NovelToon NovelToon

เยียวยารักนายเย็นชา

ตอนที่ 1 : สัญญาที่ไม่มีวันเลี่ยง

✨ ตัวละครหลัก • ทิวทัช (ทิว) : ทายาทตระกูลธุรกิจอสังหาฯ ร่ำรวย เทสต์ดี รสนิยมสูง ช่างเลือก มีอคติกับคนจนและเกย์เพราะปมครอบครัวในอดีต ใบหน้าเย็นชา คำพูดเฉือดเฉือน • ศรัณ (หมอรันย์) : หมอศัลยกรรมหัวใจวัย 28 ปี ขยัน ซื่อตรง ใจดี เป็นที่รักของคนไข้และเพื่อนร่วมงาน ไม่สนเรื่องฐานะ ไม่แคร์คำดูถูก แต่ก็แอบมีปมเล็ก ๆ เพราะไม่อยากเป็นภาระใคร
เริ่ม
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขณะศรัณกำลังตรวจคนไข้รายสุดท้ายของวัน เขาหันไปมองชื่อสายที่ปรากฏบนหน้าจอ
ศรัณย์
ศรัณย์
แม่
ปลายสายพูดเพียงสั้น ๆ แต่กลับทำให้หัวใจของหมอหนุ่มเต้นแรงอย่างประหลาด
แม่ศรัณย์
แม่ศรัณย์
กลับบ้านหน่อยนะลูก แม่มีเรื่องสำคัญจะบอก”
ภาพในห้องรับแขกของบ้านศรัณเย็นวันนั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศเงียบงัน มีเพียงแม่ของเขาและชายวัยกลางคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ใบหน้าอีกฝ่ายคุ้นตาเพราะเคยเห็นในข่าวธุรกิจ… ตระกูลทิวทัช
ศรัณย์
ศรัณย์
“แม่หมายความว่ายังไงครับ?”
แม่ศรัณย์
แม่ศรัณย์
“เขาอยากให้ลูกแต่งงานกับลูกชายเขา… เพื่อประโยชน์ของธุรกิจทั้งสองฝ่าย
ศรัณย์
ศรัณย์
ศรัณหัวเราะแผ่ว ๆ ในลำคอ ไม่ได้ขบขันเลยสักนิด
ศรัณย์
ศรัณย์
ผมเป็นหมอ ผมไม่ใช่เครื่องมือแต่งงาน…
แม่ศรัณย์
แม่ศรัณย์
“รันย์…” แม่ของเขาจับมือแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แม่ขอโทษ… แต่ครอบครัวเรากำลังลำบากมาก…”
ศรัณเงียบไป ภาพคนไข้ที่รอคิวผ่าตัด หัวใจที่ต้องเยียวยา ความฝันของเขาที่จะสร้างศูนย์หัวใจเด็กให้ได้มาตรฐาน มันผูกไว้กับเงินบริจาคที่กำลังจะถูกตัดงบ…
ศรัณย์
ศรัณย์
เขาจะเกลียดผมไหมครับ?” ศรัณถามเสียงเบา
ไม่มีใครตอบเขาได้ในตอนนั้น ว่า ‘เขา’ จะเกลียดมากแค่ไหน
2.2. คนแปลกหน้าที่ชื่อสามี
งานหมั้นจัดขึ้นอย่างเร่งด่วนที่โรงแรมหรู ศรัณได้พบกับเขา—ทิวทัช—ครั้งแรกในชุดสูทสีเทาดำ ดวงตาคมใต้แว่นสายตาแวววาวราวมีมีดซ่อนอยู่ในนั้น
ทิวทัช
ทิวทัช
“คุณรู้ใช่ไหมว่าผมไม่เต็มใจ”
ศรัณย์
ศรัณย์
ผมก็ไม่เต็มใจเหมือนกันครับ” หมอหนุ่มยิ้มบาง ดวงตาซื่อ ๆ ไม่ได้หวั่นเกรงเลยสักนิด
เขาไม่รู้ว่า รอยยิ้มนั้นยิ่งน่าหงุดหงิดสำหรับทิวทัช
ทิวทัช
ทิวทัช
“จำไว้ อย่าคิดว่าตัวเองจะมีสิทธิ์อะไรในบ้านของฉัน… หวังว่าหมอจะอยู่เป็น”
ศรัณย์
ศรัณย์
ศรัณยกมือประสานกันตรงหน้าตัก ก้มหัวให้เบา ๆ
ศรัณย์
ศรัณย์
“ครับ… ผมอยู่เป็น ผมแค่หวังว่าจะได้อยู่แบบสงบ ๆ…”
แต่ใครจะคิด ว่าแค่คืนแรกในคฤหาสน์หลังโต ‘ความสงบ’ จะไม่มีอยู่จริง…
2.3. คืนแรกในคฤหาสน์
เสียงประตูห้องนอนหรูหราปิดลงพร้อมกับเสียงล็อกที่ดังฟังชัด ศรัณยืนอยู่หน้าประตูนั้นด้วยกระเป๋าเสื้อผ้าเล็ก ๆ ใบเดียวที่เขาเก็บมาเองจากบ้านแม่
ศรัณย์
ศรัณย์
เขาเคาะประตูสองครั้ง
ศรัณย์
ศรัณย์
คุณทิวครับ… ผมจะเอากระเป๋าเข้าไปเก็บ
ข้างในเงียบสนิท… ไม่กี่วินาทีถัดมา ประตูแง้มออกเผยใบหน้าของชายหนุ่มผู้เป็นสามีหมาด ๆ ของเขา ดวงตาคมใต้แว่นสายตาสะท้อนแสงโคมไฟอย่างเย็นชา
ทิวทัช
ทิวทัช
“ใครอนุญาตให้หมอเข้ามา?
ศรัณชะงัก มือยังถือกระเป๋าแน่น เขาไม่ได้คาดหวังถึงความหวาน แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้
ศรัณย์
ศรัณย์
เราพึ่งหมั้นกัน คุณทิว…”
ทิวทัช
ทิวทัช
“หึ…” ทิวทัชหัวเราะในลำคอ สายตาไล่มองใบหน้าคนตรงหน้าเหมือนมองของไร้ค่า “อย่าเรียกฉันว่าคุณทิวแบบสนิทสนม จำเอาไว้หมอ… ที่นี่เป็นบ้านฉัน ห้องนี้ก็ด้วย ไม่มีที่ให้คนแปลกหน้าอย่างนาย”
ศรัณสูดหายใจลึก
ศรัณย์
ศรัณย์
“แล้ว… ผมต้องนอนที่ไหนครับ?”
ทิวทัชเท้าแขนกับขอบประตู โน้มตัวเข้ามาใกล้จนปลายจมูกแทบแตะกัน ความเย็นของน้ำหอมราคาแพงปะทะกับกลิ่นสบู่ธรรมดาบนตัวหมอหนุ่ม
ทิวทัช
ทิวทัช
“ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ห้องฉัน จะพื้นโถง ห้องคนใช้ หรือโซฟาห้องรับแขกก็แล้วแต่…”
ศรัณยังคงสบตาเขา ไม่ตอบโต้ ไม่ร้องไห้ มีเพียงรอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนมุมปาก
ศรัณย์
ศรัณย์
“…แล้วถ้าผมไม่ไปล่ะครับ?”
ทิวทัช
ทิวทัช
แววตาของทิวทัชแข็งกร้าวขึ้นทันที
ทิวทัช
ทิวทัช
ต้องการเท่าไหร่… หมอถึงจะออกไปจากชีวิตฉัน?”
ศรัณนิ่ง คำถามนี้คมยิ่งกว่ามีดผ่าตัด
ศรัณย์
ศรัณย์
“คุณกำลังซื้อผมอีกแล้วเหรอครับ?” “…เรายังไม่ทันจะได้อยู่กันข้ามคืนเลยนะ” เสียงเขาแผ่วลง แต่ยังคงยืนตรงหน้าอีกคนอย่างไม่อ่อนแอ
เสียงล็อกประตูดังอีกครั้งเมื่อทิวทัชปิดมันใส่หน้าเขาทันที ประตูปิดสนิท ทิ้งให้หมอรันย์ยืนอยู่ในโถงทางเดินหรูหราที่เย็นเฉียบยิ่งกว่าอากาศข้างนอก ศรัณก้มลงมองกระเป๋าเดินทางของตัวเอง ยิ้มน้อย ๆ ให้กับความเงียบของบ้านหลังนี้
ศรัณย์
ศรัณย์
“จะเท่าไหร่ก็ไม่เอาหรอกครับ… เพราะผมไม่ใช่คนที่ซื้อได้ด้วยเงิน”
เสียงล็อกประตูห้องนอนใหญ่เงียบไปแล้วนานนับชั่วโมง ศรัณยังยืนอยู่ที่เดิมด้วยกระเป๋าเดินทางใบเล็กในมือ ร่างกายเมื่อยล้าเพราะต้องผ่าตัดมาเกือบทั้งวัน แต่สิ่งที่เจ็บกว่ากลับเป็นหัวใจ เขาลองเดินลงไปข้างล่าง เผื่อจะมีห้องว่างสักห้อง หรือโซฟาในห้องนั่งเล่น แต่คนใช้ที่เห็นเขากลับเบือนหน้าหนี รีบก้มหน้าเก็บของชามจานแล้วหายเข้าครัวไปตามคำสั่งเจ้านาย
ศรัณย์
ศรัณย์
ขอโทษนะครับ
 คนใช้+ แม่บ้าน
คนใช้+ แม่บ้าน
“คุณหมอค่ะ… ดิฉันทำอะไรไม่ได้จริง ๆ คุณทิวสั่งไว้…”
เสียงนั้นสั่นกลัวราวกับเขาคือภัยอันตราย ศรัณได้แต่พยักหน้า ยิ้มบางเหมือนจะปลอบกลับ สุดท้ายเขาก็เดินกลับขึ้นมาชั้นบน หยุดยืนหน้าห้องนอนใหญ่บานนั้นอีกครั้ง เสียงด้านในเงียบสนิท ไม่มีแม้แต่เงาของอีกคน
เขาลูบลูกบิดประตูแผ่วเบา แน่นอนว่าล็อกไว้แน่นหนา ไม่มีใครให้เขาเข้าไปอยู่ด้วยได้
กลางดึก เขาปูผ้าห่มบาง ๆ จากในกระเป๋า วางมันบนพื้นหน้าประตูห้องนอนที่ควรเป็นของเขาด้วยเหมือนกัน เอากระเป๋าเดินทางใบเล็กวางหนุนหัวแทนหมอน แล้วเอนตัวลงช้า ๆ เสียงแอร์กลางทางเดินเย็นเฉียบ พื้นหินอ่อนแข็งยิ่งกว่าเตียงคนไข้ในห้องผ่าตัด
ศรัณย์
ศรัณย์
แค่คืนนี้… เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะหาที่ของตัวเองให้เจอเอง…”
ศรัณพึมพำกับตัวเองทั้งที่เปลือกตาเริ่มปิดลง ไม่มีใครออกมาดู ไม่มีใครถามสักคำว่าเขาเป็นอย่างไร บ้านหลังนี้สวยและหรูราวคฤหาสน์ในเทพนิยาย แต่ก็ว่างเปล่าเหมือนห้องหัวใจที่ว่างเปล่าของทิวทัช
✨ เช้าตรู่วันถัดมา เสียงประตูห้องนอนเปิดออกเพราะทิวทัชจะออกไปทำงาน สิ่งแรกที่เขาเห็นคือร่างบางในชุดนอนเรียบร้อยนอนขดอยู่บนพื้นหน้าประตู ใต้แสงแดดอ่อน ๆ ของเช้า รอยแดงจาง ๆ บนข้างแก้มเพราะนอนไม่ถนัด ผมยุ่งนิดหน่อย แต่ยังมีรอยยิ้มบาง ๆ เหมือนหลับฝันดี ทิวทัชชะงักมองแววตาไร้เดียงสานั้นเพียงเสี้ยววินาที ริมฝีปากเขาขบแน่นเป็นเส้นตรง ก่อนจะแค่นเสียงในลำคอ
ทิวทัช
ทิวทัช
โง่…?
แต่แทนที่จะปลุกหรือช่วย เขากลับเดินผ่านร่างนั้นไปอย่างไม่ใยดี ทิ้งไว้เพียงเสียงฝีเท้าบนพื้นหินอ่อนและหัวใจของใครคนหนึ่งที่ยังเชื่ออยู่เงียบ ๆ
ติดตามตอนต่อไปครับผม พระเอกนี่ร้ายจริงๆ🤪

EP2 หัวใจที่ไร้อุณหภูมิ

☕️ เช้าวันต่อมา แสงแดดยามสายส่องลอดม่านหน้าต่างบานใหญ่ ศรัณตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงไอที่กัดลึกจนหน้าอกสั่นสะท้าน ทั้งตัวร้อนจัด ริมฝีปากซีดเพราะไข้เล่นงานจนแทบยืนไม่ไหว เขาค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้น กวาดตามองรอบทางเดินเงียบกริบ ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแม้แต่เงาของเจ้าของบ้าน
ศรัณย์
ศรัณย์
จะเป็นไข้นิดหน่อยไม่ได้หรอก… ยังมีเคสผ่าตัดรออยู่…”
ศรัณย์
ศรัณย์
เขาพยายามคิดให้ตัวเองลุกไหว ทั้งที่ขาอ่อนจนทรุดลงกับพื้นอีกครั้ง
🕰️ บ่ายวันเดียวกัน ทิวทัชกลับเข้าบ้านพร้อมแก๊งค์เพื่อนไฮโซ — เมธัส ภาคิน ลีโอ และมาวิน — ที่ตามมาด้วยเพราะมีธุรกิจจะคุยกันต่อ แต่ทันทีที่ก้าวเข้าประตู พวกเขากลับเห็นศรัณนั่งฟุบอยู่มุมโถงทางเดิน ใบหน้าแดงจัดเพราะพิษไข้ แก้วน้ำเปล่าใบนึงวางอยู่ข้าง ๆ แต่ก็แทบไม่ได้แตะ
มาวิน
มาวิน
หมอนั่นเป็นอะไร?” มาวินถามขึ้นทันที
ทิวทัช
ทิวทัช
ไม่สบาย
ลีโอ
ลีโอ
” ลีโอขมวดคิ้ว มองเพื่อนตัวเองอย่างไม่พอใจ
ทิวทัชปรายตามองเพียงนิด ก่อนถอนหายใจราวกับเห็นแค่ฝุ่นผงข้างถนน
ทิวทัช
ทิวทัช
“จะเรียกรถพยาบาลก็ได้ หรือจะไปตายที่ไหนก็เรื่องของเขา…”
เมธัส
เมธัส
เขาพูดออกมาเรียบเฉย เมธัสมองหน้าเพื่อนตัวเอง สบถเสียงต่ำ
เมธัส
เมธัส
“นี่มึงไม่คิดจะถามสักคำเหรอว่าเขาเป็นยังไง? นั่นเมียมึงนะเว้ยทิว!”
ทิวทัชปรายตามองกลับด้วยสายตานิ่งเฉียบ
ทิวทัช
ทิวทัช
“หึ เมียที่ไม่ได้เต็มใจเป็น ใครจะสน”
ศรัณที่ได้ยินทุกคำแม้จะเบลอเพราะพิษไข้ แค่เงยหน้ามาแล้วยกยิ้มให้เหมือนไม่ถือสา มือเรียวเอื้อมไปจับขอบโซฟา พยายามจะลุกยืนทั้งที่หัวหมุน
ศรัณย์
ศรัณย์
ผมไม่เป็นอะไรครับ ขอโทษนะครับ…ที่ทำให้บ้านคุณดูไม่ดี…
เสียงไอแทบขาดใจ ลมหายใจร้อนราวไฟ เศษน้ำเสียงอ่อนโยนยังไม่หายไปไหน
ภาคิน
ภาคิน
ภาคินยืนกอดอก จ้องทิวทัชเขม็ง
ภาคิน
ภาคิน
“ใจร้ายไปป่าววะ มึงก็เห็นเขานอนหน้าประตูทั้งคืน ยังปล่อยให้ป่วยอีก”
ลีโอ
ลีโอ
ลีโอยิ่งหงุดหงิด
ลีโอ
ลีโอ
“ขนาดคนใช้ยังไม่กล้าเข้าใกล้ นี่มันบ้านหรือคุกกันแน่วะ?”
มาวิน
มาวิน
มาวินถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปพยุงศรัณขึ้น
มาวิน
มาวิน
“ไปเถอะหมอ ผมพาไปห้องพยาบาลข้างในดีกว่า อยู่ตรงนี้เดี๋ยวได้ตายจริง ๆ”
ศรัณย์
ศรัณย์
แต่ศรัณส่ายหัวเบา ๆ ยิ้มบาง
ศรัณย์
ศรัณย์
“ไม่เป็นไรครับ… ขอบคุณนะครับ แต่ผมแค่ขอนอนพักตรงนี้สักหน่อย เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว”
ทิวทัชมองร่างบางที่ยังพยายามยิ้มให้เพื่อนของเขา ทั้งที่ตัวเองสั่นเพราะไข้จนยืนแทบไม่อยู่ เขาเม้มปากแน่น รู้สึกหงุดหงิดในอกอย่างไม่มีเหตุผล แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรสักคำ เขาหันหลัง เดินขึ้นบันไดไปชั้นบน ปล่อยให้เสียงเพื่อน ๆ ตามหลังมา
เออ… ทิว มึงแม่งใจร้ายจริง ๆ ว่ะ” “ไอ้คนไม่มีหัวใจ…
ประโยคเหล่านั้นดังตามหลังร่างของเขาไป แต่เขาก็ยังไม่ยอมหันกลับมาอยู่ดี

EP3 คนที่ไม่เคยห่วงใคร

เสียงนาฬิกาแขวนเดินไปเรื่อย ๆ ในห้องทำงานส่วนตัวของเขา ทิวทัชนั่งอยู่หลังโต๊ะไม้โอ๊คตัวใหญ่ มือเรียวเลื่อนแฟ้มเอกสารไปมาแต่สายตากลับไม่อยู่กับตัวหนังสือเลยสักบรรทัด ประโยคของเมธัสยังดังก้องอยู่ในหัว
“ใจร้ายไปป่าววะ มึงก็เห็นเขานอนหน้าประตูทั้งคืน…”
ภาพร่างบางที่นั่งฟุบตรงโถง แก้มซีดจัดจนเห็นชัด ใบหน้าที่ร้อนจนขึ้นสี แต่ยังพยายามยิ้มให้ทุกคนเห็นว่า ‘ไม่เป็นอะไร’ เขาไม่ได้ใจอ่อน เขาบอกตัวเองแบบนั้นมาตลอด แต่ความเงียบในห้องกลับกดรั้งความคิดอื่นให้ไหลย้อนเข้ามาแทน
ทิวทัช
ทิวทัช
มันก็แค่คนแปลกหน้า… ไม่ได้เต็มใจจะเป็นเมียฉันด้วยซ้ำ’
…แต่ถ้าเป็นแค่คนแปลกหน้า ทำไมรอยยิ้มบาง ๆ นั่นถึงยังติดอยู่ในหัวเขาได้ทั้งวัน?
เขาวางปากกาลงบนแฟ้มเสียงดังเหมือนข่มความหงุดหงิด ลุกขึ้น คว้าผ้าห่มผืนเล็กจากตู้ในห้องทำงานติดมือไปด้วย ทั้งที่ในหัวก็บอกตัวเองว่า ‘ไร้สาระ’ ก้าวขาลงบันไดกลับมาที่โถงกลาง หมอรันย์ยังนั่งพิงผนังเดิม ร่างเล็กขดตัวเพราะความหนาว หายใจแรงแต่หลับไปแล้วทั้งที่มือยังจับขอบกระเป๋าใบเดิมไว้เหมือนกลัวใครแย่งไปอีก
ทิวทัชยืนนิ่งอยู่ข้างหน้า มองดูร่างนั้นอยู่นาน เขาย่อตัวลงช้า ๆ วางมือแตะหน้าผากอีกฝ่าย รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ออกมาแทบจะลวกมือ เสียงถอนหายใจลอดออกมาจากลำคอ
ทิวทัช
ทิวทัช
น่ารำคาญจริงๆ
เขาค่อย ๆ คลี่ผ้าห่มในมือออก คลุมมันลงบนตัวคนป่วยอย่างไม่ค่อยชำนาญนัก มองดูเสี้ยวหน้าที่ซบกับกระเป๋าเล็ก ๆ คิ้วยังคิ้วขมวดเพราะพิษไข้ มือของทิวทัชชะงักอยู่แถวเส้นผมยุ่ง ๆ แต่สุดท้ายก็วางมันลงเบา ๆ บนหัวอีกฝ่ายเหมือนจะลูบปลอบ ก่อนจะถอนมือออกอย่างไม่เต็มใจ
ทิวทัช
ทิวทัช
หายเร็ว ๆ ก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องน่ารำคาญ
เขาพึมพำกับตัวเองเสียงเบา แล้วลุกขึ้นยืน มองอีกครั้งให้แน่ใจว่าผ้าห่มคลุมร่างเล็กไว้จนมิด ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องไปเงียบ ๆ ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้ และเขาก็ยังไม่พร้อมจะยอมรับว่าความเย็นชาของตัวเอง…อาจจะกำลังละลายไปทีละนิด
2.2. คำสั่งจากคนที่ไม่มีหัวใจ
เสียงรองเท้าหนังเคาะพื้นห้องเดินกลับเข้ามาในห้องทำงานอีกครั้ง ทิวทัชวางมือบนโต๊ะทำงาน แต่ในหัวกลับวนอยู่กับภาพร่างบางที่ตัวร้อนจนแทบไม่ได้สติอยู่ตรงโถง เขาไม่อยากยอมรับว่ามันรบกวนจิตใจ …แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกัน เขากดกริ่งเรียกแม่บ้านประจำบ้านเข้ามา หญิงวัยกลางคนยืนก้มหน้าในท่าทีเคารพ เพราะรู้ดีว่านายหนุ่มของบ้านคนนี้มีนิสัยเย็นชาและคำสั่งของเขาคือกฎ
แม่บ้าน
แม่บ้าน
“เอ่อ… มีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ คุณทิว?”
ทิวทัชไม่แม้แต่จะหันไปมองตรง ๆ มือยังกอดอก สายตาเหม่อไปทางหน้าต่างเหมือนไม่ได้ใส่ใจ
ทิวทัช
ทิวทัช
“หมอ… ศรัณ” เขาเรียกชื่อเต็มแบบห้วน ๆ “หาห้องให้เขา อยู่ชั้นล่างก็ได้จะได้ไม่มาเกะกะบนนี้”
แม่บ้านเหลือบตามองนายหนุ่มของตัวเองด้วยความแปลกใจนิด ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยปากสั่งให้จัดที่ให้อย่างเป็นทางการ
แม่บ้าน
แม่บ้าน
“แล้ว… คุณหมอเขาไม่สบาย ดิฉันจะให้คนเฝ้าดูอาการด้วยนะคะ?”
คำถามนั้นเหมือนกระทบต่อความเย็นชาในอกเขาอีกนิด ทิวทัชนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าช้า ๆ
ทิวทัช
ทิวทัช
ตามใจ
แล้วเขาก็หันกลับมา สบตากับแม่บ้านตรง ๆ แววตานั้นยังคงเย็นเฉียบเหมือนเดิม แต่คำพูดกลับเบากว่าที่ผ่านมา
ทิวทัช
ทิวทัช
…ดูแลให้ดี อย่าให้มันวุ่นวายอีก”
แม่บ้าน
แม่บ้าน
แม่บ้านก้มหน้ารับคำสั่งทันที
แม่บ้าน
แม่บ้าน
ค่ะคุณทิว ดิฉันจะดูแลคุณหมอให้ดีที่สุดค่ะ
ทิวทัช
ทิวทัช
หลังแม่บ้านออกไป ทิวทัชนั่งลงที่โซฟามุมห้อง เขาทอดสายตาไปที่แฟ้มงานที่กองอยู่บนโต๊ะ แต่กลับอ่านไม่เข้าหัวสักบรรทัด มือแกร่งกำหมัดแน่น ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกวุ่นวายเพราะคนแปลกหน้า
ทิวทัช
ทิวทัช
ใจอ่อนเหรอ? ไม่มีทาง”
เขาพึมพำเสียงเบา สายตายังคงเย็นชาเหมือนเดิม แม้ลึก ๆ ในใจจะสั่นไหวไปแล้วก็ตาม
✨ ฝั่งหมอรันย์ ในตอนนั้นเอง ศรัณที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร ก็กำลังจะถูกคนใช้ช่วยพยุงย้ายเข้าไปในห้องเล็กที่จัดไว้ให้ใหม่ เตียงธรรมดา ผ้าห่มอุ่น และยาที่แม่บ้านจัดไว้รอ แม้เจ้าของบ้านจะไม่อยู่ดูแลด้วยตัวเอง แต่ร่องรอยความห่วงใยเล็ก ๆ ที่เขาไม่เคยพูดออกมา ก็ยังอุ่นอยู่ในความเงียบของบ้านหลังนี้

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!