NovelToon NovelToon

รวมเรื่องสั้นมีช,ชและช,ญ

เงาบนเสาศาลา มีตอนพิเศษในตอน

หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางทุ่งนา มีศาลาเก่าแก่ตั้งอยู่ตรงทางสามแพร่ง ผู้เฒ่าเล่าต่อกันมาว่า ศาลานี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เพื่อเป็นที่พักของคนเดินทาง แต่กลับมีเรื่องเล่าว่า... ทุกคืนวันพระ จะเห็นเงาผู้หญิงผมยาวนั่งห้อยขาอยู่บนเสา แม้จะไม่มีใครอยู่ก็ตาม

"อย่าเดินผ่านทางนั้นตอนเที่ยงคืน" ป้าเขียว คนเฒ่าคนแก่เตือนเด็ก ๆ ในหมู่บ้านเสมอ "เพราะมันไม่ใช่คน..."

คืนหนึ่ง "นนท์" เด็กหนุ่มที่ไม่เชื่อเรื่องผี ตัดสินใจจะลองของ เขาแอบถือดอกไม้ ธูป เทียน ไปวางไว้ใต้ศาลา พร้อมกับหัวเราะเยาะเรื่องเล่าของผู้ใหญ่

เมื่อธูปดับลง เงาเคลื่อนไหวขึ้นช้า ๆ บนเสา... ไม่ใช่เงาของนนท์ แต่เป็นเงาของผู้หญิงผมยาว ยืนหันหลังให้...

เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้น

"เอาของมาให้... ก็ต้องเอาตัวมาด้วย..."ทันใดนั้น เงาคลานลงมาจากเสา แขนขายาวผิดรูป มือเย็นเฉียบคว้าข้อเท้าของนนท์ไว้ เขาตกใจร้องลั่น แต่เสียงกลับไม่ออกจากปาก ราวกับถูกกดไว้ด้วยมนต์ดำ...ทันใดนั้น เงาคลานลงมาจากเสา แขนขายาวผิดรูป มือเย็นเฉียบคว้าข้อเท้าของนนท์ไว้ เขาตกใจร้องลั่น แต่เสียงกลับไม่ออกจากปาก ราวกับถูกกดไว้ด้วยมนต์ดำ...ตอนพิเศษ “คืนที่กลับมา”

หลังเหตุการณ์วันนั้น ผ่านไปหลายเดือน ศาลากลางทางสามแพร่งยังคงตั้งอยู่อย่างว่างเปล่า ชาวบ้านต่างพากันเลี่ยงไม่กล้าเฉียดใกล้ แต่ นนท์ กลับรู้สึกเหมือนมีบางอย่างดึงดูดให้เขากลับไป

คืนวันพระขึ้นสิบห้าค่ำ เขาแอบถือเทียนเล่มเล็กและมีดพกไปที่ศาลาอีกครั้ง ลมพัดเย็นยะเยือก เสียงจักจั่นเงียบลงราวกับทั้งป่ากำลังเฝ้ามอง

ทันใดนั้น เขาเห็น เงาชายหนุ่ม ปรากฏบนเสาไม้แทนที่จะเป็นหญิงสาว ดวงตาคมมองลงมา ริมฝีปากยกยิ้มบาง ๆ

> “เจ้ากลับมา… ข้ารอเจ้ามานาน”

นนท์ใจเต้นแรง ทั้งที่ควรหวาดกลัว แต่กลับรู้สึกเหมือนถูกสะกด เขาเอ่ยถามเสียงสั่น

> “เจ้า…เป็นใคร? ไม่ใช่วิญญาณตนนั้นใช่ไหม?”

ชายหนุ่มก้าวลงมาจากเสา เงาของเขาแนบกับพื้นแต่ไม่แตะต้องดิน ผิวซีดขาวแต่หล่อเหลาเกินจริง

> “ข้า…คือเศษเสี้ยวหนึ่งของวิญญาณนั้น ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคอยตามเจ้า ข้าจึงเป็นทั้งคำสาป…และของขวัญ”

นนท์ก้าวถอยหลัง แต่ชายหนุ่มกลับโน้มหน้าเข้ามาใกล้ กลิ่นดอกไม้แห้งโชยมาอ่อน ๆ มือเย็นเฉียบสัมผัสหลังคอเบา ๆ

> “เจ้าปลดพันธะให้ข้า… เจ้าคือของข้าแล้ว”

หัวใจนนท์เต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก แต่แทนที่จะดิ้นรน เขากลับปล่อยให้สัมผัสนั้นโอบรัด เหมือนในใจลึก ๆ เขาไม่เคยโดดเดี่ยวอีกต่อไป

เสียงลมพัดดังหวิว ๆ ก่อนที่เงาร่างนั้นจะกระซิบชิดหู

> “ตั้งแต่คืนนี้…ไม่ว่าที่ใด เจ้าจะเห็นข้าอยู่ข้างกาย”

และเมื่อแสงเทียนมอดดับ เงาบนเสาศาลาก็หายไป เหลือเพียงนนท์ที่ยืนอยู่กลางความมืด แต่ในหัวใจกลับอบอุ่นประหลาด ราวกับมีใครบางคนยืนอยู่เคียงข้างเขาจริง ๆ

🕯️ ตอนพิเศษ จบ

รัตติกาลแห่งมนตรา ช ช+ตอนพิเศษ

ตอนที่ 1 : คืนเดือนมืด

หมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางป่าลึก มีตำนานเล่าขานว่า คืนเดือนมืด จะมีมนตราโบราณปรากฏ

“นที” เด็กหนุ่มอายุ 18 ลูกชายคนเล็กของหมู่บ้าน ตัดสินใจออกไปกลางป่าคืนนี้ เพราะอยากพิสูจน์ตำนาน

เขาไม่ทันสังเกตว่า มีเงาร่างสูงผอมปรากฏอยู่หลังต้นไม้ ดวงตาสีแดงสะท้อนแสงจันทร์

> “เจ้ากำลังหาความจริงอยู่หรือ… นที?”

นทีสะดุ้ง แต่กลับไม่หวาดกลัว

> “เจ้าเป็นใคร? ทำไมรู้ชื่อฉัน?”

ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ

> “ข้า…ชื่อ อัคนิน ถูกสาปให้อยู่กับป่ามานานหลายปี รอใครสักคนที่จะปลดพันธะนี้”

เสียงลมพัด ใบไม้ไหว ทุกอย่างเงียบสงัด แต่สายตาของอัคนินเต็มไปด้วยความโหยหา

> “หากเจ้าอยู่ข้างข้า… ข้าจะสอนเจ้าใช้เวทโบราณ… และสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายเจ้า”

นทีรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ใจเต้นแรง แม้บรรยากาศรอบตัวจะเต็มไปด้วยความมืดและมนตรา

> “ฉัน… จะช่วยเจ้า… ถ้าเราอยู่ด้วยกัน”

รัตติกาลนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ ความสัมพันธ์ชาย–ชายท่ามกลางเวทมนตร์และคำสาปโบราณ

ตอนที่ 2 : คำสาปและพันธะ

หลังคืนเดือนมืด นทีกลับมาที่ป่าอีกครั้ง พร้อมกับ อัคนิน ชายหนุ่มร่างสูงผู้ถูกสาป มือเรียวเย็นจับมือเขาเบา ๆ

> “คืนนี้ เจ้าจะเรียนรู้เวทโบราณ… แต่ระวัง พลังบางอย่างอาจเกินความสามารถของมนุษย์”

นทีพยักหน้า แม้ใจเต้นแรง แต่กลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

อัคนินสอนนทีสร้างวงเวทบนพื้นดิน ลมหายใจของทั้งสองประสานกัน เส้นเวทเริ่มเรืองแสงแดงจาง ๆ

ทันใดนั้น เงามืดจำนวนมากพุ่งออกมาจากต้นไม้ ใบไม้กระพือ เสียงกรีดร้องแผ่วเบาดังขึ้นรอบตัว

> “วิญญาณเหล่านี้… ถูกบังคับด้วยคำสาปของบรรพบุรุษเจ้า แต่ตอนนี้ พวกมันหิวกระหาย” อัคนินพูดเสียงเย็น

นทีรู้สึกหวาดกลัว แต่เมื่อมืออัคนินสัมผัสมือเขา ความอบอุ่นและความมั่นใจแผ่เข้ามา

> “อย่ากลัว… เราจะสู้ไปด้วยกัน”

แรงดึงดูดบางอย่างทำให้หัวใจนทีเต้นแรง ขณะสายตาประสานกับอัคนิน

เขาไม่รู้ว่าความกลัวหรือความปรารถนาในใจเป็นแรงบันดาลใจให้เขาก้าวเข้าสู่พันธะเวท

เวทแดงสลับดำพุ่งขึ้น เงามืดถูกสลายไปทีละน้อย

อัคนินโอบนทีไว้แน่น

> “เจ้าสมควรอยู่ข้างข้า… และเราจะเผชิญทุกสิ่งด้วยกัน”

นทีรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นแรงไม่เพียงเพราะความตื่นเต้น แต่เพราะ ความใกล้ชิดที่ลึกซึ้งเกินกว่าคำพูดใดจะบรรยาย

ตอนที่ 3 : พิธีผูกพัน

เสียงสายลมครางหวิวพัดลอดหน้าต่างห้องเก่าแก่ในเรือนร้าง “นที” นั่งพับเพียบอยู่บนเสื่อเก่า ข้างหน้าเขาคือ “อัคนิน” ผู้ชายลึกลับที่ถูกคำสาปพันธนาการกับเวทมนตร์โบราณ

ในมือของนทีมี ด้ายแดงเก่าแก่ ที่อัคนินส่งมาให้ เขาบอกว่ามันคือกุญแจที่จะเปิดประตูระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ

> “เจ้าต้องผูกมันเข้ากับข้อมือข้า… แล้วอ่านคาถาตามนี้”

อัคนินยื่นแผ่นยันต์เก่า ๆ ที่เขียนด้วยอักขระโบราณออกมา

นทีมือสั่น แต่หัวใจกลับเต้นแรงด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจ เหมือนบางอย่างบอกว่า หากเขาผูกด้ายนี้ เขาจะไม่มีวันแยกจากอัคนินอีกต่อไป

ขณะที่เสียงสวดเริ่มดังขึ้น บรรยากาศในห้องพลันเย็นยะเยือก ไฟตะเกียงสั่นไหว เงารอบตัวเริ่มขยับราวกับมีชีวิต

> “ระวัง… ถ้าเจ้าหยุดกลางคัน วิญญาณอื่นจะเข้ามาแทน”

อัคนินเตือนเสียงต่ำ

นทีสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเอื้อมมือไปผูกด้ายที่ข้อมือของอัคนิน ด้ายแดงเรืองแสงวาบ แผ่ความร้อนออกมาเหมือนเลือดสด

ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องของวิญญาณนับร้อยก็ดังก้องรอบเรือน เงาดำพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง แต่กลับถูกยันต์บนพื้นผลักออกไป

นทีสะดุ้งเฮือก แต่ยังคงผูกจนแน่น ก่อนจะเปล่งคำสุดท้ายของคาถา

สิ้นเสียงนั้น ด้ายแดงกลับพันข้อมือของเขากับอัคนินเองโดยอัตโนมัติ แสงสว่างพุ่งออกจากกลางห้อง ร่างทั้งสองสะท้อนแสงแดงราวกับถูกหลอมรวมกัน

อัคนินมองนทีด้วยแววตาสั่นไหว

> “จากนี้ไป…เจ้าไม่อาจหนีจากข้าได้แล้ว แม้ตาย…”

นนท์ (นที) สบตาเขา ใจสั่นจนพูดไม่ออก แต่ในความหวาดกลัวกลับมีความอบอุ่นบางอย่างแทรกเข้ามาอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

ตอนที่ 4 : สายใยต้องห้าม

หลังพิธีผูกพันจบลง ห้องทั้งห้องกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง มีเพียงเสียงหอบหายใจของนทีที่ยังถี่แรง ข้อมือของเขาและอัคนินถูกเชื่อมด้วยด้ายแดงสลัว ๆ ที่เรืองแสงไม่ดับ แม้เขาจะพยายามดึงออก แต่ด้ายนั้นกลับแน่นยิ่งกว่ากุญแจเหล็ก

อัคนินเอื้อมมือมากุมข้อมือของนทีไว้

> “อย่าพยายามตัด…มันไม่ใช่แค่ด้าย มันคือคำสัญญาของวิญญาณ”

นทีเงยหน้ามองสบตา รู้สึกถึงความร้อนแผ่ว ๆ ที่ปลายนิ้วชายหนุ่ม ความรู้สึกประหลาดนั้นทำให้ใจเต้นแรง เขาพยายามเบือนหน้าหนี แต่เสียงทุ้มของอัคนินดังชิดหู

> “เจ้าคือผู้เดียวที่มองเห็นข้า… ผู้เดียวที่ปลดพันธนาการได้”

นทีรู้ว่าตัวเองควรกลัว เพราะนี่คือสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่ทุกครั้งที่สายตาของอัคนินแตะต้องมา เขากลับรู้สึกว่าโลกทั้งโลกว่างเปล่า เหลือเพียงเขากับคนตรงหน้า

คืนนั้น พวกเขาต้องนอนในเรือนเดียวกัน ด้ายแดงที่ผูกไว้ทำให้ทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ได้เกินหนึ่งช่วงแขน ทุกครั้งที่นทีขยับ เขาจะสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวของอัคนินอยู่ข้างกาย

ก่อนหลับตา อัคนินกระซิบแผ่ว

> “แม้จะถูกจองจำ ข้าก็ไม่เสียใจ…เพราะเจ้า”

นทีหัวใจสั่น เขาอยากถามว่าคำพูดนั้นจริงหรือเพียงเล่ห์ลวง แต่ริมฝีปากกลับไม่อาจเปล่งเสียงใดออกมา มีเพียงหัวใจที่เต้นแรงตอบกลับอยู่ในอก

และในความมืดสนิท ด้ายแดงนั้นยังคงเรืองแสงสลัว ๆ คล้ายประกาศว่าทั้งสองได้ถูกผูกพันด้วยชะตาที่ไม่มีวันถอยหลังอีกต่อไป

ตอนที่ 5 : เงาที่อิจฉา

คืนนั้นเอง ด้ายแดงที่เชื่อมข้อมือทั้งคู่กลับกลายเป็นแสงสว่างดึงดูดสิ่งชั่วร้าย วิญญาณเร่ร่อนหลายตนแห่กันเข้ามาล้อมเรือน ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความอาฆาต เสียงหัวเราะแหลมสูงดังราวกับจะฉีกหู

> “เจ้ากล้าผูกพันกับผู้ต้องสาป… ข้าจะฉีกเจ้าทั้งคู่ให้ขาด!”

เงาดำตนหนึ่งพุ่งเข้าหานที แต่ถูกอัคนินผลักออกด้วยพลังเวทสีดำแดงที่แผ่ออกจากร่าง

นทีร้องด้วยความตกใจ ขณะถูกโอบไว้แนบอก

> “อย่าปล่อยมือข้า… ไม่อย่างนั้นมันจะเอาตัวเจ้าไป!”

แม้หวาดกลัว แต่ในอ้อมแขนแข็งแรงนั้น นทีกลับรู้สึกปลอดภัยราวกับโลกภายนอกไม่อาจทำร้ายเขาได้อีก

ตอนที่ 6 : คืนแห่งความใกล้ชิด

เมื่อวิญญาณร้ายถูกขับไล่ เรือนกลับมาเงียบ แต่ร่างกายของนทียังคงสั่นเทา

อัคนินลูบเส้นผมเขาเบา ๆ

> “ข้าสาบาน…ตราบใดที่ด้ายนี้ยังผูกอยู่ ข้าจะไม่ให้สิ่งใดแตะต้องเจ้า”

คำพูดนั้นทำให้หัวใจนทีร้อนผ่าว ความใกล้ชิดเกินควรเริ่มก่อไฟบางอย่างในอก เขาอยากผลักออก แต่ก็อยากอยู่ใกล้อีกฝ่ายไม่แพ้กัน

สายตาประสานกันในความเงียบ แสงจันทร์ลอดหน้าต่างตกกระทบใบหน้าคมของอัคนิน ทำให้เงาดวงตาลึกซึ้งราวกับดึงวิญญาณทั้งดวงของนทีไป

ปลายนิ้วอัคนินแตะริมฝีปากนทีอย่างแผ่วเบา

> “อย่าปฏิเสธ…เพราะเจ้าเองก็ปรารถนาเช่นกัน”

นทีสะดุ้ง ใบหน้าแดงเรื่อ แต่ไม่อาจเอ่ยค้าน

ตอนที่ 7 : พันธะหรือความรัก

วันรุ่งขึ้น ด้ายแดงยังคงสว่างไม่ดับ แต่มันกลับแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนรัดข้อมือของนทีเจ็บปวด

อัคนินบอกว่านั่นคือสัญญาณว่า วิญญาณทั้งสองกำลังหลอมรวมกัน

> “ถ้าเจ้าปฏิเสธสายใยนี้ เจ้าจะตาย แต่หากยอมรับ…เจ้าจะเป็นของข้า ตลอดไป”

นทีนิ่งงัน หัวใจสั่นสะท้าน เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีคือความรักจริง หรือเพียงผลของมนตร์พันธะ

แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาเศร้าลึกของอัคนิน เขาก็รู้สึกว่า…บางที ความรู้สึกนั้นอาจเป็นของจริง

และในค่ำคืนนั้นเอง เขายอมเอ่ยเสียงสั่นเบา

> “ถ้ามันคือชะตา… ข้ายอม”

อัคนินยิ้มเศร้า ก่อนกอดเขาแน่นราวกับไม่อยากให้หายไปอีก

ตอนที่ 8 : วิญญาณผู้ครอบครอง

ด้ายแดงที่ข้อมือของนทีเริ่มรัดแน่นจนเลือดซึม อัคนินหน้าซีดลงทุกวัน ราวกับพลังชีวิตของเขาถูกดูดออกไป

ในคืนหนึ่ง วิญญาณร้ายปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันมิใช่แค่เงามืด แต่เป็นหญิงสาวในชุดขาว ดวงตากลวงโบ๋ ริมฝีปากเปื้อนเลือด

> “อัคนิน! เจ้าทรยศข้า… เจ้าสัญญาวิญญาณกับข้า แต่กลับเลือกมนุษย์ผู้นี้!”

นทีชะงัก เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่จริงอัคนินเคยถูก พันธะสัญญากับวิญญาณตนอื่น มาก่อน

อัคนินยืนบังนทีไว้ แม้แววตาสั่นไหว แต่เสียงยังหนักแน่น

> “ข้าไม่อาจรักเจ้าที่ไร้หัวใจ… ข้าขอปลดพันธะทั้งหมดเพื่อเลือกเขา”

วิญญาณหญิงกรีดร้อง สะบัดแขน เงามืดพุ่งเข้าหานที แต่ด้ายแดงกลับเปล่งแสงแรงกล้า ปกป้องเขาไว้

นทีน้ำตาไหลพราก เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่า ความรู้สึกของอัคนินไม่ใช่เพียงมนตร์สะกด แต่มาจากหัวใจที่แท้จริง

ตอนจบ : สายใยสุดท้าย

การต่อสู้รุนแรงขึ้น เรือนสั่นสะเทือน อัคนินใช้พลังสุดท้ายสร้างวงเวทกักวิญญาณหญิงไว้ แต่ผลคือร่างเขาเริ่มเลือนหาย

> “นที… ข้าไม่เหลือเวลาอีกแล้ว”

นทีคว้าข้อมือเขาแน่น เลือดจากด้ายแดงไหลอาบ

> “ไม่! เจ้าสัญญาแล้วว่าจะไม่ปล่อยมือข้า!”

อัคนินยิ้มเศร้า ก่อนก้มลงประทับริมฝีปากเบา ๆ ที่หน้าผากนที

> “ตราบที่เจ้าจำข้าได้ ข้าก็ยังอยู่ในตัวเจ้า”

แสงแดงสว่างวาบ ก่อนร่างอัคนินสลายไปกับอากาศ เหลือเพียงด้ายแดงที่กลายเป็นรอยแผลเป็นบนข้อมือของนที

เสียงกรีดร้องของวิญญาณหญิงมอดดับพร้อมกับเขา ความเงียบเข้าปกคลุม

นทีทรุดลงกับพื้น น้ำตาอาบแก้ม แต่หัวใจยังเต้นแรงพร้อมภาพความทรงจำสุดท้ายที่อัคนินทิ้งไว้

ทุกค่ำคืน เมื่อมองรอยแผลเป็นนั้น เขาจะรู้สึกถึงมืออุ่น ๆ ที่ยังคงกุมเขาไว้ และเสียงกระซิบเบา ๆ ในความมืด—

> “เจ้าคือพันธะสุดท้ายของข้า… และคือรักนิรันดร์ของข้า”

ตอนพิเศษ : ฝันใต้เงาจันทร์

คืนนั้น หลังทุกสิ่งจบลง นทีเผลอหลับไปบนเสื่อเก่าในเรือนร้างที่ว่างเปล่า

แสงจันทร์ลอดหน้าต่าง ร่างเขาสั่นไหวเมื่อฝันประหลาดปรากฏขึ้น

ในฝัน เขาเดินอยู่กลางทุ่งดอกไม้สีเลือด และตรงนั้น—อัคนินยืนรออยู่ในชุดขาวเรียบ ดวงตาไม่เศร้าเหมือนก่อน แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น

นทีรีบวิ่งเข้าไปคว้ามือ แต่ไม่อาจสัมผัสได้เต็มที่ มือของอัคนินโปร่งใสราวกับหมอก

> “ทำไมเจ้าต้องจากข้าไป…” นทีเสียงสั่น

อัคนินยิ้มบาง ก่อนเอื้อมมือเช็ดน้ำตาที่แก้มเขา แม้สัมผัสนั้นแผ่วเบา แต่ก็อบอุ่นเหมือนครั้งที่เคยอยู่ด้วยกัน

> “เพราะคำสาปของข้าถูกสร้างขึ้นจากความอาฆาต… ข้าไม่อาจอยู่ต่อได้ แต่ความรู้สึกของข้า ไม่เคยถูกคำสาปกลืนกิน”

นทีเงยหน้าสบตา รู้สึกถึงความจริงใจที่ไม่ต้องการคำสาบานใด ๆ ยืนยัน

อัคนินก้าวเข้ามาใกล้ เอื้อมผูกเส้นด้ายแดงเส้นใหม่บาง ๆ ไว้ที่ข้อมือนที

> “นี่ไม่ใช่พันธะเวท แต่คือพันธะใจ… มันจะไม่เจ็บ ไม่รัด และไม่หายไป”

ด้ายแดงนั้นเปล่งแสงอุ่น ๆ แล้วจางหายเข้าไปในผิวหนังนที ทิ้งไว้เพียงลายบาง ๆ คล้ายรอยสักรูปเส้นด้ายเล็ก ๆ

> “จำไว้…ตราบที่เจ้ายังหายใจ ข้าจะอยู่ในหัวใจเจ้าเสมอ”

สิ้นคำ เสียงลมพัดแรง ทุ่งดอกไม้สลายกลายเป็นความว่างเปล่า อัคนินเลือนหายไปทีละน้อย

นทีสะดุ้งตื่น รู้สึกถึงความเงียบของเรือนร้างอีกครั้ง แต่เมื่อก้มมองข้อมือ—เขาพบว่ามีรอยเส้นบาง ๆ สีแดงอ่อนอยู่จริง

เขายิ้มทั้งน้ำตา

> “เจ้าไม่ได้หายไปไหนเลย…อัคนิน”

และนับแต่นั้น ทุกคืนเดือนเพ็ญ เขามักได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ ข้างหูในยามหลับ

เสียงที่บอกซ้ำ ๆ ว่า…

> “พันธนาการที่แท้จริง ไม่ใช่คำสาป… แต่คือความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด”

✨ จบบริบูรณ์

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!