ลมหนาวพัดโชยในยามวิกาลของคฤหาสน์ตระกูลวสุธร แต่ภายในใจของ คิริน กลับร้อนรุ่มดั่งเปลวเพลิง เขามองภาพ เมฆา ที่นั่งตัวสั่นอยู่มุมห้องด้วยแววตาเกลียดชัง "แกมันน่าขยะแขยง!" เสียงหอบหายใจของเมฆาไม่เคยทำให้คิรินรู้สึกผิด เขายิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทั้งทางกายและใจ ไม่เคยเว้นวันให้เมฆาได้หายใจอย่างสงบสุข
เมฆาเป็นคนเงียบขรึม ไม่เคยโต้ตอบ ไม่เคยแม้แต่จะสบตาคิริน ร่างกายผอมบางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียวจากน้ำมือของคิริน แต่สิ่งที่เจ็บปวดกว่าบาดแผลภายนอกคือจิตใจที่แตกสลาย สิ่งที่เมฆาเคยเชื่อว่าคือความรัก ได้กลายเป็นคมมีดที่กรีดแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมฆาไม่รู้ว่าคิรินเกลียดเขาด้วยเหตุผลใด แต่ที่รู้คือความเกลียดชังนั้นเผาผลาญหัวใจของเขาจนมอดไหม้
คิรินเชื่อฝังหัวว่าเมฆาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องพังทลาย เป็นคนที่ทรยศหักหลังความรักของเขาไปหา ภูผา ศัตรูคู่อาฆาตของเขา คิรินไม่เคยไตร่ตรองถึงความจริง เขาจมดิ่งอยู่กับความแค้นที่อคติบดบังทุกสิ่ง
วันเวลาผ่านไป คิรินใช้ชีวิตเหมือนคนไร้วิญญาณ ความแค้นที่เคยครอบงำบัดนี้เหลือเพียงความว่างเปล่าและความรู้สึกผิดที่กัดกิน เขาเริ่มทบทวนเรื่องราวในอดีต ภาพของเมฆาที่ถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าวนเวียนอยู่ในหัว
คืนนั้น อากาศหนาวเย็นกว่าทุกครั้ง คิรินยืนมองเมฆาที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น เมฆาไม่ขยับอีกเลย ไม่มีลมหายใจ ดวงตาที่เคยสั่นไหวตอนนี้ปิดสนิท ร่างกายที่เคยบอบช้ำบัดนี้เย็นเฉียบ คิรินทรุดตัวลง คล้ายมีบางสิ่งกระแทกเข้ากลางอก ความว่างเปล่าเข้าปกคลุมหัวใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
วันเวลาผ่านไป คิรินใช้ชีวิตเหมือนคนไร้วิญญาณ ความแค้นที่เคยครอบงำบัดนี้เหลือเพียงความว่างเปล่าและความรู้สึกผิดที่กัดกิน เขาเริ่มทบทวนเรื่องราวในอดีต ภาพของเมฆาที่ถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าวนเวียนอยู่ในหัว
วันหนึ่ง ขณะที่คิรินกำลังจัดเก็บของในห้องใต้ดินที่เมฆาเคยใช้ เขาก็พบกล่องไม้เก่าๆ กล่องหนึ่ง ภายในมีสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่เขียนด้วยลายมือคุ้นเคย หน้าแรกมีรูปของเขากับเมฆาในวัยเด็กกำลังยิ้มแย้ม รูปถัดมาเป็นบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ที่คิรินเชื่อว่าเมฆาทรยศเขา แต่ในสมุดบันทึกนั้น เมฆาเขียนถึงความเจ็บปวดที่ถูกคิรินเข้าใจผิด เมฆาพยายามอธิบายว่าเขาไม่เคยนอกใจ ไม่เคยทรยศ แต่คำอธิบายเหล่านั้นไม่เคยมีโอกาสได้ไปถึงหูของคิริน
ในบันทึก เมฆาเล่าถึงความพยายามที่จะหลีกหนีจากภูผา ผู้ที่คอยติดตามรังควาน เมฆาถูกภูผาข่มขู่ บังคับให้สร้างสถานการณ์ที่ดูเหมือนว่าเขากับภูผากำลังมีความสัมพันธ์กัน เพื่อที่จะทำลายความรักระหว่างคิรินกับเมฆา เมฆาเขียนถึงความสิ้นหวังที่ไม่มีใครเชื่อเขา และความเจ็บปวดที่ถูกคนที่รักทำร้าย
คิรินอ่านทุกหน้าด้วยมือที่สั่นเทา น้ำตาไหลอาบแก้ม เขาเห็นภาพเมฆาในคืนสุดท้าย ที่ดวงตาว่างเปล่านั้นไม่ใช่เพราะความยอมแพ้ แต่เป็นความเจ็บปวดที่ไม่มีใครเข้าใจ ความจริงที่เปิดเผยออกมาเหมือนมีดนับพันเล่มกรีดแทงหัวใจของคิริน เขาไม่เพียงแค่ทำร้ายเมฆา แต่เขาได้สังหารคนที่รักด้วยมือของตัวเอง
"เมฆา...ฉันขอโทษ!" เสียงของคิรินขาดห้วง เขาจมดิ่งลงไปในความรู้สึกผิดที่ไม่อาจแก้ไข
ในค่ำคืนที่เงียบสงัด คิรินได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาในความมืด "คิริน...อย่าเศร้าเสียใจเลยนะ..." เสียงนั้นเป็นเสียงของเมฆา เป็นเสียงที่อ่อนโยนและคุ้นเคย คิรินรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกครั้งที่เขาคิดจะทำสิ่งที่ผิดบาปหรือจมดิ่งลงในความทุกข์ เสียงของเมฆาจะปรากฏขึ้นเสมอ เหมือนคำสัญญาที่เมฆาเคยให้ไว้ก่อนตายว่าเขาจะอยู่เคียงข้างคิรินเสมอ ตราบใดที่คิรินไม่เศร้าเสียใจและอยู่กับความทรงจำของเมฆา
คิรินรู้ดีว่าเขาจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป แต่คำสัญญาของเมฆากลับเป็นแสงสว่างเดียวในความมืดมิด เขาสาบานว่าจะทวงคืนความยุติธรรมให้เมฆา จะทำให้ภูผาได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำ และที่สำคัญที่สุด เขาจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อจดจำความรักของเมฆา จะไม่เศร้าเสียใจ แต่จะดำเนินชีวิตต่อไปพร้อมกับเงาแห่งความรักที่เมฆาได้ทิ้งไว้ให้ แม้เมฆาจะจากไปแล้ว แต่เสียงกระซิบนั้นจะคอยนำทางคิริน ไม่ให้เขาก้าวพลาดไปในเส้นทางที่มืดมิดอีกครั้ง
คิรินเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว "ฉันจะไม่มีวันลืมเธอ เมฆา...และฉันจะอยู่กับเธอเสมอ"
เรื่องราวความรักมักจะเริ่มต้นขึ้นในที่ที่เราคาดไม่ถึงเสมอ เช่นเดียวกับเรื่องราวของ ตะวัน เด็กหนุ่มผู้สดใสราวกับแสงอาทิตย์ยามเช้า และ สายลม เด็กสาวผู้เงียบขรึมราวกับสายลมยามเย็นที่พัดผ่าน ความแตกต่างของทั้งคู่เป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดเข้าหากัน ก่อเกิดเป็นความรักใสๆ ในรั้วโรงเรียนที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันล้ำค่า
ตะวันย้ายเข้ามาเรียนกลางคันในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนมัธยมปลายแสงอรุณ ด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรและอัธยาศัยดี ทำให้เขาเป็นที่รู้จักและเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนๆ ได้ไม่ยาก แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่เคยสนใจตะวันเลย นั่นคือสายลม เธอเป็นเด็กสาวที่มักจะนั่งอยู่คนเดียวหลังห้องเรียน คลุกอยู่กับหนังสือเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แววตาของเธอหม่นเศร้าอยู่เสมอราวกับมีเมฆหมอกปกคลุม
ตะวันสังเกตเห็นสายลมอยู่หลายครั้ง ความอยากรู้อยากเห็นผลักดันให้เขาพยายามเข้าไปทักทาย "สวัสดี เราชื่อตะวันนะ" ตะวันยื่นมือออกไปพร้อมรอยยิ้ม สายลมเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มลงไปอ่านหนังสือต่อราวกับไม่เห็นตะวันอยู่ในสายตา ตะวันไม่ท้อถอย เขายังคงพยายามเข้าหาสายลมเรื่อยๆ ไม่ว่าจะด้วยการชวนคุยเรื่องเรียน การแนะนำร้านอาหารอร่อยๆ หรือแม้แต่การแอบวางขนมไว้บนโต๊ะของเธอ
ความพยายามของตะวันเริ่มเห็นผล สายลมเริ่มตอบสนองบ้างเล็กน้อย เธออาจจะเงยหน้าขึ้นสบตา หรือพยักหน้ารับคำทักทายของเขา นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หัวใจของตะวันพองโต วันหนึ่ง สายลมลืมสมุดจดไว้ที่โรงเรียน ตะวันอาสาเอาไปคืนให้ที่บ้าน เมื่อไปถึง เขาเห็นบ้านของสายลมอยู่ในซอยลึกที่ค่อนข้างเงียบเหงา และได้รู้ว่าเธออาศัยอยู่กับคุณยายเพียงสองคน
จากวันนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ค่อยๆ พัฒนาไปอย่างช้าๆ ตะวันกลายเป็นเพื่อนคนเดียวที่สายลมยอมเปิดใจคุยด้วย สายลมเล่าเรื่องราวความเจ็บปวดในอดีตที่ทำให้เธอปิดกั้นตัวเองออกมาให้ตะวันฟัง ตะวันรับฟังทุกอย่างด้วยความเข้าใจและพยายามที่จะเติมเต็มช่องว่างในใจของเธอให้เต็มเปี่ยม สายลมเริ่มยิ้มมากขึ้น หัวเราะมากขึ้น ใบหน้าของเธอเริ่มมีแสงสว่างและสดใสขึ้นเรื่อยๆ ราวกับดอกไม้ที่กำลังผลิบานรับแสงตะวัน
ความรักของตะวันและสายลมเติบโตขึ้นอย่างเงียบๆ ภายใต้สายตาของเพื่อนๆ และคุณครูที่ต่างก็รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของสายลมในทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ความรักในวัยเรียนย่อมมาพร้อมกับบททดสอบเสมอ เมื่อมีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาในห้อง เมฆา เด็กหนุ่มหน้าตาดีและมีความสามารถรอบด้าน เขาสนใจสายลมตั้งแต่แรกเห็น และพยายามที่จะเข้าหาสายลมอย่างเปิดเผย ทำให้ตะวันรู้สึกหวั่นไหวและหึงหวง
เมฆาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจสายลม ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือเรื่องเรียน การซื้อขนมมาฝาก หรือแม้แต่การบอกความรู้สึกตรงๆ สายลมรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เธอรู้ดีว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับตะวัน แต่ก็ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของเมฆา
วันหนึ่ง เมฆาบังเอิญเห็นตะวันกับสายลมเดินจับมือกัน เขารู้สึกเสียใจและโกรธมาก จึงไปพูดจาใส่ร้ายตะวันกับสายลม ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันขึ้นระหว่างตะวันและสายลม สายลมเสียใจมากที่ตะวันไม่เชื่อใจเธอ ส่วนตะวันก็รู้สึกผิดที่ทำให้สายลมต้องลำบากใจ
ในวันที่ความสัมพันธ์ของตะวันและสายลมดูเหมือนจะแตกสลาย ตะวันตัดสินใจไปพบเมฆาเพื่อขอโทษและปรับความเข้าใจ เมฆาเองก็รู้สึกผิดเช่นกันที่ทำไปโดยใช้อารมณ์ เขายอมรับว่าเขาโกหกและขอโทษตะวัน ตะวันจึงรีบไปหาสายลมและเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง สายลมรู้สึกโล่งใจและให้อภัยตะวัน ทั้งคู่กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง
หลังจากเหตุการณ์นั้น ตะวันและสายลมก็ยิ่งรักกันมากขึ้น บททดสอบที่ผ่านมาทำให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะเชื่อใจกันและกัน และสื่อสารกันมากขึ้น ความรักของพวกเขาเติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็งและมั่นคง พวกเขายังคงเป็นนักเรียนธรรมดาที่มีความรักใสๆ ในรั้วโรงเรียน แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาคือความผูกพันที่ลึกซึ้งและเข้าใจกันอย่างแท้จริง
ความทรงจำที่ไม่เคยจางหาย
ปีการศึกษาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตะวันและสายลมเรียนจบจากโรงเรียนมัธยมปลายแสงอรุณ พร้อมกับความทรงจำมากมายที่ไม่มีวันลืม แม้จะต้องแยกย้ายกันไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยคนละแห่ง แต่ความรักของพวกเขาก็ยังคงดำเนินต่อไป ไม่มีอะไรมาพรากความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันไปได้
เรื่องราวของตะวันและสายลมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความรักในวัยเรียน ที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ความท้าทาย และบทเรียนอันล้ำค่า มันเป็นความทรงจำที่สวยงามที่ยังคงชัดเจนในใจของทั้งคู่เสมอ เป็นเหมือนแสงตะวันยามเช้าที่อบอุ่น และสายลมยามเย็นที่ปลอบโยนใจ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!