NovelToon NovelToon

เหนือเมฆา

เหนือเมฆาep.1

สายลมหนาวพัดผ่านยอดเขาสูง เสียงใบไม้พลิ้วไหวตามแรงลม เสียงนกร้องก้องในหุบเขา และเสียงน้ำตกไหลกรอดเป็นจังหวะราวกับบรรเลงบทเพลงธรรมชาติไม่หยุดนิ่ง

กลางยอดเขา มีค่ายไม้ตั้งเรียงรายท่ามกลางเมฆสีเงิน—นี่คือ ค่ายเหนือเมฆา ค่ายลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่บนภูเขาอันสูงชัน ไม่ใช่เพียงที่พักพิงสำหรับนักรบ แต่ยังเป็นป้อมปราการที่ปกป้องผู้ตกทุกข์ได้ยากจากผู้ที่ใช้กำลังบังคับและอำนาจไม่ยุติธรรม

โจวเฝ่ยย่างเท้าลงบนลานฝึกซ้อม มือเรียวยาวจับ ดาบเหล็กขาว ที่เธอฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก ข้อศอกและหัวไหล่ขยับประสานกันเป็นจังหวะ ลมหายใจของเธอสม่ำเสมอ แต่ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยพลังและความมั่นใจ

ฝนเม็ดบาง ๆ เริ่มโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าสีหม่น เสียงน้ำหยดกระทบร่างไม้และหลังคาเรียงรายทำให้บรรยากาศในค่ายยิ่งชวนตื่นตัวขึ้น โจวเฝ่ยขมวดคิ้ว แต่สายตายังคงจดจ้องไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากสะพานไม้เหนือธารน้ำ เธอหันไปและเห็นชายหนุ่มสวมเสื้อคลุมฟ้าหม่น ก้าวลงมาช้า ๆ ดวงตาคมราวกับซ่อนความลับในความมืด ชายหนุ่มคนนั้นคือ เซี่ยอวิ่น

เขายิ้มบาง ๆ แต่สายตาลึกเหมือนทะเลมืดกลางคืน “ฝีมือเจ้าเก่งขึ้นมาก… แต่การเดินทางที่แท้จริงเพิ่งเริ่ม”

โจวเฝ่ยรู้สึกหัวใจเต้นแรง ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อนผุดขึ้นภายในอก เธอไม่รู้ว่าเขาคือใคร แต่บางสิ่งในดวงตาของชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึก…ว่าโลกของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

 

รุ่งเช้า แสงสีทองสาดผ่านยอดไม้ น้ำสะท้อนเหมือนกระจกเย็นกรอบ ฟังดูราวกับเรียกให้ทุกชีวิตในป่าไผ่ตื่นขึ้น

โจวเฝ่ยเก็บดาบเข้าฝัก ผมดำยาวปลิวไหวตามแรงลม เธอรู้สึกถึงความตื่นเต้นและหวาดระแวงผสมกัน การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการสำรวจเส้นทาง แต่ยังเต็มไปด้วยอันตรายที่เธอไม่เคยพบ

“วันนี้เราจะไปยังหมู่บ้านซงหลาง” เซี่ยอวิ่นพูดเสียงเรียบ เขาไม่รีรอในการก้าวเท้า ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวราวกับเป็นส่วนหนึ่งของลมและเงา

โจวเฝ่ยเดินตามเขาไปอย่างเงียบ ๆ ฝีเท้าเรียบง่ายแต่มั่นคง เส้นทางข้างหน้ามีป่าไผ่สูงและหมู่บ้านเล็ก ๆ กระจายอยู่ระหว่างยอดเขา ลำธารน้ำใสไหลผ่านเป็นเส้นทางธรรมชาติที่ท้าทายทั้งฝีมือและสายตา

“เจ้ามาจากค่ายเหนือเมฆา?” เซี่ยอวิ่นถาม

“ใช่ และฉันจะปกป้องทุกคนที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้” โจวเฝ่ยตอบ น้ำเสียงมั่นคง แต่ภายในใจเธอก็เต้นแรงไม่ต่างจากผู้หญิงอ่อนแอ

เซี่ยอวิ่นพยักหน้าเบา ๆ ราวกับอนุมัติคำพูดนั้น เขาไม่พูดอะไรเพิ่มเติม แต่บางอย่างในรอยยิ้มทำให้โจวเฝ่ยรู้สึก…ว่าเขาอาจจะเป็นพันธมิตรที่เธอต้องการ

 

ระหว่างทาง พวกเขาต้องฝ่าป่าไผ่หนาทึบ แสงแดดส่องลอดผ่านยอดไม้ลงมาเป็นลำสว่างบาง ๆ ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง

โจวเฝ่ยสังเกตเห็นรอยเท้าแปลก ๆ ตามดิน นั่นคือสัญญาณว่ามีใครบางคนเคยผ่านมาล่วงหน้า เธอหยุดชั่วครู่ ใช้สัญชาตญาณของนักรบตรวจสอบความผิดปกติ

“โจวเฝ่ย ระวังด้านหน้า” เซี่ยอวิ่นกระซิบ

ทันใดนั้น เสียงห้าวก้องดังขึ้นจากพุ่มไม้ ก่อนที่ชายสวมผ้าคลุมมืดจะพุ่งออกมาพร้อมดาบเล่มยาว

โจวเฝ่ยขยับตัวทันที ดาบเหล็กขาวฟาดลงราวกับสายฟ้า พลังของเธอผสานกับลมหนาว เสียงโลหะกระทบกันดังสนั่น เส้นผมดำของเธอปลิวไหวตามแรงการเคลื่อนไหว

เซี่ยอวิ่นปรากฏตัวข้าง ๆ เขาเคลื่อนไหวราวกับเงา ความเร็วและความแม่นยำของเขาทำให้โจวเฝ่ยรู้สึกว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่เพียงทดสอบฝีมือ แต่ยังทดสอบ ใจ ของเธอด้วย

ศัตรูตวัดดาบสลับฟันโจวเฝ่ย เธอก้าวถอยหนีเล็กน้อย แล้วฟันกลับด้วยแรงดันเต็มกำลัง ระยะห่างเพียงไม่กี่ฝีก้าว เสียงโลหะกระทบโลหะดังสนั่นกลางป่า

เซี่ยอวิ่นฟันดาบตัดทางด้านข้าง ศัตรูหยุดชะงักชั่วครู่ โจวเฝ่ยฉวยโอกาสฟันดาบอีกครั้ง ศัตรูล้มลงไปกับพื้น สติและท่วงท่าของเธอทำให้เธอมั่นใจยิ่งขึ้นในตัวเอง

หลังจากศัตรูล้มลง เสียงลมหายใจของโจวเฝ่ยยังคงหนักอยู่ แต่ดวงตาเต็มไปด้วยประกายความมั่นใจ

“นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น” เซี่ยอวิ่นพูดเบา ๆ ดวงตาของเขายังคงลึกล้ำ

โจวเฝ่ยพยักหน้า เธอรู้แล้วว่าการเดินทางครั้งนี้จะเปลี่ยนชีวิตเธออย่างไม่อาจหวนกลับ

 

พวกเขาเดินต่อไปตามเส้นทางป่าไผ่ที่แคบลง เสียงลมพัดแรงขึ้นเป็นครั้งคราว จนถึงเชิงเขาแม่น้ำใสที่ไหลเชี่ยว เสียงน้ำปะทะก้อนหินดังสนั่นเป็นระยะ

“เราต้องข้ามแม่น้ำนี้ ถ้าไม่ใช้ความระมัดระวัง อาจถูกน้ำพัดลงไป” เซี่ยอวิ่นกล่าว ขณะที่เขาลงมือมองหาทางข้าม

โจวเฝ่ยมองน้ำไหลเชี่ยว ก่อนประเมินความเสี่ยงด้วยสายตา การฝึกฝนทั้งหมดของเธอทำให้เธอมั่นใจ แม้ว่าน้ำจะไหลแรง แต่ถ้าเธอใช้เทคนิคและดวงตาให้ดี เธอสามารถก้าวข้ามได้

เซี่ยอวิ่นวางมือบนก้อนหินใหญ่ แล้วโบกมือให้โจวเฝ่ยก้าวตาม เขาเคลื่อนไหวราวกับเป็นเงา เสียงน้ำปะทะเท้าและก้อนหินดังสลับกันราวกับบรรเลงดนตรีแห่งป่าเขา

โจวเฝ่ยก้าวตามช้า ๆ แต่มั่นคง ดวงตาจับจ้องไปยังจุดที่เซี่ยอวิ่นก้าวไป ความกล้าและความมั่นใจเริ่มซึมลึกเข้าไปในใจ

หลังจากผ่านแม่น้ำ พวกเขาเข้าสู่ป่าลึกยิ่งขึ้น ต้นไม้สูงเรียงรายจนแทบบังแสงแดด ทุกก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง แต่ก็เต็มไปด้วยความท้าทายที่ทำให้หัวใจโจวเฝ่ยพองโต

“เรายังต้องเผชิญกับอันตรายอีกมาก” เซี่ยอวิ่นพูดเสียงเบา แต่เต็มไปด้วยความมั่นคง

โจวเฝ่ยพยักหน้า เธอรู้แล้วว่าทุกก้าว ทุกการต่อสู้ ทุกบททดสอบ จะทำให้เธอเติบโต และจะทำให้เธอแข็งแกร่งพอที่จะเผชิญหน้ากับโลกเหนือเมฆา

 

เหนือเมฆาep.2

หลังจากผ่านแม่น้ำเชี่ยว พวกเขาเข้าสู่ป่าลึกยิ่งขึ้น ต้นไม้สูงเรียงรายจนแทบบังแสงแดด เสียงนกร้องถูกบดบังด้วยเสียงลมพัดผ่านยอดไม้ เสียงใบไม้กระทบกันเป็นจังหวะเหมือนเรียกเตือนทุกชีวิตให้ระวัง

โจวเฝ่ยยกดาบขึ้นแน่น ฝีเท้าของเธอสงบนิ่งแต่เต็มไปด้วยพลัง ทุกการเคลื่อนไหวของเธอเหมือนฝังตัวกับธรรมชาติรอบตัว

“ป่าแห่งนี้…มีผู้ที่ไม่ปรารถนาดีมาก่อนหน้าเรา” เซี่ยอวิ่นกระซิบ พลางกวาดสายตาครอบคลุมรอบทิศทาง

โจวเฝ่ยก้าวเข้าหากลุ่มพุ่มไม้บาง ๆ ด้วยความระมัดระวัง เธอรู้สึกถึง เงาผู้ลึกลับ ที่แอบซ่อนตัวอยู่ ไม่ไกลจากพวกเขา เสียงฝีเท้าเบา ๆ ทำให้หัวใจเต้นแรง

ทันใดนั้น เสียงห้าวก้องดังขึ้นจากหลังต้นไม้ใหญ่ สามชายร่างสูงสวมผ้าคลุมดำพุ่งเข้าหาโจวเฝ่ยและเซี่ยอวิ่น ดาบยาวฟาดฟันอย่างรวดเร็ว

โจวเฝ่ยก้าวถอยเล็กน้อย พลางฟาดดาบป้องกันศัตรูคนแรก อีกสองคนเข้ามาโจมตีทันที เธอกลิ้งหลบข้าง ๆ เสียงใบไม้กรอบราวกับฝนตก พลังลมหนาวจากยอดเขาทำให้ท่วงท่าของเธอคมชัดยิ่งขึ้น

เซี่ยอวิ่นปรากฏตัวด้านหลังเธอ ดวงตาคมจับจ้องศัตรูทุกคน มือขวาสะบัดดาบเหล็กฟาดใส่หนึ่งในผู้โจมตี ความเร็วและความแม่นยำทำให้ศัตรูล้มลงทันที

โจวเฝ่ยไม่รีรอ เธอกระโดดขึ้นบนก้อนหินฟาดดาบใส่อีกสองคน เสียงโลหะกระทบโลหะดังสนั่น ผมดำของเธอปลิวตามแรงการเคลื่อนไหว ลมหายใจของเธอยังคงมั่นคง แม้หัวใจเต้นแรง

ศัตรูยังไม่ยอมแพ้ พวกเขาโจมตีพร้อมกันราวกับฝูงหมาป่าโจมตีเหยื่อ การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด แต่โจวเฝ่ยและเซี่ยอวิ่นเคลื่อนไหวราวกับเป็น คู่หูฝึกฝนมานาน ทั้งสองผสานการโจมตีและป้องกันอย่างไร้ที่ติ

หลังจากศัตรูล้มลงหมด เสียงลมหายใจของโจวเฝ่ยยังหนักอยู่ แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“พวกเขา…เป็นใครกัน” โจวเฝ่ยถาม

“ไม่ทราบ แต่เราต้องระวังต่อไป” เซี่ยอวิ่นตอบพลางสังเกตรอบตัว

พวกเขาเดินต่อไปจนถึงลานกว้างกลางป่ามืด แสงแดดส่องลอดเป็นเส้นบาง ๆ ระหว่างต้นไม้ใหญ่ เสียงนกร้องหายไป เหลือเพียงเสียงลมและน้ำไหล

“โจวเฝ่ย เจ้าเก่งมากในการต่อสู้” เซี่ยอวิ่นพูดเบา ๆ ดวงตาลึกเหมือนทะเล เขาไม่พูดคำชมเยอะ แต่เพียงแค่สายตาก็ทำให้เธอรู้สึก…ว่าเขาสังเกตทุกฝีก้าวของเธอ

โจวเฝ่ยพยักหน้าเล็กน้อย เธอไม่ได้ตอบคำพูดด้วยเสียง แต่หัวใจกลับเต้นแรงเหมือนถูกใครบางคนอ่านใจ

ทันใดนั้น เสียงห้าวก้องอีกครั้งดังขึ้น คราวนี้มาจากด้านหลัง ลมพัดแรงจนใบไม้ไหวปะทะกันเป็นเสียงดัง

“เราไม่อาจอยู่ตรงนี้นาน ต้องหาที่ซ่อน” เซี่ยอวิ่นพูดพลางดึงมือโจวเฝ่ยไปทางพุ่มไม้หนา

พวกเขาเข้าพุ่มไม้ใหญ่ เงียบสนิท เสียงหัวใจเต้นและเสียงลมหายใจเป็นเพียงสิ่งที่ได้ยิน

“เจ้ารู้สึกไหม?” เซี่ยอวิ่นกระซิบ “มีสายตาจ้องเราอยู่”

โจวเฝ่ยพยักหน้า พลางยกดาบขึ้นแน่น เธอรู้สึกถึง พลังลึกลับบางอย่าง ที่อยู่รอบตัว ป่าแห่งนี้ไม่ใช่ธรรมชาติธรรมดา มีกลิ่นอายของยุทธภพที่เข้มข้น

“เราต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่เช่นนั้นอันตรายจะตามเรา” เซี่ยอวิ่นพูดพลางก้าวออกจากพุ่มไม้ ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวอย่างเงียบงัน

โจวเฝ่ยก้าวตาม เสียงฝีเท้าเบา ๆ แต่มั่นคง เส้นทางข้างหน้าเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งศัตรูลึกลับและภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลง

หลังจากเดินหลายชั่วโมง พวกเขาเจอ หมู่บ้านซงหลาง หมู่บ้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ระหว่างยอดเขา บ้านไม้เรียงราย เสียงผู้คนในหมู่บ้านค่อย ๆ ดังขึ้น

“นี่คือจุดหมายของเรา แต่เราไม่ควรไว้ใจใครง่าย ๆ” เซี่ยอวิ่นพูด

โจวเฝ่ยพยักหน้า ดวงตาของเธอส่องประกายมั่นคง การเดินทางครั้งนี้เพิ่งเริ่ม แต่เธอรู้สึก…ว่าเธอพร้อมจะเผชิญทุกอันตราย

เหนือเมฆาep.3

หมู่บ้านซงหลางตั้งอยู่ระหว่างยอดเขาและหุบเขาลึก เสียงน้ำไหลจากลำธารข้างหมู่บ้านปะทะกับพื้นหินอย่างเป็นจังหวะ บ้านไม้เรียงราย แต่ละหลังมุงด้วยฟางเก่า มีควันไฟลอยขึ้นจากปล่องหลังคา มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของอาหารเช้าที่คนในหมู่บ้านกำลังเตรียม

โจวเฝ่ยก้าวเท้าเข้าไปอย่างระมัดระวัง ดวงตาสังเกตรอบตัวทุกฝีก้าว เธอสัมผัสได้ถึง ความตึงเครียดบางอย่าง ในอากาศ เหมือนกับว่าใครบางคนกำลังจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของเธอ

“เซี่ยอวิ่น… เราควรเริ่มจากตรงไหน?” โจวเฝ่ยถาม เสียงเธอนุ่มแต่มั่นคง

“เราต้องสังเกตคนในหมู่บ้านก่อน ห้ามประมาท” เซี่ยอวิ่นตอบ พลางสังเกตรอบ ๆ ดวงตาคมเหมือนมองทะลุทุกเงา

พวกเขาเดินผ่านตลาดเล็ก ๆ มีพ่อค้าแม่ขายบางตา เด็ก ๆ เล่นกันอยู่ใกล้ลำธาร แต่สายตาของผู้คนบางคนจับจ้องพวกเขาอย่างผิดปกติ

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะแหบแห้งดังขึ้นจากเงามืดด้านหลัง เสียงนั้นทำให้โจวเฝ่ยชะงัก เธอหมุนตัว พลางยกดาบขึ้น

ชายร่างสูงในชุดดำปรากฏตัว เงาของเขากลืนไปกับเงาต้นไม้ เขาไม่ได้โจมตีทันที แต่สายตาคมจับจ้องโจวเฝ่ยราวกับประเมินพลังของเธอ

“มีคนลึกลับที่นี่ด้วย…” โจวเฝ่ยกระซิบ

เซี่ยอวิ่นพยักหน้า เขาไม่แสดงอาการตกใจ แต่สายตาความสงบลึกซึ้งทำให้โจวเฝ่ยมั่นใจ แม้หัวใจเต้นแรง เธอก็ยังคงตั้งท่าป้องกันตัว

ชายชุดดำค่อย ๆ ก้าวเข้ามา เสียงฝีเท้าเงียบราวกับลมพัดผ่าน ใบหน้าปกปิดด้วยผ้าคลุม เหลือเพียงดวงตาที่แหลมคมและเย็นชา

“เจ้าทั้งสอง…เป็นใคร และทำไมมาปรากฏตัวที่นี่?” เสียงของชายชุดดำเย็นเยียบ

“เรามาจากค่ายเหนือเมฆา เราไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนหมู่บ้าน” เซี่ยอวิ่นตอบอย่างใจเย็น แต่สายตาจับจ้องศัตรูทุกฝีก้าว

โจวเฝ่ยยกดาบขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้โจมตี เธอรู้ว่าในสถานการณ์นี้ ความอดทนและการอ่านคู่ต่อสู้สำคัญยิ่งกว่า

ชายชุดดำหัวเราะเบา ๆ “ข้าสังเกตเจ้ามานานแล้ว ฝีมือเจ้าไม่ธรรมดา… แต่เจ้าคิดว่าพร้อมเผชิญสิ่งที่ซ่อนอยู่ในป่านี้หรือไม่?”

คำพูดนั้นทำให้โจวเฝ่ยรู้สึกถึง พลังลึกลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในป่าและหมู่บ้าน เธอยืนนิ่ง ลมหายใจสม่ำเสมอ พร้อมต่อสู้ทุกเมื่อ

ทันใดนั้น เสียงกริ่งเล็ก ๆ ดังขึ้นจากหลังบ้าน หนึ่งในเด็กวิ่งเข้ามาหาโจวเฝ่ยและเซี่ยอวิ่นด้วยใบหน้าตื่นตระหนก

“ผู้ร้าย… ผู้ร้ายจากภูเขาใกล้ ๆ จะบุกหมู่บ้านแล้ว!” เด็กพูดเสียงสั่น

โจวเฝ่ยและเซี่ยอวิ่นหันไปมองภูเขาเบื้องหน้า เสียงคำรามของคนร้ายและฝีเท้าที่กระทบพื้นหินดังขึ้นเป็นระยะ ลมพัดแรงขึ้นพร้อมกลิ่นฝุ่นและดิน

“โจวเฝ่ย… เราต้องปกป้องหมู่บ้านนี้” เซี่ยอวิ่นพูดพลางดึงมือเธอ

โจวเฝ่ยพยักหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยประกายความมุ่งมั่น เธอก้าวเข้าไปยังจุดสูงสุดของหมู่บ้านเพื่อประเมินพื้นที่

ศัตรูเริ่มปรากฏร่าง สองกลุ่มใหญ่ ขว้างอาวุธและก่อเสียงโห่ร้อง พวกเขาเคลื่อนไหวราวกับฝูงหมาป่าโจมตีเหยื่อ

โจวเฝ่ยกวาดสายตารอบตัว พิจารณาจุดซ่อนตัวและเส้นทางเข้าของศัตรู เธอไม่รีรอ ใช้ ยุทธวิธีและสัญชาตญาณนักรบ ของเธอ

“เซี่ยอวิ่น… ฝ่ายเราแบ่งเป็นสองฝั่งนะ ข้าจะป้องกันด้านซ้าย เจ้าไปด้านขวา” เธอกระซิบ

เซี่ยอวิ่นพยักหน้า การเคลื่อนไหวของเขาเหมือนเงา พุ่งเข้าประชิดศัตรูด้านขวา ปรากฏร่างเคลื่อนไหวรวดเร็วและแม่นยำ

โจวเฝ่ยตวัดดาบฟาดใส่ศัตรูด้านซ้าย ฟันใส่ร่างที่เข้ามาโจมตี พลางกระโดดหลบการโจมตีอีกสองคน เธอและเซี่ยอวิ่นเคลื่อนไหวราวกับ คู่หูฝึกฝนมานาน

เสียงโลหะกระทบกันดังก้องป่า เสียงคำราม ศัตรูล้มลงทีละคน แต่ก็ยังมีอีกหลายคนรออยู่

ระหว่างต่อสู้ โจวเฝ่ยรู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องเธอจากเงามืดอีกครั้ง ชายชุดดำที่เจอก่อนหน้านี้ ไม่เคยเข้าร่วมการต่อสู้ แต่สายตาของเขาทำให้เธอรู้สึก…เหมือนถูกอ่านใจ

“เจ้าต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่ยากกว่านี้” เซี่ยอวิ่นพูดระหว่างต่อสู้ ดวงตาของเขามุ่งมั่นแต่สงบ

โจวเฝ่ยพยักหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ การต่อสู้ครั้งนี้เพียงแค่จุดเริ่มต้น การเดินทางของเธอใน เหนือเมฆา เพิ่งเริ่มต้น แต่หัวใจของเธอเติบโตขึ้นทุกวินาที

---

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!