จากหมาเด็กแล้วแก่เลย เพราะเกิดมาย่นยังไงก็ย่นแบบนั้น ไม่เคยเห็นมันหน้าตึงซักที.. -_- !
หลังจากที่ทนมานาน ชั้นก็เป็นอิสระทางกายและความคิด ชั้นเลือกเข้ามหาลัยคนละแห่งกับไอ้พี่มิค ออกมาอยู่หอและเลือกคณะที่ตัวเองชอบ พ่อกับแม่ก็ห้ามแหละ แต่ชั้นชักแม่น้ำทั้งร้อยสาย หว่านล้อมพวกท่านจนได้ ส่วนพี่ชาย (คู่แข่ง) ตัวฉกาจน่ะเหรอ เมินซะเถอะ ถ้าผ่านพ่อแม่ได้ ชั้นก็ไม่สนใจเค้าแล้ว
บ้านกับมหาลัยห่างกันพอสมควร แต่ถ้าพ่อกับแม่จะขับรถมาดูก็ไม่ลำบากเท่าไหร่ เริ่มต้นก่อนเข้าหอชั้นเตรียมทุกอย่างพร้อม เหมือนเด็กที่กำลังจะออกค่ายพักแรมครั้งแรก สนุกและตื่นเต้น ชั้นกินง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมาก
ดังนั้น ของที่เตรียมมาก็เลยไม่เยอะ ชั้นไม่ติดตุ๊กตา ไม่ฉาบหน้าเยอะ ไม่เห็นแก่กิน (ซะเมื่อไหร่) มีปัจจัย 5 อยู่ ก็โอเคแล้ว ยุคนี้คงไม่มีใครสงสัยนะ ว่าปัจจัยที่ 5 คืออะไร ก็มือถือไง ทีวีไม่มี วิทยุ คอมฯ จบในเครื่องเดียว
ว้ากกกก..!! โลกใบใหม่ของชั้น สดชื่นสุด ๆ เลย
ไอ้พี่มิค...... เสร็จรึยัง อะไรจะอี้นานขนาดนั้นฮะ!! ลากไส้ออกมารึไง
เสียงยัยตัวแสบตะโกนดังกว่าเสียงรถพุ่มพวงแถวบ้านซะอีก ตกลงจะเป็นน้องหรือเป็นแม่กันล่ะเนี่ย ประจานซะไม่กล้าเดินออกไปสบตานังโบกี้หมาที่บ้านแล้ว คนกำลังเบ่งได้ที่ ขัดจังหวะอยู่ได้ ขาดช่วงกันพอดี
โครกกกก........ ผมรีบกดชักโครก แล้วรีบล้าง สะบัด ๆ ๆ อ๊ะ ๆ อย่าคิดเยอะ มือน่ะ มือ เปิดประตูห้องน้ำไป แล้วทำหน้าละเหี่ยใจใส่ยัยน้องตัวแสบ
มีอะไร! เร่งอยู่ได้ ใครจะไปรู้ได้ ว่าข้าศึกจะบุกตอนไหน รีบนักก็ไปก่อนดิ่ ใครบอกให้รอ พูดแล้วก็หยิบกระเป๋าโดดขึ้นเบาะหลังรถก่อนที่ยัยน้องตัวแสบจะอ้าปากเถียง
ผม...มิคาเอล พี่ชายยัยแสบ น้องสาวที่คิดว่าพ่อแม่น่าจะเก็บ ถ้าไม่เป็นผมก็คงเป็นยัยนี่ คนใดคนหนึ่งมาเลี้ยง ผมเคยคิดว่า ดีจัง ที่มีน้องสาวน่ารัก ไว้คอยเป็นเพื่อนเล่น และไว้คอยให้กันท่าหนุ่ม ๆ ที่จะเข้ามาเจ๊าะแจ๊ะ คงสนุกดีพิลึก แต่หลังจากวันเกิดผมตอน 5 ขวบ ความคิดผมก็เปลี่ยนไป ... ผมได้ของขวัญวันเกิดจากลุงซี เป็นบอลแก้ว ลูกกลม มีสีฟ้าน้ำทะเลเรืองแสงอยู่ด้านใน ลุงบอกว่า ถ้าเก็บไว้ เวลาไปทะเล เอาลงแช่น้ำทะเล บอลจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวฟ้าเรืองแสงกว่าเดิม และจะมีเสียงคลื่น อธิษฐานอะไรก็ได้ จะทำให้เราสมหวัง ตอนนั้นผมคิดว่า ลุงพูดอะไรก็ไม่รู้ คงจะหลอกเด็กอย่างผม เพื่อให้เก็บรักษาของสิ่งนี้ให้ดีมากกว่า ผมไม่ได้คิดอะไรมาก ได้แต่พยักหน้ารับไปอย่างงง ๆ แต่ก็ชอบ เพราะของชิ้นนี้แปลกตาดี ผมตั้งใจจะถือบอลลูกนี้ไปให้น้องสาวที่น่ารัก (ในตอนนั้น) ของผมดู มองไปที่ใต้ต้นมะม่วงต้นใหญ่หลังบ้าน เห็นเธอนั่งอยู่คนเดียว ก็รีบวิ่งเข้าไปหา แล้วเอาของที่ตั้งใจจะอวดให้เธอดู ผมเปล่งเสียงเรียกชื่อเธอหลายครั้ง เธอก็ไม่ตอบ ไม่เงยหน้ามามองผม ผมจึงก้มหน้าเข้าไปมองเธอใกล้ ๆ แล้วยื่นบอลแก้วให้เธอดู แต่เธอไม่หันมามองแล้วปัดบอลแก้วหลุดจากมือผม บอลแก้วสีสวยตกกระแทกที่พื้นทันที ถึงแม้ไม่แตก แต่ก็เป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ ผมก้มลงไปเก็บขึ้นมาแล้วมองหน้าน้องสาวของผม แล้วถามเธอว่าทำไมทำแบบนี้ เธอบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่เจตนา คำตอบนี้มันทำให้ผมอยากจะดึงหูไอ้น้องตัวแสบแรงๆ แต่ติดที่ว่าถ้าทำไปแล้วผมคงอดกินข้าวไปหลายมื้อแน่ ก็เลยไม่รู้จะทำยังไง เฮ้อ!...
หลังจากที่ทยอยเก็บข้าวของในห้องตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะได้ตัดสินใจว่าจะลองเดินดูรอบๆหน่อยให้รู้จักทิศทาง เพื่อให้รู้จักสถานที่รอบ ๆ บ้านใหม่เพราะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เพื่อจะได้เตรียมตัวก่อนไปโรงเรียน เดินออกมานอกบ้านจึงสังเกตเห็นมีบ้านหลังหนึ่ง อยู่เยื้องกับบ้านของฉันไปทางขวามือ บ้านหลังนี้เพ้นท์สีรั้วเป็นลายการ์ตูน ฉันจึงเดินเข้าไปดูด้วยความสนใจ พอเดินเข้าไปใกล้ ๆ จึงเห็นว่าบ้านหลังนี้น่ารักมากต้นไม้เยอะมองเข้าไปมีต้นมะม่วงลูกกำลังดกเชียว ต้นมะยมก็มีลูกเบียดกันจนเต็มกิ่ง แต่มองได้แค่นั้นสักพักนึงก็ได้ยินเสียงหมาเห่าเสียงดัง โอ้แม่เจ้า!! โกลเด้นท์ รีทรีฟเวอร์ ตัวยักษ์ กรี๊ดดดดด..... น่ารักสุด ๆ อยากจะกระโดดข้ามรั้วไปเล่นด้วยจังเลย ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อก็ได้ยินเสียงดุเจ้าโกลเด้นท์ออกมาจากบ้าน
ปั้นสิบ! เห่าอะไร เสียงดัง หนวกหู เดี๋ยวเถอะวันนี้อดกินข้าว เสียงหญิงชราเดินออกมาดูเจ้าตูบ มันทำท่ากระดิกหาง แล้วทำคอตกคล้ายกับรู้ว่าถ้าไม่หยุดเห่าเย็นนี้ท้องแฟบแน่ ๆ ทำให้ฉันนึกถึงเวลาที่แม่ดุเราพี่น้องตอนทะเลาะกัน จุดจบของการกินข้าวหม้อเดียวกันแล้วกัดกัน ก็คือไม่ต้องกินมันทั้งคู่
แล้วหญิงชราก็เดินออกมาที่หน้าบ้านเพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติทำให้เจ้าตูบสีสวยร้องเรียก ฉันสบตากับคุณคุณยายที่เดินออกมาหน้าบ้าน จึงยกมือไหว้ "สวัสดีค่ะ หนูชื่อมารินค่ะ หรือเรียกหนูว่ามินนี่ก็ได้ค่ะ หนูเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่บ้านใกล้ ๆ นี่ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
"สวัสดีจ้า น่ารักจังเลย ยายอยู่ที่นี่นานแล้วมีอะไรถามได้นะลูก เพิ่งย้ายมาวันนี้เหรอ แล้วย้ายมาบ้านหลังไหนกันล่ะลูก"
"หลังสีฟ้าขาวที่อยู่เยื้องกันนะค่ะเราอยู่กัน 4 คน พ่อแม่ หนูแล้วก็พี่ชายอีกคนนึงค่ะ มีอะไรให้หนูช่วยเรียกได้นะคะ คุณยายอยู่คนเดียวหรอคะ" ชั้นถามคุณยายด้วยความอยากรู้ เพราะสนใจเจ้าตูบที่คอยกระดิกหางยืนอยู่ข้าง ๆคุณยายตลอดเวลา ถ่ายกับเป็นองครักษ์พิทักษ์เจ้าของบ้าน หรือใครอยากจะได้เพื่อนเล่นใหม่ก็ไม่รู้
"เปล่าหรอกจ้ายายอยู่กับหลานชายพอดีเขาออกไปซื้อของน่ะ รุ่นหนูนี่แหละ นายใหญ่ของเจ้าปั้นสิบเขา"
"หมาชื่อปั้นสิบหรอคะ ชื่อน่ากินจังเลย ตัวผู้หรือตัวเมียคะ"
"ตัวผู้จ้ะ แสบจริง ๆ ว่างๆก็มาเล่นกับมันได้นะลูก"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!