เด็กแปลก [AllTakemichi]
Episode : ⓪
⚠️เนื้อหาต่อไปนี้จะมีความรุนแรงและเลือด และอาจจะมีคำหยาบออกมาเป็นบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน⚠️
เนื้อหา : มีความรุนแรง, คำหยาบคาย, เลือด, การอธิบายถึงลักษณะคำสาป
โลกของผู้ใช้ไสยเวทย์นั้น...เป็นอะไรที่โคตรจะเฮงซวย การกำจัดคำสาป หรือการขึ้นตรงต่อเบื้องบนที่ไม่เห็นว่าพวกมันจะทำอะไรเลยสักอย่าง
นอกจากชี้นิ้วออกคำสั่งแล้วมุดหัวอยู่ด้านหลังพวกเขาเวลา เกิดเรื่องอะไรขึ้น เป็นพวกตาแก่ที่มีหัวสมองล้าหลังยิ่งกว่าพวกเต่าล้านปี นี่คือสิ่งที่ทาเคมิจิ หรือ ฮานากาคิ ทาเคมิจิ
นักคุณไสยระดับหนึ่งได้ยินจากเพื่อนซี้ทั้งสองคน อย่างโกโจ ซาโตรุ และ เกะโท สุงุรุ สองคนนี้ มักจะทะเลาะกันและโต้แย้งในทุกๆเรื่องข้ามหัวเขาเสมอจนเหมือนถูกกรอกหูไปด้วย ตั้งแต่เรื่องเล็กๆจน ไปถึงเรื่องใหญ่
แถมยังลากเขาเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ทุกครั้ง จนสุดท้ายทาเคมิจิต้องหนีภัยไปหลบอยู่ข้างๆเพื่อนสาว เพียงคนเดียวในสายชั้นปีหนึ่งอย่างโชโกะแทน ชั้นปีที่หนึ่ง ของโรงเรียนเฉพาะทางไสยศาสตร์นครโตเกียวมีนักเรียนเพียงสี่คนเท่านั้น
แต่นี่ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะไม่น้อยในวงการของผู้ใช้คุณไสย
Takemichi
// หันมองตามเสียง
เสียงเรียกของอาจารย์คนหนึ่งที่เดินมาหาเขา อีกคนมีสีผมสีดำแซมแดงซึ่งอาจจะดูแปลกแต่ก็ดูเข้ากับคนตรงหน้าไม่น้อยเลย
Takemichi
มีอะไรรึเปล่าครับ // ถามด้วยความสงสัย
แต่สิ่งหนึ่งที่เขาคิดออกในตอนนี้คือ ที่อาจารย์เรน ผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องขึ้นตรงต่อเบื้องบนโดยแท้เรียกเขาอาจจะเพราะมี'ภารกิจ'
"ฉันมีภารกิจมาให้นาย ภารกิจที่รปปงหงิ"
Takemichi
(นั่นไงว่าแล้วเชียว...)
"มันเป็นภารกิจระดับ3 ซึ่งตอนนี้มีแค่เธอที่ว่างเท่านั่น ฉันจึงเลือกเธอมาดำเนินภารกิจในครั้งนี้ 'คนเดียว' "
Takemichi
แล้ว...ผมต้องเริ่มภารกิจตอนไหนงั้นเหรอ
"ตอนประมาณหกโมงเย็นน่ะ เดี๋ยวยิริวจะพานายไป"
Takemichi
งั้นผมขอตัวไปเตรียมตัวก่อนนะครับ
Takemichi
ภารกิจระดับ3เนี่ยนะ?...
Takemichi
อาจารย์คนอื่นๆก็มีไม่ไปเองล่ะว่ะ
Takemichi
มาใช้เด็กปีหนึ่งเนี่ย
Takemichi
คงคิดจะหาทางกำจัดจริงๆสินะ // ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ถ้าหมายถึงว่าทำไมผมถึงพูดกำจัดน่ะหรอ?
Takemichi
ครับ // พูดก่อนจะก้าวลงจากรถ
ทันทีที่เขาก้าวขาลงมาจากรถนั้น รถของคนขับรถอย่างคุณยิริวก็ขับออกไปทันที พร้อมมีโดมม่านกันสีดำที่กันไว้ไม่ให้คนภายนอกมองมาเห็นและกันไม่ให้พวกไอคำสาปลอยออกไป
Takemichi
...เหอะ // เดินเข้าไปในคลับร้าง
ที่นี่คือคลับร้างที่มีแผ่นเหลืองกั้นเอาไว้อยู่ แต่เพราะทางโรงเรียนได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีที่นี่ไว้แล้วว่าจะมีคนมาที่นี่จึงทำให้ผมเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
ภายในอาคารนั้นรกร้างและเงียบเสียซะ จนแถบจะได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นแรงของตัวเอง
Takemichi
เหม็นชะมัด // ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเล็กน้อย
Takemichi
// กวาดตามองสำรวจ
Takemichi
เหอะ กลิ่นเหม็นสาบลอยมาขนาดนี้ ไม่ต้องซ่อนตัวก็ได้นะ
เขาหันหน้ากลับมามองทางเดินที่มืดสนิท เงียบหูฟังการเครื่องไหวพร้อมกับดวงตาสีฟ้ากวาดตา มองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง
ภายในคลับเต็มไปด้วยโต๊ะและเก้าอี้ที่วางระเกะระกะ บางตัวก็ล้มลงไปกับพื้น รอยคราบเลือดตามทางเดินและผนังสีที่ลอกหใดแล้ว และไฟที่กะพริบติดๆดับๆ ชวนให้นึกถึงหนังสยองขวัญที่นั่งดูกับพวกซาโตรุไม่น้อยเลย
Takemichi
(พอเข้าไปลึกยิ่งเหม็นแหะ...)
คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นในใจ กับคำประโยคที่พูดไปก่อนหน้ารอบๆกับอาการ แม้จะรู้ว่าพวกคำ สาประดับนี้คงไม่เข้าใจมันนักหรอก
ทันใดนั้น เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นพร้อมกับตัวคำสาปคล้ายคนแต่หัวเหมือนสัตว์ที่ส่วนหัวนั้นมีความบิดๆเบี้ยวๆเหมือนน้ำเน่าเละ ก็พุ่งลงมาจากข้างบนจนคนตัวเล็กต้องบิดตัวหนี มือหยิบดาบขนาเพอดีมือที่ซ่อนอยู่ข้างเอวขึ้นมาตวัดฟันลงที่ แขนของคำสาปจนมันหลุด และตกลงไปที่พื้น
เสียงร้องที่ดังเหมือนกับ ไซเรนทำเอาเขานิ้วหน้าลงเล็กน้อยด้วยความแสบแก้วหู ดวงตาสีฟ้าสว่างวูบก่อนทุกอย่างรอบตัวจะหยุดนิ่งพร้อมกับที่ร่างโปร่งพุ่งเข้าไปฟันลงที่ตัวคำสาปจนมันสลายหายไป
Takemichi
ให้ตายสิ... // หอบหายใจเล็กน้อย
เขาใช้เวลาในการกำจัดพวกคำสาประดับสามและระดับสองในเวลาไม่นาน และไม่คิดว่าเพียงแค่เดินเข้าไปลึกมากยิ่งขึ้น จะมีกลุ่มคำสาปเยอะขนาดนี้ เด็กหนุ่มในชุดสีเข้มยก แขนขึ้นปาดลงที่เหงื่อที่เกาะอยู่ตามใบหน้าสวย เพราะเป็นแหล่งมั่วสุมและเต็มไปด้วยผู้คน ทำให้เป็นแหล่งรวมคำสาปไว้หลายระดับ ชายหนุ่มก้าวเท้าข้ามเก้าอี้ที่ล้มลง อยู่บนพื้นและเดินตรงไปยังชั้นสองเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย เพราะภารกิจยังไม่เสร็จทำให้โดมที่ยังพวกเขาไว้ระหว่างที่แห่งนี้กับข้างนอกยังไม่เปิดออก
ดวงตากลมโตสีฟ้าดูสว่างขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย ทุกการก้าวเดิน เต็มไปด้วยความระมัดระวัง จนเมื่อเข้าถึงชั้นสอง เพียงแค่ก้าวเท้าลงมาเหยียบไอเย็นบางอย่างก็ลามเข้ามาสู้ตัวของเขาจนขาของเขาสั่นสะท้านตัวแข็งที่ขาของเขาขยับก้าวไม่ออก
เขาสถบออกมา ก่อนที่จะมีมือใหญ่โตสีดำคล้ำตบเข้าที่หัวของตัวเขาจนร่างบางกระเด็นไปตามทางเดิน แรงตบที่มหาศาลทำเอาเขารู้สึกมึนไม่ได้ ดวงตาสีสวยพยายามจับภาพตรงหน้า แต่ก็พอเห็นเงาบางอย่างที่กำลังพุ่งเข้ามาช้ำ จนต้องรีบยกมือขึ้นกันพร้อมกับดวงตาข้างขวาที่สว่างจ้า มือของมันห่างจากหน้าของเขาเพียงไม่กี่เซ็น เขาเบิกตามองอย่างตกตะลึง ไม่ต้องเดาเลยว่าหากเขาโดน มันซ้ำอีกรอบคงได้ไปเฝ้ารากมะม่วงก่อนใครเพื่อนแน่ๆ
คำสาประดับพิเศษที่ดูมีสติปัญญาชะงักค้างอยู่ กลางอาการ ราวกับถูก 'หยุดเวลา'ไว้ เขาเม้มปากแน่นขยับตัวถอยห่างเพื่อตั้งหลักรับรู้ได้ถึงความห่างชั้นกันระหว่างตัวเขาและคำสาปตรงหน้า
มันมีดวงตาทั้งหมด6ดวง ผิวดำคล้ำ และตัวสูงประมาณสักสามเมตรได้ มือของมันใหญ่และมีกรงเล็บที่แหลมคมมากยิ่งกว่าฟันปลาฉลาม โชคดีแค่ไหนที่รอบแรกที่ตัวเขาถูกมันตบเข้าไม่โดนเล็บพวกนั้นแทงเข้ามา ถึงอย่างนั้นขมับก็รู้สึกเจ็บจี๊ดอยู่ดี
Takemichi
ไหนบอกว่าไม่มีระดับพิเศษไงว่ะ
Takemichi
นี่มันระดับพิเศษชัดๆ
Takemichi
ดูก็รู้ว่าตั้งใจส่งฉันมาตายน่ะไอ่พวกเบื้องบนเฮงซวย!
ฮานากาคิ ทาเคมิจิ สถบด่าออกมา ถึงเขาจะเป็นถึงนักคุณไสยระดับ1 แต่ใช่ว่าการสู้กับพวกระดับพิเศษได้ง่ายๆขนาดนั้น มันฉลาดและมีความรู้มากกว่าระดับอื่นๆ แถมความร้ายกาจของพวกมันก็เยอะมากๆด้วย ทางดีที่สุดของกฎการเป็นผู้ใช้คุณไสยแล้วนั้นหาก เจอคำสาประดับพิเศษนั้น 'โปรดหนี' ให้ได้เร็วที่สุด
เขารีบหันหลังหนีทันที แต่เพราะความต่างที่ชัดเจนทำให้ พลังของเขาสามารถหยุดอีกฝ่ายไปได้เพียงไม่ถึงสองนาที ขายาวๆของมันพุ่งตรงมาหาเชาก่อนจะตวัดขาแตะลงที่กลางตัวของเขาอีกครั้งจนร่างของเขาไปชนกับผนัง และทะลุออกไปข้างนอก
Takemichi
อัก! // กระอักเลือดออกมา
ร่างเล็กถึงกับกระอักเลือดออกมา ใช้พลังของตัวเองในการหยุดช่วงเวลาเป็นระยะ เพื่อหาทางหลบหนี เพียงแค่เงยหน้าขึ้นฟ้าภาพที่ปรากฏก็ทำเอาใบหน้าเรียวซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
เขาหลุดเข้าไปในเขตของมันเสียแล้ว....
ได้แต่ขอให้ผู้ช่วยที่รอรับภารกิจของเขารู้ตัวเร็วๆ ไม่งั้นการกลับไปเจอพวกเพื่อนๆอีกครั้งคงมีเพียงร่างไร้วิญญาณของ ฮานากาคิ ทาเคมิจิ แล้วล่ะ
น้ำที่ค่อยๆทะลักลงมาจากคลับทำให้พอรู้ว่าเจ้าตัวเป็นคำสาปเกี่ยวกับอะไร กลิ่นเหม็นเน่าเหมือนคลองที่เต็มไปด้วยน้ำบูดหลากหลายมารวมกันทำเอาเขาย่นจมูกเล็กน้อย เขารีบวิ่งออกไป พยายามหนีจากน้ำที่ไล่ตามมาจากด้านหลัง
ดวงตาสีฟ้าประกายเป็นวูบๆ เพื่อหาทางหนีทีไล่ ร่างกายเล็กช้าลงกว่าตอนแรก เพราะแรงปะทะที่เกิดขึ้นจากในตึก
Takemichi
ให้ตายสิ...แถบจะไม่เหลือแรงวิ่งแล้ว // ขมวดคิ้วเล็กน้อย
บทเรียนแรกของการเป็นจูจุสึ
'ผู้ใช้คุณไสยเผชิญหน้ากับความตายอยู่เสมอ ทั้งเห็นคนถูกฆ่าตายด้วยคำสาปหรือพวกพ้องตายต่อหน้า'
ถึงแม้จะเหมือนคำพูดที่ดูโหดร้ายไปหน่อยกับการพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเด็กที่อายุสิบห้าสิบหก
แต่เพราะในโลกของจูจุสึแล้วนั้น พวกเขาจะต้องโตเร็วกว่าเด็กวัยรุ่นปกติทั่วไป พบเจอกับเรื่องที่โหดร้ายและ ความตายอยู่เป็นประจำ จนเหมือนเป็นกิจกรรมหลัก ทาเคมิจิรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา มือเล็กกำดาบในมือแน่นปัดการโจมตีของอีก ฝ่ายแม้เหมือนตัวเองจะถูกซ้อมอยู่ฝั่งเดียวก็ตาม ทั้งเจ็บใจและเสียใจ
Takemichi
(เริ่มไม่มีสติแล้ว...ให้ตายเถอะ)
ก่อนที่เขาจะได้กำจัดคำสาประดับพิเศษ (ที่ถึงแม้เขาจะเป็นฝ่ายถูกซ้อมก็ตาม) อยู่ๆสติของเขาก็มือดับลงไปในทันทีและร่างกายที่คิดว่ายืนอยู่ก็นอนลงไปกับพื้นหินปูนความรู้สึกที่เลือดไหลออกจากร่างกายทำให้รู้สึกเหนื่อยจนจะตายทั้งเป็น
Takemichi
(อย่างน้อยๆ....ก่อนจะตายก็ขอกลับไปนอนหมอนนุ่มๆที่คฤหาสน์ไม่ได้รึไงกัน....)
Episode : Explain the story of Takemichi
ไรท์เองคับ
ตามชื่อตอนเลยครับ
ไรท์เองคับ
มาอธิบายเรื่องของน้องทาเคจัง
ไรท์เองคับ
ซึ่งชุดของน้องเราออกแบบให้มันมีลักษณะ
ไรท์เองคับ
เป็นชุดนักเรียนชายออกแบบในโทนสี กรมท่าเข้มถึงดำสนิทครับ เพื่อแสดงถึงความเคร่งขรึม อำนาจ และระเบียบแบบแผนของโรงเรียน ซึ่งเป็นชุดยูนิฟอร์มแบบโมเดิร์น-ดั้งเดิมผสมกัน สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นร่วมสมัยที่ยังยึดมั่นจารีตของจุจุสึนั่นเองง
ไรท์เองคับ
ส่วนรายละเอียดส่วนบน (Upper)
จะเป็นเสื้อเป็นแบบแจ็คเก็ตแขนยาวคอกลมตั้งสูง (high collar) คล้ายคอจีนแต่หนากว่าครับ และ มีแถบคอสีขาวด้านในเพื่อรองคอเสื้อให้ดูเป็นระเบียบและเน้นคอเสื้อที่ตั้งขึ้นอย่างชัดเจน ด้านหน้าเสื้อมีกระดุมโลหะกลมสองเม็ดสีทองติดตรงกลางลำตัว เป็นลายน้ำวนตามในอนิเมะเลยครับ
ไรท์เองคับ
และแขนเสื้อเป็นแบบแขนกระบอกใหญ่ (Wide Sleeve) ปลายแขนกว้างมากคล้ายแขนเสื้อฮากามะหรือชุดขุนนางโบราณ เพื่อให้ผู้ใช้สะดวกในการร่ายอาคมหรือเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระ ท่อนบนมีการเข้ารูปเล็กน้อยช่วงเอวเพื่อไม่ให้ดูเทอะทะเวลาต่อสู้
ไรท์เองคับ
และรายละเอียดส่วนล่าง (Lower) จะเป็นกางเกงเป็นทรง ฮากามะ (Hakama) แบบโมเดิร์นครับ คือ มีลักษณะเป็นกางเกงขากว้างยาวจรดข้อเท้า แต่เนื้อผ้าเป็นแบบยืดหยุ่นได้สูงให้ความรู้สึกคล่องตัวแม้จะมีลักษณะเหมือนกระโปรงจีบ และบริเวณช่วงเอวมี เข็มขัดผ้า (Obi) สีขาวรัดไว้เพื่อแบ่งสัดส่วนระหว่างเสื้อและกางเกงครับบ
ไรท์เองคับ
และวัสดุและคุณสมบัติพิเศษนะครับผม คิดเองนะครับทำให้ดูเหมือนมโนเอง😆
เนื้อผ้าเป็น ผ้าไสยเวทถักทอพิเศษ (Cursed Fiber Fabric) และทนต่อแรงกระแทก ความร้อน ไฟ และการกัดกร่อนของคำสาประดับต่ำถึงกลาง และเนื้อผ้าไม่ฉีกขาดง่าย มีคุณสมบัติคล้ายพลังคำสาปเล็กน้อย ช่วยให้ไม่โดนวิญญาณสาปจู่โจมโดยตรง แต่ถ้าทางอ้อมแน่นอนว่าเละไม่ต้องสืบครับ
ไรท์เองคับ
อธิบายเพิ่มเติมเกียวกับบบ
ความหมายเชิงสัญลักษณ์ ครับผมม
สีกรมท่า-ดำ : แสดงถึงความลึกลับของโลกจุจุตสึ และความตายที่พร้อมรออยู่เบื้องหน้า ตามในเมะเลย
แถบคอสีขาว : หมายถึงความศักดิ์สิทธิ์ ความสงบ และหน้าที่ปกป้องผู้คนจากคำสาป
แขนเสื้อกว้าง : เป็นมรดกทางดีไซน์จากชุดนักบวชและนักรบโบราณ สื่อถึงรากเหง้าทางจิตวิญญาณและความเคารพต่อครูบาอาจารย์
(สองอันล่างนี่ผมคิดเองครับ ตามหาในกูเกิ้ลด้วย🥲)
ไรท์เองคับ
ยังไงก็ฝากติดตามเรื่องใหม่ด้วยนะครับ
ไรท์เองคับ
เรื่องเก่าไว้ก่อนตอนนี้เรื่องใหม่สมองกำลังแล่น😆
ไรท์เองคับ
See you again next time!
Episode : ①
⚠️เนื้อหาต่อไปนี้จะมีความรุนแรงและเลือด และอาจจะมีคำหยาบออกมาเป็นบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน⚠️
เนื้อหา : มีความรุนแรง, คำหยาบคาย, เลือด, การอธิบายถึงลักษณะคำสาป
ชินอิจิโร่ หรือ ซาโนะ ชินอิจิโร่ หลานชายคนโตของบ้านซาโนะ ในปีนี้เจ้าตัวอายุ23ปี เป็นเจ้าของร้านมอเตอร์ไซด์
และนกสาวไปถึงยี่สิบครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น ชินอิจิโร่ก็ยังคงฮอตในหมู่เด็กผู้ชาย(นักเลง)ไม่น้อยเลยทีเดียว
ด้วยดวงตาสีนิลที่ดำมืดสนิท ใบหน้าหล่อดูดีและเส้นผมสีดำที่ไม่ได้เซตขึ้นเหมือนสมัยวัยรุ่น ตัวเขานั้นกำลังจะออกไปเปิดร้านเพราะยังมีรถอีกหลายคันที่จะต้องตรวจเช็กสภาพและซ่อมแซมมัน
แต่พอที่เขาก้าวขาเดินออกมาหน้าบ้านเตรียมจะขับรถคันโปรดออกไปก็ถึงกับต้องเสียหลักเกือบทำรถทับตัวเองเมื่อเห็นร่างของใครบางคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่หน้าตระกูลซาโนะ ด้วยเลือดที่โชกเต็มตัวจนเหมือนเกิดเหตุฆาตกรรมหน้าบ้าน
Shinichiro
ใครเนี่ย // ขมวดคิ้ว
Shinichiro
// หันมองซ้ายมองขวา
คนตัวสูงโปร่งทำหน้าตาตื่นรีบเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่มั้ย เส้นผมสีเหลืองก็ ยุ่งเหยิงไปเป็นทรง แอบเห็นคราบเลือดที่ติดอยู่บนเส้นผมของอีกฝ่ายด้วย
Shinichiro
ไปโดนใครทำร้ายมาอีกล่ะเนี่ย
Shinichiro
สมัยนี้นักเลงมันเลวทรามขนาดนี้เลยหรอ?
Shinichiro
// เอื้อมมือไปจับข้อมือเล็กเบาๆ
เขาแตะลงที่ข้อมือของอีกฝ่าย เมื่อสัมผัสได้ถึงชีพจรที่ยังเต้นอยู่ก็รีบจัดการโทรเรียกรถพยาบาลมาทันที
เขาก็ไม่ได้อยากเห็นคนแปลกหน้าที่ไหนมาตายหน้าบ้านตัวเองหรอกนะ
Takemichi
อ่า... // ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย
เขาลืมตาขึ้นด้วยความมึนเบลอ สิ่งแรกที่กวงตาสีสวยเห็นคือเพดานสีขาวสะอาดและกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ สมองเริ่มทำงานอย่างหนักเพื่อเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเขานั้นรอดตายมาได้
Takemichi
ชิ....เจ็บหัวไม่หายเลยแฮะ... // กุมหัวตัวเองเล็กน้อย
Takemichi
(ถ้าเจออีกครั้งนะไอ้คำสาปเลว ฉันจะกำจัดแกจนไม่เหลือซากเลยคอยดู!) // ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิด
แค่คิดถึงคำสาประดับพิเศษที่เจอก็ทำเอาตัวของเขาสั่นด้วยความกลัวแล้ว แต่อีกใจคือแค้นมาก! เพิ่งมารู้ว่าตัวเองอ่อนแอขนาดไหนก็ตอนที่ขาของเขาขยับไม่ไปตอนที่เจอกับแรงกดดันมหาศาลของคำสาป
Takemichi
เอ๊ะ?... // หันมองตามเสียง
เสียงทุ้มต่ำไม่คุ้นหูทำให้ทาเคมิจิสะดุ้งด้วยความตื่นตระหนก หันไปมองตามเสียงที่ได้ยินก่อนจะเจอกับร่างของชายหนุ่มผมดำตัวสูง
Takemichi
(ใครอีกล่ะเนี่ย) // ขมวดคิ้วมอง
Shinichiro
หน้านายเด่นออกชัดขนาดนี้เลยหรอเนี่ย
Shinichiro
แล้วชื่ออะไรล่ะเราน่ะ
ด้วยความที่เขาไม่คุ้นเคยกับคนๆนี้ ทำให้สัญชาตญาณการเอาตัวรอดพุ่งขึ้นมาทันที ทำให้เขายกมือทั้งสองมาตั้งการ์ดไว้เพื่อป้องกันตัว
Shinichiro
เฮ้ยๆ....ใจเย็นๆสิ
Shinichiro
ฉันช่วยนายเอาไว้นะ
คนแปลกหน้าที่บอกว่า พร้อมกับรอยยิ้มแหย่ๆทำเอาทาเคมิจิกวาดตามองคน ตรงหน้าอย่างสำรวจ ดูเหมือนจะเป็นเพียงคนปกติทั่วไปหากไม่เห็นไอดำบางอย่างที่โอบล้อมด้านหลังของอีกคนนั่น ทำให้ชายหนุ่มยังคงไม่ลดการ์ดป้องกัน
Takemichi
(ไอดำรุนแรงมากเลยแฮะ...คนๆนี้ไปทำอะไรมากัน) // ขมวดคิ้วเล็กน้อย
Shinichiro
ฉันเห็นนายนอนบาดเจ็บอยู่หน้าบ้านฉันน่ะ เลือดอาบไปทั้งตัวหมดเลยเลยรีบพาส่งโรงพยาบาลน่ะ
ชายผมดำอธิบายเมื่อเห็นสายตาที่ดูจะสับสนไม่น้อย ของเด็กตรงหน้า
Takemichi
ขอบคุณที่ช่วยนะครับ
ถึงจะสงสัยว่าทำไมถึงรอดมาได้ แต่อย่างน้อยก็ยังไม่ตายก็ถือว่าโชคดีมาก แล้ว ทาเคมิจิเม้มปากก่อนจะเอนตัวลงนอนเช่นเดิมพอมาได้สติ
จึงเริ่มรู้สึกเจ็บขึ้นมาทันที แขนซ้ายของเขาถูกใส่เผือกเอาไว้ ก้มมองตามตัวเห็นแต่ผ้าก๊อซขาวพันเต็มไปหมดจนนึกว่าเป็นมัมมี่
Shinichiro
ซาโนะ ชินอิจิโร่
อยู่ๆคนข้างๆก็แนะนำตัวขึ้นมา ใบหน้าที่ดูอ่อนโยนทำให้ตัวเขาลดความระมัดระวังลงเล็กน้อย
Takemichi
ผม ฮานากาคิ ทาเคมิจิ
Shinichiro
ตระกูลฮานากาคิหรอ?
Shinichiro
อ่า...แค่คุ้นๆน่ะ
Takemichi
อ่า... // พยักหน้าเบาๆ
Shinichiro
อ่าจริงสิ...เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วงนะพอดีฉันจัดการให้แล้ว เพราะติดต่อครอบครัวเธอไม่ได้เลยน่ะ
Takemichi
// ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างสงสัย
อย่างน้อยๆพวกโกะโจก็ต้องโทรหาเขาสิหรือแม้แต่พวกอาจารย์ใหญ่ก็ด้วย
Takemichi
มือถือผมอยู่ไหนงั้นหรอครับ
คนป่วยเอ่ยถาม หันมองซ้ายขวาหามือถือที่ไม่รู้ว่าทำตกอยู่ที่ไหนหรือเปล่า
Shinichiro
ฉันเก็บเอาไว้น่ะ มันตกอยู่ๆข้างๆเธอ
Shinichiro
แต่หน้าจอมันอาจจะแตกหน่อยนะ // ยื่นมือถือให้
Takemichi
(แตกเยอะซะด้วย...นี่ไม่หน่อยแล้วนะ)
Takemichi
ขอบคุณครับ // รับมา
เขาตอบรับ เปิดมือถือขึ้นดูก่อนจะมองอย่างแปลกใจเมื่อมันไม่มีสายไหนโทร เข้าหาเขาเลยแม้แต่น้อย แถมตรงเวลาและปียังดูแปลกๆจนใจคนป่วยเริ่มใจไม่ดีขึ้นมานิดๆ
ดวงตาสีฟ้าสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าถามชายหนุ่มที่เจอเพียงคนเดียวตั้งแต่ตื่นขึ้นมา
Takemichi
อาจจะดูเป็นคำถามที่แปลกนะครับ
Takemichi
ปีอะไรงั้นหรอครับ?
Shinichiro
ก็แปลกจริงๆนั่นแหละนะ
Shinichiro
นี่ปี2003 แล้วน่ะ
คนโตกว่ายกมือขึ้นเกาหลังคอเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบไป พร้อมหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาให้เด็กตรงหน้าดูว่าเขาไม่ได้พูดโกหก
Takemichi
.... // มองหน้าจอมือถืออีกคน
ถึงหมอที่ตรวจร่างกายเด็กตรงหน้าจะบอกชิอิจิโร่ เรื่องอาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะหัวของทาเคมิจินั้นโดนกระแทกอย่างแรง
ถึงเขาจะไม่รู้ก็เถอะว่าโดนอะไรกระแทกใส่ แต่ก็ไม่อยากจะเอ่ยปากถามเด็กตรงหน้าจึงทำให้เขาคิดไปเองว่าอาจจะโดนไม้เบสบอลฟาดก็ได้
เขาสถบออกมาเบาๆ ได้แต่คิดว่าตัวเองเจอเรื่องหินเสียแล้ว
จะไม่ให้เดือดร้อนได้ไงในเมื่อตัวเขาดันข้ามเวลามาตั้ง2ปี!!
สุดท้ายแล้ว ทาเคมิจิก็ต้องรบกวนเรื่องค่าใช้จ่ายกับบ้านซาโนะ โชคดีที่คุณปู่ซาโนะใจดีช่วยออกค่ารักษาให้แทนเจ้าหลานชายใจบุญที่ไปเก็บเด็กที่ไหนมาไม่รู้ให้ แน่นอนว่าทาเคมิจิตั้งใจจะตอบแทนคุณปู่อย่างแน่นอน
ทาเคมิจิรักษาอยู่โรงบาลเกือบอาทิตย์ โชคดี ที่ร่างกายของผู้ใช้คุณไสยอึดและถึกกว่าคนปกติหลายส่วน รวมทั้งความแข็งแกร่งที่ถูกฝึกมาด้วยทำให้ ร่างกายของเขารักษาตัวได้เร็วจนแม้แต่คุณหมอยังแปลกใจ แต่ยังไงทาเคมิจิก็ยังต้องใส่เผือกแขนไปก่อน
Takemichi
...มันเป็นไปได้ยังไงกัน
Takemichi
ฉัน...ข้ามเวลามาเนี่ยนะ
Takemichi
ตอนนั้นยังปี2000 อยู่เลย
Takemichi
มัน...เกิดอะไรขึ้นกันแน่ // ขมวดคิ้วเล็กน้อย
Takemichi
หรือเพราะการที่ฉันใช้พลังคุณไสยมากเกินขีดจำกัดงั้นหรอ?
คนตาฟ้าไร้ที่อยู่ เพราะช่วงเวลาที่ต่างกันถึงแม้ จะเพียงสองปีแต่ทุกอย่างรอบๆก็ดูแปลกตาอยู่ดี และการกลับไปที่โรงเรียนก็ดูอันตรายจนเกินไป
ไม่รู้ว่าการที่เขาไปทำภารกิจคนเดียวโดยข้างในดันมีคำสาประดับพิเศษนั้นเป็นความตั้งใจของเบื้องบนที่ต้องการจะจัดการตัวเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้
เขาได้มานั่งคิดระหว่างที่อยู่ในเขตของโรงพยาบาล เพราะความสามารถของเขา ยังไงก็ยังถูกจับตามองจากพวกเบื้องบนอยู่ไม่น้อย ความสามารถที่หากเมื่อไหร่ที่เขาใช้ได้ถนัดและเก่งขึ้นมา ก็มีสิทธิ์ที่มันจะสร้างความบิดเบือนให้แก่ช่วงเวลาได้
ทาเคมิจิถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ เท้าก็ดัน พื้นไปมาระหว่างที่ตัวนั่งลงที่ชิงช้า เงินติดตัวก็มีเพียงแค่สามพันเยนเท่านั้นอาจจะพอเช่าห้องอยู่ได้เพียงไม่กี่คืน
เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จึงไม่ได้พกเงินอะไรเยอะ เงินนี้ก็เพียงแค่เอามาเพื่อเพราะตั้งใจจะซื้ออะไรกินหลังทำภารกิจเสร็จ
Takemichi
(แต่ดันย้อนเวลามาได้...สามพันเยนสุดท้ายของฉัน)
เขาได้แต่คิดพร้อมน้ำตาตกใน
Takemichi
กลับไปคงได้โดนโชโกะบ่นหูชาแน่...
Shinichiro
มานั่งทำอะไรตรงนี่ละ?
เสียงเรียกชื่อดังขึ้นทำให้ทาเคมิจิเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก
Takemichi
// หันมองตามเสียง
ทาเคมิจิลุกขึ้นยืนด้วยหน้าตาตื่น มองผู้ช่วยชีวิตของตัวเองที่วันนี้อยู่ในชุดช่างสีฟ้าเข้มที่ออกไปทางเขียว โดยมีเด็กอีกสองคนที่เดินตามหลังมา
Shinichiro
โถ่ก็บอกให้เรียกชินอิจิโร่ยังไงล่ะ
Shinichiro
ขนาดฉันยังเรียกเธอว่าทาเคมิจิเลยนะ
Takemichi
(ไอ้น้ำเสียงออกไปทางน้อยใจนี่มันอะไรกันครับ!) // ขมวดคิ้วมอง
คนโตกว่าร้องออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหาเด็กหนุ่มที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
Shinichiro
แล้วมาทำอะไรตรงนี้ล่ะ? ใกล้จะเย็นแล้วนะช่วงนี้นะมีนักเลงเยอะอยู่ระวังจะโดนหาเรื่องเอาได้
Takemichi
(ผมคิดว่าคนที่จะหาเรื่องจะไม่ใช่นักเลงนี่สิครับ...)
คนผมดำว่าอย่างใจดี มือก็ยกขึ้นลูบเส้นผมสีทองของตัวเขาเล่นอย่างเอ็นดู
ต่างจากทาเคมิจิที่ยิ้มแหย่ออกมาเมื่อเห็น สายตาน่ากลัวและระแวดระวังจากเด็กชายสองคนที่อยู่ข้างหลัง คนหนึ่งผมสีฟางข้าวตัดสั้นมีหน้าม้า
ดวงตาสีดำที่เหมือนชายหนุ่มทำให้ทาเคมิจิเดาว่าคงเป็นพี่น้องกัน ในขณะที่ข้างๆเป็นเด็กหนุ่มท่าทางก๋ากั่น ดวงตา คมผมสีดำยาวประบ่า และที่โดดเด่นคือเขี้ยวที่โผล่มาที่มุมปาก
Takemichi
(เหมือนแมวเลยแฮะ)
Mikey
นี่...คนนี้ใครอ่ะชิน // ชี้
Shinichiro
ก็คนที่พี่เคยบอกไงมันจิโร่
Takemichi
อ่า ยินดีที่ได้รู้จัก
Mikey
อืม... // พยักหน้าตอบกลับ
Shinichiro
แล้วเธอมานั่งทำอะไรตรงนี่คนเดียวล่ะ
เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเล็กน้อย แต่ก็คงไม่พ้นหูของคนตรงหน้าที่อายุน้อยกว่าเขา1ปี
Shinichiro
งั้นมาอยู่กับพวกพี่ก่อนไหมล่ะ
Shinichiro
ยังไงก็ไม่มีที่ไปอยู่แล้วนี่
Takemichi
มันจะไม่รบกวนหรอครับ
Takemichi
อีกอย่างหนึ่งแค่เรื่องเงินตอนนั้น ก็รบกวนมามากแล้วนะ
Shinichiro
ยังไงเธอก็ไม่มีที่ไปอยู่แล้วนี่น่า
Shinichiro
มาอยู่ที่โรงรถกับฉันก็ได้
Takemichi
อืม // พยักหน้าเบาๆ
Takemichi
ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวผมจะช่วยงานร้านตอบแทนเอง
ทาเคมิจิก้มหัวให้กับผู้ช่วยชีวิตแล้วยังจะใจดีให้เขาอาศัยนอนอยู่ชั้นสองของร้านซ้อมมอเตอร์ไซด์อีก
Shinichiro
ได้หมดเลย ฉันไม่อยากให้เธอไปยืนตากลมอยู่ข้างนอกที่มีนักเลงวิ่งวุ่นกันหรอกนะ
ชินอิจิโร่ว่า โบกมือไปมาอย่างไม่ถือสา ยังไงห้องข้างบนก็มีฟูกนอนสำหรับพวกเด็กๆอดีตแก๊งที่เวลามีปัญหาอะไรก็ชอบมาหนีนอนที่นี่ตลอด
ทาเคมิจิเองก็คงต้องขอยืมที่นี่เป็นที่ซุกหัวนอน จนกว่าจะหาทางใช้พลังตัวเองกลับไปได้
Shinichiro
งั้นไปดูห้องกัน
Takemichi
อ่า...ครับ // พยักหน้า
มือแกร่งที่เต็มไปด้วยบาดแผลเล็กๆจากการซ่อมรถและชกต่อยแตะลงที่มือของทาเคมิจิอย่างบังเอิญ ภาพบางอย่างก็ไหลเข้ามาในหัวของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
Shinichiro
หื้ม? เป็นอะไรหรือเปล่า
Takemichi
เปล่าครับ // ส่ายหน้าเบาๆ
ทาเคมิจิเงยหน้าขึ้นสบตาคนสูงกว่า ก่อนจะส่งยิ้มให้จางๆ
เขาจะบอกได้อย่างไรว่าเขาเห็นฉากการตายของ 'อีกคน' รวมทั้งคำสาปบางอย่างที่เกาะไหล่อีกฝ่ายกำลังเปลี่ยนไปเกาะที่น้องชายอีกคนแทน
Takemichi
.... // ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ดูเหมือนเขาจะ 'ปล่อยมัน' ไปไม่ได้เสียแล้ว
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!