เสียงฝนพรำดังเปาะแปะลงบนหลังคาป้ายรถเมย์ยามค่ำคืน ถนนเงียบสงัดมีเพียงแสงไฟเหลืองนวลที่ส่องลงมาบนร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งยืนกอดอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน ทั้งที่สายฝนกระหน่ำลงมา แต่เสื้อผ้าของเขากลับไม่เปียกแม้สักนิด
> "ให้ตายสิ…คืนนี้คงต้องวิ่งตากฝนกลับหอแน่"
เสียงพึมพำมาจาก คังฮานึล นักศึกษาปีสองที่กำลังนั่งกอดกระเป๋าใต้ป้ายรถเมย์ ใบหน้าเปียกน้ำฝนเล็กน้อยเพราะวิ่งไม่ทันตอนฝนเทลงมา เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม พลางถอนหายใจยาว
และนั่นเอง…สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ยืนพิงเสาไฟฟ้าไม่ไกล ใบหน้าเรียวขาวสะอาดราวกับหลุดออกมาจากโปสเตอร์นักแสดง แต่สิ่งที่ทำให้ฮานึลขมวดคิ้วทันที คือ…
ฝนตกใส่แล้วไม่เปียก
หัวใจเต้น "ตึก" หนึ่งครั้ง ก่อนจะถอนหายใจอีกหน
> "เฮ้อ…อีกแล้วเหรอ"
ใช่—ฮานึลเห็นชัดเจนตั้งแต่เด็กว่า คนๆ นั้น… ไม่ใช่คน
เขาเลือกที่จะก้มหน้าก้มตาหยิบโทรศัพท์ออกมา กดเข้าแอปเช็กตารางรถเมย์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กลับได้ยินเสียงทุ้มใสๆ ดังขึ้นข้างหู
> "นาย…มองเห็นฉันใช่ไหม?"
เสียงนั้นใกล้จนทำให้ฮานึลสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมาก็เจอรอยยิ้มสดใสของชายหนุ่มที่โน้มตัวเข้ามาใกล้โดยไม่เว้นระยะส่วนตัวสักนิด
ฮานึลเบือนหน้าหนีทันที
> "ไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่อยากยุ่ง"
ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ
> "แปลว่าเห็นจริงๆ ด้วยสินะ! เยี่ยมเลย… ฉันเจอคนที่มองเห็นฉันแล้ว!"
เขาก้าวเข้ามานั่งข้างๆ ฮานึลที่พยายามเบี่ยงตัวหนี แต่เพราะฝนยังคงตกหนัก เขาจึงลุกไปไหนไม่ได้ ได้แต่นั่งหงุดหงิดให้ตัวเองโชคร้าย
> "อย่ายุ่งกับฉัน" ฮานึลเอ่ยเสียงนิ่ง
"แต่ฉันไม่มีใครคุยด้วยเลยนะ อยู่ที่นี่มาตั้งนาน… เบื่อจะตายอยู่แล้ว"
"แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ"
"ก็เพราะนายเห็นฉันนี่ไง"
ประโยคสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยความสดใสเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ ทำให้ฮานึลกุมขมับทันที คนอะไร—เอ๊ย ผีอะไร—หน้าตาหล่อ นิสัยดันน่ารำคาญสุดๆ
> "ฉันชื่ออะไรนะ…จำไม่ได้เลย" ชายหนุ่มเอียงคอ คิ้วขมวดนิดๆ ราวกับพยายามนึก
"เฮ้อ…ตายยังไงก็ไม่รู้ ชื่อก็จำไม่ได้… มีแต่นายแล้วล่ะที่จะช่วยฉันได้"
ฮานึลหันขวับทันที
> "เดี๋ยวก่อน! ใครบอกว่าจะช่วย!"
"ก็สายตานายบอกชัดเลยว่าใจดี"
คำพูดนั้นทำเอาฮานึลเถียงไม่ออก ได้แต่ทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วลุกขึ้นเมื่อรถเมย์แล่นมาจอดพอดี
แต่ทันทีที่ก้าวขึ้นรถ…เงาสะท้อนบนกระจกกลับเผยให้เห็นชายหนุ่มคนนั้นยืนอยู่ข้างหลัง—รอยยิ้มสดใสยังคงอยู่ และที่น่าตกใจกว่าคือ…เขาก้าวขึ้นรถตามมาด้วย!
ฮานึลรีบหันไปกระซิบเสียงเข้ม
> "เฮ้ย! ผีขึ้นรถเมย์ไม่ได้สักหน่อย!"
"เห็นไหม…ฉันทำได้! แปลว่าฉันพิเศษกว่าผีทั่วไปไง"
ชายหนุ่มยักคิ้วกวนๆ ราวกับภูมิใจในตัวเอง ฮานึลถึงกับกุมขมับหนักกว่าเดิม
คืนที่ควรจบด้วยการกลับหออย่างสงบ…กลับกลายเป็นคืนที่ชีวิตของคังฮานึลเริ่มปั่นป่วนโดย “ผีหนุ่มความจำเสื่อม” ผู้ไม่ยอมปล่อยให้เขามีชีวิตสงบสุขอีกต่อไป
รถเมย์เคลื่อนไปตามถนนเปียกฝน เสียงน้ำกระแทกกระจกดังซ่า ๆ ตลอดทาง คังฮานึล ทำเหมือนไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่สนใจ แต่ในใจกลับร้อนรนไม่หยุด เพราะ "สิ่งที่ไม่ควรจะนั่งได้" กลับนั่งไขว่ห้างอยู่ข้างๆ อย่างสบายใจ
> "นี่… ที่นั่งว่างเยอะแยะ ทำไมต้องนั่งเบียดฉันเนี่ย" ฮานึลกระซิบเสียงขุ่น
"ก็อยากนั่งข้างนาย" ชายหนุ่มตอบหน้าตาย
"ฉันไม่ได้อยากมีเพื่อนเป็นผีนะ"
"งั้นก็เป็นมากกว่าเพื่อนสิ"
เสียงหัวเราะสดใสของผีหนุ่มทำเอาฮานึลแทบอยากจะเอาหนังสือปิดหน้า คนหรือผีกันแน่ถึงได้กวนประสาทขนาดนี้
---
เมื่อถึงป้ายใกล้หอพัก ฮานึลรีบลุกขึ้นเตรียมลง แต่พอหันกลับมา…เขาก็ยังคงตามลงมาด้วย แถมยังเดินเคียงข้างเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ
> "อย่าตามมา!" ฮานึลหันไปดุ
"แต่ฉันไม่มีที่ไปนี่นา ป้ายรถเมย์อย่างเดียวก็เบื่อแล้ว"
"งั้นก็กลับไปป้ายนั่นสิ"
"ไม่เอา—อยากตามนายมากกว่า"
ฮานึลถอนหายใจยาว เดินเร็วขึ้น แต่พอถึงหน้าหอ…ผีหนุ่มก็เดินผ่านประตูเข้าไปด้วยเฉย ๆ โดยไม่ต้องแตะคีย์การ์ด
> "เห้ย! นี่มันหอพักส่วนตัวนะ!"
"ก็ผีไง จะเดินทะลุกำแพงยังได้เลย ฮ่า ๆ"
เสียงหัวเราะดังไปทั่วบันได ฮานึลรีบลากกระเป๋าขึ้นห้องอย่างหัวเสีย แต่สิ่งที่กลัวที่สุดก็เกิดขึ้นจริง—พอเปิดประตูห้องตัวเองออก…ผีหนุ่มก็ตามเข้ามาเหมือนเป็นเจ้าของห้องอีกคน
เขาล้มตัวลงบนเตียง (ทั้งที่จริงๆ นอนจริงไม่ได้) ก่อนจะกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างสนุกสนาน
> "โห…ห้องนายสะอาดกว่าที่คิดนะ"
"ออกไปเลยนะ ไม่งั้นฉันจะเรียกหมอผีมาจัดการ"
"หมอผีไม่ทำอะไรฉันได้หรอก~"
ฮานึลกุมขมับหนักกว่าเดิม
> "นี่มันบ้าไปแล้ว…เจอผีขี้ตื้อที่สุดในโลก"
---
คืนนั้นทั้งคืน ฮานึลไม่ได้นอนสบายเหมือนทุกวัน เพราะผีหนุ่มนั่งคุยไม่หยุด ตั้งแต่เรื่องดวงดาวบนท้องฟ้า เสียงฝน จนถึงเรื่องที่เขา "จำอะไรเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้เลย"
ใบหน้าของเขาเศร้าลงเป็นครั้งแรก
> "ฉันไม่รู้ว่าตัวเองคือใคร… ไม่มีแม้แต่ชื่อ… รู้แค่ว่าฉันตายแล้ว และอยู่คนเดียวมาตลอด จนเจอนาย"
น้ำเสียงจริงจังปนเศร้านั้นทำให้ฮานึลชะงักเล็กน้อย ใจที่ตั้งใจจะกันออกห่างกลับอ่อนลงอย่างไม่รู้ตัว
เขาถอนหายใจยาว
> "ก็ได้…ถ้านายอยากรู้จริงๆ ฉันจะลองช่วยหาว่านายคือใคร ตายยังไง"
"จริงนะ!"
"แต่ห้ามวุ่นวายกับฉันเกินไป เข้าใจไหม"
"รับทราบครับ!"
รอยยิ้มกว้างสดใสกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันทำให้หัวใจของฮานึลสั่นไหวโดยไม่รู้ตัว
เช้าวันใหม่ แสงแดดลอดผ่านผ้าม่านบางๆ เข้ามาในห้อง ฮานึลลุกขึ้นบิดขี้เกียจ แต่พอหันไปข้างๆ…เกือบหัวใจวาย เพราะมีใครบางคนนอนตะแคงอยู่ข้างเตียง มองเขาไม่วางตา
> "อรุณสวัสดิ์ครับ~" ผีหนุ่มยิ้มกว้าง
"เฮ้ย! ไปยิ้มอยู่ตรงนั้นทำไมแต่เช้า!"
"ก็อยากมองหน้านายตื่นนอนอะ…น่ารักดี"
ฮานึลหยิบหมอนฟาดใส่ทันที
> "หยุดพูดอะไรแปลกๆ ได้แล้ว!"
แต่คนถูกฟาดกลับหัวเราะเสียงดังเหมือนไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย
---
หลังจากจัดการตัวเองเสร็จ ฮานึลสะพายกระเป๋าจะออกไปเรียน แต่แล้วเสียงใสๆ ก็ดังขึ้นอีก
> "ไปด้วยสิ"
"ไปด้วย? นายเป็นผีนะ จะไปมหาลัยทำไม"
"ก็ไม่อยากอยู่ห้องคนเดียวอ่ะ~"
ฮานึลกลอกตา แต่พอเดินออกไป เขาก็ตามมาเหมือนเงาตามตัวจริงๆ
---
มหาวิทยาลัยตอนเช้าเต็มไปด้วยนักศึกษาที่รีบเร่ง ฮานึลพยายามทำตัวปกติ แต่จริงๆ แล้วในห้องเรียนของเขามีอีก “หนึ่งคน” ที่ไม่มีใครเห็นนั่งอยู่ข้างๆ
ผีหนุ่มนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ พลางพึมพำ
> "อู้ว~ สาวๆ มหาลัยน่ารักกันจังเลย"
"เงียบหน่อยสิ!" ฮานึลกดเสียงกระซิบ
"ทำไมต้องหึงด้วยล่ะ นายก็น่ารักกว่าอยู่แล้ว"
ฮานึลแทบเอาหนังสือฟาดหัวอีกครั้ง แต่ทำไม่ได้เพราะจะดูเหมือนคนบ้าในสายตาคนอื่น
ในขณะที่อาจารย์กำลังบรรยายเสียงจริงจัง…ผีหนุ่มก็ทำท่าก๊อปปี้ตามเสียง คราวนี้เพื่อนข้างๆ ของฮานึลหันมามองเขาแบบสงสัย ทำให้เขารีบทำท่าก้มจดเลคเชอร์เพื่อกลบเกลื่อน
---
พักกลางวัน ฮานึลเดินออกมากับเพื่อนสนิท ซอนดงยอบ
> "ช่วงนี้นายดูประสาทๆ ไปนะฮานึล พูดกับตัวเองบ่อยด้วย"
"ห้ะ? มะ…ไม่ใช่สักหน่อย"
"เฮ้~ หรือว่ามีแฟนแล้วแอบโทรคุย?"
ทันใดนั้นเสียงกระซิบใสหูดังขึ้น
> "บอกเขาสิว่าฉันเป็นแฟน~"
ฮานึลกัดฟันแน่น "หยุดกวนได้แล้วโว้ย!" แต่เพื่อนดงยอบกลับหัวเราะ คิดว่าเพื่อนโมโหเรื่องอื่น
---
ระหว่างเดินผ่านตึกคณะเก่า…ฮานึลกับผีหนุ่มก็หยุดกึกโดยไม่ได้นัดหมาย
ใบหน้าของผีหนุ่มเคร่งขรึมขึ้นทันที
> "แปลกจัง…ที่นี่ ฉันรู้สึกเหมือนเคยมา"
เขายกมือแตะกำแพงตึกเก่า สีหน้าเคร่งเครียดราวกับบางความทรงจำกำลังจะผุดขึ้นมา แต่ยังพร่าเลือน
ก่อนที่ฮานึลจะได้ถามต่อ เสียงทุ้มสุขุมของรุ่นพี่คนหนึ่งก็ดังขึ้นด้านหลัง
> "คังฮานึล ใช่ไหม? มาช่วยขนของหน่อยได้ไหม"
ฮานึลหันไปก็พบกับ อีซูฮยอก รุ่นพี่ปีสี่ที่ทั้งคณะต่างยกให้เป็นคนอบอุ่น สุขุม และไว้ใจได้
แค่เพียงวินาทีนั้นเอง—ใบหน้าของผีหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือด ตาเบิกกว้าง ร่างสั่นเล็กน้อย
> "ฮานึล…ฉัน…รู้สึกกลัวเขา"
เสียงแผ่วสั่นสะท้านทำให้ฮานึลใจหายวาบ
---
ความทรงจำบางส่วนที่เกี่ยวกับการตายของผีหนุ่ม…อาจเชื่อมโยงกับ “รุ่นพี่ซูฮยอก” คนนี้
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!