NovelToon NovelToon

นั้นปากหรอครับหมอ

บทที่1

เสียงกระดิ่งเล็ก ๆ ด้านบนประตูดัง กริ๊ง~ ทันทีที่บานประตูไม้ของคลินิกสัตว์เล็กเปิดออก กลิ่นยาฆ่าเชื้อจาง ๆ ลอยมาแตะปลายจมูกผสมกับกลิ่นสบู่อ่อน ๆ ที่เป็นกลิ่นประจำของที่นี่

“มาอีกแล้วเหรอ”

เสียงทุ้มติดกวนดังขึ้นจากหลังเคาน์เตอร์พร้อมกับเงาร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์สีขาวสะอาด เขาพิงแขนกับเคาน์เตอร์อย่างไม่รีบเร่ง แววตาคมใต้เส้นผมสีเข้มจ้องมายังเจ้าของแมวที่กำลังเดินอุ้มกล่องใส่สัตว์เลี้ยงเข้ามา

“ก็แมวผมยังไม่หายสักทีนี่!” คนตัวเล็กกว่าตอบกลับเสียงแข็งทันควัน คิ้วขมวดแน่น มือประคองกล่องอย่างระมัดระวังเหมือนกล่องนั้นคือสมบัติล้ำค่า

“เฮ้อ… ผมว่าบางทีแมวมันป่วยเพราะเจ้าของเครียดเกินไปก็ได้นะ” เขาว่า ก้าวเข้ามาหยิบกล่องจากมืออีกฝ่ายไปโดยไม่รอฟังคำอนุญาต ดวงตาคมมองเจ้าแมวขนฟูที่หายใจแรงในกล่องอย่างใจเย็น แต่มือกลับเคลื่อนไหวรวดเร็วและนุ่มนวล

“นี่หมอจะมาว่าผมเหรอ!”

เสียงคนตัวเล็กขึ้นจมูก ปึง! —เขาวางกระเป๋าผ้าลงกับเก้าอี้ข้าง ๆ อย่างหงุดหงิด หน้าแก้มขึ้นสีแดงนิด ๆ เพราะความโมโห

“เปล่าว่าซะหน่อย ก็พูดความจริงเฉย ๆ” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวน ๆ มุมปากกระตุกยิ้มแบบไม่จริงจังนัก ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวเจ้าแมวอย่างชำนาญ “ตัวร้อนนิดหน่อย…อืม อุณหภูมิขึ้นอีกแล้วสินะ”

เสียงเครื่องวัดอุณหภูมิดัง ปี๊บ เบา ๆ ในห้องตรวจสีขาวสะอาดตา เขาก้มลงดูหน้าปัดตัวเลขก่อนถอนหายใจเบา ๆ แววตาที่เมื่อครู่ยังขี้เล่น กลับนิ่งขรึมทันที

“ซัน…มันเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนแล้ว”

น้ำเสียงที่เคยกวนแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังจนอีกฝ่ายเผลอชะงัก คิ้วบางขมวดเข้าหากันแน่นขึ้น ดวงตากลมโตเริ่มสั่นไหว

“อย่าพูดแบบนั้นสิ…” น้ำเสียงแผ่วลงทันตา มือที่เคยกำแน่นบนตักยกขึ้นมากอดกล่องแน่นราวกับจะขอความมั่นใจจากเจ้าแมวตัวเล็ก

“ไม่ได้จะขู่ซะหน่อย” เขาพูดเบาลงกว่าเดิม สีหน้าผ่อนคลายลงนิด แต่สายตายังคงจ้องแมวตัวนั้นไม่ละ “ผมจะให้น้ำเกลือกับยากระตุ้นเพิ่มอีกนิด พรุ่งนี้มันจะดีขึ้น…ถ้าเจ้าของไม่ร้องไห้ก่อนมันนะ”

“ใครบอกว่าผมจะร้องไห้!” คนตัวเล็กปัดมืออย่างแรง ใบหน้าขึ้นสีอีกระลอกเพราะโดนแซว “ผมไม่ได้ร้องสักหน่อย!”

“เหรอ~” น้ำเสียงยืดเย้ย ๆ คล้ายจงใจแกล้ง มุมปากอีกฝ่ายกระตุกยิ้มบาง ๆ พลางเดินไปเตรียมอุปกรณ์

เสียง ฉึบ ฉึบ ของถุงน้ำเกลือดังเบา ๆ ขณะเขาเสียบสายน้ำเข้าเครื่องอย่างคล่องแคล่ว ซันเผลอกัดริมฝีปากแน่นเมื่อเห็นเขาทำงานจริงจังแบบนั้น —ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะใจดันเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล

‘ก็แค่หมอปากเสียคนหนึ่ง…’ เขาบ่นในใจ

“พรุ่งนี้ก็เอามันมาหาผมอีก”

“ใครอยากมาเจอหน้า—”

“มาเถอะ อยากให้มันปลอดภัยไม่ใช่เหรอ”

คำพูดนั้นทำให้ซันหยุดชะงัก รอยยิ้มกวนที่มักติดอยู่บนใบหน้าของคนตรงหน้าหายไปหมด เหลือเพียงแววตาอบอุ่นที่มองทั้งเขาและเจ้าแมวในกล่องนั้น…เป็นแววตาที่พูดแทนทุกอย่าง

“…ก็ได้” ซันตอบเสียงเบา

เขายกมือขึ้นลูบหัวซันเบา ๆ อย่างที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว “ดีมาก เด็กดี”

“หมอเรียกใครว่าเด็กดีห๊ะ!” เสียงโวยดังขึ้นทันที พร้อมใบหน้าที่ขึ้นสีจัดจนน่าสงสาร

“แล้วใครกันล่ะที่ยอมง่ายขนาดนี้~”

“ไอ้หมอปากหมา!!”

เสียงโวยวายของซันดังไปทั่วห้องตรวจ เสียงแมวร้อง เมี้ยว~ แทรกขึ้นมาเหมือนหัวเราะขำไปด้วย ส่วนไนท์หัวเราะเบา ๆ จนไหล่สั่น ก่อนจะเดินเข้าไปเช็กเครื่องให้น้ำเกลือเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด

ในใจของซัน ทั้งโมโห ทั้งเขิน ทั้งห่วงแมว ปนกันจนวุ่นวาย แต่ที่แน่ ๆ คือ…เขาไม่ได้เกลียดความอบอุ่นที่แอบซ่อนอยู่ใต้ปากหมาๆนั่นเลย

---

บทที่2

เสียงกระดิ่งที่ประตูดัง กริ๊ง~ อีกครั้งในตอนบ่ายแก่ ๆ ของวันถัดมา

แสงแดดลอดผ่านกระจกหน้าคลินิกเข้ามาส่องบนพื้นไม้สีอ่อน พอเจ้าของแมวตัวเล็กก้าวเข้ามา บรรยากาศรอบตัวก็เหมือนเปลี่ยนไปทันที

“บอกแล้วไงว่าเจอกันอีกแน่…”

เสียงทุ้มต่ำเอื่อย ๆ ดังขึ้นจากด้านหลังเคาน์เตอร์ หมอไนท์ในเสื้อกาวน์สีขาวเหมือนเดิม พิงสะโพกกับโต๊ะอย่างสบาย ๆ มือหนึ่งถือแฟ้มประวัติสัตว์ อีกมือสอดกระเป๋ากางเกงไว้ มุมปากยกยิ้มมุมหนึ่งอย่างกวนประสาท

“อย่าได้ใจนักนะ” ซันทำเสียงจึ้กเบา ๆ พร้อมยื่นกล่องแมวไปข้างหน้า “ผมมาเพราะแมว ไม่ใช่เพราะหมอหรอก”

“อ๋อ เหรอ~” เขาลากเสียงยาวพลางรับกล่องไปแบบไม่แคร์ สีหน้ามั่นใจจนคนเห็นอยากเอากล่องฟาดใส่หน้า

ซันเดินตามเข้าไปในห้องตรวจเหมือนเมื่อวาน แต่วันนี้ต่างจากเดิมตรงที่ เขาดูเหนื่อยนิด ๆ ใต้ตาคล้ำจาง ๆ เพราะเมื่อคืนเฝ้าเจ้าเหมียวแทบไม่ได้นอน

ไนท์เหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วเบือนหน้าไปอย่างรวดเร็ว —แต่แววตานิ่ง ๆ ดันแอบซ่อนความเป็นห่วงไว้ชัดเจน

“เมื่อคืนเฝ้ามันทั้งคืนสินะ”

“รู้ได้ไง”

“ดูหน้าเหมือนซอมบี้ขาดคาเฟอีน”

“ไอ้หมอปากหมา!” ซันชี้นิ้วด่าเสียงดังทันที ใบหน้าเล็ก ๆ แดงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธสักคำ

“ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะทุ้มต่ำเล็ดลอดออกมาจากอกของเขาอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเปิดกล่องแมวเช็กอาการ สีหน้าจริงจังกลับมาแทบจะในวินาทีถัดมา

เสียงเครื่องวัดชีพจร ติ๊ดๆๆ ดังเป็นจังหวะ เขาเอื้อมมือจับตัวแมวอย่างเบามือที่สุด แววตาคมมองมันด้วยสายตาที่อ่อนโยนผิดกับปากที่ชอบพูดจาแกล้งคนไปทั่ว

“ไข้ลดลงแล้วนะ”

“จริงเหรอ!” ดวงตากลมโตของซันเบิกกว้างทันที สีหน้าที่เหนื่อยเมื่อกี้เหมือนละลายหายไปเป็นปลิดทิ้ง

“อืม…เห็นมั้ยว่าผมเก่งแค่ไหน” เขากระตุกมุมปากยิ้มแบบคนมั่นหน้า

“หยิ่งชะมัด!” ซันเบ้ปาก แต่แววตาเป็นประกาย

“แต่ก็นะ…ที่แมวดีขึ้นได้ก็เพราะเจ้าของดูแลดี”

ประโยคนั้นเปลี่ยนน้ำเสียงจากกวนเป็นนุ่มอย่างไม่ทันตั้งตัว ซันชะงักไปนิด มือที่กำลังลูบหัวแมวหยุดนิ่ง ใบหน้าขึ้นสีเบา ๆ

“…หมอก็ไม่ต้องชมขนาดนั้นหรอก”

“ใครบอกว่าชม ผมพูดความจริงเฉย ๆ” เขาหลุดยิ้มบาง ๆ จนดวงตาเรียวลงอย่างห้ามไม่อยู่

บรรยากาศในห้องตรวจเงียบลงเล็กน้อย เหลือเพียงเสียงหายใจของคนสองคนและเสียงหายใจจังหวะสม่ำเสมอของแมวตัวเล็กที่กำลังหลับอยู่บนผ้าขนหนูผืนอุ่น

เวลาผ่านไปจนคลินิกใกล้ปิด

ซันยังไม่ยอมกลับเพราะอยากอยู่ดูอาการแมวอีกนิด

ไนท์มองเขาแล้วถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอาผ้าห่มผืนบาง ๆ เดินเข้ามาคลุมไหล่ให้อย่างไม่พูดอะไร

“หมอจะทำอะไร” ซันหันขวับ ใบหน้าแดงจัด

“ห่มผ้าให้ไง จะให้ผมตอบว่าอะไรล่ะ” เขายักไหล่เสียงเรียบ ๆ

“ก็—ก็หมอจะมาทำแบบนี้ทำไมเล่า!”

“เพราะหน้าหนาว แล้วนายตัวสั่น” น้ำเสียงเรียบง่ายไม่มีแววกวนเลยแม้แต่นิด

แววตาคมที่มองมาในตอนนั้นมันอ่อนโยนจนหัวใจของซันเต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะ

ซันเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะก้มหน้าซ่อนความเขินไว้ในเงาผ้าห่ม

ไนท์มองภาพนั้นแล้วหัวเราะในลำคอเบา ๆ

“ขี้งอนก็จริง แต่เวลาเขินนี่โคตรน่ารักเลยแฮะ…” เขาพึมพำแผ่วเบาเกือบจะไม่ได้ยินเองด้วยซ้ำ

“ว่าอะไรนะ!”

“เปล๊า~”

“ไนท์!!” ซันตะโกนชื่อเขาเสียงดัง ใบหน้าแดงก่ำ แก้มพองเหมือนลูกแมวกำลังจะขู่ แต่ก็ไม่มีพลังพอจะจริงจัง

“กลับไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่ก็พอ”

“…ไม่กลับ”

“ทำไม”

“จะอยู่เฝ้ามันที่นี่”

“นี่คลินิก ไม่ใช่โฮสเทล” เขาทำเสียงเข้มแต่ไม่ดุจริงจังนัก

“ไม่สน จะอยู่!” คนดื้อกอดผ้าห่มแน่น ขยับตัวมานั่งข้างกรงแมวแล้วก้มหน้าลูบหัวมันเบา ๆ

ไนท์มองภาพตรงหน้าแล้วถอนหายใจยาว “ตามใจ…” พูดจบก็เดินไปปิดไฟบางส่วน เหลือไว้แค่ไฟโทนอุ่นในมุมห้องตรวจ

กลางดึก เสียงหายใจเบา ๆ ดังสม่ำเสมอจากมุมห้อง ซันฟุบหลับอยู่ข้างกรงแมวโดยที่ยังห่มผ้าผืนเดิม

ไนท์เดินเข้าไปช้า ๆ ใช้ปลายนิ้วจัดผ้าให้คลุมตัวเขาแน่นขึ้น มองใบหน้าเล็ก ๆ นั้นที่ตอนหลับดูน่ารักกว่าตอนดื้อเป็นร้อยเท่า

“ขี้งอน…ขี้ดื้อ แต่ก็น่าเอ็นดูเป็นบ้า” เขาพึมพำยิ้มมุมปาก แววตานุ่มจนแทบจะละลาย

เสียงฝนข้างนอกพรำเบา ๆ เปาะแปะๆ คลินิกสัตว์ที่เคยเงียบเหงา กลับอบอุ่นขึ้นอย่างประหลาดในคืนนั้น

---

บทที่3

เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ แทรกเข้ามาพร้อมกับแสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านสีขาวเบา ๆ

ไนท์เดินเข้ามาในห้องตรวจที่เมื่อคืนเปิดไฟโทนอุ่นทิ้งไว้ ใบหน้าเขามีรอยยิ้มบาง ๆ ตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดประตู เพราะรู้ดีว่าใครรออยู่ข้างใน

และก็เป็นไปตามคาด—

“อือ…” ซันขยับตัวเล็กน้อย มือเล็กยังโอบกรงแมวไว้แน่นเหมือนกลัวว่ามันจะหายไปในยามหลับ

ผมยุ่งนิด ๆ หน้าขาว ๆ ยังมีรอยหมอนจาง ๆ

ใบหน้าในยามหลับของคนดื้อเมื่อคืนนี้ดูอ่อนโยนจนไนท์เผลอหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ตื่นได้แล้ว เจ้าของแมวขี้ดื้อ”

เสียงทุ้มดังขึ้นเบา ๆ ข้างหู

“อือออ…” ซันขมวดคิ้วนิด ๆ พยายามซุกตัวเข้ากับผ้าห่มมากกว่าเดิม

“นี่ ตื่นได้แล้ว ก่อนผมจะเขียนป้าย ‘รับเลี้ยงฟรี’ แล้วเอาเจ้าเหมียวไปซะก่อนนะ”

“อย่ามายุ่งกับมันนะ!!!”

พรึ่บ! ซันดีดตัวลุกขึ้นทันทีเหมือนแมวโดนน้ำสาด ใบหน้ามีรอยยับเพราะนอนทั้งคืน คิ้วขมวด มือกอดกรงแน่นจนข้อนิ้วขาว

ไนท์กลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ “โห…ตื่นเร็วกว่าปลุกอีก”

“หมอเล่นบ้าอะไรเนี่ย!!”

“ก็อยากเห็นหน้าตอนตกใจ”

“ไอ้หมอปากเสีย!!”

เสียงโวยวายตอนเช้าดังสนั่นห้องตรวจ เสียงฝีเท้าของเจ้าเหมียวที่ขยับในกรงดัง กรุ๊งกริ๊ง เหมือนมันเองก็ขำตามไปด้วย

ไนท์ยื่นแก้วกาแฟร้อน ๆ ไปให้ ซันทำหน้ามุ่ยแต่ก็รับมาดื่มแบบไม่พูดอะไร

“ให้ฟรี อย่าคิดมาก”

“…ไม่ได้จะขอบคุณหรอกนะ”

“ก็ไม่ได้อยากได้คำขอบคุณหรอก”

เขาตอบเสียงเรียบแต่มุมปากยกขึ้นแบบเจ้าเล่ห์เล็ก ๆ แววตาที่มองซันในเช้าวันนี้ต่างจากวันแรกที่เจอกัน…มันอ่อนโยนเกินกว่าจะปิดบังได้

---

หลังจากจัดการเช็กอุณหภูมิให้เจ้าเหมียวเรียบร้อย ทั้งสองคนก็ช่วยกันเปลี่ยนน้ำ อาหาร และเช็ดตัวให้แมวเล็ก ๆ ตัวนั้น

ไนท์ก้มลงใกล้ ๆ ซันเพราะช่วยจับตัวแมว ขณะซันใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดเบา ๆ —ระยะห่างระหว่างใบหน้าของทั้งสองใกล้มากจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน

“ใกล้ไปแล้ว…” ซันพึมพำเสียงเบา ใบหน้าเริ่มร้อน

“หืม? ผมแค่จับมันไว้เฉย ๆ นายคิดอะไรอยู่?”

“มะ—ไม่ได้คิดอะไร!!”

ไนท์ยิ้มขำอย่างเปิดเผยในที่สุด “หน้าแดงขนาดนี้ ไม่คิดได้เหรอ”

“เงียบไปเลย!!”

เสียงของซันดังลั่นในขณะที่มือยังเช็ดตัวแมวไม่หยุด ใบหูขึ้นสีจนแมวยังเหลือบมอง

ไนท์หัวเราะเบา ๆ แต่สายตาไม่ได้ละออกจากใบหน้าเล็ก ๆ ตรงหน้าเลยแม้แต่วินาทีเดียว

---

หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย ซันเปิดกรงให้แมวเดินออกมา

เจ้าตัวเล็กเดินดมไปเรื่อย ๆ ก่อนจะ… พรึ่บ! วิ่งพรวดออกประตูที่เปิดแง้มไว้เฉยเลย

“เฮ้ย!!! แมวผม!!” ซันร้องเสียงดัง ใบหน้าตื่นตระหนกสุดขีด

“อยู่นี่แหละน่า—” ยังไม่ทันพูดจบ ซันก็วิ่งออกไปก่อนแล้ว

“เฮ้อ… ขี้ตกใจเป็นงานประจำ”

ไนท์ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะวิ่งตามออกไปข้างนอกด้วยท่าทีไม่รีบร้อนเท่าซันแต่สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบบริเวณอย่างคนชำนาญ

เสียงฝีเท้าวิ่งตึกตักของซันดังไปทั่วข้างคลินิก

“มิววว~ ออกมานะ อยู่นั่นมั้ย~”

เขาก้มมองใต้โต๊ะ ใต้พุ่มไม้ แม้แต่ข้างรั้วก็ยังไม่เว้น

ขณะกำลังหมอบลงหาใต้ม้านั่งไม้—มือใหญ่มาวางแหมะบนหัวเบา ๆ

“อย่าร้องนะ แมวไม่ได้หายไปไหนหรอก”

“ใครบอกว่าผมจะร้อง!!” ซันหันขวับกลับไปเถียง ใบหน้าแดงก่ำ น้ำเสียงสั่นนิด ๆ

ไนท์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงเดินอ้อมไปข้างหลังพุ่มไม้ตรงประตูข้างคลินิก ย่อตัวลงและเป่าปากเบา ๆ “ฟู่ว~ มานี่ เจ้าตัวซน”

เสียง เมี้ยว~ ดังตอบรับ เจ้าตัวเล็กเดินออกมาจากที่ซ่อนแล้วกระโจนเข้าหาไนท์ทันที

ซันเบิกตากว้าง “หมอ…รู้ได้ไงว่ามันอยู่ตรงนั้น”

“ก็แมวมันไม่ซนเกินไปหรอก มันรู้ว่าตรงนี้คือที่ปลอดภัย” เขาก้มลงอุ้มแมวขึ้นมาแนบอก ลูบหัวมันเบา ๆ จนมันขดตัวอย่างเชื่อใจ

ซันมองภาพนั้นแล้วหัวใจเต้นแรงจนอธิบายไม่ถูก ทั้งภาพผู้ชายในชุดเสื้อกาวน์ที่อุ้มแมวอย่างทะนุถนอม ทั้งเสียงทุ้มที่พูดออกมาอย่างใจเย็น —มันอบอุ่นจนหัวใจเขาเหมือนถูกดึงเข้าไปช้า ๆ

“เก่งจังเลยนะ” ซันพูดเสียงเบา

“ก็แน่สิ…ผมเป็นหมอนะ” ไนท์หันมายักคิ้วใส่แบบกวน ๆ ตามสไตล์

“…แต่ก็น่ารักดีเวลาทำแบบนั้น” ซันเผลอพูดพึมพำออกมา

“ว่าไงนะ?”

“ปะ—เปล่า!!” เขารีบหันหน้าหนีแทบไม่ทัน

ไนท์หัวเราะเสียงต่ำในลำคอ มองคนตรงหน้าแก้มแดงเหมือนลูกมะเขือเทศแล้วก็ยิ่งรู้สึก…อยากแกล้งให้หน้าแดงกว่านี้อีกสักหน่อย

---

พอกลับเข้าคลินิก ซันยังคงอุ้มแมวไว้ในอ้อมแขน ส่วนไนท์ก็เดินตามมาเงียบ ๆ

ตอนที่ซันก้าวเท้าเกือบสะดุดพรมหน้าเคาน์เตอร์ ไนท์ก็ยื่นมือคว้าเอวเขาไว้ทันที พรึ่บ!

ร่างทั้งสองขยับเข้ามาใกล้กันจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น ตึกตัก…ตึกตัก…

แววตาคมสบเข้ากับดวงตากลมโตในระยะใกล้จนแทบไม่มีอากาศให้หายใจ

“…จะล้มก็ไม่บอก”

“อย่า…มาแกล้งตอนแบบนี้ได้มั้ยห๊ะ!” ซันพูดเสียงเบา หน้าแดงเหมือนจะไหม้

ไนท์หัวเราะเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ปล่อยมือออก “ถ้าผมไม่แกล้ง นายจะน่ารักขนาดนี้มั้ย”

“ไนท์!!”

เสียงโวยวายดังไปทั้งคลินิกอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับมีรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของซันที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย

ไนท์มองภาพนั้นแล้วหัวใจเผลออุ่นขึ้นมาอีกนิด—เหมือนมีใครมาเปิดไฟในใจที่มืดมิดมานาน…

---

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!