เสียงกระดิ่งเล็ก ๆ ด้านบนประตูดัง กริ๊ง~ ทันทีที่บานประตูไม้ของคลินิกสัตว์เล็กเปิดออก กลิ่นยาฆ่าเชื้อจาง ๆ ลอยมาแตะปลายจมูกผสมกับกลิ่นสบู่อ่อน ๆ ที่เป็นกลิ่นประจำของที่นี่
“มาอีกแล้วเหรอ”
เสียงทุ้มติดกวนดังขึ้นจากหลังเคาน์เตอร์พร้อมกับเงาร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์สีขาวสะอาด เขาพิงแขนกับเคาน์เตอร์อย่างไม่รีบเร่ง แววตาคมใต้เส้นผมสีเข้มจ้องมายังเจ้าของแมวที่กำลังเดินอุ้มกล่องใส่สัตว์เลี้ยงเข้ามา
“ก็แมวผมยังไม่หายสักทีนี่!” คนตัวเล็กกว่าตอบกลับเสียงแข็งทันควัน คิ้วขมวดแน่น มือประคองกล่องอย่างระมัดระวังเหมือนกล่องนั้นคือสมบัติล้ำค่า
“เฮ้อ… ผมว่าบางทีแมวมันป่วยเพราะเจ้าของเครียดเกินไปก็ได้นะ” เขาว่า ก้าวเข้ามาหยิบกล่องจากมืออีกฝ่ายไปโดยไม่รอฟังคำอนุญาต ดวงตาคมมองเจ้าแมวขนฟูที่หายใจแรงในกล่องอย่างใจเย็น แต่มือกลับเคลื่อนไหวรวดเร็วและนุ่มนวล
“นี่หมอจะมาว่าผมเหรอ!”
เสียงคนตัวเล็กขึ้นจมูก ปึง! —เขาวางกระเป๋าผ้าลงกับเก้าอี้ข้าง ๆ อย่างหงุดหงิด หน้าแก้มขึ้นสีแดงนิด ๆ เพราะความโมโห
“เปล่าว่าซะหน่อย ก็พูดความจริงเฉย ๆ” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวน ๆ มุมปากกระตุกยิ้มแบบไม่จริงจังนัก ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวเจ้าแมวอย่างชำนาญ “ตัวร้อนนิดหน่อย…อืม อุณหภูมิขึ้นอีกแล้วสินะ”
เสียงเครื่องวัดอุณหภูมิดัง ปี๊บ เบา ๆ ในห้องตรวจสีขาวสะอาดตา เขาก้มลงดูหน้าปัดตัวเลขก่อนถอนหายใจเบา ๆ แววตาที่เมื่อครู่ยังขี้เล่น กลับนิ่งขรึมทันที
“ซัน…มันเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนแล้ว”
น้ำเสียงที่เคยกวนแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังจนอีกฝ่ายเผลอชะงัก คิ้วบางขมวดเข้าหากันแน่นขึ้น ดวงตากลมโตเริ่มสั่นไหว
“อย่าพูดแบบนั้นสิ…” น้ำเสียงแผ่วลงทันตา มือที่เคยกำแน่นบนตักยกขึ้นมากอดกล่องแน่นราวกับจะขอความมั่นใจจากเจ้าแมวตัวเล็ก
“ไม่ได้จะขู่ซะหน่อย” เขาพูดเบาลงกว่าเดิม สีหน้าผ่อนคลายลงนิด แต่สายตายังคงจ้องแมวตัวนั้นไม่ละ “ผมจะให้น้ำเกลือกับยากระตุ้นเพิ่มอีกนิด พรุ่งนี้มันจะดีขึ้น…ถ้าเจ้าของไม่ร้องไห้ก่อนมันนะ”
“ใครบอกว่าผมจะร้องไห้!” คนตัวเล็กปัดมืออย่างแรง ใบหน้าขึ้นสีอีกระลอกเพราะโดนแซว “ผมไม่ได้ร้องสักหน่อย!”
“เหรอ~” น้ำเสียงยืดเย้ย ๆ คล้ายจงใจแกล้ง มุมปากอีกฝ่ายกระตุกยิ้มบาง ๆ พลางเดินไปเตรียมอุปกรณ์
เสียง ฉึบ ฉึบ ของถุงน้ำเกลือดังเบา ๆ ขณะเขาเสียบสายน้ำเข้าเครื่องอย่างคล่องแคล่ว ซันเผลอกัดริมฝีปากแน่นเมื่อเห็นเขาทำงานจริงจังแบบนั้น —ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะใจดันเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล
‘ก็แค่หมอปากเสียคนหนึ่ง…’ เขาบ่นในใจ
“พรุ่งนี้ก็เอามันมาหาผมอีก”
“ใครอยากมาเจอหน้า—”
“มาเถอะ อยากให้มันปลอดภัยไม่ใช่เหรอ”
คำพูดนั้นทำให้ซันหยุดชะงัก รอยยิ้มกวนที่มักติดอยู่บนใบหน้าของคนตรงหน้าหายไปหมด เหลือเพียงแววตาอบอุ่นที่มองทั้งเขาและเจ้าแมวในกล่องนั้น…เป็นแววตาที่พูดแทนทุกอย่าง
“…ก็ได้” ซันตอบเสียงเบา
เขายกมือขึ้นลูบหัวซันเบา ๆ อย่างที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว “ดีมาก เด็กดี”
“หมอเรียกใครว่าเด็กดีห๊ะ!” เสียงโวยดังขึ้นทันที พร้อมใบหน้าที่ขึ้นสีจัดจนน่าสงสาร
“แล้วใครกันล่ะที่ยอมง่ายขนาดนี้~”
“ไอ้หมอปากหมา!!”
เสียงโวยวายของซันดังไปทั่วห้องตรวจ เสียงแมวร้อง เมี้ยว~ แทรกขึ้นมาเหมือนหัวเราะขำไปด้วย ส่วนไนท์หัวเราะเบา ๆ จนไหล่สั่น ก่อนจะเดินเข้าไปเช็กเครื่องให้น้ำเกลือเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด
ในใจของซัน ทั้งโมโห ทั้งเขิน ทั้งห่วงแมว ปนกันจนวุ่นวาย แต่ที่แน่ ๆ คือ…เขาไม่ได้เกลียดความอบอุ่นที่แอบซ่อนอยู่ใต้ปากหมาๆนั่นเลย
---
เสียงกระดิ่งที่ประตูดัง กริ๊ง~ อีกครั้งในตอนบ่ายแก่ ๆ ของวันถัดมา
แสงแดดลอดผ่านกระจกหน้าคลินิกเข้ามาส่องบนพื้นไม้สีอ่อน พอเจ้าของแมวตัวเล็กก้าวเข้ามา บรรยากาศรอบตัวก็เหมือนเปลี่ยนไปทันที
“บอกแล้วไงว่าเจอกันอีกแน่…”
เสียงทุ้มต่ำเอื่อย ๆ ดังขึ้นจากด้านหลังเคาน์เตอร์ หมอไนท์ในเสื้อกาวน์สีขาวเหมือนเดิม พิงสะโพกกับโต๊ะอย่างสบาย ๆ มือหนึ่งถือแฟ้มประวัติสัตว์ อีกมือสอดกระเป๋ากางเกงไว้ มุมปากยกยิ้มมุมหนึ่งอย่างกวนประสาท
“อย่าได้ใจนักนะ” ซันทำเสียงจึ้กเบา ๆ พร้อมยื่นกล่องแมวไปข้างหน้า “ผมมาเพราะแมว ไม่ใช่เพราะหมอหรอก”
“อ๋อ เหรอ~” เขาลากเสียงยาวพลางรับกล่องไปแบบไม่แคร์ สีหน้ามั่นใจจนคนเห็นอยากเอากล่องฟาดใส่หน้า
ซันเดินตามเข้าไปในห้องตรวจเหมือนเมื่อวาน แต่วันนี้ต่างจากเดิมตรงที่ เขาดูเหนื่อยนิด ๆ ใต้ตาคล้ำจาง ๆ เพราะเมื่อคืนเฝ้าเจ้าเหมียวแทบไม่ได้นอน
ไนท์เหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วเบือนหน้าไปอย่างรวดเร็ว —แต่แววตานิ่ง ๆ ดันแอบซ่อนความเป็นห่วงไว้ชัดเจน
“เมื่อคืนเฝ้ามันทั้งคืนสินะ”
“รู้ได้ไง”
“ดูหน้าเหมือนซอมบี้ขาดคาเฟอีน”
“ไอ้หมอปากหมา!” ซันชี้นิ้วด่าเสียงดังทันที ใบหน้าเล็ก ๆ แดงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธสักคำ
“ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะทุ้มต่ำเล็ดลอดออกมาจากอกของเขาอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเปิดกล่องแมวเช็กอาการ สีหน้าจริงจังกลับมาแทบจะในวินาทีถัดมา
เสียงเครื่องวัดชีพจร ติ๊ดๆๆ ดังเป็นจังหวะ เขาเอื้อมมือจับตัวแมวอย่างเบามือที่สุด แววตาคมมองมันด้วยสายตาที่อ่อนโยนผิดกับปากที่ชอบพูดจาแกล้งคนไปทั่ว
“ไข้ลดลงแล้วนะ”
“จริงเหรอ!” ดวงตากลมโตของซันเบิกกว้างทันที สีหน้าที่เหนื่อยเมื่อกี้เหมือนละลายหายไปเป็นปลิดทิ้ง
“อืม…เห็นมั้ยว่าผมเก่งแค่ไหน” เขากระตุกมุมปากยิ้มแบบคนมั่นหน้า
“หยิ่งชะมัด!” ซันเบ้ปาก แต่แววตาเป็นประกาย
“แต่ก็นะ…ที่แมวดีขึ้นได้ก็เพราะเจ้าของดูแลดี”
ประโยคนั้นเปลี่ยนน้ำเสียงจากกวนเป็นนุ่มอย่างไม่ทันตั้งตัว ซันชะงักไปนิด มือที่กำลังลูบหัวแมวหยุดนิ่ง ใบหน้าขึ้นสีเบา ๆ
“…หมอก็ไม่ต้องชมขนาดนั้นหรอก”
“ใครบอกว่าชม ผมพูดความจริงเฉย ๆ” เขาหลุดยิ้มบาง ๆ จนดวงตาเรียวลงอย่างห้ามไม่อยู่
บรรยากาศในห้องตรวจเงียบลงเล็กน้อย เหลือเพียงเสียงหายใจของคนสองคนและเสียงหายใจจังหวะสม่ำเสมอของแมวตัวเล็กที่กำลังหลับอยู่บนผ้าขนหนูผืนอุ่น
เวลาผ่านไปจนคลินิกใกล้ปิด
ซันยังไม่ยอมกลับเพราะอยากอยู่ดูอาการแมวอีกนิด
ไนท์มองเขาแล้วถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอาผ้าห่มผืนบาง ๆ เดินเข้ามาคลุมไหล่ให้อย่างไม่พูดอะไร
“หมอจะทำอะไร” ซันหันขวับ ใบหน้าแดงจัด
“ห่มผ้าให้ไง จะให้ผมตอบว่าอะไรล่ะ” เขายักไหล่เสียงเรียบ ๆ
“ก็—ก็หมอจะมาทำแบบนี้ทำไมเล่า!”
“เพราะหน้าหนาว แล้วนายตัวสั่น” น้ำเสียงเรียบง่ายไม่มีแววกวนเลยแม้แต่นิด
แววตาคมที่มองมาในตอนนั้นมันอ่อนโยนจนหัวใจของซันเต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะ
ซันเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะก้มหน้าซ่อนความเขินไว้ในเงาผ้าห่ม
ไนท์มองภาพนั้นแล้วหัวเราะในลำคอเบา ๆ
“ขี้งอนก็จริง แต่เวลาเขินนี่โคตรน่ารักเลยแฮะ…” เขาพึมพำแผ่วเบาเกือบจะไม่ได้ยินเองด้วยซ้ำ
“ว่าอะไรนะ!”
“เปล๊า~”
“ไนท์!!” ซันตะโกนชื่อเขาเสียงดัง ใบหน้าแดงก่ำ แก้มพองเหมือนลูกแมวกำลังจะขู่ แต่ก็ไม่มีพลังพอจะจริงจัง
“กลับไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่ก็พอ”
“…ไม่กลับ”
“ทำไม”
“จะอยู่เฝ้ามันที่นี่”
“นี่คลินิก ไม่ใช่โฮสเทล” เขาทำเสียงเข้มแต่ไม่ดุจริงจังนัก
“ไม่สน จะอยู่!” คนดื้อกอดผ้าห่มแน่น ขยับตัวมานั่งข้างกรงแมวแล้วก้มหน้าลูบหัวมันเบา ๆ
ไนท์มองภาพตรงหน้าแล้วถอนหายใจยาว “ตามใจ…” พูดจบก็เดินไปปิดไฟบางส่วน เหลือไว้แค่ไฟโทนอุ่นในมุมห้องตรวจ
กลางดึก เสียงหายใจเบา ๆ ดังสม่ำเสมอจากมุมห้อง ซันฟุบหลับอยู่ข้างกรงแมวโดยที่ยังห่มผ้าผืนเดิม
ไนท์เดินเข้าไปช้า ๆ ใช้ปลายนิ้วจัดผ้าให้คลุมตัวเขาแน่นขึ้น มองใบหน้าเล็ก ๆ นั้นที่ตอนหลับดูน่ารักกว่าตอนดื้อเป็นร้อยเท่า
“ขี้งอน…ขี้ดื้อ แต่ก็น่าเอ็นดูเป็นบ้า” เขาพึมพำยิ้มมุมปาก แววตานุ่มจนแทบจะละลาย
เสียงฝนข้างนอกพรำเบา ๆ เปาะแปะๆ คลินิกสัตว์ที่เคยเงียบเหงา กลับอบอุ่นขึ้นอย่างประหลาดในคืนนั้น
---
เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ แทรกเข้ามาพร้อมกับแสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านสีขาวเบา ๆ
ไนท์เดินเข้ามาในห้องตรวจที่เมื่อคืนเปิดไฟโทนอุ่นทิ้งไว้ ใบหน้าเขามีรอยยิ้มบาง ๆ ตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดประตู เพราะรู้ดีว่าใครรออยู่ข้างใน
และก็เป็นไปตามคาด—
“อือ…” ซันขยับตัวเล็กน้อย มือเล็กยังโอบกรงแมวไว้แน่นเหมือนกลัวว่ามันจะหายไปในยามหลับ
ผมยุ่งนิด ๆ หน้าขาว ๆ ยังมีรอยหมอนจาง ๆ
ใบหน้าในยามหลับของคนดื้อเมื่อคืนนี้ดูอ่อนโยนจนไนท์เผลอหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ตื่นได้แล้ว เจ้าของแมวขี้ดื้อ”
เสียงทุ้มดังขึ้นเบา ๆ ข้างหู
“อือออ…” ซันขมวดคิ้วนิด ๆ พยายามซุกตัวเข้ากับผ้าห่มมากกว่าเดิม
“นี่ ตื่นได้แล้ว ก่อนผมจะเขียนป้าย ‘รับเลี้ยงฟรี’ แล้วเอาเจ้าเหมียวไปซะก่อนนะ”
“อย่ามายุ่งกับมันนะ!!!”
พรึ่บ! ซันดีดตัวลุกขึ้นทันทีเหมือนแมวโดนน้ำสาด ใบหน้ามีรอยยับเพราะนอนทั้งคืน คิ้วขมวด มือกอดกรงแน่นจนข้อนิ้วขาว
ไนท์กลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ “โห…ตื่นเร็วกว่าปลุกอีก”
“หมอเล่นบ้าอะไรเนี่ย!!”
“ก็อยากเห็นหน้าตอนตกใจ”
“ไอ้หมอปากเสีย!!”
เสียงโวยวายตอนเช้าดังสนั่นห้องตรวจ เสียงฝีเท้าของเจ้าเหมียวที่ขยับในกรงดัง กรุ๊งกริ๊ง เหมือนมันเองก็ขำตามไปด้วย
ไนท์ยื่นแก้วกาแฟร้อน ๆ ไปให้ ซันทำหน้ามุ่ยแต่ก็รับมาดื่มแบบไม่พูดอะไร
“ให้ฟรี อย่าคิดมาก”
“…ไม่ได้จะขอบคุณหรอกนะ”
“ก็ไม่ได้อยากได้คำขอบคุณหรอก”
เขาตอบเสียงเรียบแต่มุมปากยกขึ้นแบบเจ้าเล่ห์เล็ก ๆ แววตาที่มองซันในเช้าวันนี้ต่างจากวันแรกที่เจอกัน…มันอ่อนโยนเกินกว่าจะปิดบังได้
---
หลังจากจัดการเช็กอุณหภูมิให้เจ้าเหมียวเรียบร้อย ทั้งสองคนก็ช่วยกันเปลี่ยนน้ำ อาหาร และเช็ดตัวให้แมวเล็ก ๆ ตัวนั้น
ไนท์ก้มลงใกล้ ๆ ซันเพราะช่วยจับตัวแมว ขณะซันใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดเบา ๆ —ระยะห่างระหว่างใบหน้าของทั้งสองใกล้มากจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน
“ใกล้ไปแล้ว…” ซันพึมพำเสียงเบา ใบหน้าเริ่มร้อน
“หืม? ผมแค่จับมันไว้เฉย ๆ นายคิดอะไรอยู่?”
“มะ—ไม่ได้คิดอะไร!!”
ไนท์ยิ้มขำอย่างเปิดเผยในที่สุด “หน้าแดงขนาดนี้ ไม่คิดได้เหรอ”
“เงียบไปเลย!!”
เสียงของซันดังลั่นในขณะที่มือยังเช็ดตัวแมวไม่หยุด ใบหูขึ้นสีจนแมวยังเหลือบมอง
ไนท์หัวเราะเบา ๆ แต่สายตาไม่ได้ละออกจากใบหน้าเล็ก ๆ ตรงหน้าเลยแม้แต่วินาทีเดียว
---
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย ซันเปิดกรงให้แมวเดินออกมา
เจ้าตัวเล็กเดินดมไปเรื่อย ๆ ก่อนจะ… พรึ่บ! วิ่งพรวดออกประตูที่เปิดแง้มไว้เฉยเลย
“เฮ้ย!!! แมวผม!!” ซันร้องเสียงดัง ใบหน้าตื่นตระหนกสุดขีด
“อยู่นี่แหละน่า—” ยังไม่ทันพูดจบ ซันก็วิ่งออกไปก่อนแล้ว
“เฮ้อ… ขี้ตกใจเป็นงานประจำ”
ไนท์ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะวิ่งตามออกไปข้างนอกด้วยท่าทีไม่รีบร้อนเท่าซันแต่สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบบริเวณอย่างคนชำนาญ
เสียงฝีเท้าวิ่งตึกตักของซันดังไปทั่วข้างคลินิก
“มิววว~ ออกมานะ อยู่นั่นมั้ย~”
เขาก้มมองใต้โต๊ะ ใต้พุ่มไม้ แม้แต่ข้างรั้วก็ยังไม่เว้น
ขณะกำลังหมอบลงหาใต้ม้านั่งไม้—มือใหญ่มาวางแหมะบนหัวเบา ๆ
“อย่าร้องนะ แมวไม่ได้หายไปไหนหรอก”
“ใครบอกว่าผมจะร้อง!!” ซันหันขวับกลับไปเถียง ใบหน้าแดงก่ำ น้ำเสียงสั่นนิด ๆ
ไนท์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงเดินอ้อมไปข้างหลังพุ่มไม้ตรงประตูข้างคลินิก ย่อตัวลงและเป่าปากเบา ๆ “ฟู่ว~ มานี่ เจ้าตัวซน”
เสียง เมี้ยว~ ดังตอบรับ เจ้าตัวเล็กเดินออกมาจากที่ซ่อนแล้วกระโจนเข้าหาไนท์ทันที
ซันเบิกตากว้าง “หมอ…รู้ได้ไงว่ามันอยู่ตรงนั้น”
“ก็แมวมันไม่ซนเกินไปหรอก มันรู้ว่าตรงนี้คือที่ปลอดภัย” เขาก้มลงอุ้มแมวขึ้นมาแนบอก ลูบหัวมันเบา ๆ จนมันขดตัวอย่างเชื่อใจ
ซันมองภาพนั้นแล้วหัวใจเต้นแรงจนอธิบายไม่ถูก ทั้งภาพผู้ชายในชุดเสื้อกาวน์ที่อุ้มแมวอย่างทะนุถนอม ทั้งเสียงทุ้มที่พูดออกมาอย่างใจเย็น —มันอบอุ่นจนหัวใจเขาเหมือนถูกดึงเข้าไปช้า ๆ
“เก่งจังเลยนะ” ซันพูดเสียงเบา
“ก็แน่สิ…ผมเป็นหมอนะ” ไนท์หันมายักคิ้วใส่แบบกวน ๆ ตามสไตล์
“…แต่ก็น่ารักดีเวลาทำแบบนั้น” ซันเผลอพูดพึมพำออกมา
“ว่าไงนะ?”
“ปะ—เปล่า!!” เขารีบหันหน้าหนีแทบไม่ทัน
ไนท์หัวเราะเสียงต่ำในลำคอ มองคนตรงหน้าแก้มแดงเหมือนลูกมะเขือเทศแล้วก็ยิ่งรู้สึก…อยากแกล้งให้หน้าแดงกว่านี้อีกสักหน่อย
---
พอกลับเข้าคลินิก ซันยังคงอุ้มแมวไว้ในอ้อมแขน ส่วนไนท์ก็เดินตามมาเงียบ ๆ
ตอนที่ซันก้าวเท้าเกือบสะดุดพรมหน้าเคาน์เตอร์ ไนท์ก็ยื่นมือคว้าเอวเขาไว้ทันที พรึ่บ!
ร่างทั้งสองขยับเข้ามาใกล้กันจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น ตึกตัก…ตึกตัก…
แววตาคมสบเข้ากับดวงตากลมโตในระยะใกล้จนแทบไม่มีอากาศให้หายใจ
“…จะล้มก็ไม่บอก”
“อย่า…มาแกล้งตอนแบบนี้ได้มั้ยห๊ะ!” ซันพูดเสียงเบา หน้าแดงเหมือนจะไหม้
ไนท์หัวเราะเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ปล่อยมือออก “ถ้าผมไม่แกล้ง นายจะน่ารักขนาดนี้มั้ย”
“ไนท์!!”
เสียงโวยวายดังไปทั้งคลินิกอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับมีรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของซันที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย
ไนท์มองภาพนั้นแล้วหัวใจเผลออุ่นขึ้นมาอีกนิด—เหมือนมีใครมาเปิดไฟในใจที่มืดมิดมานาน…
---
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!