บทที่1
คุณยายของ “พลอย” พูดเสมอ พลอยเติบโตมาในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ ตรงปลายซอยหมู่บ้านมีบ้านหลังหนึ่งที่ทุกคนเรียกกันว่า *“บ้านต้องห้าม”*
มันคือบ้านไม้ทรงไทยสองชั้น หลังคาลาดเอียงคลุมจนแทบมิดหน้าต่าง มีบานประตูไม้สักเก่าผุกร่อน และรั้วที่มีเถาวัลย์พันกันแน่นเสียจนดูเหมือนกับว่าธรรมชาติกำลังกลืนบ้านทั้งหลังกลับไป
แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าสภาพภายนอก... คือ *เสียง* ที่คนในหมู่บ้านได้ยินเป็นบางคืน — เสียงเด็กหัวเราะเบาๆ เสียงคนเดิน เสียงกรีดร้อง และบางครั้ง ก็มี *เงา* เดินผ่านหน้าต่างที่แตกไปนานแล้ว
ใครๆ ก็รู้ว่าบ้านเลขที่ 313 เคยมีคนอยู่มาก่อน ครอบครัวของนายทหารคนหนึ่งชื่อ “พลเอกประสิทธิ์” ภรรยาของเขาชื่อ “พิมล” และลูกสาวชื่อ “พิมพ์” ว่ากันว่าเขาเคร่งวินัยมาก และเลี้ยงลูกเหมือนฝึกทหาร เด็กหญิงจึงมักเก็บตัวเงียบ ไม่ยิ้มไม่พูด แม้แต่ในโรงเรียนก็ไม่เคยมีเพื่อน
จนกระทั่งวันหนึ่ง...
บทที่ 2: วันนั้นเมื่อ 30 ปีก่อน
วันที่ 13 กันยายน ปี 2537
ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทและเสียงปืนดังขึ้นในบ้านเลขที่ 313 แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง — *บ้านปิดเงียบ*
ประตูไม่ได้ล็อก ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ไม่มีคราบเลือด ไม่มีศพ — แต่ไม่มีใครอยู่ในบ้านเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งครอบครัวหายตัวไป พร้อมกับทิ้งข้าวของไว้เหมือนเพิ่งลุกจากโต๊ะอาหารไม่ถึง 10 นาที
ในห้องนอนของเด็กหญิง มีตุ๊กตาเก่าๆ วางอยู่ตรงกลางห้อง — ตุ๊กตาผ้าหน้าขาดครึ่งหนึ่ง และเส้นผมจริงๆ ที่ถักเป็นเปียสองข้าง
ตำรวจสันนิษฐานว่าครอบครัวอาจย้ายออกกะทันหัน แต่ไม่มีหลักฐาน ไม่มีกระเป๋าเดินทาง ไม่มีรถหายไป ไม่มีใครเคยพบพวกเขาอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หลายปีต่อมา คนที่เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนี้... ไม่เคยอยู่ได้เกิน 3 เดือน บางคนเสียสติ บางคนตาย บางคนหายไป
บทที่ 3: กลุ่มของพีท
ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน
พีท พลอย เติ้ล มด และเจน เป็นเพื่อนร่วมคณะนิเทศศาสตร์ พวกเขาทำโปรเจกต์ “ล่าท้าผี” เป็นสารคดีสั้นที่กำลังได้รับความนิยมในโซเชียล มีหลายตอนแล้วที่เล่นตามวัดร้าง ป่าช้า โรงเรียนเก่าๆ แต่ก็ไม่มีอะไร “จริง” พอให้คนดูเชื่อ
จนกระทั่งเจนบอกว่าเธอมีบ้านหนึ่งที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
“บ้านเลขที่ 313...” พลอยเงียบไป “พวกแกแน่ใจเหรอ?”
พีทหัวเราะ “ถ้ากลัวก็ไม่ต้องไป เดี๋ยวฉันกับเติ้ลไปเอง”
ในคืนนั้น พวกเขาเดินทางไปถึงบ้านตอนหัวค่ำ ใช้โดรนบินถ่ายจากมุมสูง กล้องติดตัวติดเตรียมครบพร้อม ทั้งกล้องอินฟราเรดและเครื่องอัด EVP (เครื่องจับคลื่นเสียงวิญญาณ)
บ้านนั้นเงียบสนิท แต่ *ไม่ใช่ความเงียบปกติ* มันเป็นเงียบแบบที่เหมือนเสียงของพวกเขาถูกดูดกลืนเข้าไปทุกครั้งที่พูด
บทที่ 4: เวลาแห่งคำสาป
ตี 1:15
พวกเขาเริ่มสัมภาษณ์กันเองในห้องนั่งเล่น ท่ามกลางเงามืดและเสียงแปลกๆ
ตี 2:01
พีทเดินขึ้นไปชั้นสองคนเดียวเพื่อบันทึกเสียงในห้องเด็ก
“มีใครอยู่ที่นี่ไหม?” เขาพูดเบาๆ แล้ววางเครื่องบันทึกไว้ข้างๆ ตุ๊กตา
เสียงในกล้องแสดงว่า *มีเสียงกระซิบตอบกลับเบาๆ ว่า “หนูอยู่ตรงนี้...”*
จากนั้น กล้องสั่นเล็กน้อย เสียงดัง “ตุบ!” เหมือนกล้องตกพื้น และเงียบ
พวกเพื่อนๆ วิ่งขึ้นไปดู — *แต่ไม่เจอพีท* เจอเพียงกล้องที่ถ่ายต่ออยู่ และเสื้อของเขา...
บทที่ 5: เด็กหญิงในเงามืด
เจนเริ่มกรีดร้อง มดพูดไม่ออก เติ้ลพยายามลากเพื่อนๆ ลงมาแต่พลอยยืนนิ่ง เธอรู้สึกว่ามีใครบางคน *กำลังจับมือเธออยู่*
เมื่อเธอหันกลับไป เธอเห็นเด็กหญิงผมยาว ใส่ชุดนอนขาดๆ เปื้อนเลือด *ยิ้มกว้างจนแทบฉีกถึงใบหู* แล้วพูดว่า
“หนูไม่มีเพื่อน... พี่ๆ จะอยู่เล่นกับหนู... ตลอดไปไหมคะ?”
กล้องจับภาพเงาที่เคลื่อนไหวอยู่ทั่วผนัง และเสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมๆ กัน ก่อนทุกอย่างจะดับลง
บทที่ 6: สิ่งที่เหลืออยู่
เช้าวันถัดมา คนในหมู่บ้านเห็นประตูบ้านเปิดอ้าอีกครั้ง แต่ไม่มีใครเข้าไปดู
ตำรวจได้รับแจ้งและพบเพียงกล้องที่เปิดทิ้งไว้ในห้องนั่งเล่น และบันทึกเสียงสุดท้ายในเทปที่พูดว่า...
“เธอกำลังมา... อย่าหันกลับไป... อย่าเรียกชื่อเธอ...”
**“พิมพ์ พิมพ์ พิมพ์...”**
เสียงหัวเราะของเด็กหญิงดังขึ้น แล้วเทปก็ดับไป
บทสุดท้าย: คำสาป
เดือนต่อมา ผู้รอดชีวิตคนเดียวจากกลุ่มคือ “พลอย” เธอไม่พูดอะไรอีกเลยหลังจากวันนั้น
เธอนั่งวาดรูปเดิมซ้ำๆ รูปของเด็กหญิงคนหนึ่ง กับบ้านหลังหนึ่ง... และทุกครั้งที่มีคนถามเธอว่า "เกิดอะไรขึ้น?"
เธอแค่ยิ้มจางๆ แล้วกระซิบว่า:
“หนูยังอยู่ตรงนี้... พวกพี่จะมาเล่นกับหนูไหมคะ?”
ถ้าคุณตัดสินใจไปยังบ้านเลขที่ 313 เพื่อพิสูจน์คำสาป อย่าลืมว่า... *เวลา 03:13 น.* อย่าหันกลับไป ไม่ว่าเธอจะได้ยินเสียงใดก็ตาม...
**จบบริบูรณ์**
**ขอบคุณที่อ่านนะค่ะ**
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!