เสียงฝนโปรยลงกระทบกระจกหน้าต่างของร้านกาแฟเล็ก ๆ กลางเมืองกรุงเทพฯ ที่เงียบเหงาในยามค่ำคืน ไม่มีเสียงพูดคุย มีเพียงเสียงคลอเบา ๆ จากเพลงแจ๊สเก่า ๆ ที่หมุนวนซ้ำไปมา
“ลาเต้ร้อนครับ”
เสียงของบาริสต้าหนุ่มวัยยี่สิบปลาย ๆ ดังขึ้นเบา ๆ พร้อมวางแก้วเซรามิกลงบนโต๊ะตรงหน้าชายหนุ่มที่นั่งอยู่มุมสุดของร้าน
เขาเป็นลูกค้าประจำ...แต่ไม่เคยพูดอะไรเกินกว่าคำว่า “ลาเต้ร้อน” และ “ขอบคุณ”
ชายคนนั้นนั่งก้มหน้า มองไอน้ำที่ลอยขึ้นจากแก้วอย่างเหม่อลอย
ผมดำสนิทที่เปียกฝนไปเล็กน้อยจากการเดินเข้าร้านเมื่อครู่นั้น ยังหยดลงมาข้างแก้มขาวซีด
บาริสต้าคนนั้นยังคงยืนมองอีกฝ่ายอย่างเงียบ ๆ เขารู้ดีว่าผู้ชายคนนี้กลับมาที่ร้านในช่วงเวลาเดิมทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อน
...หลังคืนเดือนดับ
“วันนี้ก็ฝนตกอีกแล้วนะครับ”
นั่นคือประโยคแรกที่เขากล้าพูดออกไป หลังจากเฝ้าดูชายแปลกหน้าคนนี้นั่งดื่มลาเต้คนเดียวมาหลายเดือน
ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตาสีเข้มสบกับดวงตาคู่ตรงหน้า
มันดูเศร้า...และว่างเปล่า
“อืม...เหมือนทุกคืนเดือนดับ”
“เดือนดับ?” บาริสต้าถามอย่างงุนงง
“วันที่พระจันทร์ไม่ปรากฏน่ะ...บางคนบอกว่ามันเป็นวันที่คนเหงารู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด”
เขายิ้มนิด ๆ แต่ดวงตานั้นไม่มีแววแห่งความสุขเลยแม้แต่นิดเดียว
“ผมชื่อภู...คุณล่ะครับ?”
ชายคนนั้นชะงัก ก่อนจะตอบช้า ๆ
“ธีร์”
เพียงชื่อเดียวที่หลุดออกมา แต่มันกลับสั่นสะเทือนบางสิ่งในใจของภูอย่างแปลกประหลาด
เหมือนชื่อของคน ๆ นี้มีความหมายมากกว่าที่ควรจะเป็น
คำโปรย:
เมื่อชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตอยู่กับอดีตอย่าง "ธีร์" ได้พบกับ "ภู" บาริสต้าผู้เชื่อว่าความอบอุ่นเล็ก ๆ จะเปลี่ยนโลกได้
ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากความเงียบ เหงา และคำถามธรรมดา ๆ จะค่อย ๆ เปลี่ยนหัวใจของคนสองคนอย่างไร
ขอให้คนอ่านมีความสุขกับการอ่านนิยายนะค่ะ รักคนอ่านมากไปเลย ช่วยกดใจกดติดตามหน่อยนะค่ะ💗
รักๆๆๆที่สุดเลยยย~ ไปแต่งต่อดีกว่าาา
เสียงฝนยังคงโปรยปรายลงมาไม่หยุด...
เหมือนโลกทั้งใบกำลังร้องไห้แทนใครบางคน
ร้านกาแฟเล็ก ๆ ชื่อ Moonbrew ซึ่งตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนสายเก่า เปิดไฟนวลสีเหลืองอบอุ่น ฝ่าความหนาวเย็นของสายฝนด้านนอก
“คุณธีร์...วันนี้ฝนตกเร็วกว่าทุกวันเลยนะครับ”
เสียงของภูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขายืนอยู่ตรงข้ามชายหนุ่มเจ้าของดวงตาว่างเปล่า ราวกับกำลังพยายามสร้างบทสนทนาเล็ก ๆ ที่ไม่ให้รุกล้ำเกินไป
ธีร์ยกแก้วลาเต้ร้อนขึ้นจิบเล็กน้อย...นานมากแล้วที่เขาไม่ได้พูดกับใครเกินสองประโยคในหนึ่งวัน
“มันแค่ฝน...ฝนไม่เคยสนใจว่าใครจะเปียก”
ภูยิ้มจาง ๆ กับคำตอบที่เหมือนจะเป็นบทกวีมากกว่าการพูดคุยธรรมดา
“แต่ร้านนี้มีร่มแจกนะครับ ถ้าคุณลืมเอามา”
ธีร์ไม่ได้ตอบ เขาแค่พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะมองไปนอกหน้าต่าง
ภูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะดึงเก้าอี้ตรงข้ามมานั่ง เขาวางผ้าเช็ดมือไว้บนตักอย่างเรียบร้อย
“ผม...ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ?”
“ก็ตามสบาย” เสียงเรียบ ๆ ที่ตอบมานั้นไม่ได้ไล่ แต่ก็ไม่ได้เชื้อเชิญ
ภูไม่ใช่คนกล้า...แต่บางอย่างในตัวของธีร์ดึงเขาไว้
บางอย่างที่เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
“คุณธีร์มาที่ร้านผมทุกวันศุกร์ เวลาประมาณหนึ่งทุ่ม...สั่งลาเต้ร้อน ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ฟองนม ไม่พูดอะไร...แล้วก็นั่งมองฝน”
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ธีร์หันมาสบตากับเขา “แล้วคุณอยากจะรู้ทำไม?”
ภูเม้มริมฝีปากแน่นนิดหน่อย ก่อนจะกล้าสบตาอีกครั้ง
“ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องส่วนตัว...แต่ผมเป็นห่วงครับ”
ธีร์หลุบตาลงต่ำ
“คุณไม่ควรห่วงคนแปลกหน้า”
“แต่บางที...คนแปลกหน้าอาจเป็นคนที่เราอยากรู้จักมากที่สุดก็ได้นะครับ”
ความเงียบเข้าครอบคลุมอีกครั้ง...
เสียงนาฬิกาเดินช้า ๆ บอกเวลาว่าเกือบจะสองทุ่ม ฝนยังไม่หยุดตก
ธีร์วางแก้วลงช้า ๆ แล้วถอนหายใจ
“ผมเคยมีคนรัก...”
ภูชะงักมือทันที ดวงตาเบิกกว้างนิด ๆ ก่อนจะลดแววสงสัยลง
“เขาชอบกาแฟลาเต้...แต่ต้องไม่มีน้ำตาล เพราะเขาบอกว่าชีวิตขมพออยู่แล้ว”
ธีร์หัวเราะแผ่ว ๆ แบบที่ไม่มีใครหัวเราะจริง ๆ
“ผมทำลาเต้ให้เขาทุกวัน...จนกระทั่งวันสุดท้ายที่เขา...ไม่อยู่”
ภูเม้มปากแน่น ไม่กล้าพูดอะไร กลัวจะไปแตะรอยแผลลึกที่อีกฝ่ายยังไม่อยากเปิด
“วันนั้นก็ฝนตก...เหมือนวันนี้”
ธีร์กระซิบเบา ๆ ดวงตาเริ่มรื้นน้ำ
“และผมก็ไม่เคยทำกาแฟให้ใครอีกเลย...จนมาที่นี่”
ภูรู้ตัวว่าน้ำเสียงของธีร์สั่น
เขาค่อย ๆ ยื่นมือไปแตะปลายแขนอีกฝ่ายอย่างเบา ๆ
“บางที...กาแฟถ้วยใหม่ก็อาจจะช่วยให้ความทรงจำเดิมเจ็บน้อยลงก็ได้นะครับ”
ธีร์มองเขา ดวงตาคู่นั้นยังมีน้ำใส ๆ รื้นอยู่ แต่แววตาดูอ่อนลง
“แล้วคุณ...ทำกาแฟให้เพราะอะไร?”
ภูยิ้ม ยิ้มแบบที่อุ่นจริง ๆ
“เพราะผมเชื่อว่า...แม้แต่คนที่เจ็บที่สุด ก็ยังสมควรได้รับความอุ่นใจ...อย่างน้อยก็จากกาแฟถ้วยหนึ่ง และคนที่นั่งฟังเขาโดยไม่ตัดสิน”
ธีร์นิ่งไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นอีกครั้ง จิบช้า ๆ
“วันนี้...รสมันต่างไปนะ”
“เพราะผมใส่ใจมากกว่าวันอื่นครับ” ภูพูดยิ้ม ๆ
ธีร์หัวเราะเบา ๆ คราวนี้มีแววของรอยยิ้มในน้ำเสียงจริง ๆ
ปลายตอน
ใต้แสงไฟร้านกาแฟเล็ก ๆ ในคืนเดือนดับ...
คนสองคนได้นั่งอยู่ข้างกันเงียบ ๆ
ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าชีวิตจะพาไปทางไหน
แต่...อย่างน้อยที่สุด
คืนนี้...ไม่ใช่คืนที่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
ได้เยงลมหายใจของฝนที่ยังตกไม่หยุดในค่ำคืนนี้ กลายเป็นฉากหลังที่นุ่มนวลและเหงาเสียจนเกือบจะกลบเสียงหัวใจของใครบางคนที่เต้นผิดจังหวะ
ภูมองธีร์ที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่อีกฝั่งของโต๊ะเล็ก ๆ หน้าร้านกาแฟ
หลังจากคำพูดสุดท้ายในค่ำคืนก่อนหน้าที่ธีร์ทิ้งไว้...“วันนี้...รสมันต่างไปนะ” เขาก็เงียบไป
วันนี้ภูไม่ได้ทำหน้าที่บาริสต้า
เขาไม่ได้อยู่หลังเคาน์เตอร์
แต่กลับนั่งตรงข้ามกับลูกค้าประจำ...ที่เขาเริ่มไม่อยากให้เป็นแค่ “ลูกค้า”
“คุณธีร์...”
เสียงของภูอ่อนนุ่มราวกับกลัวคำถามจะทำร้ายอีกฝ่าย
“เมื่อวานคุณบอกว่ามีคนรักที่ชอบลาเต้ไม่ใส่น้ำตาล...เขาเป็นคนแบบไหนเหรอครับ?”
ธีร์นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาช้า ๆ
รอยยิ้มที่ไม่มีแววขำประดับบนใบหน้า
“เขาชื่อ ‘นที’”
...ชื่อที่เหมือนลมหายใจ
“นทีเป็นคนอารมณ์ดี...เสียงดัง...หัวเราะง่าย กวนประสาท แล้วก็—ไม่เคยยอมให้ผมทำอะไรง่าย ๆ เลย”
ธีร์หัวเราะเบา ๆ
ภูฟังอย่างตั้งใจ ไม่มีคำพูดแทรก ไม่มีคำถามเพิ่ม
มีเพียงสายตาอบอุ่นที่มอบให้คนตรงหน้า
“เราคบกันตอนเรียนมหา’ลัยปีสอง เจอกันที่ห้องสมุด” ธีร์เอียงหน้าเล็กน้อย คล้ายกำลังนึกภาพวันนั้นในหัว
“ผมชอบอยู่เงียบ ๆ ส่วนนที...เขาชอบพูดเสียงดังจนโดนบรรณารักษ์ดุทุกครั้ง”
“เหมือนกันเลย” ภูพูดแทรกเบา ๆ “ผมก็โดนดุบ่อย”
ธีร์ยิ้มบาง ๆ
“วันแรกที่เขาคุยกับผม เขาเดินเข้ามาแล้วถามว่า ‘นายเป็นคนหรือหิน?’”
ภูกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
“คำจีบของเขาแปลกดีนะครับ”
“ใช่...แต่ก็ได้ผล”
ธีร์หลุบตามองแก้วกาแฟ
“เพราะหลังจากนั้น ผมก็ไม่เคยหยุดคิดถึงเขาได้อีกเลย”
...
เงียบ
ภูรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ ไม่เร่ง ไม่ผลัก
ธีร์ดูเหมือนจะลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะพูดออกมาเสียงเบาเหมือนลมหายใจ
“เขาตายเมื่อปีที่แล้ว...รถชน”
ประโยคนั้นฟาดใส่ใจของภูอย่างไม่ทันตั้งตัว
เขามองธีร์ที่ยังคงมองแก้วกาแฟในมือตัวเอง ดวงตานั้นไม่ได้ร้องไห้...แต่มันเศร้ายิ่งกว่าใครที่ร้องไห้เสียอีก
“วันนั้น...เราทะเลาะกัน”
เสียงของธีร์แทบจะเป็นเสียงกระซิบ
“เรื่องโง่ ๆ ด้วยซ้ำ แค่น้ำตาลในกาแฟ”
ภูขยับตัวเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงน้ำหนักของความรู้สึกผิดที่ยังฝังลึกในใจอีกฝ่าย
“เขาทำกาแฟให้ผม แล้วผมดันพูดว่า ‘รสมันหวานไป’ ทั้งที่เขาอุตส่าห์ตั้งใจจะเซอร์ไพรส์”
ธีร์หัวเราะในลำคอแบบขื่น ๆ
“เขาเดินออกจากห้องไป ทั้งที่ฝนตก...แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย”
…
ภูค่อย ๆ ยื่นมือไปแตะแขนของธีร์อย่างเบา ๆ อบอุ่น และไม่ล่วงล้ำ
“คุณไม่ได้ฆ่าเขานะครับ...คุณแค่รักเขามาก...มากพอจะรู้สึกผิดแม้ในเรื่องเล็กน้อย”
ธีร์มองหน้าภู สายตาสั่นไหว
“แต่เขาตายทั้งที่ยังโกรธผม”
“ไม่ครับ” ภูตอบทันที
“คนที่รักกันจริง...ไม่มีทางตายพร้อมความเกลียด ถ้าเขารักคุณจริง เขาก็คงให้อภัยคุณตั้งแต่วินาทีที่คุณห่วงเขาแล้ว”
ธีร์หลับตาแน่น
…
ผ่านไปหลายนาที โดยไม่มีคำพูดใด ๆ
มีเพียงความเงียบที่พูดได้ดังกว่าทุกเสียง
...
ในที่สุด ธีร์ก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
“ผมไม่คิดว่าจะพูดเรื่องนี้กับใครได้อีกเลยนะ…”
“แต่คุณพูดกับผมแล้ว” ภูพูดเบา ๆ “และผม...จะเก็บมันไว้ให้คุณ ไม่บอกใคร”
ธีร์ยิ้มจาง ๆ แววตาอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
“ภู...คุณเป็นบาริสต้าที่น่ากลัวนะ”
“ผมทำให้กาแฟเปลี่ยนรสได้เหรอครับ?” ภูถามกลับติดขำ
“ไม่...คุณทำให้คนที่ไม่คิดจะเปิดใจอีกเลย อยากเริ่มต้นใหม่...แค่นิดหนึ่งก็ยังดี”
...
ค่ำคืนสิ้นสุดลงอีกครั้ง
ฝนหยุดตกแล้ว
และเมื่อธีร์เดินออกจากร้านพร้อมร่มในมือที่ภูยื่นให้
เขาหันกลับมา...ยิ้มให้เล็กน้อย
“เจอกันศุกร์หน้า...”
...
ภูยืนอยู่ที่ประตูร้าน...หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
เขาไม่ได้แค่เสิร์ฟลาเต้แล้ว
แต่เขากำลังเสิร์ฟ “โอกาสครั้งใหม่” ให้กับใครบางคน
และในขณะเดียวกัน...หัวใจเขาเองก็กำลังเบิกบานขึ้นช้า ๆ ใต้เงาจันทร์ดวงเดิม
ปลายตอน:
...เราไม่มีวันแทนที่ความรักเก่าได้
แต่เราสามารถเป็นคนใหม่...
ที่ช่วยเยียวยารอยแผลนั้น...ด้วยความเข้าใจและความเงียบที่ปลอดภัย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!