เสียงเปิดประตูเข้าบาร์มีคน 7 คนค่อยๆเดินเข้ามาได้แก่ ชายหนุ่มผมสีดำสนิท ในตาสีดำสนิทไร้แววตาใดๆ สีหน้าที่ดูเหมือนเศร้าตลอดเวลาก้มหน้าก้มตา ใส่ชุดสูทผูกเน็กไท
สาวผมสั้นผมสีเหลือง ในตาสีเหลืองอ่อน มีสีหน้าบึ้ง ใส่ชุดซิสเตอร์ รูปร่างสูงใหญ่ท่าทียิ่งเล็กน้อย
หญิงสาวผมขาว ในตาสีฟ้า ใส่เสื้อสีขาวใส่เสื้อคลุมจอมเวทย์สีดำหมวกใบใหญ่เสือดำ สะพายไม้คฑาสีดำ
ชายผมดำปลายผมสีเลือด ใส่ผ้าปิดตาข้างขวา ตาข้างซ้ายสีแดงเลือด ใส่เสื้อสีดำใส่เสื้อกั๊กสีดำขอบแดง กางเกงสีดำ ล้วงกระเป๋ากางเกงเดินเข้ามา
หญิงสาวผมน้ำเงิน ตาสีน้ำเงินขอบตาดำปี๋ใส่ชุดสบายๆ เดินเข้ามาอย่างเหนื่อยหน่าย
หญิงสาวผมดำ ในตาสีม่วง สีหน้าเย็นชา ใส่เสื้อกับเสื้อกั๊กแขนสั้นเอวลอยสีดำใส่กางเกงสีดำ ใส่ถถุงมือสีดำ
ชายผมดำ ในตาสีเทา สีหน้าสดใส ใส่เสื้อแขนยาวสีขาวกางเกงสีดำ แล้วมีผ้าคลุมสีดำปิดไหล่ขวา
ทั้งเจ็ดคนแค่เข้าบาร์ในเวลาเดียวกันไม่ได้รู้จักกันแต่อย่างใด แต่ละคนส่วนเดินไม่มองจะชนกันอยู่ล่ะ แล้วทั้งเจ็ดคนเดินเข้าไปในบาร์
ในบาร์นั้นเต็มไปด้วยผู้คนเสียงพูดกันดัง นอนหลับคาโต๊ะก็มี
สาวเสิร์ฟผมส้ม ใส่ชุดกระโปรงสีแดง ปลายกระโปรงปกเสื้อมีสีขาวเหมือนผ้ากันเปื่อนเดินเข้ามาหาทั้งเจ็ดคนโดยมีท่าทีร่าเริง
"สวัสดีค่ะคุณลูกค้า ยินดีต้อนรับเข้าสู่ร้านบาร์ลาเวน มากันเจ็ดคนใช่ไหมค่ะ"สาวเสิร์ฟถามพร้อมมองไปที่ทั้งเจ็ดคน
ชายผมดำใส่สูทเงยหน้า"เปล่าเราแค่เข้ามาในจังหวะเดียวกันเฉยๆ"แล้วเขาก็เอามือเข้ากระเป๋ากางเกง
"ใช่พึ่งเจอกันเมื่อกี้แค่เข้ามาพร้อมกันเฉยๆ"สาวผมเหลืองใส่ชุดซิสเตอร์พูดต่อในทันที
สาวเสิร์ฟชี้ไปที่โต๊ะที่ว่างอยู่"งั้นเหรอค่ะพอดีว่าทางเราตอนนี้มีโต๊ะแค่เดียวอ่ะค่ะ"
ชายผมปลายเลือดมีท่าทีเหนื่อยใจ"เอาจริงดิทำไมต้องวันนี้ด้วยนี่ร้านสุดท้ายแล้วนะ"
สาวตาม่วงหันหน้าไปทางอื่น"พอเวลาจะนั่งคนเดียวทำไมมันไม่เคยมีโต๊ะว่างเลยว่ะ"เธอพูดอย่างหงุด
"กะจะมาผักผ่อนสักหน่อยเฮ้ย"สาวผมนํ้าเงินขอบตาดำ ถอนหายใจ
สาวผมขาวหลับตาลงไม่พูดอะไร
"ทุกคนทำไมกังวลกันขนาดนั้นล่ะก็แค่นั่งด้วยกันเอง แล้วก็เป็นการหาเพื่อนไปในตัวด้วยนะ"ชายตาเทาพูดโพลงขึ้นมาท่ามกลางความตึงเครียด
ทุกคนยกเว้นชายใส่สูทหันหน้ามองชายตาเทา
"ใครเขามาหาเพื่อนอะไรก็มีเวลานี้กัน"สาวซิสเตอร์ มองด้วยท่าทีหยิ่งยโส
"คนเฟรนลี่แบบแกนี่แหละที่ฉันจะไม่เอาเป็นเพื่อน"สาวตาม่วง มองแบบอยากมีเรื่อง
"ฉันไม่ได้กะจะว่าอะไรอะไรหรอกน่ะ แต่นายดูไม่กังวลเวลาเจอคนแปลกหน้านะแปลกๆนะ"ชายผมปลายเลือดเข้ามาแตะไหล่ทั้งสองข้างของชายตาเทา
สาวผมนํ้าเงินมองชายตาสีเทาด้วยลท่าทีรังเกียจ
"เดี๋ยวๆทุกคนฉันไม่ใช่คนน่าสงสัยสักหน่อย"ชายตาเทาเหงื่อตก
หญิงสาวผมดำตาม่วงเดินเข้ามาจ้องหน้าชายผมเทาด้วยสีหน้าหน้ากลัว"รู้อะไรไหมคนที่บอกว่าตนเองไม่ใช่คนหน้าสงสัย น่าสงสัยที่สุดแล้ว"
ชายตาสีเทาเกิดอาการหวาดกลัวจนถึงที่สุด
สาวเสิร์ฟกังวลทำตัวไม่ถูก
ได้มีใครบางคนมาแตะไหล่สาวตาม่วง"ใครน่ะ"สาวตาม่วงพูดด้วยนํ้าเสียงเหวี่ยงวีนแล้วหันมาหาคนที่แตะ
นั้นชายใส่ชุดสูทได้เข้าแตะไหล่แล้วโดนสาวตาม่วงปัดมือทิ้ง"อยากมีเรื่องหรอ"สาวตาม่วงพูดได้ท่าทีไม่พอใจ
"ฉันไม่ได้อยากมีเรื่องนะแต่เธอใจเย็นลงก่อนแค่นั่งเก้าอี้ด้วยกันมันไม่ได้แย่ขนานนั้นหรอกนะ"ชายใส่สูทพูดด้วยท่าทีใจเย็น
สาวตาม่วงครุ่นคิด แล้วเดินเชิดไปที่โต๊ะที่ว่างอยู่
"พอฟังดูแล้วก็อาจจะไม่แย่ขนาดนั้นหรอกมั้ง"ชายผมปลายเลือดเดินตามไป
"เฮ้ออยากจะนั่งคนเดียวสักหน่อย"สาวผมนํ้าเงินขอบตาดำ ก็เดินตามไป
"ก็เอาเถอะแต่ฉันก็ไม่อยากหาเพื่อนหรอกนะ"สาวผมเหลืองส่ายหน้าแล้วเดินตามไป
สาวผมขาวใส่ชุดจอมเวทย์ก็ยังไม่ได้พูดอะไรแล้วก็เดินตามไป
ชายใส่สูทตบไหล่ชายตาเทา"แต่ก็น่ะวันนี้จะเป็นที่วันที่แย่หรือจะเป็นวันที่ดีก็อยู่ที่มุมมองของนายนะ"แล้วก็เดินตามไป
"เฮ้อก็คุณแม่เคยบอกว่าให้ทักทายคนอื่นอย่างเป็นมิดนี่น่า"แล้วชายตาเทาก็เดินตามไปนั่งด้วย
ทุกคนก็เข้ามานั่งล้อมโต๊ะโดยที่บรรยากาศมาคุแบบสุุดๆ ต่างคนต่างดื่มเหล้าไม่มีใครพูดอะไรกันเลย
"เอิ่มทุกคนชีวิตช่วงนี้เป็นไง"ชายผมเทามีท่าทีเลิกลั่กพยายามหาเรื่องคุย
ทุกคนต่างเงียบ ทำเอาชายผมเทาหง่อยไปเลย
เวลาค่อยๆผ่านไปหลายคนเริ่มเมาแอ๋กันจนแต่ละคนเริ่มพูดความในใจ
"ชีวิตแม่งเฮงซวย รู้อะไรไหม แม่งวันนี้ฉันโดนไล่ออกจากปาร์ตี้พวกแม่งบอกว่าฉันทำได้แค่ป้องกันโจมตีก็เบา ไอ้เวรเอ้ยแม่งฉันเป็นแนวหน้าให้ฉันเข้าไปโจมตีแนวหลังหรือไง ไล่ฉันออกจากตี้ไม่มีคนป้องกันพวกแม่งต้องมาง้อฉันคอยดู บลา บลา"ชายผมปลายเลือดเมาแอ๋พูดออกมาไม่หยุดแล้วเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง
"ใช่เลยแม่งชีวิตเฮงซวย แม่งฉันโดนโบยความผิดที่ฉันไม่ได้ทำจนโดนไล่ออกมา แถมพวกแม่งยังส่งคนมาตามล่าฉันอีก คอยดูเลยวันหลังฉันจะไปถล่มองค์กรแม่งให้เละเทะ"สาวตาม่วงที่เมาแอ๋พูดต่อจากชายผมปลายเลือด
"555555555"ทั้งสองคนกอดคอกันหัวเราะยังกับชีวิตจะไม่หรืออะไรแล้ว
ชายใส่สูทมองดูสาวตาม่วงกับชายผมปลายเลือด"เฮ้ยแอลกอฮอล์เข้าร่างกาย นิสัยจริงออกมาทันที"แล้วเขาก็จิบเหล้าอีกหนึ่งอึก
ชายใส่สูดชายตามองไปทางสาวผมเหลืองที่หน้าแดงที่เอาคางเกยมือตัวเอง
เธอมีสีหน้าที่เคร่งเครียด".....จนถึงตอนนี้....ฉันก็ยังหาไม่เจอเลย"แล้วเธอก็ฟุบไปกับโต๊ะเลย
เสียงฟุบโต๊ะดังข้างชายใส่สูทคนที่ฟุบไปนั้นคือชายตาเทาซึ่งดูเมาแอ๋กว่าคนอื่นอีก
"เฮ้ เป็นไรเปล่า"ชายใส่สูทพยายามดูอาการของชายตาเทาอยู่
"สาวผมนํ้าเงิน ดูน่ารักจังเลยน่ะ"ชายผมเทาพูดอย่างสลืมสลือ
ชายใส่สูททำหน้าเอือม
แล้วชายใส่สูทหันไปทางสาวผมนํ้าเงินซึ่งเธอก็หน้าจุ่มโต๊ะไปอีก 1 คน
แล้วชายผมปลายเลือดกับสาวตาม่วงก็นอนฟุบกับโต๊ะอีก
ซึ่งตอนนี้ตอนนี้มีแต่ชายใส่สูทกับสาวผมขาวที่ยังไม่ฟุบกับโต๊ะ
สาวผมนํ้าเงินที่หน้าเมามากๆอยู่ๆก็ลุกขึ้น"ไอ้เจ้าพวกมนุษย์เฮงซวยแม่งมาหลอกฉันกดราคาค่าวัตถุดิบชิบหายเลย ไปตายกันให้หมดซะไอ้มนุษย์เฮงซวย"หลังจากเธอตะโกนเสียงดังเสร็จเธอก็ลงฟุ๊บก็โต๊ะเหมือนเดิม
"เฮ้ย"ชายใส่สูทกับสาวผมขาวอุทานออกมา
ชายใส่สูทกับสาวผมขาวตกใจว่าอย่างมากแล้วต่างหันไปรอบๆแต่โชคดีที่เสียงคุยต๊ะข้างๆกลบไปหมดแล้วไม่งั้นสาวผมน้ำเงินได้เละแน่
ทั้งคู่ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
"ทำเอาตกใจหมดเลยเมื่อกี้นึกว่าจะโดนหาเรื่องล่ะ"ชายใส่สูทพูดออกมาพร้อมเอามือเกยคาง
"นั่นสินะนายกลัวที่จะโดนรุมกระทืบหรือยังไง"สาวผมขาวตอบกลับ
"ก็ไม่หรอกฉันแค่ไม่อยากจะกระทืบคนอื่นเละอ่ะนะ"
"พูดซะนายเก่งขนาดที่ว่าสู้กับคนทั้งร้านได้อ่ะนะ"
"แล้วเธอคิดว่าฉันทำไม่ได้หรือยังไง"ชายใส่สูทพูดพรางดูไปที่แก้วเหล้า
"ทำไมพูดเก่งสุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้หรอก"
"ก็คงงั้น.........เพราะฉันไม่สามารถช่วยใครได้เลย"ชายใส่สูทพูดด้วยเสียงแผ่วเบาด้วยสีหน้าเศร้า
สาวผมขาวเงียบไปไม่พูดอะไรจากนั้นเธอก็ดื่มเหล้าไปหมดแก้วได้ทีเดียว
หน้าเธอนั้นแดงกล่ำเธอเริ่มแสยะยิ้มออกมา
"นายรู้อะไรไหมตบคนทั้งร้านนี้โดยไม่ต้องขยับตัวแม้แต่น้อยเลยนะ"สาวผมขาวเริ่มโม้
เธอจากพรรณนาถึงความเก่งของตัวเองว่าตัวเองสามารถทำอย่างนู้นอย่างนี้ได้ ซึ่งชายใส่สูทก็เหมือนจะตั้งใจฟังแต่ก็ไม่ได้ฟังเลยแม้แต่นิดเดียว
จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปเธอก็ฟุบกับโต๊ะไปอีก 1 คน
"แต่สุดท้ายฉันก็ไม่เคยเอาชนะอาจารย์ได้เลยสักครั้งเดียว"เธอพูดด้วยสีหน้าเศร้าซอย
"ทำไมล่ะที่เธอพูดมาทั้งหมดเธอก็ดูเก่งมากเลยนะ"ชายใส่สูทถามด้วยความสงสัย
"ก็อาจารย์น่ะตายไปแล้ว"หลังจากเธอพูดเสร็จเธอก็นอนหลับอีก 1 คน
"แหมชอบพูดได้ค้างคาจังเลยนะแต่ก็เอาเถอะ"ชายผมดำพูดเสร็จแล้วลุกขึ้น
เขากำลังเดินไปจ่ายเงินแล้วออกจากร้าน
"ยินดีที่ได้พบแล้วก็ลาก่อนนะ"ชายใส่สูทพูดเสร็จก็เดินหันหลังไป
ในระหว่างทางเดินนั้นด้วยการเมาทำให้เขานึกถึงเรื่องบางอย่าง
(นายน่ะคือคนดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ)หญิงสาวผมขาวในความทรงจำพูดออกมา
(นายแข็งแกร่งมากเลยน่ะ)เธอคนนั้นพูดพลางยิ้มไปด้วย
(นายน่ะเป็นคนที่ฉันรักมากที่สุดเลยน่ะ)เธอคนนั้นก็ยังพูดออกมา
จากนั้นภาพของเธอก็เปลี่ยนเป็นตอนที่เธอนั้นบาดแผลเต็มตัวเลือดไหลออกมาไม่หยุด
(แลนซ์อย่าทำหน้าแบบนั้นสิยิ้มเข้าไว้สิเหมือนที่นายเคยทำไง)เธอคนนั้นก็ยังฝืนพูดทั้งๆที่เลือดก็กำลังกลบปากอยู่
ชายใส่สูทพี่กำลังนึกถึงความทรงจำในอดีตก็ได้มีน้ำตาไหลออกมา
"นายจะไปไหนน่ะ"สาวผมใส่ชุดจอมเวทย์ที่หมวกหลุดเดินเข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง
"เฮ้ยอะไรของเธอเนี่ยปล่อยฉันนะ"ชายใส่สูทพยายามดันตัวสาวผมขาวแต่เธอไม่ยอมปล่อย
"ขอร้องล่ะแค่นายคนเดียวเท่านั้นอย่าทิ้งฉันไปเลยนะ"สาวผมขาวพูดด้วยความสลืมสลือแล้วก็หลับไปอีกแล้ว
ดวงตาสมชายใส่สูทนั้นเบิกกว้าง แล้วหันไปมองหน้าสาวผมขาว ภาพสาวผมขาวที่ซ้อนทับกันดวงตาของเขาก็เริ่มมีน้ำอุ่นออกมาเขาตัวเขานั้นก็ได้หันไปมองกลุ่มคนที่นั่งโต๊ะเดียวกับเขา เหล่าภาพในความทรงจำมากมายซ้อนทับกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า น้ำตาของเขานั้นเริ่มไหลริน
"อีกสักครั้งหนึ่ง.....อีกสักครั้งหนึ่งที่ฉันจะต้องปกป้องไว้ให้ได้"ชายใส่สูทนั้นยึดมั่นกับตัวเอง
"คุณลูกค้าคะจะกลับแล้วหรอคะ"สาวเสิร์ฟผมน้ำตาลเดินเข้ามาสกิดไหล่
"ไม่มีอะไรครับไม่มีอะไรผมแค่ที่เส้นยึดสายนิดหน่อยเดี๋ยวก็กลับไปนั่งล่ะ"ชายใส่สูทพูดพลางยิ้มไปด้วย
"อ๋องั้นเหรอคะงั้นฉันไปแล้วนะคะ"สาวเสิร์ฟก็เดินจากไป
จากนั้นชายใส่สูทก็อุ้มตัวสาวผมขาวไปนั่งฟุบกัโต๊ะเหมือนเดิม แล้วเขาก็ไปนั่งข้างๆเธอมองหน้าเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
เมื่อเวลาผ่านไปตอนร้านใกล้ปิด ที่ลูกค้าในร้านเหล้าคนอื่นก็กลับกันหมดแล้ว
"คุณลูกค้าค่ะ ตอนนี้ร้านใกล้ปิดแล้วน่ะค่ะ"สาวเสิร์ฟเดินมาบอกชายใส่สูท
"อ่องั้นเหรอครับ เดี๋ยวแปปนึงน่ะครับ"ชายใส่สูทลุกขึ้นแล้วล้วงกระเป๋า
เขาหยิบถุงเงินออกมา
สาวเสิร์ฟพาชายใส่สูทไปหาเจ้าของร้านที่เคาเตอร์
เจ้าของร้านเป็นผู้หญิงรูปร่างใหญ่ ผมนํ้าตาล
"เฮ้เจ้าหนุ่มนี่คิดจะนั่งอีกนานเท่าไหร่เนี่ย"เจ้าของร้านบ่นออกมา
"ขอโทษนะครับเดี๋ยวผมก็จะพาเพื่อนผมไปแล้ว"
"อันนี้บิล"เจ้าของร้านยื่นบิลให้
ชายใส่สูทมองดูบิลแล้วก็คิดกับตัวเองว่า(นี่ดื่มกันเยอะมากเลยนะเนี่ย)แล้วเขาก็หันมองไปที่คนบนโต๊ะที่เมาเละกันหมด
แล้วชายใส่สูทก็จ่ายเงินไป
"เออคุณเจ้าของร้านผมขอให้ช่วยอะไรบางอย่างหน่อยได้ไหม ผมอยากให้เด็กเสิร์ฟมาช่วยแบบเพื่อนผมออกนอกร้านหน่อย"
"เฮ้ย เด็กๆช่วยเขาหน่อยแล้วกัน"แล้วเจ้าของร้านก็เดินไปหลังร้าน
เด็กเสิร์ฟที่ยืนตรงนั้นมีสองสามคนทำหน้าเหนื่อยใจ
"นี่พวกเราต้องมาช่วยแบกลูกค้าเหรอเนี่ย"สาวเสิร์ฟผมน้ำตาลบ่นออกมา
"เฮ้ยเอาน่าก็คุณแม่บอกมาแล้วนี่นา"สาวผมแดงอมน้ำตาลก็บ่นออกมา
"พวกเธอก็อย่าใจบ่นสิรีบไปทำได้แล้ว"สาวผมส้มก็เหนื่อยใจเหมือนกัน
"อ่ะนี่"ชายใส่สูทยื่นเหรียญทองออกมา 3 เหรียญ
"นี่ค่าอะไรคะเนี่ย"สาวผมน้ำตาลก็เดินเข้ามาใกล้ๆ
"อ๋อค่าจ้างที่จะแบกเพื่อนน่ะเอาไปคนละเหรียญ"ใช่ใส่สูทยืมให้
สาวเสิร์ฟผมน้ำตาลและแดงอมน้ำตาลดวงตาก็เบิกกว้างและยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะขอบคุณค่ะ"สาวเสิร์ฟผมน้ำตาลลุกลี้ลุกลนแล้วพูดออกมา
สาวผมส้มก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน
"เออออ ขอบคุณนะค่ะ"แต่เธอก็พูดออกมา
"ไม่ต้องขอบคุณหรอก อะเร็วเข้ามาช่วยแบกเพื่อนฉันหน่อย"
สาวเสริฟทั้งสามก็รับเงินแล้วเริ่มช่วยกันแบกคนบนโต๊ะไปหน้าร้าน
ระหว่างที่พากันแบกคนบนโต๊ะไปนั่งพิงที่หน้าร้านแล้วก็บางคนอาจจะแบกได้ง่ายชายผมดำปลายเลือดอาจจะดูตัวหนักไปหน่อยเลยชายใส่สูทก็เข้าไปช่วยแบก หลังจากช่วยกันแบกมาก็เหลือคนสุดท้ายนั่นคือสาวซิสเตอร์ผมเหลืองซึ่งดูตัวสูงกว่าชายผมแดงปลายเลือดอีก
"อ่ะคนสุดท้ายแล้ว มาช่วยกันแบกหน่อย"สาวเสิร์ผมน้ำตาลพูดออกมาแล้วเข้าไปพยุงสาวผมเหลือง
ซึ่งเธอพยายามยกตัวสาวผมเหลืองขึ้นแต่มันยกไม่ขึ้น
"เฮ้ เฟนมาช่วยกันแบกหน่อยสิ"สาวสวยผมน้ำตาลพูดแล้วหันไปมองสาวเสิร์ฟผมแดงอมน้ำตาลซึ่งเธอดูเหมือนว่าจะชื่อเฟน
"ok ok แป๊บนึง"เห็นก็เข้าไปช่วยแบก
ซึ่งเฟนเข้าไป่วยก็ดูเหมือนจะไม่ไหว
"พวกเธอไม่ต้องเดี๋ยวฉันแบกเอง"ชายใส่สูทที่เห็นว่าพวกเธอไม่ไหวก็พูดออกมา
ซึ่งพวกเธอก็ถอยออกแล้วถ้าใส่สูทก็เข้าไปพยายามยกตัวสาวผมเหลืองขึ้นโดยเขาเอาแขนข้างนึงเธอพาดไหล่เขาแล้วเขาก็ยกตัวเธอขึ้น
(.....ทำไมมันหนักได้ขนาดนี้วะ)เขาต้องฝืนนิดนึงในการที่จะลากตัวสาวผมเหลือง
ซึ่งอาจดูฝืนๆไปหน่อยแต่เขาก็พาเธอไปหน้าร้านได้แล้ว
"โอเคขอบคุณมากนะไว้วันหลังเจอกันใหม่"ชายใส่สูทที่ยืนอยู่หน้าร้านพูดออกมา
"ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะยังไงพวกเราก็รับเงินจากคุณมาอ่ะน่ะ"สาวเสิร์ฟผมส้มพูดตอบกลับ
"ยังไงก็ต้องขอบคุณนั่นแหละ"ชายใส่สูทก็ยิ้มให้
"งั้นเดี๋ยวฉันจะปิดประตูร้านแล้วนะคะ"
"อือยินดีที่ได้พบแล้วก็ลาก่อน"ชายใส่สูทก็ยิ้มให้อีก
"โอแบบนี้คงจะไม่มีคนเห็นแล้วสินะ"ชายใส่สูทมองไปรอบๆร้านซึ่งก็ไม่มีใครอยู่เพราะตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว
แล้วก็เขาสะบัดมือ
แล้วข้างในร้านเหล้า
"เออเหมือนลืมอะไรสักอย่างเลยแฮะ"สาวผมส้มพยายามนึกถึงอะไรบางอย่าง
"ฮือก็คิดไม่ออกเหมือนกันไงแฮะ"สาวผมน้ำตาลพยายามช่วยคิด
"พวกเธอบอกลาเขายังล่ะ"เฟนพูดออกมา
"เออใช่ลืมไปเลยแต่เดี๋ยวก็คงไปได้ไม่ไกลเดี๋ยวไปบอกเขาดีกว่า"สาวผมส้มรีบออกจากร้าน
ซึ่งหน้าร้านนั้นว่างเปล่ามองไปยังถนนทั้ง2 ด้านก็ไม่มีคนอยู่ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนคนเดียวจะแบกคน 6 คนไปได้ไวขนาดนี้
-โปรติดตามตอนต่อไป-
ณ ห้องพักโรงแรมปกติธรรมดาๆแห่งหนึ่ง
"งื้ม...งื้ม"
สาวผมขาวตื่นขึ้นมานั่งบิดตัวสบายๆ แล้วสายตาของเธอก็เหลือบมองไปข้างหน้า
"นั้นอะไรนะ"
เธอเห็นเงาสีดำลางๆไม่ชัด เธอก็เลยขยี้ตากระพริบตารัวๆ เงานั้นเริ่มชัดขึ้น เธอเห็นเป็นผู้ชายนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามเตียงผมดำสนิทใส่ชุดแปลกไม่คุ้นตา
"ไง ตื่นแล้วเหรอหลับซะนานเลยน่ะ"
ชายคนนั้นยกมือทักทายด้วยรอยยิ้ม
สาวผมขาวเธอได้มองไปที่ในตาของคนที่อยู่ข้างหน้า ในตาของเขานั้นดำสนิทไร้แววตาใดๆ ในตาของเขานั้นทำให้้เธอนึกกลัวขึ้นมา
เธอพยายามนึกว่าชายที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้นคือใครกันแน่ แต่ด้วยความยังไม่สางเมา ทำให้นึกไม่ออกสักที
แต่ความสงสัยก็พุดขึ้นมาในใจ เธอได้มองไปรอบๆห้องสิ่งต่างในห้องทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ห้องของเธอ ความคิด1ผุดขึ้นในใจ
(หรือว่าฉันจะโดนลักพาตัว)
ชายคนนั้นลุกขึ้นเอามือท้าเอวแล้วพูดว่า
"เธอน่ะกว่าฉันจะจับให้นอนนิ่งได้นี่ซะนานเลย"
แล้วเขาคนนั้นพูดเสร็จก็ยิ้มออกมา
ด้วยคำพูดของชายคนนั้น ทำให้เธอมั่นใจได้ทันทีว่าเธอโดนลักพาตัวมา มือเธอนั้นกางออกใช้พลังเวทย์รวบรวมดินหินที่อยู่รอบๆรวบรวมเป็นก้อนหิน โดนพยายามไม่ให้ชายคนนั้นเห็น
"แล้วจะนั่งจ้องแบบนั้นอีกนานไหมล่ะเนี่ย"
ชายคนนั้นพูดเสร็จก็ยังยิ้มอยู่เหมือนเดิม
(จังหวะนี้แหละ)
สาวผมขาวยิงก้อนหินขนานเท่ากำปั้นด้วยความเร็วสูง ก้อนหินนั้นพุ่งเข้าไปที่หัวของชายผมดำแล้วทะลุหลังคาฝุ่นตลบไปหมด
"(เสียงหายใจแรง)เอาล่ะใจเย็นไว้ตัวฉัน"
เธอสำรวจร่างกายของเธอว่าโดนทำมิดีมิร้ายแล้วแล้วหรือยัง
"เฮ้ย....."
ซึ่งเธอก็โล่งเพราะเธอยังใส่ชุดเดิมของเธออยู่
สาวผมขาวเธอกำลังลงจากเตียงเท้าของเธอได้รู้สึกถึงสัมพัสหนุ่มๆที่ฝ่าเท้า
เธอได้ก้มลงไปมองเห็นเห็นสาวผมดำนอนหงายหลับบนพื้นขี้มูกโป่งที่ฝ่าเท้าของเธอเหยียบพุงสาวผมดำอยู่
"เฮ้ย!"
เธอตกใจเด้งตัวออกไปอีกด้านของเตียงแล้วเธอก็เหลียวหลังไปที่ข้างหลังเห็นสาวผมสีนํ้าเงินขอบตาดำปี๋นอนขดตัวหลับอยู่เช่นกัน
"นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย"
สาวผมขาวลุกขึ้นบนเตียงมองไปที่มุมหนึ่งของห้องเห็นสาวผมเหลืองใส่ชุดซิสเตอร์นอนโดยการนั่งพิงมุมห้องชันเขาข้างนึง
"เอ๊ะเดี๋ยวน่ะ"
เธอเริ่มจำเรื่องบางอย่างได้ เธอได้หันไปมองอีกมุมหนึ่ง ก็เห็นชายผมดำปลายเลือดนอนตัวตรงบนพื้น
"โอ ไม่น่ะ"
ความจำก่อนที่เธอจะดื่มเหล้าเข้าปากภาพตัดก็พุดขึ้นมา เธอทำหน้าเจื่อน ค่อยๆหันมอง เธอก็เห็นโต๊ะกินข้าว ที่ชายผมดำตาเทานอนฟุบกับโต๊ะนํ้าลายไหล
แล้วเธอก็หันมองกลุ่มควันที่เธอเพิ่งจะยิงเวทดินเข้าไป เธอได้นึกภาพชายใส่สูทที่หัวเละ
"นี่ฉัน....ฉัน....ฉันขอโทษ"
นํ้้าตาของสาวผมขาวไหลออกมาด้วยความรู้สึกผิด
"ตื่นมาก็ทักทายกันซะแรงเลยน่ะ"
เสียงๆหนึ่งดังมาจากกลุ่มควัน สาวผมขาวมองไปที่กลุ่มควันที่จางลง
เห็นชายผมดำสนิทใส่สูทเดินเอียงคอออกมาจากกลุ่มควัน สาวผมขาวอึ้งกับคนที่อยู่ตรงหน้า
"ได้ยังไงกันฉันยิงเร็วซะขนานนั้น"
"ก้อนหินเมื่อกี้เหรอความเร็วแค่นั้นหลบสบายอยู่แล้ว"
ชายใส่สูทเดินเข้ามาอยู่หน้าเตียงที่สาวผมขาวยืนอยู่
"เออฉันขอโทษน่ะพอดีฉัน.........."
"ไม่เป็นไรน่าอย่าคิดมากน่ะ"
ชายใส่สูทก็ยังยิ้มให้สาวผมขาว
แต่เธอก็นึกเรื่องที่ชายใส่สูทพูดได้
"แต่เดี๋ยวนะทำไมนายบอกว่า"เธอน่ะกว่าฉันจะจับให้นอนนิ่งได้นี่ซะนานเลย"นี่นายทำอะไรฉันหรือเปล่าเนี่ย"
สาวผมขาวหันตัวไปทางอื่น แล้วทำสีหน้าบึ้งตึง
ชายใส่สูทได้ยินแบบนั้นก็ตอบกลับไปว่า
"อย่ามาหาเรื่องโกรธกลบเกลื่อนน่า ที่ฉันหมายถึงก็แค่เธอนอนดิ้นจะตกเตียงตลอดอยู่แล้วกว่าจะจับให้อยู่นอนนิ่งได้โธ่ใช้เวลาเป็นชั่วโมง"
แล้วเธอก็ทำหน้าเจื่อนอีกรอบ
"ฉัน...ฉันขอโทษ"
"เอาน่าไม่เป็นไรเดี๋ยวช่วยกันปลุกทุกคนหน่อย ว่าหลังจากมีทุกคนจะเอายังไงกันต่อ"
"โอเค"
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็แยกกันไปปลุกทุกคนขึ้นมา
โดยที่เริ่มแรกชายใส่สูทก็ไปปลุกสาวผมเหลืองใส่ชุดซิสเตอร์ โดยที่เขาเขย่าตัวเธอแล้วแต่เธอก็ไม่ตื่น
"ปลุกให้ตื่นกันอยากจริงๆนะเนี่ย"
โดยวิธีต่อมาเขาได้ลองดีดนิ้วข้างหูเธอไปเรื่อยๆ
"12 12 12 123"
ในจังหวะที่เขานับ 3 เขาได้ตบมือเข้าหากันที่หน้าของเธอแล้วเธอก็สะดุ้งตื่น
"เฮ้ยๆ อะไรเนี่ย"
สาวผมเหลืองทำหน้าอึ่นๆและดูเหมือนมีอาการเมาค้างอยู่
"ตื่นได้แล้วนะเช้าแล้วนะ"
สาวผมเหลืองมองหน้าชายใส่สูทที่กำลังยิ้มเล็กน้อย แล้วส่ายหน้า
"นายนี่เองแล้วตอนนี้ฉันอยู่ไหนแล้วเนี่ย"
"ตอนนี้อยู่เธออยู่ในห้องพักโรงแรมของฉันน่ะ"
"งั้นเหรอ"
ชายใส่สูทก็ลุกขึ้นยื่นมือออกมาให้สาวผมเหลือง
"ไม่ต้องหรอกน่า"
สาวผมเหลืองปัดมือชายใส่สูทแล้วลลุกขึ้นด้วยตัวเอง
เธอลุกขึ้นมาแต่แต่ก็มีอาการปวดหัวจากการเมาค้าง
"ให้ฉันช่วยพยุงไหม"
"ไม่ต้องเลย ฉันไม่ได้อ่อนแอขนานนั้นซะหน่อย"
สาวผมเหลืองดันตัวชายใส่สูทออกจากทางเดินแล้วก็เดินไปนั่งที่โต๊ะ ที่ชายตาสีเทานอนฟุบอยู่ สาวผมเหลืองเห็นแบบนี้พูดเสียงดังไปว่า
"เห้ยตื่นได้แล้วโว้ย!"
"ห๊ะอะไรน่ะ"
ชายตาสีเทาสะดุ้งตื่นขึ้นอย่างตื่นขึ้นอย่างสะลึมสะลือ
"ตื่นได้แล้วนะเช้าแล้วนะ"
แล้วสาวผมเหลืองก็ไปนั่งที่โต๊ะด้วย
".....ปวดหัวแปล่กๆเลยแฮะ"
ชายตามเทาเอามือกุมหัวตัวเอง
ขณะเดียวกันสาวผมขาวก็ไปปลุก 2 สาวที่นอนข้างเตียงของเธอ
"เห้ยเธอตื่นได้แล้วจะนอนนอนขี้เซาไปถึงไหนเนี่ย"
"ขอนอนอีกนิดนึงน่า"
สาวผมนํ้าเงินขอบตาดำปัดมือสาวผมขาวแล้วก็นอนต่อ
แล้วสาวผมขาวก็หันไปปลุกสาวผมดำ
"เฮ้ยตื่นได้แล้วน่า"
ในจังหวะที่สาวผมขาวจะเขย่าตัวสาวผมดำ เธอได้ถูกมือของสาวผมดำปัดด้วยความเร็ว แล้วเธอก็เข้ามาล็อคคอสาวผมขาวอยู่ด้านหลัง
"เฮ้ยๆๆ!นี่ฉันเองทำอะไรของเธอเนี่ย!"
จากนั้นสาวผมดำก็ขยี้ตาตัวเองมองสาวผมขาว จากนั้นสาวผมดำก็ปล่อยสาวผมขาว
"ฉันขอโทษฉันขอโทษฉันขอโทษ ฉันแค่เห็นเธอ ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร"
สาวผมดำมีสีหน้ารู้สึกผิด
สาวผมดำเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจ
"ไม่เป็นไรนะแต่วันหลังก็ช่วยมองกันก่อนนิดนึงน่ะ"
"อือ"
สาวผมดำตอบรับอย่างรู้สึกผิด
"เฮ้ยเมื่อกี้คิดจะทำอะไรน่ะ"
ชายใส่สูทพี่มาอยู่ด้านหลังสาวผมดำเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ถามด้วยสีหน้าน่ากลัว
"เดี๋ยวๆๆเธอไม่ทำอะไรทั้งนั้นนั่นแหละ"
สาวผมขาวรีบลุกยืนพูดแก้ต่างให้
ชายใส่สูทเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมา
"โอเคเธอพูดถึงขนาดนั้นก็ไม่เป็นไรหรอก"
แล้วชายใส่สูทก็เดินออกไป แล้วสาวผมขาวก็หันมามองสาวผมดำ
"เฮ้ยเออเธอช่วยเมื่อฉันปลุกไอ้คนขี้เซานั่นหน่อยดิ"
"โอเคแล้วไหนพาฉันไปดูหน่อย"
สาวผมขาวก็ชี้ไปให้สาวผมดำมองสาวผมน้ำเงินที่นอนขี้เซาไม่รู้เรื่องอะไรเลย
"จะทำยังไงดีเนี่ยฉันเขย่าตัวเธอก็แล้วตะโกนเสียงดังอัดหูกันแล้วก็ไม่ยอมตื่นเลย"
"อืมฉันคิดว่ามีแผ่นเหล็กไหมอ่ะ"
ไปแล้วพวกเธอก็มองไปยังแผ่นเหล็กทรงกลมที่มาจากไหนก็ไม่รู้อยู่ใต้เตียง
"โอเคเจอล่ะ"
พวกเธอก็หยิบแผ่นเหล็กมาคนละอันแล้วก็หาอะไรสักอย่างมาเคาะเสียงดังข้างหูสาวผมน้ำเงินขอบตาดำ โดยที่ชายใส่สูทเหลียวหลังมองพร้อมขำไปด้วย
"อะไรกันวะเนี่ยใครมาตีเหล็กข้างหูวะ"
สาวผมน้ำเงินสะดุ้งตื่นขึ้น แล้วก็เห็นสาวผมขาวแล้วผมดำที่ทำได้เหนื่อยใจ
"เออพวกเธอตอนนี้ฉันอยู่ไหนแล้วเนี่ย"
"เดี๋ยวตื่นก่อนเดี๋ยวจะให้คนใส่ชุดแปลกๆที่ดูดีอธิบายแล้วกัน"
"งั้นเหรอ"
และแล้ว 3 สาวก็พากันเดินไปนั่งที่โต๊ะ
ในขณะเดียวกันใช่ใส่สูทก็เข้าไปปลุกชายผมปลายเลือด
"เฮ้ยตื่นได้จะนอนจะไปถึงไหนแล้วเนี่ยเมื่อกี้เสียงดังขนาดนั้นยังไม่ตื่นอีกหรอ"
"หาาาาาอะไรน่ะ"
อยู่ชายผมปลายเดือนก็ตื่นแบบงงๆ
"รีบตื่นเถอะน่าทุกคนก็รออยู่นะ"
ชายใส่สูทชี้นิ้วเป็นอย่างคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะแล้วชายผมไปเรียกก็หันไปมองตาม
"โอเค"
แล้วชายใส่สูทก็ลุกขึ้นแล้วยื่นมือออกมาให้ชายผมปลายเลือดจับ
"ไม่ต้องเลยฉันไม่ได้สนิทกับนายซะหน่อย"
ชายผมไปเลือดก็ปัดมือชายใส่สูทแล้วลุกขึ้นด้วยตัวเอง
ชายใส่สูทดึงมือกลับแล้วคิดกับตัวเองว่า
(นั่นสินะ............แต่ถ้าอย่างนั้นฉันก็อยากจะสนิทกับทุกคนเหมือนครั้งนั้น)
แล้วชายผมปลายเลือดไปเล่นก็เข้าไปนั่งที่โต๊ะ
โดยที่ชายผมพายเรือจะนั่งตรงข้ามสาวผมดำ และนั่งข้างๆสาวผมเหลืองโดยที่สาวผมเหลืองนั่งตรงข้ามสาวผมขาวแล้วผมน้ำเงิน แล้วชายตาสีเทาก็นั่งที่หัวโต๊ะ
จากนั้นชายใส่สูทก็เดินไปยังหัวโต๊ะอีกฝั่งนึง แล้วเริ่มพูดขึ้นว่า
"โอเคทุกคนตื่นแล้วเป็นยังไงกันบ้างเนี่ย"
เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นก็บางคนก็ไม่อยากพูดบางคนก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
"โอเคงั้นฉันขอเข้าประเด็นเลยแล้วกันฉันอยากให้ทุกคนมาเป็นปาร์ตี้นักผจญภัยด้วยกันทุกคนคิดว่าไงบ้าง"
ทุกคนก็ทำหน้าเหวอทำตัวไม่ถูกเพราะว่าอยู่ๆก็ถูกถามแบบนี้
-โปรดติดตามตอนต่อไป-
"หาาาาาาาาา"
ทุกคนต่างอุทานออกมาพร้อมกัน
สาวผมขาวหันมองชายใส่สูท
"เดี๋ยวนะพวกเรายังไม่รู้จักกันแม้แต่ชื่อเลยนะ เพิ่งเคยเจอกันเมื่อวานอีก"
"ใช่"
แล้วชายใส่สูทก็ยิ้มแล้วตอบกลับ
"ก็เดี๋ยวก็รู้จักกันแล้วน่าแองเจล่า...แล้วก็นี่"
สาวผมขาวก็ตกใจ
แล้วชายใส่สูทก็โยนบัตรนักผจญภัย6 ใบที่สีคล้ายแผ่นเหล็กไปกลางโต๊ะ โดนบัตรนักผจญภัยนั้นจะออกโดยทางกิลนักผจญภัยให้กับนักผจญภัยโดยจะมีการบันทึกข้อมูลทั้งชื่อ แรงค์ อาชีพ แล้วก็สังกัดปาร์ตี้ที่อยู่
สาวผมเหลืองเห็นแบบนั้นก็ลุกขึ้นแล้วทุบโต๊ะ
"เดี๋ยวนะนี่นายได้มายังไงเนี่ย อย่าบอกว่านายค้นกระเป๋าของฉันนะ"
"เดี๋ยวๆอย่ามองโลกแง่งร้ายสิก็ระหว่างที่ฉันแบกเธอฉันเห็นบัตรของเธอหล่นลงมาก็เลยหยิบมาดูเองลิเวีย"
สาวผมเหลืองก็มองหน้าชายใส่สูทอย่างไม่พอใจ แล้วก็ฉงุนที่ถูกเรียกชื่อ
สาวผมดำลุกขึ้นชี้หน้าชายใส่สูท
"เฮ้ยมันจะเกินไปแล้วนะมาดูบัตรนักผจญภัยของคนอื่นเนี่ย"
"มันก็ไม่ได้มีกฎข้อไหนของกิลด์นักผจญภัยนะที่บอกว่าห้ามดูบัตรคนอื่นเนี่ยไวซ์"
สาวผมดำได้ยินแบบนั้นก็พูดไม่ออก
"แต่มันก็ควรรู้ไหมล่ะว่ามันล้ำเส้นคนอื่นเข้าไปเยอะมากเลยนะ"
"ขอบอกอะไรไว้ก่อนเถอะถ้าฉันไม่รู้ชื่อของพวกนายแล้วฉันจะพาพวกนายเข้ามายังห้องพักโรงแรมไม่ได้หรอก ไม่งั้นเจ้าของโรงแรมเขาไม่ให้เข้าหรอกอายซ์"
ชายผมดำาปลายเลือดได้ยินแบบนั้นก็พูดไม่ออกไปอีกคน
ชายผมดำตาเทาเห็นสถานการณ์ไม่ดีก็พูดขึ้นว่า
"ทุกคนอย่าเพิ่งทะเลาะกันสิ คุยกันดีๆหน่อย"
สาวผมเหลือง สาวผมดำและชายผมดำปลายเลือด ก็หันมองจ้องเขม้งใส่ชายผมดำตาเทาทำเอาหงอยไปเลย
"ไม่เป็นไรไพร์มฉันคุยเอง"
จากนั้นชายใส่สูทหันมองสาวผมนํ้าเงินขอบตาดำกอดอกที่มองไปทางอื่นไม่สนใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
"ไม่เอานะเอ อย่างน้อยก็สนใจสถานการณ์รอบข้างหน่อยเถอะ"
สาวผมน้ำเงินได้ยินแบบนั้นก็หันมา
"ชิ เรียกชื่อคนอื่นเข้าทั่วแบบนี้แนะนำตัวหรือยังเล่า มนุษย์ก็เป็นแบบนี้กันหมด"
"อ่านั่นสินะลืมไปเลย"
หลังจากได้ยินแบบนั้นชายใส่สูทก็ยืนตัวตรงมือล้วงกระเป๋าข้างนึง
"ทุกคนนั่งก่อน"
เมื่อสาวผมเหลือง สาวผมดำ ชายผมปลายเลือดได้ยินแบบนั้นก็นั่งลงแม้จะยังฉงุนอยู่
"โอเคฉันขอแนะนำตัวหน่อย ฉันมีชื่อว่าแลนซ์ ตอนนี้เป็นนักผจญภัยแรงค์ D ปาร์ตี้ไม่มีส่วนอาชีพที่ลงทะเบียนกับทางกิลด์ก็คือนักผจญภัย
สาวผมขาวและคนอื่นๆได้อยู่แบบนั้นก็ทำหน้างงกันหมด
สาวผมขาวยักคิ้วแล้วพูดว่า
"เดี๋ยวน่ะทำไมนายถึงเขียนไปว่านักผจญภัยล่ะ"
แลนซ์ก็ทำหน้างง
"เอ้าก็สมัครเป็นนักผจญภัยก็ต้องเขียนว่านักผจญภัยสิ"
เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นจากหน้าเครียดๆกลายเป็นกั๊นขำขั้นสุด
"5555555555555"
สาวผมดำก็หลุดขำคนแรก
สาวผมนํ้าเงินจากทำเป็นไม่สนใจได้ยินแบบนั้นก็อมยิ้ม ชายผมดำปลายเลือดหันหน้าไปกั๊นขำ สาวผมเหลืองจากขึ้มๆแทบจะขำออกมา ชายตาสีเทาก็ยิ้มมุมปาก
แลนซ์ก็งงต่อไป
"เอาแล้วทุกคนเขียนอะไรลงไป"
แล้วสาวผมขาวก็พยายามพูดทั้งๆที่กั้นขำอยู่
"นี่นายสายตาแบยก็ดูซื่อบื้อเหมือนกันนี่นา"
"ทำไมอ่ะ"
"อย่างแรกนะแลนซ์ไม่มีใครที่ไหนเขาเขียนว่านักผจญภัยหรอก"สาวผมขาวพูดไปกลั๊นเขาไป
แลนซ์ก็ยิ้มอย่างเจื่อน
"อย่างเช่นฉันทีก็เป็นนักเวท ฉันก็เขียนไปว่าจอมเวทอะไรอย่างนี้"
แลนซ์ก็ถอนหายใจ
"เรื่องอาชีพจะยังไงก็ชั่งเถอะ แล้วทุกคนจะมาตัั้งปาร์ตี้กันไหม"
แลนซ์ก็พูดด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม
ทุกคนต่างก็นิ่งเงียบ
แล้วสาวผมเหลืองก็ลุกขึ้นแล้วกำลังเดินไปที่ปะตูเพื่อออกไป
แต่...แลนซ์ได้แตะไหล่ที่ด้านหลังของเธอ
"มีอะไร"
สาวผมเหลืองเหลียวหลังมอง
"อย่างน้อยๆฉันก็อยากให้แนะนำตัว แล้วฟังที่ฉันพูดก่อน"
สาวผมเหลืองได้ยินแบบนั้นก็ตอบกลับไปว่า
"ฉันลิเวีย เป็นอดีตแม่ชี"
สาวผมขาวก็ลุกขึ้นแล้วพูดต่อว่า
"ฉันแองเจล่า เป็นนักเวท"
แองเจล่าก็เดินไปข้างลิเวีย
สาวผมดำก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินไปข้างแองเจล่าแล้วพูดว่า
"ฉันไวซ์ เป็นนักสู้"
ชายผมปลายเลือดก็เสยผมแล้วลุกขึ้นไปยืนอยู่มุมห้อง
"ฉันอายส์ เป็นนักสู้"
สาวผมนํ้าเงินเอาเกยคาง
"ฉัน เอ"
ชายตาสีเทาลุกขึ้นอย่างลนๆ
"ฉัน..ฉัน..มีชื่อว่าไพร์ม เป็นนักดาบ"
ไพร์มพูดอย่างตะกุ จะกะ
ลิเวีย แองเจล่า ไวซ์ อายส์ เอ ก็รู้สึกตะหงิดใจ
"ทำไมชื่อมันดูสิ้นคิดจังเลยนะ"
ลิเลียพูดออกไปตรง
ไวซ์ก็มองดูตัวไพร์ม
"สถาพแแบบนี้เนี่ยน่ะชื่อไพร์ม"
อายส์แม้จะตะหงิดใจแต่ก็ไมได้พูดอะไร
เอนั่งตัวตรงมองดูไพร์ม
"มนุษย์นี่ชอบตั้งชื่อซะใหญ่โตเลยน่ะ"
"ก็ใครจะไปรู้เหล่า ก็แม่ตั้งชื่อให้แบบนี้จะให้ทำไงได้ แถมก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่ที่ตั้งชื่อนี้นี่"
ไพร์มพูดโดยพยายามยิ้มอยู่
"เอาน่าทุกคนจะชื่ออะไรก็ชั่งเถอะ"
แลนซ์พยายามไม่ทำให้บรรยากาศแย่ลง
"โอ..เค แลนซ์ฉันกํบคนอื่นก็แนะนำตัวกันหมดแล้วจะมีเรื่องอะไรพูดอีกก็พูดมา"
แองเจล่าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
แลนซ์ก็หลับตาลงแล้วพูดว่า
"ฉันก็รู้ว่าคำตอบของทุกคนในตอนนี้คืออะไร แต่ฉันแค่อยากให้กลับไปคิดหน่อยว่าจะยังไงกันแน่ ฉันจะรอที่นํ้าพุกลางเมืองส่วนคำตอบถ้ามาก็ถือว่าตอบรับ ส่วนถ้าไม่มาก็แปลว่าปฏิเสธ เข้าใจกันน่ะ"
"มีแค่นี่ใช่ไหม"
แองเจล่าถามแลนซ์แต่แลนซ์ก็ไม่ตอบอะไร
เมื่อลิเลียได้ยินแบบนั้นก็ออกไปทันทีตามด้วย ไวซ์ อายซ์ ส่วนเอกำลังเดินออกไปแต่เธอก็หันมองไพร์มที่ยืนคิดอยู่แล้วเธอก็เดินออกไป
ไพร์มที่กำลังคิดบางอย่างแล้วก็เดินออกไป
ส่วนคนสุดท้ายแองเจล่าเธอนิ่งเงียบไม่พูดอะไร
(ทำไม....เจ้าหมอนี่ต้องทำถึงขนานนี้ด้วย)
แล้วเธอก็เดินออกไป
ระหว่างที่แองเจล่าเดินออกไปแลนซ์ได้ลืมตามองเธอเขานั้นเห็นผมสีขาวที่พริ้วไหวอันแสนบริสุทธิ์นั้นทำให้เขาคิดถึงคนสำคัญในอดีตของเขาน้ำตาของเขาก็ไหลออกมา เธอคนนั้นเดินออกไปอย่างไม่เหลียวหลังกลับมา
เมื่อแองเจล่าเดินออกไปแลนซ์ก็มีสีหน้าที่เหงาจากก้นบึ้งของหัวใจ เขาทิ้งตัวนั่งบนพื้นหลังพิงกำแพงเงยหน้ามองเพดานพี่ก็มีรูจากเวทที่แองเจล่ายิงใส่เขา
"ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโชคชะตาแล้วสินะ"
แล้วเขาก็หลับตา
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!