สินค้าขายออนไลน์นั้นเป็นธุรกิจที่เติบโตเร็วนะครับในสมัยนี้ชื่อว่าก่อนเข้าถึงทุกพื้น ที่และกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าทุกกลุ่มไม่ว่าจะขายอะไรก็ตามเหมือนกับคุณแป๋มที่ได้เปลี่ยนจากอาชีพพนักงานบริษัททั่วไปว่าเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์เพราะสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นและทำให้เธอตกงานนับเป็นช่วงชีวิตของเธอที่ค่อนข้างจะลำบากแต่เพราะต้องการเงินก็เลยตัดสินใจที่จะมาขายของออนไลน์เหมือนกับคุณส้มเพื่อนเก่าที่ได้เจอกันอีกครั้งในโลกโซเชียลรายการขายของส้มนั้นมีคนเข้าไปดูเยอะมากๆและขายของได้ยอดสูงในแต่ละวันจึงทำให้คุณแป๋มสนใจที่จะเริ่มงานใหม่ด้วยการเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์นั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณแป๋มได้เจอกับสิ่งที่เธอเชื่อมาตลอดชีวิตว่ามีอยู่จริงแต่ยังไม่เคยเจอสักครั้งนั่นก็คือผีนั่นเองเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นการสงวนสิทธิ์ในการเรียกผู้ค้าขายและสินค้าต่างๆรวมถึงสถานที่ต่างๆไว้ด้วยนะครับเพื่อไม่ให้เกิดประเด็นและละไว้ในฐานที่เข้าใจการคุณแหม่มได้ส่งเรื่องเล่าของเธอเข้ามาและฝากให้ทีมงานมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณผู้ฟังครับ 6 เดือนผ่านมาหลังจากเริ่มมีข่าวโรคระบาดรุนแรงมากขึ้นบริษัทที่คุณทำงานอยู่ก็เกิดประคับประคองตัวเองไม่ไหวแล้วต้องปิดตัวลงอย่างกะทันหันทำให้คนหนุ่มสาวหลายคนที่บริษัทแห่งนั้นรวมถึงคุณแต๋มเองต้องตกงานกันหลายร้อยคนถึงแม้จะได้รับเงินชดเชยน้ำมันก็ไม่ได้มากพอที่จะใช้ไปได้ตลอดในเมืองใหญ่แบบนี้ทำให้คุณตันพยายามที่จะหางานใหม่แต่เพราะงานใหม่นั้นไม่ได้หากันง่ายๆในช่วงสถานการณ์แบบนี้ก็เลยทำให้เธอต้องใช้เวลาพอสมควรในการเริ่มต้นหางานใหม่จะได้ไปเจอกับคุณส้มเพื่อนเก่าสมัยมัธยมที่ไม่ได้คุยกันมานานมากแล้วคุณส้มชักชวนให้คุณป้าขายของออนไลน์ด้วยการซึ่งก็เป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่เป็นแบรนด์ที่คุณแบบไม่เคยได้ยินชื่อแต่ว่ามียอดสั่งซื้อมากกว่าที่เธอคิดไว้ไลฟ์สดขายของแจกโปรโมชั่นรัวๆแกจะได้ทั้งลูกค้าแล้วก็ลูกทีมเลยนะมันขายตรงไหนหรอขายตรงแบบนั้นมันหมดยุคแล้วขายออนไลน์แบบนี้สิขายออกเร็วได้เงินเร็วกำไรเพียบเลยคำพูดของผู้ชมในวันนั้นทำให้คุณแป๋มเชื่อและเอาเงินจำนวนหนึ่งที่เธอมีอยู่ตัดสินใจลงทุนซื้อของจากคุณส้มเพื่อมาลองขายออนไลน์ดูบ้างในช่วงแรกๆถึงแม้จะเขินอยู่บ้างก็เป็นคนที่ไม่เคยไลค์สดเลยเริ่มทำไปเธอก็เริ่มจะคุ้นชินมากขึ้นเรื่อยๆใกล้ๆก็มีผู้ชมเข้ามาชมเรื่อยๆและขายใบพอได้กำไรบ้างเพราะคิดว่าคงอยู่บ้านกันเยอะในช่วงที่ต้องเฝ้าระวังและกักตัวอยู่แต่ในบ้านจะผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวยอดคนดูก็ตกฮวบและขายของออกได้น้อยมากเลยทำให้คุณแป๋มเริ่มมีความกังวลว่าเธอจะขายของไม่ได้จึงกลับไปปรึกษาคุณส้มซึ่งขายของได้กำไรทุกวันได้ที่คุณเปรมเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะขายของได้กำไรมากขนาดนั้นขยันอย่างเดียวไม่ได้ผลหรอกนะแกมันต้องหาของดีมาไว้บูชาบ้างจะลองหาดูสิของดีหมายถึงพวกนางกวักอะไรพวกนั้นน่ะหรอดีเเต่ก็รู้ว่าไม่ดีเท่าไหร่แต่คุณแป๋มก็ลองทำตามที่คุณส้มแนะนำและเพราะเธอไม่ค่อยรู้จักพวกอะไรก็ได้ที่ให้โชคเกี่ยวกับค้าขายจะเชื่ออะไรก็บูชานั้นคำแนะนำของส่งถึงแม้จะไม่ใช่คำแนะนำที่ดีเท่าไหร่แต่คุณแต่ก็ลองทำตามที่คุณส้มแนะนำและเพราะเธอไม่ค่อยรู้จักพวกเครื่องรางหรือของบูชาสักเท่าไหร่นักเธอคิดจะหาตามอินเทอร์เน็ตแทนเหมือนเราหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้วเธอก็ไปเจอกับเครื่องรางชิ้นหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับนางกวักไปในรายละเอียดนั้นเขาเรียกเครื่องรางหรือบ้านที่เป็นผู้หญิงสวมสบายและตกแต่งด้วยเครื่องแต่งกายแบบไทยๆว่านางเรียกทรัพย์แล้วก็เห็นแล้วรู้สึกว่าถูกชะตาคุยกับพี่ตัดสินใจบูชานางเรียกทรัพย์มาเพื่อช่วยให้การค้าขายของเธอดีขึ้นเมื่อได้นางเรียกทัพย์มาวันแรกคุณเเป๋มก็จัดการทำพิธีและสวดคำบูชาตามที่ทางร้านแนะนำเธอมาแล้วเริ่มไลฟ์สดขายของซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากๆเพราะหลังจากที่เคยขายของไม่ได้มาหลายวันวันนั้นจะได้ยอดเยอะกว่าที่ผ่านๆมาตั้งแต่ที่เริ่มขายก็เจอก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าจะเป็นผลมาจากการเรียกทรัพย์ที่เธอเอามาบูชาหรือเป็นเพราะเงินที่ยอมลงทุนเสียค่าโฆษณาไปเมื่อวันก่อนได้ยอดเดือนมาเยอะพอสมควรก็เลยทำให้คุณรู้สึกหายเหนื่อยและคลายกังวลเรื่องรายได้ไปบ้างแต่คืนนั้นก็เริ่มมีเรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้นกับคุณแปลกๆซึ่งก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่แน่ใจนักว่ามันเกิดขึ้นกับเธอจริงๆหรือเปล่าในขณะที่คุณเเป๋มกำลังนอนหลับอยู่นั้นเธอก็รู้สึกตัวเพราะอากาศร้อนก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นและเริ่มได้หยิบเสียงเพลงลอยมาคุณเเป๋มดันตัวเองให้ลุกขึ้นมาจากเตียงและคิดจะลุกไปเปิดแอร์โต๊ะทำงานของเธอเเต่พอลืมตาพยายามที่จะมองให้ชัดๆกว่าเดิมในความมืดเเต่เห็นใครบางคนกำลังยืนอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้าของเธอคุณแต่มั่นใจมากร่างกันเป็นร่างของผู้หญิงใส่ชุดสไบและกำลังยืนร่ายรำอยู่เมื่อเห็นแบบนั้นเองที่จะบอกให้ฉันลืมตามองอีกครั้งปรากฏว่ามันไม่มีอะไรอยู่ตรงหน้าตู้เสื้อผ้าแล้วคุณจะพยายามจะไม่คิดอะไรแล้วไม่อยากจะคิดว่าเป็นผีก็รีบไปเปิดไฟหัวเตียงระบบไฟสว่างขึ้นก็เห็นว่ามีใบหน้าของหญิงสาวที่ซีดเซียวแอบจ้องมองเธออยู่ที่หลังโคมไฟคุยกับสะดุ้งตัวโยนตกลงมาจากเตียงพยายามมองซ้ายมองขวางวดที่เธอเห็นเมื่อกี้มันยังมีอยู่หรือเปล่าก่อนจะรีบลุกขึ้นไปเปิดไฟในห้องให้สว่างทั่วทั้งห้องทั้งห้องสว่างแล้วคุณแต๋นก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้นและคิดว่าสิ่งที่เห็นเมื่อกี้อาจจะเป็นเพราะเธอคิดไปเองหรือจินตนาการขึ้นมาเองจากความง่วงแต่เพื่อความสบายใจของตัวเองคืนนั้นเธอก็เลยเลือกที่จะเปิดไฟนอนไปตลอดทั้งคืนวันต่อมาช่วงสายๆเธอก็ตัดสินใจที่จะไลฟ์สดอีกครั้งแต่ในขณะที่ไลฟ์สดไปได้สักพักจู่ๆก็มีคอมเม้นท์แปลกๆส่งเข้ามาถามเธอว่าถ้าจะไลฟ์สดขายของทำไมต้องเปิดเพลงไทยเดิมให้น่ากลัวด้วยคุยกันที่ได้อ่านข้อความนั้นก็รีบขอตัวปิดร้านขายของทันทีเริ่มรู้สึกไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆแหละเพราะเป็นคนที่มีความเชื่ออยู่แล้วก็เลยเริ่มแน่ใจว่าที่เธอเจอเมื่อคืนนั้นมันอาจจะเป็นอย่างที่เธอคิดก็ได้คุณเเป๋มตัดสินใจโทรหาร้านที่เปิดให้บูชานางเรียกทรัพย์เรื่องที่เธอเจอตั้งแต่คืนแรกที่นั่งเรียกทรัพย์มาอยู่ที่นี่ให้กับทางร้านฟังงร้านฟังแล้วก็ยืนยันว่านางเรียกทรัพย์ไม่ใช่ของดำที่จะมีผีสางอะไรแบบนั้นก็จะรีบวางสายของเธอไปแล้วก็โทรกลับไปแล้วทางร้านก็ไม่ยอมรับสายเธออีกเลยคุณเเป๋มคิดอยู่นานว่าเธอจะตัดสินใจทำยังไงกับเธอดีมาและมาหลอกหลอนเธอเมื่อคืนนี้จริงๆก็ขอให้มาหาแต่ตอนนี้ไม่ต้องการอะไรหากจะทำให้ได้เธอก็จะทำให้
เเต่อย่ามาหลอกหลอนให้กลัวการให้มาบอกกันดีๆ สื่อสารในใจจบลงจุดธูปที่คุณแป๋มถืออยู่ในมือกำลังจะเอื้อมมือลงไปปักที่กระถางธูปเล็กๆก็เหมือนมีมือของใครบางคนมาปัดให้ธูปจากมือที่ยิ่งทำให้คุณเเป๋มรู้สึกไม่ดีมากขึ้นกว่าเดิมคืนนั้นเคยโทรหาคุณส้มให้มานอนเป็นเพื่อนคุณส้มก็รับปากว่าจะมาถึงที่ห้องพักของคุณแป๋มในช่วงดึกๆพระขุนแผนนั้นเป็นคนที่นอนเร็วจึงทำให้เธอเผลอหลับไปก่อนที่คุณส้มจะมาถึงไม่แน่ใจนะว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหนแล้วสะดุ้งตัวขึ้นมาอีกครั้งในห้องก็มืดไปทั่วบริเวณจะมีก็แต่แสงไฟโคมไฟหัวเตียงเท่านั้นที่เปิดอยู่คุณแป๋มก็หยิบมือถือขึ้นมาดูนาฬิกาก็เห็นว่าเป็นเวลาเกือบจะตีหนึ่งแล้วไม่ตัดสินใจโทรบอกกับคุณส้มว่าหากยังไม่ออกเดินทางมาก็ไม่ต้องมาแล้วก็ได้เพราะมันดึกมากแล้วแต่ยังไม่ทันที่จะได้โทรเธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นคุณเเป๋มมองไปที่ประตูห้องผ่านความมืดในห้องเห็นเงาสะท้อนจากใต้ประตูใครบางคนเดินวนไปวนมาอยู่ที่หน้าห้องคือกำลังคิดว่าจะเป็นคุณส้มหรือเปล่าหรือเป็นคนอื่นเขาห้องพักที่อยู่นั้นหากจะเข้ามาได้ต้องมีคีย์การ์ด
~ก็อกๆๆ~คราวนี้คุณแป๋มเริ่มลังเลมากกว่าเดิมว่าจะลุกไปเปิดประตูห้องดีไหม ก็อก ก็อก ก็อก แต่สุดท้ายก็เสียประตูดังขึ้นอีกครั้งเธอจึงตัดสินใจที่จะลุกขึ้นไปเปิดประตูคูณเเป๋มเดินไปที่ประตูห้องแล้วค่อยๆเปิดประตูออกอย่างช้าๆเขากลัวว่าหากเป็นโจรหรือใครคนอื่นเธอจะยังปิดประตูได้ทันแต่เมื่อประตูค่อยๆเปิดออกเธอก็ไม่พบว่ามีใครยืนอยู่ที่หน้าห้องเลย คุณแป๋มรีบปิดประตูห้องแล้วล็อคลูกบิดกลับเป็นเหมือนเดิมก่อนที่จะหันมาในห้องที่มืดสนิทแล้วมีแสงไฟจากหัวเตียงคุณแป๋มเดินกลับไปที่เตียงเพราะเห็นว่ามีแสงไฟและก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาให้ได้ยินเเว่วๆๆก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นคุณส้มโทรกลับมาคุณแต๋มกดรับสายส้มออกมาหรือยังไม่ต้องมาแล้วก็ได้นะกำลังฮัลโหลฮัลโหลปลายสายของคุณส้มสัญญาณไม่ค่อยดีนักคุณเเป๋มก็วางสายแล้วกำลังจะโทรกลับคุณแป๋มก็ได้ยินเสียงของใครบางคนพูดกับเธอ มาแล้วอยู่นี่แล้วไงไม่อยากให้อยู่หรอ คุณแป๋มหันซ้ายหันขวาเพื่อหาที่มาของเสียงจากนั้นได้ยินเสียงหัวเราะเล็กแหลมดังขึ้นเบาๆแล้วคุณแป๋มก็รู้ที่มาของมันแล้วค่อยๆก้มลงมองปลายเท้าของตัวเองที่อยู่ข้างเตียงก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงตัวโยนเพราะเห็นใบหน้าของใครบางคนรางๆโผล่ออกมาจากใต้เตียงเสียงก่อนจะเห็นว่าร่างนั้นคือแบบเดียวกับที่เธอเจอเมื่อคืนแต่คราวนี้มันคลานออกมาจากใต้เตียงและปีนป่ายไปมาตั้งแต่ที่เจอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เจอไหนบอกจะพูดกูมึงช่วยกูสิพากูไปพากูออกไปด้วยความตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้าภาพของนางเรียกทรัพย์ที่เธอนำมาบูชายิ้มให้กับเธออย่างน่าสยดสยองพยายามตั้งสติรีบเดินออกมาข้างนอกห้องแล้วลงมาที่ชั้นล่างซึ่งห้องอื่นๆก็เปิดประตูออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วไม่ลงมาถึงข้างล่างก็เจอกับคุณส้มที่กำลังพยายามโทรหาคุณแป๋มอยู่คุณแป๋มจึงเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้คุณส้มฟังก่อนที่คืนนั้นคุณแป๋มจะไปนอนที่ห้องของคุณส้มวันต่อมาคุณแป๋มและคุณส้มก็พากันไปที่วัดพร้อมกับตำนานให้ทรัพย์ไปด้วยก็รีบร้องห้ามให้เอาของนั้นไปไกลๆทันทีโดยที่ยังไม่ได้บอกหรือเล่าอะไรอาฆาตแรงขนาดนี้ยุ่งไปเอามาจากไหน
ชิดเอ้ยชิดมานี่หน่อยหลวงพ่อเรียกสัปเหร่อที่ชื่อชิดให้เข้ามาหาที่ศาลาสัปเหร่อเห็นก็เอ่ยปากร้องอ๋อขึ้นมาทันทีก่อนจะบอกให้ทั้งสองคนตามไปที่ใกล้ๆกับเมนคนที่ 3 แล้วนะที่มาในเดือนนี้ไม่หาบูชากันมาจากไหนแล้วที่อื่นเขามีกันบ้างหรือเปล่าทันทีที่คุณปรับและคุณส้มได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกตกใจขึ้นมาทันทีเลยคิดทุกอย่างเพ้ง~~แตกออกในนั้นมีทั้งเศษผมและข้าวอะไรบางอย่างอยู่ข้างในพี่ยังจะเถียงว่าไม่ใช่ของเราอีกไปทั้งเศษผมทั้งเถ้ากระดูกแบบนี้โดนหลอกแล้วแหละหนูเอ๊ยคุณเเป๋มรู้สึกขนลุกขึ้นมาทั้งตัวเมื่อรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นคือสิ่งที่คอยตามมาหลอกหลอนเธอสัปเหร่อชิดบอกว่าเขาจะจัดการทำพิธีทุกอย่างให้เองหลังจากนี้ก็ให้คุณแป๋มไปทำบุญให้ครบร้อยวันหรือบวชชีเพื่อเป็นกุศลซึ่งคุณเป็นคนเลือกที่จะบวชชีครับเธอก็ส่งเข้ามาเล่าให้กับทางทีมงานได้ฟังก่อนที่เธอจะได้ฤกษ์บวชขอขอบคุณเรื่องราวประสบการณ์หลอนจากคุณเเป๋มด้วยนะครับ
เป็นเรื่องราวที่เตือนใจคนที่อยากจะได้เครื่องรางของขลังเอาไว้บูชาเพราะคิดว่าจะให้โชคให้ลาภโดยที่ไม่รู้แหล่งที่มาเพราะเป็นการซื้อมาจากโลกออนไลน์ยังไงเสียก็ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณพิจารณากันดีๆนะครับก่อนจะเลือกบูชาอะไรขอบคุณครับ
...สวยได้ไปพบเจอมาเมื่อสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นด้วยคุณนัทได้เขียนมาเล่าว่าสวัสดีครับพี่น้องชาวเรื่องเล่าผีหลอนทุกคันสำหรับเหตุการณ์แปลกๆเหมือนธรรมชาติที่ผมเคยได้ไปพบเจอมานั้นมันเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วครับตอนนั้นผมอายุ 18 ปีพอดีคือหมู่บ้านที่ผมได้อาศัยอยู่นั้นเป็นหมู่บ้านเดียวที่ตั้งห่างไกลออกมาจากหมู่บ้านหมู่บ้านที่อยู่ใกล้สุดน่าจะอยู่ห่างออกไปซะไกลๆ 5 กิโลเมตรคือหมู่บ้านของผมนี้จะมีทำเลติดกับป่าไม้แทบจะทุกทิศทางใดก็มีถนนทางหลวงตัดผ่านหมู่บ้านทุกคนก็ปลูกบ้านอยู่ 2 ฝั่งถนนคือตอนนั้นฝนค่อนข้างจะแล้งน้ำตามร่องเมืองหรือทุ่งนามันจะมีน้อยแล้วอยู่มาคืนหนึ่งพ่อก็ชวนผมไปเป็นเพื่อนที่ทุ่งนาด้วยซึ่งผมกับพ่อก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์กันไปพอไปถึงที่หมายพ่อก็บอกให้ผมรออยู่ตรงเถียงนาแล้วพ่อก็แพงจนเกินไปที่ฝายกั้นน้ำเพื่อจะระบายเอาน้ำมาเข้านาตัวเองแล้วคืนนั้นมันเป็นคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งคงได้ออกมายืนแหงนหน้าดูดาวที่ข้างเถียงนาและผมก็ได้เห็นแสงที่มีสีส้มสีชมพูและขนาดเท่าลูกบอลประมาณ 4-5 ลูกกำลังลอยไปลอยมาอยู่ห่างจากตัวผมไปซักราวๆ 50 เมตรและสูงจากพื้นประมาณ 30 เมตรผมเห็นอย่างนั้นก็เลยวิ่งกลับไปที่เถียงนานั่งรอจนพ่อเดินกลับมาซึ่งลูกไฟปริศนาดังกล่าวมันก็ได้หายไปแล้วผมก็เลยถามพ่อไปว่าพ่อเคยเห็นวัตถุบางอย่างที่มันเป็นลูกกลมๆขนาดประมาณลูกบาสเกตบอลลอยอยู่บนท้องฟ้าบ้างไหมพ่อก็บอกผมว่าเคยเห็นและเห็นบ่อยด้วยมันคือแก้วลอดฟ้าพ่อพูดทิ้งไว้เพียงแค่นั้นและผมก็ไม่ได้ถามอะไรต่อไม่รู้จักความรู้สึกขาดจ่ายวันต่อมาผมเลยชวนเพื่อนไปที่ทุ่งนาแห่งนั้นเองซึ่งผมได้ทำดีที่สุดเพื่อนว่าจะไปดักยิงหนูพุกการเพราะถ้าบอกไปตรงๆแล้วล่ะเพื่อนผมมันคงไม่กล้าไปแน่ๆคือเมื่อก่อนนอนกฎระเบียบในเรื่องของการพกปืนแก๊ปนั้นยังไม่เข้มงวดมากนะคนในหมู่บ้านก็สะพายปืนกันไปมาเพื่อเข้าป่าไปล่าสัตว์แล้วเพื่อนผมก็ตกลงว่าจะไปด้วยตอนเย็นวันนั้นพวกผมก็เลยเอาข้าวเปลือกไปโรยไว้เป็นจุดจุดเพื่อใช้ล่อหนูพุกให้มากินนั่นเองเสร็จแล้วพวกเราก็กลับมาบ้านเพื่อนเราเวลาคำนั้นเราก็ออกจากบ้านตอนประมาณ 20:00 น โดยขี่รถมอเตอร์ไซค์ซ้อนกันไปถึงที่หมายเราก็แยกกันเดินส่องไฟตามจุดที่ได้เอาข้าวเปลือกมาโรยไว้เมื่อตอนเย็นผมกับเพื่อนก็เดินตามแนวตลิ่งข้างล่างก็จะเป็นน้ำห้วยส้านพอดีผมเดินส่องไฟไปเจอหนูพุกตัวใหญ่ก็เลยใช้ปืนแก๊ปยิงเข้าป่าระยะที่ห่างประมาณ 6 เมตรนั้นผมไม่น่าพาให้พ่อยิงเสร็จแล้วรีบเดินเข้าไปดูมันกลับมีแต่รอยเลือดไม่เจอตัวหนูพุกตัวอย่างย้ายเสาไฟหาอยู่ตั้งนานก็ไม่เจอผมเลยเดินผละออกมาจากตรงนั้นแล้วมายืนยัดปืนแก๊ปเพื่อเตรียมพร้อมที่จะยิงต่อไปเอาผมเดินส่องไฟไปอีกเพียงแค่ไม่กี่เก้าก็ไปเจอเข้ากับเกาะที่ตัวใหญ่มากตัวมันทั้งใหญ่ทั้งยาวยังผิดธรรมชาติผมเองก็ไม่เคยเห็นกดที่ตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อนก็นึกในใจว่าถ้ายิงได้ก็คงจะดีไม่น้อยหนูทุบไม่ได้ก็ยิ่งเอาตัวใหญ่นี่แหละพอผมยกปืนขึ้นประทับบ่าแล้วมีโอกาสแต่ปืนยิงไม่ออกผมเลยเปลี่ยนแก๊สใส่เข้าไปใหม่มันก็ยังยิงไม่ออกอีกเหมือนเดิมยักษ์ตัวนั้นตกใจก็เลยกระโดดลงน้ำไปด้วยความเสียดายผมเลยส่องไฟฉายไปทั่วคุ้งน้ำก็ไม่มีวี่แววของกบตัวนั้นแล้วผมเลยหันหลังจะเดินกลับทันใดนั้นมันก็มีแสงสว่างเจิดจ้าขึ้นมาจากผิวน้ำผมเลยหันกลับไปมองดูดีๆอีกรอบคราวนี้แม่น้ำบริเวณนั้นรับสว่างไสวไปทั่วตัวผมเลยยืนนิ่งๆกับไฟฉายทันทีแล้วมันก็มีวัตถุสีส้มที่สว่างจ้าขนาดกว้างประมาณ 1 วามันไม่ลอยขึ้นมาจากน้ำห่างจากจุดที่ผมยืนไปแค่ประมาณ 5 เมตรเท่านั้นซึ่งนับว่าใกล้มากๆเลยละมันค่อยๆลอยขึ้นช้าๆผมเองก็มองตามจนตาแทบไม่กระพริบลูกมันลอยสูงขึ้นสูงคืนแล้วพรุ่งไปที่ต้นไม้ขนาดใหญ่บนภูเขาผมก็เลยรีบเดินจ้ำอ้าวไปหาเพื่อนแล้วถามว่าเมื่อกี้เอ็งเห็นอะไรแปลกๆบนท้องฟ้าไหมแต่เพื่อนกลับบอกว่าไม่เห็นผมก็เลยไม่ได้ถามอะไรมันต่อจากนั้นพวกเราก็เลยเดินไปด้วยการส่องไฟเดินตามทุ่งนาไปเรื่อยๆจนกระทั่งเดินไปถึงจุดที่เพื่อนให้เอาข้าวเปลือกวางกองไว้ให้หนูเข้ามาเมื่อกี้ก็เห็นว่ามันมีหนูทุกตัวคือกำลังเอร็ดอร่อยอยู่กับข้าวเปลือกกล่องนั้นทีแรกเพื่อนผมจะยิงแต่ผมก็ตบไหล่เพื่อนเบาๆแล้วกระซิบบอกว่าปืนผมเป็นอะไรไม่รู้มันยิงไม่ออกผมก็เลยขอเพื่อนอีกคนพอผมเอาปืนของเพื่อนมันเหนียวกายปรากฏว่ามันยิงออกครับแล้วผมก็ยิงโดนหนูพุกเข้าที่หัวเลยจากนั้นผมก็เดินไปเอาหนูตัวนั้นน่ะไอ้เพื่อนแต่เพื่อนกลับยืนนิ่งนิ่งๆขอผมเรียกชื่อมามันก็บอกว่าลองมองอะไรตรงนั้นสิผมเลยกวาดไฟฉายส่องไปข้างหน้าก็พบว่ามันมีใครคนหนึ่งอยู่ตรงนั้นผมเลยบอกเพื่อนว่าคงเป็นชาวบ้านที่เขามาเอาน้ำเข้านานมั้งแต่เพื่อนกลับบอกว่าไม่น่าจะชัยด้วยความห้องจ่ายพวกผมเลยส่องไฟฉาย 2 ดวงไปยังจุดเดียวกาดก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งก็ง่ายๆอยู่ตรงนั้นตอนนั้นพวกผมก็นึกสงสัยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่นะก็เลยส่องไฟดูบริเวณรอบๆตัวของผู้ชายคนดังกล่าวซึ่งพวกผมก็พบว่ามันมีวัตถุประสงค์อย่างที่สะท้อนเข้ากับแสงของไฟฉายเมื่อมองดูดีๆแล้วก็เลยรู้ว่ามันเป็นมีดดาบโบราณที่ยาวมากคมมีดนั้นเมื่อกลับมาส่องไฟดูตรงผู้ชายคนนั้นอีกรอบจู่ๆเขาก็เงยหน้าขึ้นมาบริเวณดวงตาและใบหน้าของเขานั้นออกเป็นสีแดงเรือที่ปากของเขาก็กำลังฆ่าปลาตัวเครื่องเอาไว้อยู่จนมีเลือดไหลเป็นทางออกมาจากปากผมกับเพื่อนเลยหันมองหน้ากากจากนั้นก็วิ่งเตลิดหนีไปคนละทิศคนละทางทิ้งมอเตอร์ไซค์ไว้เลยครับคืนนั้นส่วนปืนแก๊ปนั้นก็ไม่รู้ว่าเอาเป็นหลุดมือตกไว้ตรงไหนพอผมวิ่งมาถึงบ้านก็เลยเล่าให้คนที่บ้านฟังแล้วตอนเช้าผมก็วิ่งมาเอามอเตอร์ไซค์และหลังจากนั้นผมก็เลยจะไม่มายิงหนูอีกเลยได้พบเมื่อครั้งเยาว์วัยผมก็เลยรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันอยากรู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!