...อารัมภบท...
ธันย์ผู้ที่มองเห็นสิ่งลี้ลับได้ตั้งแต่เกิดและเพราะตัวเขาเป็นถึงลูกหลานของตระกูลขุนนางในสมัยร.3 โดยที่ตระกูลเขานั้นไม่ได้มีเรื่องเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับตั้งแต่แรกแต่มันเกิดขึ้นเมื่อสมัยร.4 เป็นเพราะผู้นำตระกูลในตอนนั้นไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้และดันมีคนตายด้วยนํ้ามือของเขาเอง
ธันย์และริชนั้นเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ประถมเพราะว่าธันย์นั้นได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนวัดแถวบ้านของตนตอนอยู่กำลังขึ้นประถมศึกษาปีที่ 2 ตอนได้อายุครบ 9 ขวบ เหตุผลที่ธันย์ย้ายโรงเรียนก็เพราะว่าตนนั้นมักชอบพูดคนเดียวหรือไม่ก็ชอบพูดกับคนอื่นแปลกๆทำให้ธันย์ไหนตอนอายุ 8 ขวบไม่มีเพื่อนเลยสักคนเดียว
เมื่อธันย์ได้อายุครบ 9 ขวบ ก็ได้ทำการย้ายโรงเรียนเพราะทางบ้านกลัวธันย์จะเหงาและกลัวว่าจะเป็นซึมเศร้าเพราะการไม่มีเพื่อน
เมื่อได้ย้ายโรงเรียนใหม่มาแล้วธันย์ก็กลัวว่าตัวเองนั้นจะไม่มีเพื่อนเหมือนอย่างที่เคยเป็นแต่จนกระทั้งมาเจอกับริชที่เป็นถึงลูกหลานเศรษฐีที่เป็นคนชอบพูดชอบจาเอาเป็นมากๆและไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองธันย์เป็นคนยังไง
พอธันย์ได้เข้าเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก็ได้คนอย่างริชค่อยแนะนำเรื่องต่างๆในโรงเรียนจนทั้ง 2คนสนิทกันไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ม.ต้นจนถึงม.ปลายริชก็ตามธันย์ไปเรียนด้วยขนาดที่ว่าตัวติดกันไม่ห่าง
ธันย์และริชเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแม่โจ้และเป็นถึงรุ่นพี่ที่มีดีทั้งการเรียนและกีฬาอีกด้วย ทั้ง 2 คนร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วยกันมาตั้งแต่ประถม
ริชชอบทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตทำเอาเพื่อนสนิทอย่างธันย์ต้องดูแลและค่อยห่วงอยู่เสมอ เหมือนกับเรื่องเมื่อทั้งคู่อยู่ปี 2 ได้เกิดการทะเลาะวิวาทที่มหาวิทยาลัยตอนวันรับน้องเหตุเพราะบังเอิญเดินชนไฟและต่อยหน้าไฟ ไฟคู่อริของตนตั้งแต่ประถม
มาวันหนึ่งก่อนที่คนทั้งคู่จะอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ ได้เกิดเรื่องต่างๆมากมาย ทั้งอุบัติเหตุ จมน้ำหรือจะโดนผีเอาไปอยู่ด้วยแต่ก็รอดมาได้
ทั้งคู่ต้องมาเจอเรื่องที่น่ากลัวกว่าโดนผีหลอกเหมือนครั้งที่ผ่านมาแต่เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ทั้งคู่ได้ไปทำกิจกรรมที่เขาใหญ่ที่มีตำนานมากมายและการสูญเสียครั้งใหญ่เป็นเพราะไปเจอสิ่งที่ไม่ควรจะเจอ
แล้วธันย์ก็ต้องเสียคนรอบข้างไปที่ละคนอย่างปริศนาเพราะคนที่ต้องการตัวธันย์ไปตั้งแต่แรกเห็นแต่กลับเอาไปไม่ได้เพราะมีคนที่ค่อยคุ้มกันธันย์และคนที่ต้องการเอาตัวธันย์ไปตั้งนานแล้ว
เมื่อริชนั้นรู้จักพ่อครูที่สามารถช่วยคนทั้งสองได้ แต่พอไปถึงเขาคนนั้นกลับปฎิเสธที่จะช่วยเหลือโดยเขาคนนั้นให้เหตุผลมาว่า “กูไม่มีเหตุจำเป็นต้องช่วยมึง”
ตอนนั้นไฟและเพื่อนๆได้เข้าไปไหนป่าตอนกลางคืนแต่ต้องกลับออกมาได้แค่ร่างที่ไร้วิญญาณ คนที่รอดคนเดียวก็คือไฟแต่กลับกลายต้องมาเป็นคนบ้าที่พูดไม่รู้เรื่อง
...บทที่ ๑...
..._________________________________________...
“สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา สัพเพ โอปาติกา สัพเพ อุปปันนิกา...สั..พ..กา.
“ไอธันย์”
เสียงของเพื่อนอย่างริชที่กำลังเรียกธันย์เพื่อให้ลงมาจากบ้านได้แล้วเพราะอีกไม่นานจะเป็นวันที่ทั้งคู่ต้องกลับไปที่มหาวิทยาลัยก่อน 2 สัปดาห์เพื่อเตรียมตัวกับพิธีรับน้องปี.1 ที่กำลังจะเข้ามาศึกษาในคณะแห่งนี้ โดยที่ทั้งคู่เป็นรุ่นพี่ที่น่านับถือ(ตรงไหน)เลยจำเป็นต้องเป็นคนดูแลกิจกรรมพิธีรับน้องนี้ขึ้นมา
“อะไร! รอแป๊บนึง กำลังเสร็จแล้ว”
“รีบลงมาา คนเขากำลังรอ”
“มาแล้ว ขยันเรียกมากนะมึง”
“เออ ก็คนมันรีบจะให้ทำไงละเฮ้ย!”
เมื่อเก็บข้าวของสัมภาระเสร็จ ธันย์ก็รีบวิ่งลงมาหาริชทันที่ โดยกลัวกว่าจะช้าไปกว่านี้จะโดนเพื่อนอย่างไอริชบ่นได้ธันย์เลยวิ่งลงมาอย่างเร็วทำเอาให้ตกใจ
“อะไรๆ ไอธันย์ มึงวิ่งลงมาทำไหม”
ตึง ตึง ตึง
เสียงวิ่งของธันย์ทำให้เพื่อนถามอย่างตกใจว่าเพื่อนของตนนั้นทำไมถึงรีบร้อนนักกลัวว่าเพื่อนจะเจอสิ่งที่น่ากลัวเข้าให้ไม่ทันไรธันย์ก็วิ่งมาถึงด้านล่างโดยมีเสียงหอบตามมา
แฮก แฮก แฮก
“ไอธันย์มึงจะรีบอะไรขนาดนั้น”
“เอ้า? ก็บอกเองนิว่ามึงรีบ กูเลยวิ่งลงมา”
“มึงบ้าเปล่าธันย์ เดียวก็ตกบันไดตายห่าหรอกมึง”
“กูไม่ตกบันไดละกัน มึงก็เห็นนิว่ากูไม่ตกบันได”
“ถ้าตกบันไดขึ้นมากูจะขำให้แต่ถ้าไม่ตกเดี๋ยวกูทีบมึงเอง”
“มึงกล้าก็ลองดูดิ!”
เสียงของธันย์ที่กำลังเถียงกับริช ดังถึงหน้าบ้านจนชาวบ้านคิดว่าเกิดเรื่องขึ้นและแม่ของธันย์ก็ได้เดินเข้ามาดูคนทั้ง2ที่กำลังถงเถียงกันไปมาแต่แล้วกลับกลายเป็นริชที่กำลังโดนบ่นชะเองธันย์ก็บ่นโดยไม่เว้นช่องไฟให้ริชพูดเลยสักคำ ทำให้เจ้าตัวทำหน้าบูดบึ้งเหมือนลูกหมา
“เกิดหยังขึ้นนิ เป็นหยังเสียงคือดังคักแท้ ”
(เกิดอะไรขึ้น ทำไหมเสียงดังจัง)
“บ่มีหยังดอกแม่ แค่จ่มบักริชซรือๆเนี่ยล้า”
(ไม่มีอะไรหรอกแม่ แค่บ่นไอริชเฉยๆเนื่ยแหละ)
พูดจบธันย์ก็หันมาบอกกับริชให้ไปขึ้นรถได้แล้วเดี๋ยวจะไปสายทั้งๆที่ริชนั้นทำหน้าบูดบึ้งใส่ธันย์ ธันย์ก็ไม่ได้สนใจเพื่อนตัวเองสักเท่าไหร่เพราะริชจะโดนบ่นเป็นประจำอยู่แล้วโดยที่เจ้าตัวไม่ค่อยซํ้านึกผิดสักเลยโดนธันย์บ่นอยู่ตลอด
โดยรถที่ทั้ง 2 ขึ้นไปนั้นเป็นรถของทางบ้านริช เป็นรถครอบครัวสี่ประตูด้านในเป็นเบาะสามารถปรับเอนตัวนอนลงได้
“ไอธันย์ ถึงแล้วบอกกูด้วย”
“ไม่อะ กูจะนอนเพราะต้องตื่นเช้ามาจัดกระเป่าเนี่ย”
“กูบอกมึงแล้วนิให้จัดตั้งแต่เมื่อวาน”
“ก็กูมั่วแต่ตีป้อมอะ”
“แล้วใครให้เล่นละ”
“กูเล่นเองกูไม่คุยกับมึงละ กูจะนอน”
เอ้า!
พูดจบธันย์ก็เอนตัวนอนทันที่โดยทำเป็นหูทวนลมไม่ฟังสิ่งที่เพื่อนตัวเองกำลังจะพูด
เฮ้อ~ เสียงถอนหายใจของริชนั้นบ่งบอกความเหนื่อยใจที่มีต่อให้ธันย์ที่เป็นเพื่อนสนิทของตน
เอี๊อดดด
เสียงเบรกกะทันหันของรถทำให้ทั้งคู่ที่กำลังนอนพักผ่อนได้สะดุ้งตื่นขึ้นมา เหมือนกับว่ามีตัวอะไรวิ่งตัดหน้ารถมาอย่างเร็ว
“เชี้ย!เกิดอะไรขึ้นนิริช”
“ไม่รู้วะ มีอะไรตัดหน้ารถเปล่า”
ต่างคนก็ต่างตกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“ลุงสม เป็นหยังถึงเบรกจังซั่น”
(ลุงสม เป็นอะไรถึงเบรกอย่างงั้น)
“มันมีแม่หญิงวิ่งตัดหน้ารถนี้แมะ ข่อยเลยเบรกจังซั่นนะบักธันย์”
(มันมีผู้หญิงวิ่งตัดหน้ารถนี้ไง ผมเลยเบรกแบบนั้นนะไอธันย์)
ทั้งคู่ก็ต่างตกใจกลัวว่าหญิงสาวที่ลุงนั้นพูดมาจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ทั้ง 2คนเลยตัดสิ้นใจลงจากรถเพื่อไปดูอาการแต่แล้วข้างหน้ากลับเป็นแค่ถนนว่างๆที่นานๆที่จะมีรถขับผ่านแม้แต่คนเดินไปมาก็ไม่ค่อยจะได้เห็นเลย
“เอาแล้วไง กูว่าละทำไมถึงได้กลิ่นตุๆมาสักพักหนึ่งละ ”
สิ่งที่ธันย์ได้พูดออกมาทำให้ริชและลุงสมนั้นตกใจพอสมควรว่ากลิ่นที่ธันย์ได้กลิ่นนั้นคือกลิ่นอะไรกันแน่
“ไอธันย์ ที่มึงพูดมามันคืออะไร ใช่ไอนั้นใช่ไหม”
“เอ่อ ก็นั้นแหละที่กูจะพูดเอาไว้ค่อยคุยไปก่อนเดียวมันจะเย็น”
“มึงสัญญานะว่าจะเล่าให้กูฟัง”
“เอ่อนะ กูสัญญา”
ธันย์ตัดจบโดยการสัญญาไปแบบนั้นเพราะรู้ดีว่าริชนั้นเป็นคนที่ชอบตื้อมากๆ ถ้าอยากรู้อะไรแล้วต้องได้รู้(ถือว่าเป็นคนน่ารำคาญคนหนึ่งเลยแหละ) ระหว่างการขับรถลุงสมก็ได้ทำการเปลี่ยนบรรยากาศเพราะทั้งธันย์และริชนอนต่อไม่ลงสิ่งที่ลุงสมนั้นได้เปิดระหว่างทางคือ เดอะโกสเรดิโอที่เป็นช่องรายการเล่าเรื่องสยองขวัญที่ผู้ชมทางบ้านนำมาเล่าและตอนที่ลุงสมเปิดคือ เพื่อเธอ
“ลุงสม! เปิดเฮ็ดหยังข่อยย่าน”
“มึงฟังไปเถอะไอริช กูชอบฟังดี”
“ไม่ฟัง กูไม่อยากฟังเว้ยย!”
ทันที่ที่ริชพูดจบก็ได้ทำการหาหูฟังของเจ้าตัวขึ้นมาเพื่อเปิดเพลงกลบเกลื่อนเรื่องเล่าที่กำลังได้ยินต่างจากธันย์ที่ดูเหมือนจะชอบและก็ชินกับเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่เด็กไม่ทันไรก็ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ก่อนจะถึงหอพักของตัวเองก็ได้ทำการแวะปั๊มเพื่อหาอะไรกินตามภาษาคนหิว
“กูเมื่อยจะตายละไอธันย์”
“เอาเถอะเดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“เอ่อๆ มึงจะเอาอะไรไหมกูจะเข้าเซเว่น”
“กูเอาอเมริกาโนเย็นหวานน้อยกับเซนวิชผักโขมละกัน มึงจ่ายนะริช”
“กูอีกละ อะไรก็กูจริงๆ”
พูดจบธันย์ก็ได้หันหลังหนีเพื่อนเพื่อไปเข้าห้องนํ้าเพราะเจ้าตัวจะอั้นไม่ไหวแล้วมั่วแต่คุยกับริช
ฮือออ
เสียงพ่นลมหายใจของธันย์ทำให้รู้เลยว่าได้ปลดปล่อยมันออกมาอย่างสบายใจ
“เฮ้ยน้อง! ใหญ่ดีนิ”
“ห้ะ? ครับพี่ว่าไงนะ”
“ก็พี่บอกว่าใหญ่ดีนิ ไม่ได้ยินเหรอ”
“เอ่อ ขอบคุณครับ แต่คงใหญ่สู้เท่าพี่ไม่ได้หรอกครับ ของพี่ใหญ่กว่าตั้งเยอะ 55”
พูดจบธันย์ก็รีบรูดซิปกางเกงขึ้นมาทันที่และรีบเดินออกมาโดยไม่สนใจว่าเขาจะพูดอะไรต่อแล้วตรงดิ่งไปทางที่ริชกำลังนั่งกินไอติมอยู่หน้าเซเว่นอย่างสบายใจ
“อ้าวธันย์ มึงรีบจังวะอย่างกับเจอผี”
“เอ่อ กูเจอ”
“อีกละที่นี่เป็นแบบไหน”
“ก็แม่ง.อย่างงี้เว้ย..”
ธันย์ที่กำลังเล่าเรื่องที่ตัวเองพึ่งเจอมาตะกี่ทำให้เพื่อนอย่างไอริชหลุดขำออกมาทันที่โดยไม่แยแสธันย์ที่กำลังเล่าให้ฟังอย่างตั้งใจ
5555555
“บ้านะไอธันย์ กูเหลือจะเชื่อ”
“มึงต้องเชื่อดิ ตอนกูเห็นเขานะกูแทบวิ่ง หน้าตาแม่งน่ากลัวเกิน”
“หนักกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้วนิ มึงจะกลัวไร”
“คือมึงไม่เข้าใจกู คือแม่งข้างล่างเขาเละเทะ กูคิดละเสียววาบ ”
สิ่งที่ธันย์พูดออกมาทำให้ริชที่ขำอยู่แล้วยิ่งขำหนักไปมากกว่าเดิมจนเจ้าตัวขำจนท้องแข็งแต่ธันย์ก็มองหน้าเพื่อนของตนและเดินหนี้ขึ้นรถโดยไม่สนใจริชที่กำลังขำจนจะตาย
“มึงขำคนเดียวไปเถอะ กูขึ้นรถละ”
“เฮ้ย! รอกูด้วย ของกินมึง มึงไม่เอาเหรอ”
“กูเอา มึงก็รีบตามมา”
“รอกูด้วยสิเฮ้ยย”
ทันที่ที่พูดไม่ทันจบริชก็หยิบถุงเซเว่นและวิ่งตามธันย์ไปขึ้นรถทันที่เหมือนกลัวเพื่อนจะทิ้งตนไว้
ฮึ ฮึ ฮึ
เสียงหัวเราะที่เยือกเย็นทำเอาให้ธันย์ขนลุกที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ไอธันย์”
“อะไร มึงมีไรว่ามาคนกำลังกินแซนวิชอยู่นิ”
“คือกูเลิกกับน้องเขาแล้วว”
“คนไหน”
“คนไหนเชี้ยไรมึง น้องหวานเว้ย”
“เอ่อน้องหวาน หวานไหนวะ”
“มึงกวนตีนกูใช่ไหมไอธันย์”
“กูเปล่า..อิอิอิ”
พูดไม่ทันจะจบริชก็ได้หยิบขวดน้ำทำท่าจะปาใส่ธันย์ที่กำลังขำอย่างใจจะขาดที่ริชเลิกกับหวานแฟนคนปัจจุบันของเขาโดยเหตุผลที่เลิกกันคือหวานนั้นได้ไปมีคนใหม่เป็นนักศีกษาปีเดียวกันกับทั้งคู่และเป็นถึงคู่อริเก่าของทั้งสองมาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ก็ยังเกลียดขี้หน้ากันอยู่
“แล้วแม่งเอาใครไม่เอา เอาไอเหี้ยนั้น”
“ไอห่าไฟนะเหรอวะ”
“เอ่อดิ ไอห่านั้นแหละพูดถึงมันแล้วของจะขึ้นวะ”
“มึงสักลายลิงเหรอถึงของจะขึ้นเนี่ย”
“พ่อมึงสิธันย์ เอาดีๆนะมันดีกว่ากูตรงไหน!”
ริชพูดจบธันย์ก็ได้มองไปทางริชโดยที่สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าและคิดอยู่สักพักใหญ่จนธันย์พูดออกมาว่า
“ดีกว่ามึงแทบทุกตรงวะ”
“เอ้าไอเหี้ยธันย์! มึงเข้าข้างเพื่อนหน่อยเถอะ”
ริชพูดจบก็ได้เอาขวดนํ้าปาใส่ธันย์ทันที่โดยไม่ให้ธันย์ได้ตั้งตัว
ปัก!
“ไอเหี้ยริช มันเจ็บนะเว้ย!”
“สมละไอธันย์มึงว่ากูเอง”
“ไอเชี้ยนี้แม่ง”
ไม่ทันที่จะให้ธันย์พูด ริชก็ทิ้งตัวนอนทันทีด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดและเศร้าเพราะโดนสาวทิ้งไปมีใหม่เป็นคู่อริของตน
เอี๊อด
ไม่ทันไรก็ถึงหอในที่ริชได้เช่าอยู่กับธันย์ระหว่างที่อยู่เชียงใหม่ตลอดช่วงเปิดเทอมช่วงปิดเทอมทั้งคู่จะกลับบ้านเพื่อไปหาครอบครัว
“ริชมึงตื่นเพื่อน ถึงแล้วเนี่ย”
“หืออ อะรายย”
“ถึงแล้วเว้ย ลง!”
“เคๆ ”
เฮ่อออ
เมื่อทั้งคู่ลงจากรถลุงสมก็ได้ยกกระเป๋าทั้ง 2 คนลงมาให้และกล่าวบอกลาเตรียมขึ้นรถ
“เอาอีหล่า กระเป๋า”
(เอาลูกกระเป๋า)
“ขอบใจหลายๆลุง”
(ขอบคุณมากๆครับลุง)
“เอ่อๆ ลุงไปละเด้อ”
(เอ่อๆ ลุงไปละนะ)
กล่าวจบลุงสมก็ปิดท้ายรถและเตรียมตัวขับรถกลับบ้าน
“ขับรถดีๆนะครับลุง”
ธันย์ได้บอกกับลุงสมผู้เป็นคนขับรถมาส่ง
“ปะธันย์ขึ้นห้อง”
ทั้งคู่ก็ได้ลากกระเป๋าของตัวขึ้นห้อง ห้องที่ทั้งคู่อยู่เป็นห้องที่ต้องนอนรวมเพราะว่าเป็นหอในและมันใกล้มหาลัยดีแต่ริชก็ได้ทำการเช่าทั้งห้องอยู่กันแค่2คนเท่านั้นห้องก็ไม่ได้ใหญ่จนเกินไปห้องของทั้งคู่อยู่ชั้นที่ 4 ฝังตรงข้ามกับลิฟท์ถัดไป 3 ห้อง เลขห้อง 413/16
“เมื่อยเป็นบ้าอะ”
“มึงยังจะเมื่อยอีกเหรอริช”
“แล้วมันทำไหม”
“ช่างเถอะขี้เกียจเถียงกับมึงละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปมหาลัยอีก กูจะไปพักผ่อนหน่อย”
“เรื่องของมึงเถอะ”
พอธันย์กับริชคุยกันเสร็จก็เดินออกมาจากลิฟท์และตรงไปที่ห้องแล้วแยกย้ายกันอาบนํ้าและเข้านอนทันที่
“หลับ..ฝั..น...ดีนะ...น้อ..ง...รั..ก.”
“...”
“ถอดสร้อยเมื่อไรแก..เจ.อ..ดี..แ.น่”
“...”
“มึงไม่มีสิทธิ์ทำอะไรกับน้องกู”
“ทำไหมกูจะทำมันไม่ได้มันเป็นคนฆ่ากู กูจะเอาไปอยู่ด้วย”
“กูไม่ให้เอ.า.ไ..ไป..”
...________________________________________...
...****************...
^^^ธันย์กล่าว : ไม่นะพรุ่งนี้อ๊ากกก เหนื่อยเว้ยยยย^^^
^^^>ถึงผมจะหยาบคายแต่ผมนิสัยดีนะ<^^^
นข : ใครฆ่าใครนะ เกิดไรขึ้นกับบ้านนี้กันแน่เนี่ย
คำเตือน
เนื้อหาดั้งต่อไปนี้ไม่ควรลอกเลียนแบบเด็ดขาดอาจจะมีการทำรายร่างกาย ความรุนแรง คำพูดที่ไม่เหมาะสมสำหรับช่วงอายุ ยังไม่เกิน 15ปี คำหยาบคายมากมาย และเนื้อหากล่าวถึง การมองเห็นผี สิ่งลี้ลับ ประเพณี ตำนาน วิญญาณ การล้างแค้น สิ่งที่ไม่ควรลบหลู่
! ประกาศ !
ช่วงเวลาการอัพดวงใจองค์คริษฐ์
ทุกวันอาทิตย์ เวลา 19:00 น.
หรือ
ทุกวันเสาร์ เวลา 19:00 น.
สัปดาห์ละ 1 ตอน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!