NovelToon NovelToon

เพราะหัวใจ ไม่เคยรัก BL

บทนำ

เราผ่านเรื่องราวต่างๆด้วยกัน ทั้งทุกข์ ทั้งสุข ฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างที่ขวางทาง คอยดูแลห่วงใยช่วยเหลือกันและกัน ทำทุกอย่างด้วยกันราวกับคนรัก แต่ในวันที่เขาลองอ้อมถามความใน คำตอบที่ได้มานั้นช่างเจ็บปวดเสียเหลือเกิน

ข้าคือมานโรห์ บุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูล เบอนี่เซนท์ มานโรห์ เบอนี่เซนท์ ผู้มีผมสีแดงอมม่วงที่ได้มาจากมารดาผู้เป็นเมียน้อย ข้าคือบุตรที่น่ารังเกียจ ลูกเมียน้อยที่ไม่ควรโผล่มา

ในช่วงที่ตระกูลเบอนี่เซนท์กำลังวุ่นวาย จากการเปลี่ยนผู้นำตระกูลคนใหม่ ในวันที่บิดาของเขาได้เป็นเจ้าตระกูลเพียงไม่กี่วัน มารดาของเขาก็พาเขามาเกาะประตูรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ มารดาของเขาร้องห่มร้องไห้อย่างหนักราวกับว่าหากไม่มีใครออกมาดู ก็จะร้องจนกว่าจะสิ้นลม

เขาไม่เข้าใจ เขาทำเพียงแค่ยืนดูท่านแม้ร้องไห้โหวกเหวกโวยวายเสียงดัง เขาเพียงยืนมองข้างในคฤหาสน์ผ่านรั้วกั้นอย่างสงบนิ่ง

มารดาหรือผู้เป็นแม่ของเขาร้องอยู่หลายวัน ตะโกนเสียงดังว่าไม่ยุติธรรม บอกว่าตนเองช่วยชีวิตผู้เป็นบิดาไว้ แต่กลับได้รับการตอบแทนแบบนี้นั้นไม่ยุติธรรม

......เขาไม่เข้าใจ......

...เขาเพียงสงบนิ่ง ข้างมารดาอันเป็นที่รัก แต่เมื่อเห็นว่ามารดาของตนร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด เขาก็เริ่มร้องไห้ตาม...

...ไม่นาน ผู้เป็นบิดาก็ออกมารับพวกเราเข้าไป ถึงตอนนั้นมารดาก็ยิ้มออกมาราวกับคนโง่ เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ...

...ชีวิตในคฤหาสน์ไม่ได้ดีขนาดนั้น มารดาของเขาทะเลาะกับบิดาทุกวัน เขาไม่รู้เรื่องมากหรอก แต่น่าจะเป็นเรื่องที่บิดาผิดสัญญาที่ว่าจะแต่งงานกับมารดา แต่ไปแต่งกับคนอื่น แล้วก็เรื่องที่มารดาช่วยชีวิตบิดาไว้ ถึงขนาดที่ขายตระกูลตัวเองเพื่อบิดาของเขา แต่กับได้รับสิ่งที่ไม่คุ้มค่ากลับมา...

...นอกจากนี้ยังมีเรื่องทะเลาะกับคนในคฤหาสน์อีกมากมาย เขาไม่รู้หรอก...

...^^^เพราะเขาไม่อยากรู้^^^...

...แต่แล้ววันหนึ่งในตอนอายุ 9 ปี เขาก็ได้พบกับสิ่งที่เรียกว่า "รักแรก"...

เขาตกหลุมรักความใจดีและเมตตาอันน้อยนิดที่อีกฝ่ายมอบให้ เพียงเพราะสงสารหรือไม่ก็สมเพช

...เขาไม่รู้หรอกว่าเป็นอันไหนกันแน่...

...แต่เขาก็ได้ปฏิญาณกับพระเจ้าที่เขาไม่เคยเชื่อมั่น ว่าจะมอบทุกอย่างมห้กับเขาคนนี้...

...เขาเก็บความรู้สึกนี้ไหว้กับตัวเอง ไม่เคยบอกใครเลยสักคน...

เขาใช้เวลาหลายปีในการเข้าใกล้รักแรก ไม่ว่าจะเป็นถานะแบบไหนเขาขอแค่ได้เคียงข้างกันไปด้วยกัน เขาก็พอใจแล้ว

...เมื่อมีเรื่องราวต่างๆมากมายถาโถมเข้ามา ความใกล้ชิดสนิทสนม ความห่วงใย สิ่งต่างๆก็ทำให้เขาเผลอคิด คิดว่าอีกฝ่ายเองก็มีใจให้...

...คิดว่าความรู้สึกเรานั้นตรงกัน...

...คิดมาตลอด ว่าหัวใจของเราเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน เขาคิด.......

...แต่มันไม่ใช่เลย.......

บทที่1 ตอนที่1 ความช่วยเหลือจากบุคคลปริศนา

ในเช้าวันหนึ่งที่แม้แต่ดวงอาทิตย์ก็ยังไม่ทันโผล่ขึ้นมาขากขอบฟ้า มีเพียงความมืดมิดที่ปกคลุมกับแสงขันทร์ที่ยังส่องสว่างนำทางพวกเขาสู่สถานที่ที่ไม่คุ้นเคย

"เร็วเข้า ตามแม่มา อย่าหยุดวิ่งเด็ดขาดนะ"เสียงหอบหายใจและเสียงเรียกที่ไม่นุ่มนวลนักดังจากหญิงสาววัย15ผู้เป็นแม่ เส้นผมสีแดงสวยงามบัดนี้หม่นหมองลง ร่างกายที่ขาวเนียลสะอาดบัดนี้กลับแปดเปื้อนไปด้วยคราบฝุ่นและดิน

เด็กชายออกแรงวิ่งตามผู้เป็นแม่อย่างสุดชีวิต แต่ขาที่สั้นกลับไม่เป็นใจนัก ภาพตรงหน้าของเด็กชายพร่ามัว เด็กชายรู้สึกได้ถึงปอดของตนที่ตอนนี้เหมือนมีไฟเผาไหม้ข้างใน

"ได้โปรดลูกแม่ เร็วเข้า ฮึก ห้ามหยุดเด็ดขาดนะมานโรห์ลูกแม่"เสียงของแม่นั้นเต็มไปด้วยเสียงหอบหนักและเสียงสะอื้นไห้

เมื่อได้ยินดังนั้นเด็กชายก็กัดฟันวิ่งต่ออย่างไม่ลดระ เด็กชายวัย5ขวบพยายามอย่างหนักที่จะขยับร่างกายให้ไวขึ้น แต่ทุกๆการเคลื่อนไหวนั้นเจ็บปวดราวกับบางสิ่งในร่างกำลังฉีกขาด

...เมื่อเด็กชายกำลังจะล้มลง ผู้เป็นมารดาไม่รอช้า รีบหันกลับไปอุ้มลูกชายของตนไว่ในอ้อมอก ก่อนจะออกวิ่งตรงไปยังข้างหน้าอย่างสึดชีวิต...

...เสียงฝีเท้ามากมายวิ่งตามมาเป็นขบวน เสียงคร่ำครวญหยาบโลนดังขึ้นจากพวกเขา บ้างก็คุกคาม แต่แล้วฝีเท้าและคำพูดเหล่านั้นก็หยุดลง เมื่อเหยื่อของพวกเขาได้มาถึงทางตัน...

...หากวิ่งต่อไปข้างหน้าก็จะเป็นหุบเหว หากวิ่งกลับทางเดิมก็จะโดนจับกุม...

...มารดาอุ้มเขาไว้ในอ้อมกอด ร่างกายของมารดาเขาสั่นไหว เขาพยายามฝืนลืมตาขึ้นมา แต่เปลือกตาก็หนักเกินกว่าจะขยับได้...

..."จะรีบหนีไปไหนเล่าคุณผู้หญิงคนสวย ไม่มาสนุกกับเราสักหน่อยเหรอจ้ะ เดี๋ยวพวกเราจะพาไปขึ้นสวรรค์เอง"...

...คำพูดที่หยาบคายถูกพ่นออกมาจากชายตัวโตที่มีกลิ่นเลือดคละคลุ้ง พวกมันยิ้มอย่างน่าขยะแขยง สายตาของพวกมันเหล่านั้นต่างมองมาที่ผู้เป็นมารดาอย่างหยามเหยียดและลวนลาม...

...แต่เมื่อสายตานั้นหยุดลงที่เด็กชาย เดิมสายตาที่น่ารังเกียจนั้นก็น่ารังเกียจยิ่งกว่าเดิมเป็นพันเท่า...

..."ถ้าเจ้ากลัวลูกเจ้าเหงา พวกเราก็สามารถเล่นกับลูกเจ้าด้วยได้นะ รับรองจะดูแลอย่างดีเลยเคี๊ยกๆๆ"...

...พวกมันจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาแทะโลมตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ว่าคนหนึ่งจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว อีกคนเป็นเพียงเด็กไม่กี่ขวบก็ตาม...

...และในมุมมืดมุมหนึ่งในป่า มีใครบางคนกำลังเฝ้าดูพวกเขาอย่างสนใจอยู่ ใครบางคนนั้นจ้องมองพลางสแยะยิ้ม ก่อนจะหายไปในเงามืด...

..."ออกไปให้พ้นนะ อย่ามายุ่งกับพวกเรา"...

ผู้เป็นมารดาตะโกนออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ เธอหอบ

หายใจอย่างหนัก ในขณะที่ค่อยๆถอยหลังอย่างช้าๆ แต่เมื่อฝ่าเท้าเปลือยเปล่าสัมผัสได้ถึงก้อนหินที่ร่วงลงไปยังหุบเหว เธอก็ตระหนักได้ว่าสุดท้ายเธอคงจะไม่รอด

พวกมันเหล่านั้นเมื่อเห็นว่าเธอหมดหนทาง ก็ค่อยๆดดินเข้าใกล้สิงแม่ลูกด้วยท่าทีระวัง ในมือของพวกมันถืออาวุธเอาไว้พร้อมใช้งานหากว่า สองแม่ลูกผู้เคยสูงศักดิ์จะหาทางตอบโต้ขึ้นมา

...บรรยากาศของป่าโดยรอบนั้นเงียบสงบ มีเพียงเสียงหายใจระรัว กับเสียงสายน้ำในหุบเหว...

ทันใดนั้นใบไม้ที่ปลิวอย่างรวดเร็วก็ปลิวมาตัดหัวพวกมันคนหนึ่งในกลุ่ม สร้างความตระหนกให้กับพวกมันอย่างมาก

พวกมันที่เกลือหันมองรอบข้างอย่างหวาดกลัว กลัวว่าหัวของตนจะหลุดออกจากบ่าเป็นรายต่อไป

เมื่อผู้เป็นมารดาเห็นว่าพวกมันเหล่านั้นกำลังอยู่ในสภาวะแตกตื่น เธอก็ตัดสินใจกระชับลูกในอ้อมกอดให้แน่น และวิ่งหนีเข้าป่าอีกครั้งอย่างสุดชีวิต

พวกมันเห็นดังนั้นก็พากันโมโห แต่ยังไม่ทันได้ออกวิ่งตามสองแม่ลูกนั่นไป ใบไม้หลายใบก็ปลิวมากับลม ปลิวมาบดบังทัศนวิสัยต่าง

..."แม่งเอ้ยนี่มันเหี้ยไรอีกวะ"...

...หนึ่งในนั้นพูด...

"ดูเหมือนนี่จะเป็นพลังเวทมนตร์นะครับ เราควรทำอย่างไรดี"

..."ถามมาได้ ก็ต้องจับตัวไอพวกเวรสองแม่ลูกนั่นมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม"...

..."แต่ว่า....อ้ากกกก"...

ยังไม่ทันที่หนึ่งในพวกมันพูดจบ พายุใบไม้ที่แค่พัดรอบตัวพวกมันก็เปลี่ยนมาพุ่งใส่อย่างรวดเร็ว ตัดขาดร่างกายเป็นหลายท่อน แต่ใบไม้เหล่านั้นก็ไม่ได้ร่วงลงบนพื้น

...พายุใบไม้เหล่านั้นพัดผ่านนำพาชีวิตที่โสโครกเหล่านั้นให้ดับสิ้นไปทีละคนอย่างรวดเร็ว ...

...หากแต่...

..."เหอะ ของแค่นี้ทำอะไรกูไม่ได้หรอก ทางที่ดีมึงออกมาสู้กันตรงจะดีกว่านะ กูขอเตือน"...

...หนึ่งในพวกนั้นรอดชีวิตจากพายุใบไม้ได้ ท่าทางของมันดูไม่ทุกข์ร้อนกับความตายของสหายของมันเลยสักนิด...

...บุคคลปริศนาหลี่ตามองอย่างรังเกียจ ก่อนจะเผยตัวออกมาต่อหน้ามัน เมื่อมันเห็นก็แค่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างถือวิสาสะ...

...บุคคลปริศนาสวมฮู้ดและผ้าคลุมทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าเป็นใคร แต่จากรูปร่างแล้วนั้นก็ไม่ต่างไปจากเด็กวัย12ปีเท่าไรนัก...

..."ดูๆไปแล้วแกมันก็แค่เด็กเองนี่หว่า ฮะฮ่า แค่ใช้พลังได้นิดหน่อยอย่ามาทำตัวได้ใจเกินไปนะไอหนู ดกี๋ยวกูจะสอนเองว่าพลังที่แท้จริงเป็นยังไง"...

ว่าจบมันก็ร่ายมนต์บางอย่าง เงาสีแดงค่อยคืบคลานออกมาจากตัวมัน กลิ่นเหม็นเน่าของเลือดโชยออกมาอย่างรุนแรง

เพียงแต่บุคคลผริศนาก็ทำเพียงแสยะยิ้มเหยียดหยาม

..."ก็นึกว่าจะโชว์อะไร ที่แท้ก็แค่เวทมนต์โง่ๆ เหอะ"...

เมื่อกล่าวจบบุคคลปริศนาก็ร่ายคาถาบางอย่าง สายลมพัดมาอย่างรุนแรง แรงจนถึงขนาดบาดเนื้อให้เป็นแผลได้อย่างง่ายดาย ราวกับตัดเค้ก

มันจ้องมองอย่างเดือดดาล ร่างกายของมันค่อยๆบิดเบี้ยวขึ้นทีละนิด แขนกับขาบิดไปมาแย่างผิดรูป ลำคอของมันค่อยๆหักงอและบิดแบบที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ มันแสยะยิ้ม

..."อย่าให้มันมากนัก "...

เสียงของมันแหบแห้งและก้องกังวาลไปทั่วป่าอย่างน่าหวาดกลัว ในเสียงนั้นมีทั้งเสียงขู่คำรามราวกับสัตว์ป่ากระหายเลือด

...ทันใดนั้นมันก็ออกตัวกระโจนเข้าหาบุคคลปริศนายี่นอย่างรวดเร็ว มันอ้าปากกว้าเผยให้เห็นฟันของมันที่ยาวและแหลมคม พยายามจะเข้าสู่วงล้อมพายุ แต่เมื่อมันจะเข้าถึงตัวได้ เด็กหนุ่มปริศนาก็เพียงสะบัดแขนเสื้อ สายลมก็พัดมันพุ่งชนกับต้นไม้เข้าอย่างจัง...

..."คำพูดมากมาย แต่ไม่มีความหมายเลยสักคำ"...

...เด็กหนุ่มปริศนาพูดกับมันยังดูถูก แม้นว่ารอบข้างจะมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่างแต่มันก็สัมผัสได้ถึงสายตาของเด็กหนุ่มปริศนาชื่อกำลังมองมันด้วยความสมเพชและดูถูกเหยียดหยาม...

มันโมโหมากกว่าเดิม ร่างกายของมันปล่อยกลุ่มควันสีแดงเหม็นเน่าออกมาอย่างรุนแรง ควันนั้นได้เข้าไปปนกับพายุสายลมของเด็กหนุ่มปริศนา เมื่อกลุ่มควันนั้นครอบคลุมเด็กหนุ่มปริศนาได้ ตัวมันก็ไม่รอช้า ร่างกายมันหายวับอย่างรวดเร็วก่อนจะโผล่ข้างหลังของเด็กหนุ่มปริศนา

...มันอ้าปากกว้าง กว้างมากพอที่จะกินเด็กหนุ่มเข้าไปได้ เด็กหนุ่มตื่นตระหนก ในขณะที่มันกำลังจะกัดเข้ามา เด็กหนุ่มก็รีบรวบรวมพลังเพื่อป้องกันการโจมตีนั้น...

..."อ้ากกกกกกกกกกกกกก"...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!