เสียงลมพัดกระทบหน้าต่างไม้เก่าแก่ของบ้านโบราณกลางกรุงเทพฯ ทำให้ "ญานิศา" หรือ "น้ำหนึ่ง" หญิงสาวยุคใหม่ผู้ทำงานเป็นภัณฑารักษ์ในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง สะดุ้งเล็กน้อย
เธอเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเรือนไทยที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ บ้านไม้สองชั้นหลังนี้มีกระจกเงาบานหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ตรงห้องกลาง เป็นกระจกเก่า กรอบไม้งานฝีมือที่ดูเหมือนมีชีวิต
คืนแรกที่เธอเข้าพักนั้น เธอฝันประหลาด ฝันว่ายืนอยู่ในชุดไทยตรงหน้ากระจก มีชายหนุ่มในชุดขุนนางมองเธอจากอีกฝั่งของเงาสะท้อน
“แม้นกาลเวลาแปรผัน ข้ามภพยังรอท่านอยู่ แม่หญิง”
เธอตื่นขึ้นพร้อมเหงื่อซึม กลางคืน ทั้งที่เปิดแอร์เย็นเฉียบ ความฝันช่างเหมือนจริงเสียจนสัมผัสได้ถึงกลิ่นบุหงารำไปจางๆ และดวงตานุ่มลึกคู่นั้นยังคงฝังแน่นในหัวใจเธออย่างไร้เหตุผล
น้ำหนึ่งเริ่มสังเกตว่า กระจกบานนั้นไม่สะท้อนภาพเธอในบางจังหวะ โดยเฉพาะตอนเช้าตรู่หรือหลังพระอาทิตย์ตก
และเมื่อเธอวางมือลงบนกรอบไม้นั้น เธอเห็นภาพ... เป็นภาพเหมือนตัวเธอเอง แต่แต่งชุดไทยนั่งพับเพียบในเรือนไม้ นอกหน้าต่างคือสายน้ำเจ้าพระยาเมื่อครั้งอดีต
หญิงสาวผู้มีหน้าตาเหมือนเธอเปี๊ยบ เอ่ยขึ้นว่า?
“ถึงครานั้นจักได้พบกันใหม่ เจ้าจงเตรียมใจไว้”
เมื่อสะดุ้งตื่น เธอพบเพียงตัวเองอยู่คนเดียวในห้อง แต่ความรู้สึกเหมือนมีใครเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลาไม่จางหาย น้ำหนึ่งรู้สึกแปลกใจ เรือแห่งนี้เหมือนมีเรื่องลึกลับ
เย็นวันหนึ่ง ขณะที่น้ำหนึ่งนั่งสำรวจตรวจเอกสารเก่าอยู่นั้น เธอพลจดหมายที่ไม่มีผู้ส่งเขียนด้วยลายมือ สมัยรัชกาลที่ 5
ในนั้นกล่าวถึงนางสาวญานิศา บุตรตรีท่านพระยาธรรมนิเวศน์"ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ และผู้ที่ตามหาเธอคือ"หลวงภาณุเวช"ข้าราชกาลในพระคลัง หัวใจของน้ำหนึ่งเต้นแรง นึกคิดไปเธอไม่เคยรู้จักชื่อนี้มาก่อนแต่ทำไมจึงคุ้นนัก
ตกกลางคืน คืนนั้นเองเธอฝัน ว่ายืนอยู่หน้ากระจก เธอเอื้อมมือไปแตะกระจกบานนั้น เกิดแสงวูบออกมาพร้อมเธอถูกดูดเข้าสู่กระจกบานนั้น ย้อนเข้าไปสู่ปี 2442
ตื่นขึ้นอีกครั้งในเรือนไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำหนึ่งพบว่าตนสวมชุดไทย ผมยาวสลวย และถูกเรียกว่า “คุณหนูนิศา” โดยบ่าวไพร่ในบ้าน
เธอตกใจ แต่ยิ่งพยายามหาคำตอบ กลับยิ่งเหมือนถูกจองจำด้วยภาพลวงตาของโชคชะตา
จนกระทั่งเขา "หลวงภาณุเวช" ปรากฏตัว ชายหนุ่มในฝันของเธอ ดวงตาคู่นั้นยังเหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว
“ท่านแม่หญิง ในที่สุด เราก็ได้พบกันอีกครา”
น้ำหนึ่งรู้ว่าตนอยู่ในร่างของ "คุณนิศา" หญิงสาวผู้มีชาติกำเนิดสูงศักดิ์ และเป็นคนรักของหลวงภาณุเวชในอดีต
เธอเริ่มสัมผัสได้ถึงเศษเสี้ยวความทรงจำของร่างนี้ ความรัก ความผูกพัน และ การจากลา
ภาพเหตุการณ์หนึ่งฉายชัดในห้วงความคิด "คุณนิศา" ถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับชายอื่น และหายตัวไปในคืนก่อนพิธี
“หากแม้นมิอาจครองกันภพนี้ ขอให้พบกันในชาติหน้าเถิด
หลวงภาณุเวชเริ่มรู้สึกว่าน้ำหนึ่งไม่ใช่คนเดิม เธอพูดจาแปลก ใช้ศัพท์สมัยใหม่บางคำ แววตาก็เปลี่ยนไป
แต่หัวใจเขากลับยิ่งใกล้เธอมากขึ้น และความรักที่มีให้ไม่เคยลดลงแม้แต่น้อย
ในคืนที่ฝนตกหนัก เขาพานางไปดูดอกลำดวนที่บ้านสวน นางถามด้วยแววตาซึ้งว่า
“ท่านไม่เคยลืมเลยหรือเจ้าคะ?”
“ข้า เฝ้ารอมาเนิ่นนาน จนไม่มีวันใดที่หัวใจจักไม่คิดถึงเจ้าเลย แม่หญิงของข้า”
น้ำหนึ่งเริ่มตระหนักว่าเธอไม่ได้แค่หลงมาในอดีต แต่เหมือนบางสิ่งนำพาเธอกลับมาเพื่อทำสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ
เธอเริ่มฝันถึงหญิงชราเตือนว่า...
"เจ้ามีเวลาเพียง 29 วัน พระจันทร์เต็มดวงครั้งหน้า จะปิดผนึกประตูภพ"
หมายความว่าเธอจะต้องเลือกว่าจะกลับไปยังปัจจุบัน หรืออยู่ที่นี่..โดยไม่ไหวบกลับ
หลวงภาณุเวชพาน้ำหนึ่งไปยังห้องลับใต้เรือน
ซึ่งเก็บของสำคัญจากอดีต จดหมายรักเก่า
กำไลหยก และผ้าซิ่นที่เธอเคยใส่
ทุกสิ่งล้วนยืนยันว่า"คุณนิศา"เคยมีอยู่จริง
และเธอคือคนรักของเขา
น้ำหนึ่งกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่..เมื่อเธออ่านจดหมายฉบับหนึ่ง
แม้ข้ามภพ ข้าก็จักรักเพียงเจ้า แม้ไม่อาจ
เคียงคู่ ขอเป็นเงาเฝ้ารอเธอทุกคืนวัน
ในคืนหนึ่ง น้ำหนึ่งสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงร้อง
สะอื้นแผ่วเบาใต้หมอน เธอเปิดหมอนออก
พบกล่องไม้เล็กซ่อนไว้
ข้างในคือปิ่นทองสลักชื่อ "นิศา"
พร้อมข้อความ...ว่า
"เก็บไว้เถิด..เพื่อวันที่เจ้ากลับมา"
ใครบางคนวางมันไว้ที่นี่ และรอเธอกลับมา
เสมอ
น้ำหนึ่งยืนอยู่หน้ากระจกโบราณในเรือคนไทย
พร้อมหลวงภาณุเวชที่เอื้อมมือมาจับเธอไว้
"ท่าน..หากข้าจากไปอีกครั้ง ท่านจะยังรอข้า
อยู่หรือไม่"
"ตราบดวงจัทร์ยังลอยฟ้า ตราบใจข้ายังเต้นอยู่
ข้าจักรอเจ้า แม้เป็นร้อยชาติพันภพ"
น้ำหนึ่งกลับ และอธิษฐาน ให้มีสักวันที่เธอได้
เลือกด้วยหัวใจ ไม่ใช่โชคชะตา
ในขณะที่น้ำหนึ่งกำลังค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของตนเอง มีบางสิ่งเริ่มเคลื่อนไหวในความมืด
บ่าวหญิงคนหนึ่งชื่อ 'บุญเรือน' เตือนนางว่า..
"คุณหนูพึงระวังคนใกล้ตัว คนที่หัวใจแฝงเงามืด
มิใช่ทุกผู้ที่ยิ้มให้ จะหวังดีต่อท่าน"
ขณะเดียวกัน น้ำหนึ่งเริ่มได้ยินเสียงลึกลับจากบานกระจก ในยามค่ำคืน ราวกับมีใครกำลังเฝ้า
รอคอยโอกาสบางอย่าง
หลวงภาณุเวชเปิดใจ เขาเล่าเรื่องในอดีต ความเจ็บปวดจากการสูญเสียคุณนิศา และความทุกข์จากการไม่สามารถช่วยเธอไว้ได้
เขายื่นปิ่นทองให้เธอ
"ข้ามิรู้ว่านี่คือฝันหรือความจริง หากแต่น้ำเสียงเจ้าทำให้ข้าอยากเชื่อว่า..เจ้าไม่ใช่คนเดิม แต่ใจเจ้า..ยังคงเป็นของข้า"
น้ำหนึ่งเริ่มสับสน เธอคือใครกันแน่? คนในอดีต
หรือคนในยุคปัจจุบัน ที่บังเอิญมาสวมรอยรัก
ของใครอีกคน?
ในเรือนไทยหลังเก่า มีห้องหนึ่งถูกปิดตายด้วยโซ่ เมื่อแอบเข้าไป น้ำหนึ่งพบสมุดบันทึกของ
"คุณนิศา" ที่เขียนถึงความลับในใจ เธอถูกหมั้นโดยไม่สมัครใจกับชายที่ชื่อ"เจ้าคุณสุนทร" ชายผู้ลุ่มหลงและอำมหิต
ในคืนสุดท้ายก่อนหายตัวไป มีคำเขียนไว้ว่า..
"ข้าขอปลดปล่อยตนจากพันธนาการ หากวิญญาณข้ายังวนเวียนอยู่ ขอให้ได้กลับ
มาพบคนที่ข้ารักอีกครา"
หลวงภาณุเวชเริ่มเชื่อว่าน้ำหนึ่งคือคนรักของเขา ที่กลับชาติมาเกิด หรือถูกบุพเพกรรมดึงกลับมา
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!