NovelToon NovelToon

ไอ้คีย์!!

Ep:1

พล็อตหลัก

"คีรินทร์" แสร้งเป็นเด็กเนิร์ดในโรงเรียนเพื่อพรางตัวจากศัตรู แต่จริง ๆ แล้วเขาคือหัวหน้าแก๊งมาเฟียผู้ควบคุมธุรกิจสีเทาทั้งผับ คาสิโน และอาวุธเถื่อน

"รชานนท์" คือเด็กแสบที่ชอบแกล้งคีรินทร์โดยไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังแว่นตานั้นคือใคร

แต่เมื่อความใกล้ชิดเริ่มก่อตัว

ความลับเริ่มเผยออกทีละน้อย

และศัตรูก็เริ่มเข้ามาใกล้...

รักครั้งนี้ต้องเลือกระหว่าง “ความปลอดภัย” กับ “ความจริงใจ”

พระเอกเป็นเด็กเนิร์ดจอมปลอม แต่เบื้องหลังคือมาเฟียใหญ่ กับ นายเอกเป็นเด็กแสบจอมป่วน ที่ชอบแกล้งพระเอกเพราะคิดว่าเขาอ่อนแอ แต่กลับกลายเป็นว่าเล่นกับเสือเข้าให้ 🐯💥

.

.

.

.

โรงเรียนมัธยมปลายซีนอนเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดังใจกลางกรุงเทพฯ

นักเรียนที่นี่แต่ละคนไม่รวยก็ฉลาด ไม่ฉลาดก็หน้าตาดี — หรือไม่ก็มีเส้นสายพอจะลากตัวเองเข้าเรียนได้

"เห้ย ๆ มึงดูนั่นดิ ไอ้แว่นกลับมาแล้วว่ะ"

เสียงกระซิบจากมุมห้องเรียนดังกระทบหูของใครบางคนที่เพิ่งก้าวเข้ามา

เด็กชายผิวขาวจัด ผมดำเรียบเรียงอย่างมีระเบียบ ใส่แว่นตาหนาเตอะกับเสื้อแขนยาวปิดถึงข้อมือ

“ขอโทษครับ… ผมขอเข้าไปนั่งได้ไหม?”

น้ำเสียงเรียบ หวานนิด ๆ คล้ายกับพนักงานร้านสะดวกซื้อ

แต่ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังคำพูดสุภาพนั้น คือตัวตนของ "คีรินทร์" หรือ "คี" มาเฟียอันดับหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผู้มีธุรกิจผับ คลับ คาสิโน และอาวุธเถื่อนอยู่ในมือ — ทั้งหมดนี้ ภายใต้ชื่อโค้ดลับในวงการว่า “Vulture”

“อ้าว ไอ้คี มาแล้วเหรอวะ” เสียงหนึ่งทักขึ้น

เด็กหนุ่มอีกคนเดินยิ้มกร่างเข้ามา คนทั้งห้องดูเหมือนจะเปิดทางให้โดยอัตโนมัติ

เขาใส่เสื้อนักเรียนไม่เรียบร้อย ผูกไทหลวม ผมยุ่งเล็กน้อยแต่ดูมีเสน่ห์แบบพวกแบดบอยที่รู้ตัวว่าหล่อ

"คี เด็กเนิร์ดของเรา…" เด็กคนนั้นยิ้มเจ้าเล่ห์ "คิดถึงชะมัดเลยว่ะ"

คีรินทร์ปรายตามอง ไม่ตอบอะไร

เขารู้จักคนคนนี้ดี — "รชานนท์" หรือ “นนท์” เด็กหนุ่มแสบแห่งห้อง ม.5/1

แสบจนถูกเชิญผู้ปกครองมาแล้วเกือบสิบรอบ แต่เพราะพ่อเป็นตำรวจใหญ่ เลยไม่มีใครกล้าแตะ

ที่น่าสนใจกว่าคือ... รชานนท์นี่แหละ ที่เคย “ปกป้อง” คีรินทร์เมื่อสองปีก่อน จากพวกอันธพาลในโรงเรียน

แต่เขาไม่รู้เลยว่า... คนที่เขาช่วยไว้ในวันนั้น ตอนนี้สามารถ "ลบชื่อของใครก็ได้" ออกจากสารบบโลกนี้ภายใน 24 ชั่วโมง

“กูจะนั่งข้างมึงละกันนะคี เดี๋ยวช่วยติวเลขให้ด้วยล่ะ” นนท์พูด พลางทิ้งตัวนั่งข้าง ๆ

คีรินทร์เพียงยิ้มมุมปากน้อย ๆ... ใต้กรอบแว่นนั้น ดวงตาของเขามีแววบางอย่างที่อันตรายจนคนธรรมดาอ่านไม่ออก

บรรยากาศในห้องเรียนช่วงสายอึมครึมพอสมควรเมื่อคุณครูคณิตออกไปพอดี

เสียงพูดคุยจอแจดังขึ้นทันที เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งรวมตัวเล่นเกมมือถือ บ้างก็ทายคำ บ้างก็หาเรื่องวุ่นวายตามประสาเด็กวัยรุ่น

แต่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง คีรินทร์ยังคงนั่งอ่านหนังสืออย่างสงบ

เสื้อยังเรียบร้อย แว่นยังอยู่ดี และลายมือก็ยังสวยจนเกินจำเป็นสำหรับผู้ชายธรรมดา

“นี่ มึงทำการบ้านวิชาภาษาเสร็จยัง?”

เสียงรชานนท์ดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งพิงโต๊ะของคีรินทร์อย่างไม่เกรงใจ

“เรียบร้อยแล้วครับ” คีรินทร์ตอบนิ่ง ๆ โดยไม่เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ

“หืม เด็กดีว่ะ”

นนท์ยิ้ม แต่ในใจกลับรู้สึกขัดใจยังไงก็ไม่รู้

ความสงบของไอ้เด็กแว่นนี่... มันดู ‘เกินไป’

“แล้วเมื่อคืนทำอะไร? แชทไปก็ไม่อ่าน ไม่ตอบ โทรก็ไม่รับ”

“อาบน้ำ กินข้าว แล้วก็นอนครับ”

น้ำเสียงยังคงนิ่ง เรียบ และเหมือนเดิม

นนท์หรี่ตา จ้องคีรินทร์อยู่ครู่หนึ่ง

“แปลกคนว่ะมึง… ไม่รู้ทำไม กูว่ามึงไม่น่าเป็นแค่เด็กเนิร์ดธรรมดา ๆ นะ”

คีรินทร์นิ่งไปเล็กน้อย

มือที่ถือปากกาหยุดเขียน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับนนท์

แววตาภายใต้แว่นนั้น — มีบางอย่างน่าขนลุกซ่อนอยู่

มันไม่ใช่สายตาของเด็กที่เคยโดนแกล้งเมื่อปีก่อน

มันคือสายตาของคนที่สามารถ “สั่งได้แม้กระทั่งชีวิต”

“ถ้าผมไม่ใช่เด็กเนิร์ดธรรมดา… แล้วคุณจะทำยังไงครับ?”

นนท์นิ่ง

“เหอะ ก็ไม่ทำไงหรอก แค่สงสัยเฉย ๆ” เขากระตุกยิ้ม “แต่มึงไม่ต้องมาทำตาแบบนั้นใส่กูเลย มันดู...น่ากลัวว่ะ”

คีรินทร์ยิ้มน้อย ๆ “ขอโทษครับ”

ก่อนที่บทสนทนาจะยืดยาว เสียงโทรศัพท์ของคีรินทร์ก็ดังขึ้น

เขาลุกออกไปนอกห้องพร้อมคำขออนุญาตเบา ๆ

นนท์แอบลอบมองมือถือคี — หน้าจอขึ้นว่า

"ลี - B7 Secure Line"

“…B7 Secure Line? อะไรของมันวะ?”

นนท์เริ่มขมวดคิ้ว ความสงสัยเริ่มทับถมในหัว

ทำไมคนอย่างคีถึงมีเบอร์แปลก ๆ แบบนั้นอยู่ในเครื่อง? แล้วหน้าตามันดูจะไม่มีเพื่อนสักคนด้วยซ้ำ

[ด้านนอกห้องเรียน – อีกด้านของคีรินทร์]

“มีอะไร?”

เสียงคีรินทร์เปลี่ยนทันที เป็นน้ำเสียงต่ำ ทุ้ม และทรงพลัง

ลีอยู่ปลายสาย พูดด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ

“เจอคนของ ‘คู่อริ’ แฝงตัวเข้ามาในโรงเรียนแล้วครับ เจอแถวอาคารเก่า ติดกล้องวงจรไว้ตามแผน”

“ดี จัดการให้เงียบ อย่าให้ใครรู้”

“รับทราบ บอส”

คีรินทร์กดวางสาย หันกลับไปมองตึกเรียน

ดวงตาใต้แว่นสะท้อนภาพของใครบางคนที่นั่งพิงโต๊ะเขา

“…รชานนท์ นายไม่ควรอยู่ใกล้ฉันเกินไป”

เขาพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง ก่อนจะใส่หน้ากาก “เด็กเนิร์ด” กลับเข้าไปอีกครั้ง แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องเรียนอย่างแนบเนียน

เสียงออดพักเที่ยงดังขึ้น นักเรียนในห้องเริ่มทยอยกันออกไปที่โรงอาหาร

แต่มีบางคนที่ยังไม่ลุก — คีรินทร์นั่งเรียงตัวเลขในสมุดเงียบ ๆ เหมือนทุกวัน

และรชานนท์ก็ยังไม่ไปไหน

"ไม่กินข้าว?"

"ยังไม่หิวครับ"

"มึงนี่แปลกว่ะ... แต่ก็น่ารักดี"

คีรินทร์ชะงักกับคำพูดนั้นนิดหนึ่ง ก่อนจะปรับแว่นและพยายามไม่สนใจมัน

ในใจเขารู้สึกบางอย่างแปลก ๆ เมื่อได้ยินคำว่า ‘น่ารัก’ จากปากนนท์ — คนที่เคยเอายางลบปาใส่หัวเขาเมื่อปีก่อน

"งั้นอยู่เป็นเพื่อนกูละกัน เดี๋ยวค่อยไปกิน"

“ครับ”

ทันใดนั้น—เสียงบางอย่างดังจากหน้าตึกเรียน

ปึงงง!!

เสียงเหมือนอะไรบางอย่างถูกกระแทกเข้ากับผนังแรงมาก ตามด้วยเสียงโหวกเหวก

“ไอ้เหี้ยนั่นมันเด็กนอกโรงเรียนไม่ใช่เหรอวะ?”

เสียงจากชั้นล่างดังแว่วขึ้นมา

คีรินทร์หันขวับทันที ดวงตาภายใต้แว่นเปลี่ยนเป็นแววคมกริบ

เขาลุกขึ้น คว้ากระเป๋า และพูดกับนนท์โดยไม่มองหน้า

"ผมลืมของไว้ที่ห้องพยาบาล แป๊บนึงนะครับ"

"เอ้า... เดี๋ยวดิ—"

ไม่ทันได้รั้ง คีก็เดินหายไปอย่างรวดเร็ว

[บริเวณอาคารเก่า – เขตห้ามนักเรียนเข้า]

ชายวัยรุ่นร่างใหญ่สองคนในชุดไฮสตรีทกำลังลากเด็กนักเรียนชายคนหนึ่งที่สวมชุด ม.5 เหมือนกัน

เด็กคนนั้นถูกผลักเข้ากำแพงอย่างแรง มีเลือดซึมที่มุมปาก

“อย่ามาแส่เรื่องของพวกกูอีก! ถ้ายังอยากอยู่โรงเรียนนี้ต่อ”

ชายคนนั้นพูด ก่อนจะง้างมือเตรียมซัดหมัดใส่อีกฝ่าย

ปั่ก!

ทันใดนั้นเอง ร่างของชายร่างใหญ่ก็ลอยกระเด็นกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ข้างกำแพงราวกับโดนชนด้วยแรงมหาศาล

ชายอีกคนหันไปดู และยังไม่ทันได้ขยับ—เสียงรองเท้าหนังแบบนักเรียนก็กระแทกเข้าที่ท้องอย่างแม่นยำ

โครม!

คนร้ายทั้งสองลงไปนอนแน่นิ่ง ร้องครางเบา ๆ

ชายในชุดนักเรียนคนหนึ่งก้าวออกจากเงามืด

เขาใส่หน้ากากผ้าสีดำครึ่งหน้า และสวมเสื้อนักเรียนพับแขนขึ้นมาจนดูเหมือนไม่ใช่เด็กเนิร์ดธรรมดา

เขาหันไปหานักเรียนที่โดนทำร้ายก่อนหน้านั้น — ซึ่งกำลังตัวสั่นด้วยความตกใจ

“อย่าพูดกับใครเรื่องนี้” เขาเอ่ยเสียงต่ำ

“แล้วก็… ไปห้องพยาบาลซะ”

[เวลาเย็น – สนามบาสหน้าโรงเรียน]

“มึงได้ยินข่าวปะ ว่ามีคนช่วยไอ้เบียร์ตอนโดนซ้อมที่อาคารเก่า”

“ใครวะ?”

“ไม่รู้! ไอ้เบียร์บอกว่าโดนช่วยโดยใครไม่รู้ใส่หน้ากากดำ เตะทีเดียวพวกโจรปลิวเลย”

นนท์ที่นั่งดื่มน้ำอยู่ริมสนาม บีบขวดในมือเบา ๆ

‘หน้ากากดำ… เด็กนักเรียน… เตะทีเดียวปลิว?’

“ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ…”

เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนจะเหลือบมองไปทางอาคารเรียน

และสิ่งที่เขาเห็นก็คือ...

คีรินทร์นั่งอยู่ในห้องสมุดชั้นสอง ใส่แว่น ก้มหน้ากับหนังสืออย่างไม่มีอะไรผิดปกติ

เหมือนไม่รู้แม้กระทั่งว่ามีใครโดนทำร้ายวันนี้

แต่นนท์เริ่มสงสัยขึ้นมาในใจ...

"หรือว่า… มันจะเป็นหมอนั่น?"

……………เข้ามาอ่านกันเยอะๆนะคะ🙇🏻‍♀️🙇🏻‍♀️

Ep:2

สนามบาสพลุกพล่านไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงรองเท้ายางเสียดสีกับพื้น เสียงลูกกระทบแป้น และเสียงลมแรงที่พัดผ่านทุกครั้งที่พระอาทิตย์กำลังจะตก

รชานนท์ยืนพิงเสาไฟข้างสนาม มือกำขวดน้ำที่ดื่มไปครึ่งหนึ่ง สายตาเขาจับจ้องไปที่ชั้นสองของอาคารเรียนฝั่งตรงข้าม

คนที่เขาสงสัย…ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น

“มันจะใช่จริง ๆ เหรอวะ…”

นนท์พึมพำกับตัวเอง คิ้วขมวด ความคิดวนไปมาไม่หยุดตั้งแต่ช่วงบ่าย เขาย้อนคิดถึงตอนคีรินทร์รีบลุกออกจากห้องเรียนหลังได้ยินเสียงตึงตังจากหน้าตึก แล้วกลับมาอีกครั้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ช่วงเวลาไอ้เบียร์โดนซ้อม — มัน "พอดีเกินไป"

ไม่ใช่แค่เวลาที่ตรงกัน แต่เป็นสายตาของคีรินทร์ตอนพูดว่า "ผมไม่ใช่เด็กเนิร์ดธรรมดา แล้วคุณจะทำยังไงครับ?"

มันยังติดอยู่ในหัว

แล้วทำไมเบอร์โทรในมือถือคีรินทร์ถึงชื่อ “B7 Secure Line” นั่นมันชื่อที่คนธรรมดาจะมีเหรอวะ?

รชานนท์หันไปมองเพื่อนที่กำลังเล่นบาสกันอย่างสนุกสนาน เขาสูดหายใจลึกแล้วคว้ามือถือขึ้นมากดไปที่รายชื่อเดิม — “คี”

[โทรออก...]

[กำลังเชื่อมต่อ...]

[ไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายทาง]

“อีกแล้ว…”

ตั้งแต่ช่วงบ่าย คีรินทร์ปิดเครื่องตลอด

เหมือนจะตั้งใจหนีเขา

[เวลา18:17]

ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มหม่น ๆ รถราเริ่มติดขัด เสียงแตรและคนเร่งรีบผสมกับเสียงหึ่ง ๆ ของเมืองใหญ่

ที่มุมหนึ่งของห้องลับใต้ดินย่านสุขุมวิท คีรินทร์นั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์หลายจอ แสดงภาพจากกล้องวงจรปิดทั่วโรงเรียน

บนโต๊ะข้างเขาคือแฟ้มหนา มีชื่ออยู่หน้าปกว่า "นักเรียนที่ควรระวัง - แผนพรางตัว"

เขาเปิดแฟ้ม ข้างในมีรูปถ่ายและข้อมูลของนักเรียนหลายคน

แต่มีเพียงหน้าเดียวที่ถูกวงปากกาสีแดงไว้

รชานนท์ ศิริวงศ์ทัต

“ลูกชายรอง ผบ.ตร.

นิสัย: หุนหัน กวนประสาท มีนิสัยขี้แกล้ง แต่หัวไวและสังเกตเก่ง

พฤติกรรม: ชอบสุ่มเสี่ยง อาจเป็นภัยหากจับพิรุธได้

คำแนะนำ: อย่าปล่อยให้เข้าใกล้เกินไป”

คีรินทร์ถอนหายใจเบา ๆ แล้วพึมพำกับตัวเอง

“แต่ก็ดันปล่อยให้เข้ามาแล้ว…”

เขาหลับตา นึกถึงคำว่า ‘น่ารักดี’ ที่หลุดออกจากปากนนท์ตอนเที่ยง

มันไม่ควรจะกระทบใจเขาได้ — แต่กลับทำให้รู้สึกอุ่น ๆ แบบที่ไม่เคยรู้จัก

“บอส” เสียงของ ‘ลี’ ดังขึ้นจากประตู

“มีรายงานใหม่ คนของ ‘แก๊งไวเปอร์’ แฝงตัวมาได้อีกคน อยู่ห้อง ม.5/3 ใช้ชื่อปลอม เรากำลังตรวจสอบอยู่”

“ส่งคนของเราไปเรียนห้องนั้น” คีรินทร์พูดเสียงเรียบ “อย่าให้รชานนท์เข้าไปยุ่ง”

ลีพยักหน้า “รับทราบครับ”

ก่อนจะหันกลับ คีรินทร์พูดต่อ

“…แล้วก็ ฝากดูความเคลื่อนไหวของนนท์ให้ตลอดเวลา ไม่ต้องแสดงตัว”

“เข้าใจครับ”

เมื่อบานประตูปิดลง คีรินทร์ก็เอื้อมมือไปเปิดลิ้นชัก

ด้านในมีกล่องไม้สีดำเล็ก ๆ — เขาเปิดมัน

ข้างในคือ สร้อยข้อมือเด็ก ๆ สีแดง ขาดแล้วครึ่งหนึ่ง

ของที่เคยได้จากเด็กชายคนหนึ่งเมื่อสองปีก่อน

คนนั้น…คือ "นนท์"

[รุ่งเช้า-หน้าโรงเรียน]

“ไอ้คี!”

คีรินทร์หันมาเห็นนนท์ยืนรออยู่หน้าประตูโรงเรียนด้วยสีหน้ากวน ๆ

“เมื่อวานโทรไม่ติดเลยนะเว้ย ปิดเครื่อง?”

“ขอโทษครับ แบตหมดน่ะ”

“เหอะ กะแล้วว่ามึงต้องตอบแบบนี้”

นนท์ยื่นน้ำเย็นกระป๋องหนึ่งให้ “เอาไป แดดร้อน”

คีรินทร์รับมา พลางแอบยิ้มน้อย ๆ

“ขอบคุณครับ”

“แล้วเมื่อคืนทำอะไร?”

“อ่านหนังสือครับ แล้วก็นอน”

“ทุกวันเลยมั้งเนี่ย...” นนท์ส่ายหัว “งั้นวันนี้เลิกเรียนไปหาอะไรกินกันมั้ย?”

คีรินทร์ชะงัก

“กับผมเหรอครับ?”

“ก็เออสิ จะได้ลองดูว่ามึงกินข้าวนอกจากในโรงเรียนได้รึเปล่า!”

คีรินทร์ลังเล

แต่ในใจกลับตอบว่า “อยากไป”

เขาพยักหน้าช้า ๆ “ครับ”

.

.

.

.

[เวลาเลิกเรียน -ร้านราเมนญี่ปุ่นข้างโรงเรียน]

.

.

.

บรรยากาศร้านอบอุ่น กลิ่นน้ำซุปหอมลอยคลุ้ง นนท์นั่งคีบเส้นราเมนอย่างรวดเร็ว

“กินเร็วมากเลยนะครับ” คีรินทร์พูดนิ่ง ๆ

“ก็หิวนี่หว่า มึงก็กินดิ เดี๋ยวเย็นหมด”

คีรินทร์พยักหน้า ค่อย ๆ ใช้ตะเกียบแบบไม่ชินนัก

นนท์แอบมองด้วยสายตาขำ ๆ แล้วถาม

“นี่มึงเคยกินราเมนแบบนี้ปะเนี่ย?”

“ไม่เคยเลยครับ”

“โหยยย เด็กห้องเรียนเอ๋ย…”

แต่ขณะนั้นเอง — เสียงกระแทกจากหน้าร้านก็ดังขึ้น

ชายแปลกหน้า 3 คนในชุดดำเดินเข้ามาอย่างไม่เกรงใจใคร คนในร้านพากันชะงัก

ชายคนหน้าสุดมีรอยสักรูปงูเลื้อยอยู่ที่ลำคอ — เป็นสัญลักษณ์ของแก๊ง “ไวเปอร์”

สายตาของเขากวาดไปทั่วร้าน…จนหยุดที่โต๊ะของคีรินทร์

คีรินทร์วางตะเกียบช้า ๆ สายตาเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกโดยไม่รู้ตัว

“มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ?” เขาถามนิ่ง ๆ

นนท์หันไปมองชายพวกนั้นด้วยความงุนงง

ชายร่างสักยิ้มเย็น “แค่มาเช็คชื่อ… ว่าคนที่เราตามหานั่งอยู่ตรงนี้รึเปล่า”

“พูดอะไรของมึงวะ?” นนท์ลุกขึ้นทันที

แต่ชายคนนั้นกลับจ้องคีรินทร์ “รู้มั้ยว่าชื่อจริงของเขาไม่ใช่คีรินทร์?”

“…!”

“แล้วรู้มั้ย…ว่าเขาฆ่าคนมาแล้วกี่ศพ?”

คีรินทร์ลุกขึ้นช้า ๆ ก่อนจะพูดเบา ๆ แต่หนักแน่น

“พวกนาย...พูดมากไปแล้ว”

โปรดติดตามตอนต่อไป ฝากกดไลค์ด้วยนะค๊าาาา🙇🏼‍♀️

Ep:3

ยังไม่ทันจะตั้งตัว เสียงโต๊ะล้มอีกชุดหนึ่งก็ดังตามมา ร่างอีกสองคนที่มาด้วยกันถูกชายปริศนาสวมหมวกกันน็อกสีดำรวบตัวจากด้านหลัง รัดคอด้วยแขนเสื้อของยูนิฟอร์ม จนสลบไปในไม่กี่วินาที

คนในร้านกรี๊ดแตก บ้างรีบวิ่งหนี บ้างเปิดมือถือถ่ายคลิป

คีรินทร์เดินเข้าไปหาชายสักงูที่พยายามยันตัวขึ้น

เขากระชากคอเสื้ออีกฝ่าย กระซิบเสียงเบาราวกับลมพัดข้างหู

“กล้าดี...ที่มาทักฉันในที่สาธารณะ แสดงว่าพวกนายเริ่มสิ้นหวังแล้วสินะ?”

ชายคนนั้นหอบหายใจ ริมฝีปากมีเลือดซิบ “แก... ไอ้ Vulture”

นนท์ที่ยืนอึ้งอยู่ข้างหลัง—ชะงักไปกับคำพูดนั้น

“Vulture…”

คีรินทร์ปล่อยชายคนนั้นลงกับพื้นราวกับขยะแขยง แล้วหันไปพยักหน้าให้ชายใส่หมวกกันน็อก

“พาไป”

ชายทั้งสามถูกลากออกหลังร้านไปอย่างเงียบเชียบ

คีรินทร์หันกลับมา เห็นนนท์ยืนนิ่งเหมือนยังประมวลผลไม่เสร็จ

“…เมื่อกี้มันพูดว่าอะไรนะ?” นนท์ถามเสียงแผ่ว

คีรินทร์ถอนหายใจ

เขาอยากหลีกเลี่ยงมันให้ได้นานกว่านี้

แต่ดูเหมือน "เกม" จะเริ่มเร็วกว่าที่คิด

“นายอยากได้คำตอบเหรอ?” คีรินทร์ถามกลับ ดวงตาไร้ซึ่งรอยยิ้ม

“แน่นอนสิวะ! มึงเป็นใครกันแน่?”

คีรินทร์เงียบ

ก่อนจะตอบ...

“คนที่นายไม่ควรเข้าใกล้”

[คืนนั้น - คอนโดหรูใจกลางกรุงเทพฯ]

.

.

.

เสียงน้ำฝักบัวกระทบพื้นกระเบื้องเบา ๆ กลบความเงียบในห้อง

คีรินทร์ยืนอยู่หน้ากระจก สวมเสื้อเชิ้ตสีดำเรียบ มือเช็ดแว่นตา

สายตาสะท้อนในกระจก — ไม่ใช่สายตาของเด็กนักเรียนอีกต่อไป

มันคือสายตาของ "ผู้นำ"

เขาหยิบมือถือขึ้นมา โทรหาลี

“ข่าวลือกระจายไปถึงไหนแล้ว?”

เสียงปลายสายตอบกลับ “มีคลิปหลุดในโซเชียล แต่ทีมไอทีของเรากำลังเก็บกวาดอยู่ ไม่เกินคืนนี้น่าจะควบคุมได้หมด”

“ดี แล้วเรื่องนนท์?”

“…เขาเริ่มสงสัยแล้วครับบอส”

คีรินทร์นิ่งไป

“…ให้คนตามห่าง ๆ อย่าเข้าใกล้”

“แน่ใจเหรอครับ? ถ้าเขารู้เรื่องมากกว่านี้…”

“ฉันรู้” คีรินทร์พูดเสียงเบา “แต่เขา...ไม่เหมือนคนอื่น”

[วันต่อมา-โรงเรียน]

.

.

.

รชานนท์เดินเข้าห้องเรียนสายกว่าปกติ

ใต้ตาดูคล้ำเล็กน้อย เหมือนค้างคืนนอนไม่หลับ

พอเขาเดินผ่านโต๊ะคีรินทร์ ก็พบว่า…มันว่างเปล่า

“ไอ้คีล่ะ?” เขาถามเพื่อนร่วมห้อง

“วันนี้ไม่มา บอกครูว่าป่วยน่ะ” เพื่อนคนหนึ่งตอบ

รชานนท์กำหมัดแน่น

ไอ้บ้านั่น...หนีเขาอีกแล้ว

ช่วงบ่าย เขาตัดสินใจแอบขึ้นไปชั้นดาดฟ้า ซึ่งเป็นจุดที่เขารู้ว่า “คีรินทร์ตัวจริง” ชอบขึ้นมานั่งเวลาอยากอยู่คนเดียว

แต่วันนี้ไม่มีใคร

นอกจาก…

แฟ้มหนาหนึ่งเล่มที่วางอยู่บนโต๊ะหินอ่อนกลางดาดฟ้า

เขาเดินเข้าไปใกล้ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปิด

ภายในคือภาพถ่ายหลายใบ

ภาพชายชุดดำที่เจอในร้านราเมน

ภาพจากกล้องวงจรปิดโรงเรียน

รายชื่อนักเรียนบางคน — พร้อมคำว่า “สายลับ”

แต่สิ่งที่ทำให้เขาชะงัก...คือหน้าสุดท้าย

ภาพของเขาเอง—รชานนท์ ศิริวงศ์ทัต

พร้อมโน้ตสั้น ๆ เขียนด้วยลายมือคีรินทร์

"เขาไว้ใจยาก แต่...ฉันไม่อยากให้เขาเป็นศัตรู"

หัวใจนนท์เต้นโครมคราม

ไม่ใช่เพราะกลัว — แต่เพราะรู้ว่า…

ไอ้คนที่เขาแกล้งมาตลอดสองปี

...มันไม่ใช่แค่ “เด็กเนิร์ด” แล้ว

โปรดติดตามตอนต่อไป ฝากกดไลค์ด้วยนะค๊าาา🙇🏼‍♀️

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!